<<
มกราคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 มกราคม 2548
 

2005_01_23_สำนึกสาะรณะ สำนึกส่วนรวม กับ สำนึกส่วนตัว

เย็นนี้ได้เจอน้องตั้ว มาครับ

ตั้วเป็นน้องที่ผมเจอในพันทิบดอทคอม กลุ่มสยามนี่ละ
สมัยที่เราเจอกัน ช่วงจัดงานแกรนด์มีทติ้งครั้งแรก
ตั้วยังอยู่ ม.3-ม.4 ยังใช้ชื่อว่า "หนูหริ่ง"

เดี่ยวนี้ หนูหริ่งตัวน้อยๆ กลายมาเป็นหนุ่มหล่อ
ร่างกำยำ ตัวสูงกว่าผม อายุอานามก็ 20 แล้ว
จริงๆผมเคยเผลอแอบหลงรักตั้วนะ
ดีแต่รู้ตัวแล้วถอนใจทัน

ตอนนี้ตั้วมีสาวน้อยน่ารักข้างกกายไปแล้ว
และท่าทางจะไปได้ดีด้วยกันทั้งตัวเขา และครอบครัวของฝ่ายหญิง
ซึ่งนั่นเป็นเรื่องน่ายินดีครับ

"เหลือ (แค่) ขอ" ก็เท่านั้น

ทุกครั้งที่เราเจอกัน ก็มักขยันหาเรื่องมาคุย

วันนี้ ประเด็นมาตกอยู่ที่ เรื่องราวต่อเนื่องจาก
หนังสือของคุณพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์
ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่เราทั้งสอง ชื่นชอบและชื่นชม
ในความคิดอ่าน และมุมมองต่อแต่ละปัญหาต่างๆ

มันเป็นเรื่องของผู้หญิงสักคนหนึ่ง
มาปรึกษาพี่จิก ว่า หนูอยากแต่งงาน
แต่ทว่า มีเรื่องเดียวที่ยอมรับไม่ได้
คือการที่ฝ่ายชายไม่ยอมยกฝาชักโครงขึ้นเมื่อ
ปัสสาวะ

พี่จิกมองว่า เป็นเรื่องของสำนึกต่อส่วนรวม
ว่าถ้าคนคนนี้ ยังไม่อาจจะยกฝาขึ้นได้
ทั้งที่เป็นสิ่งซึ่งคนที่ตนรักขอไว้
ไฉนเลยจะมีสำนึกต่อส่วนรวมในสิ่งที่ตนต้องประสบ
พบเจออยู่ทุกวัน?

คุยไปคุยมา ก็ยกถึงเรื่องการขึ้นรถไฟฟ้านั้น
คนทั่วไปที่ไม่มี "สำนึกสาธารณะ" จะชอบไปยืน
ออกันเป็น "ไทยมุง" อยู่ข้างหน้าประตุ
พอเวลาประตูแต่ละโบกี้เปิดออก
มนุษย์หน้าด้านเหล่านี้ ก็จะพาร่างกายอันบรรจุด้วย
จิตใจเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ เบียดเสียดผู้ที่กำลังจะ
เดินออกจากโบกี้ออกมา ทำให้คนที่จะออกก็ออกไม่ได้
คนที่จะเข้าก็ต้องเบียดเข้าไป

ผมเคยด่าคนที่เบียดเข้ามาทั้งที่ยังไม่ลงไปตรงๆอยู่
หนหนึ่งว่า "อย่าเพิ่งเข้า รอให้คนข้างในออกมาก่อน!"
แล้วมองหน้าแบบจ้องไปทีนึงแล้วรีบเดินหนีออกมา

แม้กระทั่งว่า มีสาวออฟฟิศคนหนึ่ง เคยแทรกตัดหน้าผม
ตอนกำลังเข้าคิวแลกเหรียญขึ้นรถไฟฟ้าอยู่
จนผมต้องออกโรงด่าแว๊ดลั่นไปเลยว่า
"เฮ้ย คุณ ช่วยหัดมีมารยาทเสียบ้างนะอย่าหน้าด้านให้มันมากนัก
คนเขาเข้าแถวอยู่ก็ไปเข้าแถวสิไป๊!"

