<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
13 เมษายน 2551
 

/*-*/ คืนอันชวนเคลิ้ม และเสียงปลายสายจากชายขี้เหงา (แถมเมารักมานิดๆ) /*-*/


13 เมษายน 2008

นาฬิกาในมือถือของผม บอกเวลาราวๆ 2.45 น.


ยามได้กลิ้งไปกลิ้งมา บนเตียงนอน พร้อมเสียงเพลงในมือถือผม
ที่มีตั้งแต่ Tatsuro Yamashita, Natalie Cole, etc, บอยด์ โกสิยพงษ์
เพลงละครเวที,และใครอีกหลายคนที่โหลดเข้าไป มันช่วยให้เคลิ้มได้กำลังดี

พลันทีสายตาใกล้จะหลับลง เบอร์โทรที่ไม่คุ้นเคยปรากฎขึ้น

ไม่รู้ว่า ไวเกินไปหรือเปล่าที่กดรับ

แต่ทันทีที่ตอบกลับไป หูของผม ก็เริ่มสังเกตทันที

"หวัดดีพี่ โห เหลือเชื่อมากเลย ผมแค่กดเบอร์สุ่มๆไป ไม่นึกว่าจะมีใครสักคนรับสายผมในยามนี้ด้วย!
ผมโคตรเหงาเลยครับพี่"

แน่ละสิเอ็ง! ใครมันจะนอนดึกอย่างข้าฯละฟะ....

แต่....เดี๋ยวก่อน! เอ่อ ที่ผมพูดอยู่ด้วยหนะ ใครเหรอครับ???

สายโทรศัพท์ตัดไปก่อนอย่างน่าพิศวง
พยายามโทรกลับ ก็ไม่ติด

ชายปริศนายามวิกาล ที่โทรมาระหว่างที่จู่ๆ เหล่้าวิฬาร กำลังฟัดกันนัวเนียตูมตามโครมคราม
บนหลังคาโรงรถบ้านผมตอนนี้ มันใครกันนะ?

รอสักพัก นึกว่าคืนนี้ ผมต้องข่มตาหลับลงอย่างค้างคาใจ
ปลายสายก็โทรกลับมาอีกครั้ง...

"ผมแพ็ค ครับพี่!"

"แพ็ค ไหนวะ?"

"พี่ พอจะมีสาวๆ แบบ Playgirl บ้างไหม?"

เฮ่ยยย อารายวะ ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร มันก็เห็นตูเป็นพ่อเล้าแล้วเว้ยเฮ้ย!

"เฮ้ย พูดมาดีๆ ตกลงแล้ว นายเป็นใคร"

"พี่ ผม แ้พ็ค ที่พี่เคยซื้อ ปุ๊น จากผมไงพี่"

ชิบหาย! ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่!

"เฮ้ เดี๋ยวก่อน พี่ไม่เคยดูดปุ๊นเลยนะ แล้วพี่จะซื้อปุ๊น (อันแปลว่า กัญชา) จากนายได้ยังไงกันละเนี่ย?
กูงง ว้อย"

ปลายสายเงียบไปนานราวๆ 5 วินาที

"อ๋อๆๆ โทษทีพี่จิมมี่ใช่ป่าวครับ พี่ที่เก่งเรื่องรถใช่ป่าว โทษทีพี่ ผมจำผิดคนอ่ะครับ แหะๆๆ"

อ้าววววววววววววววววว เว้ยเฮ้ยยยยย แล้วกัน ไอ้เวรนี่ งงชิบหายตายเป็ดตายห่านเลยทีน ว่าเอ็งคือ แพ็คไหน

"แพ็ค ที่เราเคยเจอกันที่ stufe ไงพี่"

ความจำอันดีบ้างไม่ดีบ้าง ก็เริ่มย้อนกลับไป
ในช่วงเวลาประมาณกลางๆค่อนปลา่ยของปีที่แล้ว

บ่ายวันฝนตกนั้น ผมแวะไปหาพรรคพวกเพื่อนพ้องน้องพี่ชาว Monotone ที่นั่น
แวะมาดูโลเกชัน เพื่อจะใช้ โลเกชัน ถ่ายภาพนิ่ง งานชิ้นหนึ่ง

และได้เจอกับ นายแพ็ค โดยบังเอิญ

เด็กหนุ่มตี๋ร่างใหญ่(กว่าผม - สำหรับนที่เราเคยเจอตัวกันได้จินตนาเกิน เอ้ย การ)
ใส่แว่น ผมฟูๆ ยิ่งกว่าขนมถ้วยฟู และบางทีก็ดูเอ๋อๆ
ผู้ที่ตอนนั้น กำลังจะเรียนจบ สถาปัตย์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งไหนสักแห่ง
คนที่แวะมาสัมภาษณ์ หรือดีลอะไรสักอย่างกับพวกโมโนโทน ในตอนนั้น
คนที่ผม ยินดีให้เขา ติดรถ CR-V ที่ผมขับไปส่งแถวๆสถานฑูตจีน ยามเย็นวันรถติดแสนสาหัสนั้น
และจำได้ว่า ผมใช้ความพยายามอย่างมากในการชวนเค้าคุย เพื่อไม่ทำให้บรรยากาศในรถไม่เงียบเกินไป
ระหว่างที่ผมดันพาเค้ามาติดแหงก บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ก่อนถึง "จุดหมายของเขาในวันนั้น"

...นั่นเอง!

