Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
ทางออก รัฐธรรมนูญ ม. 186 กับการทำเอฟทีเอ

ทางออก รัฐธรรมนูญ ม. 186 กับการทำเอฟทีเอ

5 พฤษภาคม 2550
เรื่องโดย : จักรชัย โฉมทองดี กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์)


การดำเนินการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศในหลายกรณีได้สร้างความไม่ไว้วางใจและความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน เพื่อไม่ให้ปัญหาเช่นนี้ดำเนินต่อไป และเพื่ออำนวยให้ทั้งภาครัฐและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายสามารถมีกระบวนการที่ชัดเจนและโปร่งใส ที่จะร่วมกันคิด หาจุดยืนร่วมกัน อันจะนำไปสู่ท่าทีของประเทศไทยในการเจรจา และการได้มาซึ่งความตกลงระหว่างประเทศที่เสริมสร้างความเสมอภาคทางสังคม และความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยสมควรจะมี “ข้อบัญญัติที่เหมาะสมในรัฐธรรมนูญ” เพื่อช่วยสร้างธรรมาภิบาล และเพื่อเป็นกรอบสำหรับการมี “กฎหมายการจัดทำความตกลงหรือหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ” ต่อไป

ดังนั้น หลักการสำคัญของมาตราว่าด้วยการจัดทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศจึงควรประกอบด้วย

๑. กำหนดอำนาจ บทบาท และสัมพันธ์ ของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่มีความสมดุลและชัดเจนในการดำเนินการและตัดสินใจทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ

๒. สร้างกระบวนการการทำหนังสือสัญญาที่โปร่งใส และประชาชนมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย

๓. เพื่อให้กระบวนการทำหนังสือสัญญามีประสิทธิภาพ มีธรรมาภิบาล และเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม

แต่ร่างของกรรมาธิการยกร่างเพื่อจัดรับฟังความคิดเห็นในมาตรา ๑๘๖ ซึ่งว่าด้วยการจัดทำความตกลงหรือสัญญาระหว่างประเทศกลับมีข้อน่าห่วงใยสำคัญ

“มาตรา ๑๘๖ พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำสนธิสัญญาสันติภาพ สนธิสัญญาสงบศึก และสนธิสัญญาอื่น กับนานาประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศ
สนธิสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามสนธิสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสนธิสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างร้ายแรง ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา
ก่อนการดำเนินการเพื่อทำสนธิสัญญากับนานาประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศคณะรัฐมนตรีต้องให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และต้องชี้แจงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับสนธิสัญญานั้น
เมื่อลงนามในสนธิสัญญาใดแล้ว คณะรัฐมนตรีต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงรายละเอียดของสนธิสัญญานั้น และในกรณีที่การปฏิบัติตามสนธิสัญญาก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน คณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว เหมาะสมและเป็นธรรม”

ปัญหาสำคัญของ มาตรา ๑๘๖ ตามร่างของกรรมาธิการที่เผยแพร่เพื่อจัดรับฟังความคิดเห็น

๑. ตามวรรคสองของมาตรา ๑๘๖ บทบาทของรัฐสภาจะถูกจำกัดอย่างมาก เป็นผลให้ไม่เกิดการถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารที่เป็นจริงได้ หากยังบัญญัติเช่นนี้ หนังสือสัญญาในลักษณะเดียวกันกับ เอฟทีเอ ไทย-ออสเตรียเลีย ไทย-จีน หรือ ไทย-ญี่ปุ่น จะไม่ต้องผ่านการให้ความเห็นชอบของรัฐสภา

๒. การกำหนดตามวรรคสองให้หนังสือสัญญาที่ “มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างร้ายแรง ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา” เป็นการบัญญัติที่คลุมเครือซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความเห็นขัดแย้งว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจะมีความร้ายแรงหรือไม่ ทั้งๆ ที่หนังสือสัญญาทางเศรษฐกิจสำคัญของอารยประเทศต่างต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาโดยไม่ต้องตีความ

๓. ตามความในวรรคสามและสี่นั้น ประชาชนจะมีโอกาสได้เห็นรายละเอียดของความตกลงภายหลังการแสดงเจตนาผูกพันไปแล้วเท่านั้น เช่นนี้แล้วผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนจะไม่สามารถให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ได้ ซึ่งไม่ต่างจากสิ่งซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันดำเนินการ จนนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคม

ร่างมาตรา ๑๘๖ ตามข้อเสนอของภาคประชาชน

“มาตรา ๑๘๖ พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำสนธิสัญญาสันติภาพ สนธิสัญญาสงบศึก และสนธิสัญญาอื่น กับนานาประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศ

หนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามสนธิสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือมีผลผูกพันทางการค้าหรือการลงทุน หรือต่อรายจ่ายหรืองบประมาณของประเทศอย่างสำคัญ หรือมีผลกระทบต่อประโยชน์ได้เสียของประชาชนอย่างกว้างขวาง หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศ ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาก่อนการแสดงเจตนาผูกพัน

ก่อนการดำเนินการเพื่อทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศคณะรัฐมนตรีต้องให้ข้อมูลและให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และต้องชี้แจงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับสนธิสัญญานั้น