ก่อนเธอจะถอนมือของเธอออกจากเคาน์เตอร์
ด้วยความตกใจที่เจอผมด่า
สาวออฟฟิศสันดานต่ำทรามคนนี้ก็ทำหน้าแบบ
ที่ คุณต้องได้เห็นเท่านั้นครับ คุณถึงจะนึกได้ว่า
หน้าคุณเธอ คือคำจำกัดความที่ตรงความหมายที่สุด
ของคำว่า "หน้าด้าน" และ"ลอยหน้าลอยตา"

---------

แต่มีบางครั้ง ที่มันไม่สำเร็จ
และทำให้ผมต้องรู้สึกแย่

25 ตุลาคม 2004

ผมเดินเข้าร้านหนังสือแห่งหนึ่ง

เด็กทารกคนนึง ส่งเสียงร้องลั่นร้าน
คนเป็นแม่เอง แม้จะดูออกอาการเกรงใจก็ตาม
แต่ก็ไม่อาจปลอบให้หยุดร้องได้

เด็กคนนี้ร้องจนคนอื่นรำคาญได้ที่
เธอเลยตัดสินใจพาเด็กเดินออกไป
พอเดินออกไป
ผมพูดขึ้นไปว่า

"ขอโทษนะครับ คราวหลังรบกวนว่าอย่าพาเด็กเข้ามาในร้านหนังสือเลยครับ"

เท่านั้นละ

พ่อแม่คู่นี้ก็สวมวิญญาณผีห่าซาตานมาเกิด
จะหาเรื่องกับผม

ถึงขนาดว่าเดินออกไปนอกร้านแล้ว ยังมาท้าผม ให้ออกไปคุยนอกร้าน
เพื่อจะหาเรื่องต่อยผม อัดผม

เรื่องอะไรผมจะออกไปละ?

ทีนี้ ผมมองว่า มันคงไม่ยอมจบแน่
และไม่อยากให้เรื่องมันยาวนัก
เพราะ "วิญญาณที่ยังมีลมหายใจ"(ไม่อยากเรียกว่ามนุษย์ เพราะดูแล้วว่า ไม่ควรค่าแก่การเรียกว่า มนุษย์) ทั้งสองตัว
ยังป้วนเปี้ยน และ ท้าให้ผมออกจากร้าน
รวมทั้งยังใช้มารยาชาติชั่วของมัน
ไปบอกกับผู้จัดการร้านที่ดูแลลูกค้าอย่างนั้นอยู่
และทำราวกับว่าผมนี่ผิดเต็มประตู

ผมจึงตัดสินใจขอโทษไป

มันทำท่าจะไม่จบ
แต่เพื่อนมันที่มาด้วย ก็บอกว่าจบ
แล้วบอกผมสำทับว่า
"จำเอาไว้แล้วกันนะคุณ ที่นี่มันที่สาธารณะ"

อ๋อ นี่หมายความว่า ที่นี่คือที่สาธารณะซึ่งพวกมึงมีสิทธิ์จะสำรอกพฤติกรรมชาติชั่วๆของมึงอย่างนี้ออกมางั้นเหรอ?