หลังจากนั้น เรามิได้คุยกัน...อีกเลย...

แน่ละ อยากรู้แล้วละสิว่า เขา โทรหาผมทำไม...ในสภาพที่ กำลัง เมาเกือบจะได้ที่ แต่ยังพอมีสติคุยได้บ้าง


"เอ ถ้าอย่างงี้เปลี่ยนเรื่องเลยดีกว่า พี่ว่าถ้าผมจะทำ...(บลา บลา บลา)...ส่ง ...(บลา บลา บลา)...อย่างนี้จะดีไหมครับ"

แล้วมันก็เปลี่ยนเรื่องไปเฉยเลย...อารายวะเีนี่ย?

ความคิดในหัว {"กรูจาไปรู้ไหมเนี่ย กรูไม่ได้อยู่ในนั้นแล้วเว้ย ไปถามพวกมันเองดิ"}
ตอนตอบไป "อัีนนี้ก้ต้องแล้วแต่...(บลา บลา บลา) เค้าหนะนะ"



เข้าใจละครับ โดยธรรมชาติของมนุษย์หนะ
เมื่อใดที่เจ้าตัว รู้ว่ากำลังคุยกับใคร
เขาก็มักจะปรับตัวให้สอดคล้องและเหมาะสมในการคุยกับเรา
ไม่ว่า หมอนั่น จะเมามาขนาดไหนก็ตาม

และแน่นอน ว่า บางครั้ง กับคนที่เขาไม่คุ้นเคย
"กำแพงแห่งความสนิท" ก็จะผุดพรวดขึ้นมาจากพื้น เหมือนในเกมคอมพิวเตอร์
กั้นความรู้สึกของเขา ให้ห่างไกลจากเรา นัยว่ากลัวผู้คนรู้ความจริงที่พวกเขาไม่อาจรับได้กระมัง

แต่ นั่นกลับทำให้ผม ยิ่งงงไปใหญ่ ว่า มันเ้กิดอะไรขึ้นกับเขา
และการที่เขาพยายามปรับโหมดเพื่อจะคุยกับผมให้รู้เรื่อง
นั่นยิ่งทำให้ผมไม่อาจเข้าถึงปัญหาที่แท้จริงของเขาไเข้าไปใหญ่

แล้วผมจะทำอะไรได้บ้างละเนี่ย นอกจาก พยายามใจดี คุยต่อไปว่าตอนนี้ เขาอยู่ไหน

"ตอนนี้ผมอยู่พงันครับ"

"โอยย กรูอิจฉาเมิ๊งงง"

"อ๋อ เปล่าพี่ ผมมารับงานออกแบบตกแต่งภายในให้เค้าอยู่ ผมเหงามากเ้ลยพี่
โห ขอบคุณพี่มากเลย อุตส่าห์รับโทรศัพท์ผม ผมไม่คิดว่าจะมีใครนอนดึกในเวลานี้อีกนะเนี่ย"

เออออออ! แล้วมึมจะไม่บอกกรูสักทีเหรอไงหา ว่า ไอ้เรื่องที่มันทำให้มึมเหงา
จนต้องกดเบอร์สุ่มๆ มาติดที่กรูตอนตี 3 หยั่งเงี้ย มันเรื่องอะไร??

ก็ยังคงใจดีสู้กับความเมาของน้องคนนั้นมันต่อไป ด้วยการ พูดกึ่งพล่าม
ก็แน่ละ เมื่อไหร่ที่เรานอนคุยกับใครบนเตียง นั่นคือบรรยากาศแห่งการเปิดอกพูดมากที่สุดแล้ว

ปัญหาหลักของคนเรา มันก็มีอยู่้ด้วยกันแค่ไม่กี่เรื่องหรอกครับ
ครอบครัว งาน ความรัก การเงิน
มันก็วนเวียนกันอยู่เท่านี้

พอสอบถามไป ครอบครัวยังดีอยู่ งานยังโอเคอยู่ เงินยังพอมีให้ถ่อไปถึงพงันได้
แล้วจะเหลือรอดอะไรไปได้ นอกจากเรื่องความรักละ? จริงไหม?
แน่ละ มาถึง ก็ถามหา Playgirl กันซะอย่างนั้นเลยเนี่ย

ดังนั้น ถ้าจำเป็นต้องพูดอะไรสักอย่าง กับคนเมาที่ยังพอคุยรู้เรื่องนั้น
ศัพท์ยากๆระดับราชบัณฑิตยสถานโปรดปราน ต้องตัดออกไปจากหัวเราให้หมด

