ประชาชนประกาศไม่ยอมรับการลงนาม สืบสานจิตวิญญาณเสรีไทยเคลื่อนไหวยกเลิกข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ญี่ปุน
ประชาชนประกาศไม่ยอมรับการลงนาม สืบสานจิตวิญญาณเสรีไทย เคลื่อนไหวยกเลิกข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ญี่ปุ่น
3 เมษายน 2550 กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอว็อทช์)และ พันธมิตรอันประกอบด้วยเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์/เอชไอวีประเทศไทยเครือข่ายผู้บริโภค และเครือข่ายสลัมสี่ภาค ราว100 คน พร้อมด้วย ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนวณิชย์เลขาธิการมูลนิธิโลกสีเขียว ได้ประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยถ.วิทยุ เพื่อคัดค้านการลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นซึ่งจะมีการลงนามระหว่าง พล.อ.สุรยุทธฺ จุลานนท์นายกรัฐมนตรีของไทย และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนายชินโซะอาเบะ ที่ญี่ปุ่น ในช่วงเย็นวันนี้
การประท้วงครั้งนี้ผู้ประท้วงได้ถือป้ายมีข้อความว่าJTEPA สัญญาโมฆะ, Japan-Thailand Exploitative Partnership Agreement, ฉีกเอฟทีเอ ไทย-ญี่ปุ่นสัญญาทาส สัตว์เศรษฐกิจ ฯลฯ จากนั้นได้มีตัวแทน 5คนนอนตายคล้ายศพหน้าสถานฑูต พร้อมป้ายประกาศจับพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีต่างประเทศ นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีพาณิชย์ นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัตน์ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม และนายพิศาล มาณวพัฒน์ หัวหน้าคณะเจรจาฯฐานฆ่าประเทศไทยโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
หลังจากนั้นนายนิมิตร์ เทียนอุดม สมาชิกเอฟทีเอ ว็อทช์อ่านแถลงการณ์ไม่ยอมรับการลงนามเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น จากนั้นผู้ชุมนุมได้เผาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นทั้งฉบับภาษาอังกฤษ และภาษาไทย รวมทั้ง บัญชีหนังหมา ซึ่งเป็นเอกสารรวบรวมรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาความตกลงและผู้ที่ให้การสนับสนุน ประกอบไปด้วย คณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งคณะ, คณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ทั้งคณะ ยกเว้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเคยอภิปรายท้วงติงการลงนามความตกลงเพราะเป็นห่วงการนำเข้าขยะและการส่งเสริมให้คนญี่ปุ่นมาใช้บริการสาธารณสุขไทย และยกเว้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง , รายชื่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ สนช.ที่อภิปรายสนับสนุนความตกลง, รายชื่อแกนนำนักธุรกิจจาก 3 สมาคม คือ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม และ สมาคมธนาคารไทย และรายชื่อคณะเจรจาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจา
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง สมาชิกกลุ่มเอฟทีเอว็อทช์กล่าวว่าการมาประท้วงในวันนี้เพื่อสะท้อนความไม่เห็นด้วยกับการลงนามความตกลงที่จะมีขึ้นในเวลา 18.00 น.วันนี้ เราเชื่อว่า มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่ไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดนี้ มากกว่า 70% และเรามาบอกกล่าวแก่สถานฑูตญี่ปุ่นให้นำสารไปถึงรัฐบาลญี่ปุ่นว่า ความตกลงนี้มีหลายประเด้นที่กระทบกับคนไทย เช่น เรื่องขยะ ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ญี่ปุ่นพยายามยัดเยียดขยะสารพิษมาทิ้งในประเทศไทย การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เกินเลย การจำกัดมาตรการบังคับใช้สิทธิ การคุ้มครองนักลงทุนซึ่งละเมิดอธิไปตยของประเทศ และการกระตุ้นการบริการสุขภาพจนเกิดปัญหาหมอสมองไหล
ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่น จะต้องนำความตกลงฯที่ลงนามแล้วผ่านการพิจารณาของรัฐสภา เราจึงอยากเห็นรัฐสภาญี่ปุ่น จะแก้ไขเนื้อหาสาระที่น่ากังวลเหล่านี้ เพื่อเฉลิมฉลอง120 ปีความสัมพันธ์ ไทย-ญี่ปุ่น นอกจากนี้ เราหวังที่จะเห็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 20-30 ท่านเข้าชื่อกันเพื่อขอให้ตุลาการรัฐธรรมนูญตีความว่าสิ่งที่รัฐบาลไปลงนามนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เราเรียกร้องสปิริตจาก สนช.ในครั้งนี้ที่จะปกป้องประเทศไทย เพราะการลงนามครั้งนี้ไม่ต่างจากการที่ จอมพล ป.พิบูลสงครามทำสัญญาร่วมสงครามกับญี่ปุ่น โดยที่ไม่ผ่านสภา และต้องเป็นโมฆะในที่สุด