ผมรู้สึกว่า ถึงแม้ผมจะตัดสินใจถูกแล้ว ที่ผมไม่เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
และเลือกที่จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงนั้นก่อนดีกว่า
เพื่อไม่ให้มันบานปลาย ด้วยเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียว

แต่ผมรู้สึกว่า ถูกสายตาคนทั้งร้านหนังสือนั้น ซึ่งก็มากโขอยู่
รุมมองด้วยสายตาสมเพช

ผมจัดการตัวเองไม่ได้ดีไปกว่า หักแว่นกันแดดตัวเอง แล้วเขวี้ยงทิ้ง เดินออกจากร้านไป
ด้วยความรู้สึกที่แย่ที่สุด

ผมเหมือนคนไม่เหลือศักดิ์ศรีเลย
ผมเหมือนคนปกป้องตัวเองจากพวกชาติหมาพวกนี้ไม่ได้เลย
ผมรู้สึกว่า ตัวผม "แม่งโคตรอ่อนแอเลย"

ซึ่งถ้าจะให้พูดกันตรงๆ

สิ่งมีชีวิตพวกนี้ไม่เคยสำเหนียกสักหน่อยเลยหรือ
ว่า ไม่ควรเอาเด็กเข้าร้านหนังสือ!!!

ถ้าผู้หญิงคนนี้ มาคนเดียว
ยังพอจะเข้าใจ ไม่ว่ากะไร

แต่นี่ เอาสามีมาด้วย
ดังนั้นใครคนใดคนหนึ่งควรจะเสียสละ
เอาลูกไปรอข้างนอกร้าน

และที่น่าตำหนิที่สุดคือ
ผู้จัดการร้าน กลับคิดว่า "ไม่เกี่ยว ไม่ใช่เรื่องของตน"
และได้แต่บอกว่า ใจเย็นๆ นะครับใจเย็นๆ
ที่เลือก็ไม่พูดอะไรอีก

ผู้คนที่ยืนดูผมตรงนั้น ไม่มีใครทำอะไร นอกจากมอง และนิ่ง

"สำนึกสาธารณะที่จะต้องปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง
หายไปไหนกัน? สำนึกสาธารณะที่จะปกป้อง
ผู้ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หายไปไหนกัน?"

-----------------

อีกเรื่อง

ผมยืนรอรถเมล์ ที่สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช
เมื่อ 2 ปีก่อน
พอรถสาย 38 มา ผมวิ่งขึ้นไม่ทันและลื่นล้มลงบนพื้นถนน
ดีแต่รีบลุกมาอย่างทันท่วงทีก่อนที่แท็กซีจะพุ่งเข้ามาชนผม

ทุกคน ได้แต่มองดูภาพตอนผมล้ม
ราวกับภาพสโลวโมชัน แต่ไม่มีใครสักคนที่นรั่น
จะเข้ามาถามผมว่า เป็นอะไรมากไหม?

"สำนึกสาธารณะ หายไปไหนกันหมด"?

-------------------

อีกครั้งหลังจากนั้น
รถเมล์ สาย 38 ที่ผมขึ้นมา แล่นบนถนนสุขุมวิท ด้วยความเร็วสูง

แต่แล้ว ก็เกิดชนท้ายรถปรับอากาศอย่างจัง
คนกระเด็นกระดอน มีผู้บาดเจ็บระดับเลือดออก
4-5 คน

ทันทีที่คนขับ เปิดประตู
ผู้คนทุกคน รีบเดินลงจากรถกันอย่างรวดเร็วที่สุด!
แม้แต่พนักงานแม็คโดนัลด์

"สำนึกสาธารณะ หายไปไหน??"

ผมจึงตัดสินใจอยู่ต่อและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ขึ้นรถกระบะดัดแปลงเป็นฉุกเฉินของ
มูลนิธิร่วมกตัญญูไปพร้อมกับผู้บาดเจ็บทั้งหลาย ถึง
รพ. กล้วยน้ำไท

พอช่วยเหลือโทรแจ้งข่าวให้กับผู้บาดเจ็บเสร็จ
รอจนญาติเขามา ก็ลากลับ

แต่อนลากลับ ได้ถามกับพนักงานเก็บสตางค์
เลยได้ความว่า คนขับรถคนนี้
ซัดยาบ้าเข้าปากมาก่อนแล้ว!!!