"เอาละ แพ็ค เนื่องจากพี่ไม่รู้ว่าตกลงแล้วปัญหาของเอ็งคืออะไร
แต่ เอาเถอะ พี่คงไม่ถามซ้าซี้เอ็งต่อแล้ว แต่จะบอกเพียงแต่ว่า
หากจะแก้ปัญหาอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ใช้สติ
คิดหาต้นเหตุของมันก่อน และถ้าคิดไม่ออก ก็เลิกคิดไปเลย
ทำโน่นทำนี่สักพัก เดี๋ยวไอเดียมันจะปิ๊งขึ้นมาเอง
พี่ว่ามันน่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะกับแพ็คมากที่สุดนะพี่ว่า"

บทสนทนาจากนี้ ไม่มีอะไรนอกจากคำขอบคุณยกยอปอปั้น อันน่าเบื่อทั้งหลาย
แต่ไม่อาจถือสาอะไรได้ เพราะผมก็มักจะเจอเช่นนี้เสมอเป็นประัจำ
คือเป็นคนแรกๆที่ใครเขาจะคิดถึงยามที่เขามีปัญหา
แต่มักจะเป็นคนสุดท้ายๆ ที่พวกเขาจะนึกถึงเมื่อยามเป็นสุข...บางทีและหลายทีก็อาจจะลืมกันไปเลย

แต่ไม่เป็นไรครับ ทั้งชิน และทั้ง ชิล! สบายๆ เฉยซะแล้ว

อย่างน้อย ก้ได้รู้กันจริงๆซะทีว่า
ในขณะที่เราคิดว่า เรากำลังเหงานั้น
ยังมีผู้คนอีกมากมาย ที่ยังเหงา และเหนื่อยล้า เพื่อไปถึง "จุดหมายปลายทางของเขา"

เพียงแต่วิธีจัดการกับความเหงาของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
เพียงแต่ ผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า แพ็ค จะใช้วิํธีนี้กับผม ตอน ตี 3 วันสงกรานต์อย่างนี้

และ...มันทำให้ผม นอนไม่หลับอีกต่อไป



ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ้ายบร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย


Create Date : 13 เมษายน 2551
Last Update : 13 เมษายน 2551 4:36:45 น. 7 comments
Counter : 694 Pageviews.  
 
 
 
 
เหอๆๆ ดีนะที่เป็นคุณ ถ้าเป็น อิฉันละก็ แม่ด่าแหลก โทรมาได้ตอนตี 3
 
 

โดย: BABYYING วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:8:09:05 น.  

 
 
 
โห........ยังไปคุยต่อกับเค้าอีกเหรอครับ

เป็นผมตัดสายตั้งแต่แรกแล้วครับ
 
 

โดย: กระต่ายไม่ขูดมะพร้าว วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:11:04:57 น.  

 
 
 
 
 

โดย: shame_of_sins วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:11:05:37 น.  

 
 
 
แม้จะตีสามแล้วคุณก็ยังเป็นรุ่นพี่ที่ดี อุตส่าห์ฟังแพ็ค
 
 

โดย: เล็กเนื้อน้ำตก2 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:11:06:54 น.  

 
 
 
อ่ะ ใจดีจริงๆด้วยนะ
 
 

โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:15:44:31 น.  

 
 
 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...>
 
 

โดย: Cheerfully วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:21:18:19 น.  

 
 
 
พักนี้เขียนบล๊อกเร็วจัง เหอ เหอ
ชอบแนวทางในการคิดอ่ะครับ

ที่ว่า
คนเราเวลามีปัญหา มีไม่กี่เรื่อง

ใช่ มันมีไม่กี่เรื่องจริงๆ


แต่กับมุมมอง ที่บอกว่า
เวลามีความสุข มักนึกถึงเราเป็นคนสุดท้าย

มันดูเศร้าๆ ไงไม่รู้อ่ะครับ

แต่การคิดแบบนี้ได้
แสดงว่า สามารถปลงต่อเรื่องความสัมพันธ์ต่างๆนี้ได้ในระดับหนึ่ง
หรืออีกนัยหนึ่ง คือ มีภูมิคุ้มกันต่อความผิดหวัง มากๆ นั่นเอง

ผมว่ายังดีกว่าคนที่ไม่เคยรู้สึกหรือย้อนคิดกับเรื่องแบบนี้เลย
แบบนั้น เวลาเจอเรื่องผิดหวังมากๆ อาจทำอะไรที่ไม่สมควรได้



อ่อ ขอบคุณคร้าบที่แวะไปเยี่ยมที่บล๊อก
ผมอยากหาโอกาสคุยกันเหมือนกัน....

เอ ........แล้วผมจะติดต่อยังไงล่ะคร้าบ......
เอาเป็นว่า เบอร์โทรผมอยู่ในบล๊อกนั่นแหละ ด้านบนๆ

หรือยังไง ถ้าไม่สะดวกก็ คุยกันในเมล ที่ CarDesignProject@hotmail.com ก็ได้คร้าบ
 
 

โดย: TzOzOzN วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:21:55:28 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

JIMMY
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add JIMMY's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com