แถลงการณ์
กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน และ พันธมิตร
ไม่ยอมรับการลงนามเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น
วันที่ 3 เมษายน 2550
วันนี้ เป็นวันที่น่าอับอายสำหรับประเทศและประชาชนไทย ที่รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารของ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ตัดสินใจลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่สัญญาฉบับนี้จะทำให้เกิดผลกระทบวงกว้างต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรชีวภาพ เกษตรกร คนไข้ ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ต้องเข้ารับบริการด้านสาธารณสุข อีกทั้งยังขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง ที่รัฐบาลนี้ประกาศเป็นนโยบายในการบริหารประเทศ
วันนี้ เป็นวันที่เราได้เห็นอย่างแจ้งชัดแล้วว่า รัฐบาลชุดนี้ก็มีพฤติกรรมที่แทบไม่แตกต่างใดๆ กับรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ตัดสินใจนโยบายทางเศรษฐกิจเอื้ออำนวยต่อกลุ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วยการปกปิดข้อมูล ไม่โปร่งใส และปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน นอกจากนี้ สถาบันทางการเมืองต่างๆ แทบทั้งหมด ต่างล้มเหลวและไม่สามารถเป็นที่พึ่งพาใดๆ แก่ประชาชนคนส่วนใหญ่ได้ แม้กระทั่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2549 ก็ถูกละเมิดจากการที่คณะรัฐมนตรีได้ตัดสินใจลงนามในสัญญาระหว่างประเทศโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
เอฟทีเอว็อทช์และพันธมิตรขอเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติอย่างน้อย 20 คนเข้าชื่อกัน เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความว่า การลงนามในข้อตกลงเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่นในครั้งนี้ของรัฐบาล เป็นการกระทำที่ชอบโดยรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะนี่เป็นโอกาสเดียวที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะมีโอกาสได้แก้ตัว หลังจากที่ประธานสภาฯและสมาชิกส่วนใหญ่ยอมจำนนอย่างน่าอับอายด้วยการอภิปรายข้อตกลงเอฟทีเอฉบับนี้ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550 โดยไม่มีการลงมติ และมิได้มีโอกาสพิจารณาข้อตกลงซึ่งมีความหนา 942 หน้าอย่างรอบคอบ รอบด้าน แต่ประการใด
เราขอยืนยันว่าหนังสือสัญญาหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ที่รัฐบาลได้ลงนามในวันนี้นั้น เป็น โมฆะสัญญา เราไม่ยอมรับและขอปฏิเสธผลผูกพันใดๆ ที่สัญญาฉบับนี้มีต่อประชาชนชาวไทย หนังสือสัญญาฉบับนี้หาได้เป็นสัญลักษณ์ใดๆ ที่สะท้อนความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศญี่ปุ่น-ไทยไม่ หากเป็นตัวแทนการกดขี่ของกลุ่มทุนข้ามชาติขนาดใหญ่ที่สมคบคิดกับรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารและกลุ่มทุนบางกลุ่มในประเทศไทย บดขยี้กลุ่มธุรกิจรายย่อย สร้างผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทย ไม่แตกต่างใดๆ กับหนังสือสัญญาที่จอมพลป.พิบูลสงครามลงนามและนำประเทศไทยกลายเป็นบริวารของรัฐบาลญี่ปุ่นในอดีต
เอฟทีเอว็อทช์ และพันธมิตรซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์/เอชไอวี เครือข่ายผู้บริโภค และเครือข่ายสลัมสี่ภาค จะประสานงานกับประชาชนทั่วประเทศเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขหรือยกเลิกหนังสือสัญญาที่ไม่ชอบธรรมนี้โดยเร็วที่สุด เช่นเดียวกับที่ ขบวนการเสรีไทย ที่ได้เคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพของประเทศจนเป็นผลสำเร็จในท้ายที่สุด
3 เมษายน 2550
กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน(เอฟทีเอว็อทช์)
เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก
เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์/เอชไอวี
เครือข่ายผู้บริโภค
และเครือข่ายสลัมสี่ภาค
Create Date : 05 เมษายน 2550 |
|
3 comments |
Last Update : 11 เมษายน 2550 10:47:06 น. |
Counter : 817 Pageviews. |
|
|
|