ทั้งที่จะต้องขับรถเมล์ รับผิดชอบผู้คนมากมาย
แต่ทว่า ล่อยาบ้ามาก่อนจะขึ้นขับเนี่ยนะ??

"สำนึกสาธารณะ มีบ้างไหม"???

--------------------------
คุยกันไปคุยกันมา
ได้ข้อสรุปที่ว่า

สำนักสาธารณะเนี่ย คือสิ่งที่เราขาดหายไปในสังคมไทย

และสิ่งนี้แหละ จะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ
ที่รอเราอยู่อีกไม่นานเกินรอนี้ได้แน่ๆ อย่างสบายๆ

หลักการมันไม่ยากเลยที่จะคิด
และแม้แต่จะลงมือทำ

แค่คิดอยู่ในใจว่า "ใจเขาใจเรา" เท่านั้นเอง!!!

แยกจากตั้ว เพื่อมาดูหนังถึงซีคอนสแควร์
Meets the Fockers ซึ่ง โรเบิร์ต เดอ นนีโร
และบาร์บารา สตรัยแซนด์ เล่นด้วย
ช่วยให้ได้มุมคิดเรื่องความไว้ใจกันในชีวิตคู่มาอีกเรื่อง

---------------------------
แต่พอกลับถึงบ้าน

ก็เริ่มมีความรู้สึกเซ็งๆ กับการโดนละเมิด "สำนึกส่วนตัว"

ผมมักจะโดนผู้ดูแลเว็บต่างๆลบข้อความของผมออกเป็นประจำ

ตั้งแต่พันทิบ ยันบอร์ดเกย์
และด้วยสาเหตุที่ข้อความผมโดนลบนี่แหละ
เป็นสาเหตุหนึ่ง
ทำให้ผมตัดสินใจเลิกยุ่งกับบอร์ดเกย์แห่งหนึ่ง
ที่เคยได้ชื่อว่า มีการพูดคุยอย่างมีสาระดีที่สุดในไทย
นอกเหนือจากความขัดแย้งในพฤติกรรมและสันดานของคนคนหนึ่ง(ที่เจ้าของเว็บ ไปขอมาให้เป็น) คนลบกระทุ้ที่นั่น

ที่ยกมากล่าวถึงสั้นๆ กันอีกครั้งถึงสิ่งที่ผ่านพ้นไปแล้ว
ก็เนื่องมาจากรู้สึกบางอย่างขึ้นมา

ว่าไปแล้ว ผมเองรู้ตัวดี ว่าปากคออย่างนี้
คนชอบยาก คนเกลียดมาก

แต่ในเมื่อ ถ้าแสดงความเห็น ตรงไปตรงมา
และได้พยายามสุภาพแล้ว
และด้วยเจตนาที่ดี
ยังโดนลบกันอีก

โอเคครับ สุดแท้แล้วแต่เจ้าของเว็บทุกท่านแล้วกัน

แต่ถ้าจะมาแสดงความเห็นที่บล็อกของผมที่นี่
ผมก็จะขออนุยาตถือสิทธิ์ ในการ
"ละเมิดสำนึกส่วนตัวของพวกท่าน ในกรณีที่โพสต์อะไรไม่เข้าหูผมบ้างละ"

แสดงความเห็นมา ขัดใจผม
ผมก็แค่ลบมันทิ้ง...


ไม่มีอะไรครับ

ผมก็แค่ยึดหลัก "ใจเขาใจเรา"

ก็เท่านั้น




 

Create Date : 23 มกราคม 2548
16 comments
Last Update : 23 มกราคม 2548 2:40:31 น.
Counter : 837 Pageviews.

 
 
 
 
:D
 
 

โดย: ชิว IP: 61.90.12.179 วันที่: 23 มกราคม 2548 เวลา:2:48:45 น.  