ก่อนการแสดงเจตนาผูกพันในหนังสือสัญญาใด คณะรัฐมนตรีต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงรายละเอียดของหนังสือสัญญานั้นและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และในกรณีที่การปฏิบัติตามหนังสือสัญญาก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน คณะรัฐมนตรีต้องหาทางป้องกันและดำเนินการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว เหมาะสมและเป็นธรรม” (ส่วนที่ขีดเส้นใต้ เป็นส่วนที่ปรับหรือเพิ่มเติม)

ความสำคัญและองค์ประกอบของ มาตรา ๑๘๖ ตามข้อเสนอภาคประชาชน

๑. มีบทบัญญัติชัดเจนที่ให้ หนังสือสัญญาที่ “มีผลผูกพันทางการค้าหรือการลงทุน” ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาก่อนการแสดงเจตนาผูกพัน

๒. แม้หนังสือสัญญามิได้มีผลให้ต้องแก้กฎหมาย แต่หากพันธกรณีที่เกิดขึ้นมีผลผูกพัน ต่อรายจ่ายหรืองบประมาณของประเทศอย่างสำคัญ หรือมีผลกระทบต่อประโยชน์ได้เสียของประชาชนอย่างกว้างขวาง หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศ จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาก่อนการแสดงเจตนาผูกพันเช่นกัน การบัญญัติเช่นนี้มิได้หมายความว่าหนังสือสัญญาระหว่างประเทศทั้งหมดต้องผ่านรัฐสภา โดยคำนึงถึงความคล่องตัวของฝ่ายบริหารและภาระของฝ่ายนิติบัญญัติ

๓. รัฐบาลจะต้องให้ข้อมูลในการดำเนินการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศกับประชาชนโดยทั่วไป ทั้งก่อนเริ่มการเจรจา และระหว่างการเจรจา รวมทั้งชี้แจงต่อรัฐสภา และจัดให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางนโยบาย การให้ข้อมูลก่อนเริ่มเจรจามีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ประชาชนและรัฐสภาได้รับทราบกรอบและเป้าประสงค์ของการดำเนินการทำหนังสือสัญญา อันจะนำไปสู่การให้ความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์สูงสุด โดยที่ไม่ส่งผลเสียหายต่อท่าทีการเจรจา

๔. ประชาชนสามารถเข้าถึงรายละเอียดของหนังสือสัญญาก่อนการแสดงเจตนาผูกพัน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เนื่องจากจะทำให้สามารถให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จริง การให้ความคิดเห็นบนข้อมูลจริงจะช่วยให้รัฐบาลและรัฐสภาตัดสินใจในพันธกรณีดังกล่าวอย่างรัดกุมยิ่งขึ้น การเปิดเผยรายละเอียดร่างหนังสือสัญญาในขั้นตอนนี้มีความเป็นไปได้เนื่องจากเป็นการเปิดเผย ภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจาแล้ว

๕. กรณีที่การปฏิบัติตามหนังสือสัญญาก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน คณะรัฐมนตรีต้องหาทางป้องกันเป็นอันดับแรกก่อนการดำเนินการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว เหมาะสมและเป็นธรรมต่อไป

การมีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญตามร่างข้อเสนอปรับปรุงนี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มอำนาจต่อรองและประสิทธิภาพในการเจรจาของฝ่ายบริหาร เนื่องจากท่าทีของรัฐบาล รัฐสภา และประชาชน จะมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น ขณะเดียวกันกระบวนการที่ดีสามารถลดความขัดแย้งภายในประเทศได้ และการปฏิบัติตามบทบัญญัติเช่นนี้ไม่ควรส่งผลให้การจัดทำหนังสือสัญญาต้องล่าช้าออกไป.

ที่มา สำนักข่าวประชาธรรม //www.newspnn.com



Create Date : 12 พฤษภาคม 2550
Last Update : 12 พฤษภาคม 2550 14:01:49 น. 0 comments
Counter : 549 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Darksingha
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





Click for use Graphics comment


Darksingha ที่แสดงถึงอำนาจและความมืดมัว ผมให้แทนคำว่า Age of Doubt หรือยุคแห่งความสงสัยก็แล้วกัน ดังนั้นBlogนี้จึงเป็นแดนสนธยาที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งคำถาม และการละเล่น เพื่อแสวงหา ?


TV3 Live CH5 Live CH7 Live Modernine TV Live NBT LIVE - CH11 TPBS - Public Channel ASTV1 New11 - Online News 24 hours Nation Channel DMC.TV - Buddhistic Television ASTV5 - Suvarnbhumi ASTV7 - Buddhistic Television  True New 24 Channel  skynew  cnnibn Channel  cnn Channel  bbcnews_island Channel  cctv  Channel  bfmtv  Channel  ntv  Channel  fox8 Channel  foxnews5 Channel  cspan  Channel  france24 Channel  world_explorer Channel  discovery_channel Channel  nasa  Channel kimeng-channel dmc-channel ebr-channel research-channel utv-channel michigan-channel at-florida-channel islam-channel peace-usa-channel bbc-panorama-channel CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live

music is life

ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต

Friends' blogs
[Add Darksingha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.