 
 
 
 
 

กึ่งยิงกึ่งผ่าน say :

อ่านๆ ไปก็เห็นด้วยค่อนข้างมาก

แต่ก็พอจะรู้สึกได้ว่าจิมมี่พยายามจะพูดกับคนที่ละเมิดสิ่งที่เป็นสาธารณะของคนอื่นอยู่เท่าที่เป็นไปได้ สำหรับผม ผมก็เป็นนะ ในกรณีที่มันเหลืออด แต่ถ้านิดๆ หน่อยๆ หยวนๆ ผมก็โอเค ไม่เป็นไร ชิวชิว (เดี๋ยวนี้วัยรุ่นเค้าใช้ศัพท์นี้ใช่ป่ะ ฟังมาจากโทรทัศน์ 5555)

แต่ถ้าเรื่องไหนที่มันเหลืออดจริงๆ ผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน ก็คงต้องพูดกันบ้าง

ผมมีความสุขของผมดีนะ กับการอยู่บนโลกที่วุ่นวาย แล้วไม่ต้องเอาอะไรที่เห็นมานั่งคิดไปซะทุกเรื่อง มันก็มีคิดบ้างล่ะ แต่บางอย่างก็รู้ว่ามันแก้กันไม่ได้ง่ายๆ อย่างเรื่องของคนหน้าด้าน ไปด่าเค้ายังไง ผมก็ว่าเค้ายังหน้าด้านอยู่นะ แต่ผมก็เห็นข้อดีตรงนี้อย่างนึง คนอื่นที่ได้ยิน ก็คงไม่หน้าด้านเหมือนสาวออฟฟิซคนนั้นหรอก

ปล. หวัดดีนะ ไม่ได้คุยกันตั้งนาน
 
 
:: go to my BLOG ::
 
 

โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน วันที่: 23 มกราคม 2548 เวลา:4:12:41 น.  

 
 
 
พอทนได้ กะเรื่องแย่ๆ แนวนี้ ( ตามมาตรฐานคนไทย ส่วนใหญ่ )
ยกเว้น อยู่เรื่องเดียว ที่ไม่ชอบมากๆ ( และมักจะออกอาการ เวลาที่เจอกับตัวเอง )

. . . ถูก แซงคิว เวลาจ่ายเงิน ในร้าน 7-11

ซึ่งล่าสุด ก็เจอ ผู้หญิงวัยกลางคน แซงคิว เมื่อต้นอาทิตย์
อยากโวยเหมือนกัน แต่ไม่กล้า + คิดว่า ไม่มีประโยชน์
" คนหน้าด้าน " ทำยังไง ก็ ( คง ) เหมือนเดิม

ที่ไม่ชอบ ก็เพราะ มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่น่าจะ เอาเปรียบ กัน
ก็แค่ ยืนรอ แป๊บนึงเอง ( 7-11 คิดเงิน ไวอยู่แล้ว )
แต่ คนพวกนี้ ก็รอไม่ได้ . . . เซ็งมั่กๆ
 
 

โดย: Memo no.72 วันที่: 23 มกราคม 2548 เวลา:4:48:15 น.  

 
 
 


มาเยี่ยมค่ะ


 
 

โดย: รักดี วันที่: 23 มกราคม 2548 เวลา:8:17:13 น.  

 
 
 
แวะมาเยี่ยมค่ะ โดนใจหลายอย่าง เคยไปทำวีซ่าแล้วเจอผู้หญิงคนนึงแซงตัดหน้า มองหน้าก็แล้วชียังไม่สำนึก ปกติเราไม่ค่อยพูดแต่วันนั้นรมณ์ไม่ดี ก็เลยพูดออกไปตรงๆ ชีหันมามองเฉยแล้วก็ยิ้มแห้ง บอกว่าไม่รู้นึกว่าไม่รีบ
อือฮึ เอากะชีดิคะ
 
 

โดย: prncess วันที่: 23 มกราคม 2548 เวลา:16:14:05 น.  

 
 
 
แล้วไม่ลุยต่อละครับ เช่นกีดกันแล้วดึงตัวออกไปจากแถวเลย?
 
 

โดย: J!MMY (JIMMY ) วันที่: 23 มกราคม 2548 เวลา:16:15:56 น.  

 
 
 
นั่นน่ะสิครับ ผมว่าคนไทยยังขาดสำนึกต่อหน้าที่เพื่อสังคมอยู่มาก หลายคนก็ไม่ได้กระทำตามหน้าที่ที่ตนจะต้องทำเพื่อสังคมนี้ อย่างน้อยก็น่าจะมีแก่ใจช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง

แต่ช่างมันเถอะคับ อย่าไปคิดมากกะเรื่องแบบนี้เลยคับ เราสามารถช่วยใครได้เราก็ช่วยไปเถอะครับ ช่วยตามที่เรายังมีสำนึกเพื่อสังคมนี้อยู่
 
 

โดย: ดยุคแห่งออสเตรีย วันที่: 23 มกราคม 2548 เวลา:17:12:24 น.  

 
 
 
 
 

กึ่งยิงกึ่งผ่าน say :

เรื่องแบบนี้นะ เห็นด้วยเลยว่า "อะไรวะ ทำงี้ได้ไง"
แต่บางครั้งการเข้าไปสู้รบปรบมือกับเหล่านั้นทั้งหลาย "เปลืองตัว" อาจเป็นคำที่เหมาะสม
 
 
:: go to my BLOG ::
 
 

โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน วันที่: 25 มกราคม 2548 เวลา:5:30:43 น.  

 
 
 
ลงมาถึงเรื่องลบ คคห.
จริงๆเรื่องนี้มันก็พูดยากนะ
บางที ถึงจะใช้คำสุภาำพ ตรงไปตรงมา ด้วยเจตนาที่ดีแล้ว
แต่ถ้าผู้ดูแลพิจจารณาแล้วว่าอาจจะมีผลเสียทางอื่นตามมา
มันก็จำต้องลบไป


ยิ่งในพันทิปเด๋วนี้อมยิ้มวีไอพีลบเองได้
จะยกให้สุดแต่ผู้ดูแลมันก็เกินไปแหละ

ใจเขา ใจเรา ใจใคร เฮ้ออ
 
 

โดย: นู๋เองง่ะ วันที่: 27 มกราคม 2548 เวลา:12:06:52 น.  

 
 
 
เคยโดนเหมือนกันเรื่องแซงคิว..ต่อคิวกดเอทีเอ็มอยู่ ปกติแถวเอทีเอ็มจะยืนรอห่างๆกันใช่มั้ยค่ะเพราะว่าเดี๋ยวจะเห็นรหัสกัน แล้ววันนั้นเป็นวันต้นเดือนคนต่อแถวยาวมาก อี สองคนจะถึงคิวเราแล้ว พอคนที่กดอยู่กดเสร็จก็มีเจ๊คนนึงเข้ามากดเฉยเลย เหมือนกะมองไม่เห็นแถวอันยาวมากที่เค้าต่อกันอยู่เลยอ่ะ คนที่เป็นคิวต่อไปก็ไม่กล้าว่าด้วย(เซ็งเลย) พอเจ๊แกกดเสร็ดหันหน้ามานี้ทุกคนที่ต่อแถวอยู่ก็มองแบบมองไม่รู้จะเรียกยังไงเลยอะ แบบรุมประนามด้วยสายตายังงั้นอ่ะ เจ๊แกก็ดูเหมือนจะรู้สึกอยู่บ้างนะ(รึเปล่า?)
 
 

โดย: นางสาวแสนดี..sandy วันที่: 27 มกราคม 2548 เวลา:12:42:46 น.  

 
 
 


แวะมาทักทาย ไปอ่านการ์ตูนสัปดนสนุก ๆ (ต่ำกว่า 18 ห้ามคลิก) ได้ที่ Blog เราน๊า


 
 

โดย: Gun !! วันที่: 27 มกราคม 2548 เวลา:14:22:25 น.  

 
 
 


"ก๊อกๆ"แวะมาบอกว่า ยู้ฮู ยู้ฮู มีเทคนิคใหม่มาบอกแล้วจ้า แวะบ้านข้าเจ้าโดย"ด่วน"




++จิ้มให้ทัน นะจ๊ะ++

 
 

โดย: ge-or-ge วันที่: 29 มกราคม 2548 เวลา:4:09:18 น.  

 
 
 



เทคนิคตามภาพตัวอย่างนี้ มีให้เสพ...ตามมาดูด่วนที่รัก




XXXXเชิญจิ้มค่ะXXXX
รักกันก็ตามมาเลยครับ

 
 

โดย: ge-or-ge วันที่: 29 มกราคม 2548 เวลา:18:02:34 น.  

 
 
 
เอ่อ ผมว่าผมไม่เห็นด้วยอย่างแรง เรื่องร้านหนังสือ
ร้านหนังสือนะครับ ไม่ใช่ห้องสมุด

ในร้านหนังสือ ความเงียบไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เหมือนในห้องสมุด

ถ้าจะ "ฉุน" คนในร้านหนังสือ

โน่นครับ เด็กวัยรุ่นที่นั่งลงกับพื้น ตั้งหน้าตั้งตาอ่านวรรณกรรมเยาวชน
หนึ่ง หนังสือเขามีไว้ขาย และ
สอง มันเกะกะทางเดิน ซึ่งเป็นของสาธารณะ (เพราะเจ้าของร้านยินยอมให้ใครก็ได้ เข้าไปเดิน ในเวลาที่ร้านเปิด)


เรื่องสาธารณะ ที่ประเทศไทยของเรานี่ บางทีก็ต้องยอมคนห่วยๆ
เมื่อก่อนอาจจะแค่ ไม่อยาก "เปลืองตัว"
แต่เดี๋ยวนี้ต้องระวังสารตะกั่วด้วยนะครับ
 
 

โดย: อากง IP: 203.150.217.118 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:11:35:13 น.  

 
 
 
ไม่รู้นะครับคุณอากง
แต่ผมกลับมองเด็กที่นั่งอ่านแบบนั้น
ด้วยความรู้สึกดีนะ

เพียงแต่อย่าให้ถึงขันนั่งกับพื้นเลย หาที่นั่งให้มันเรียบร้อยดีกว่า

เด็กรักการอ่าน
หายากกว่าหานักการเมืองดีๆในสภาหนะครับ
 
 

โดย: J!MMY (JIMMY ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:23:18:54 น.  

 
 
 
ขายที่ดิน และ สามารถแบ่งขายที่ดินได้ 1,000 ไร่ ราคาขาย 23,000,000 บาท (ยี่สิบสามล้านบาท) ราคาสามารถต่อรองกันได้ ที่ดินทำเลทอง เดินทางสะดวก เจ้าของคนเดียว ทำเป็นสนามกอล์ฟ คอนโด หมู่บ้าน ฯลฯ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง สนใจติดต่อคุณธัญญาธร โทร.08 - 63157895
 
 

โดย: ขายที่ดิน และ สามารถแบ่งขายที่ดินได้ 1,000 ไร่ ราคาขาย 23,000,000 บาท (ยี่สิบสามล้านบาท) ราคาสามารถต่อรองกันได้ ที่ดินทำเลทอง เดินทางสะดวก เจ้าของคนเดียว ทำเป็นสนามกอล์ฟ คอนโด หมู่บ้าน ฯลฯ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง สนใจติดต่อคุณธัญญาธร โทร.08 - 63157895 IP: 58.136.50.25 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:27:18 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

JIMMY
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add JIMMY's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com