วิปัสสนาภูมิ ๖ (ปรับปรุงใหม่)
 ภูมิธรรมที่เป็นอารมณ์ของวิปัสสนามี 6 อย่างคือ ขันธ์ 5  อายตนะ 12  ธาตุ 18  อินทรีย์ 22  อริยสัจจ์ 4  และปฏิจจสมุปบาท 12  ซึ่งทั้งหมดย่อลงเหลือรูปนาม
 
วิปัสสะนาภูมิปาฐะ
            ปัญจักขันธา ฯ  รูปักขันโธ  เวทะนากขันโธ  สัญญากขันโธ  สังขารักขันโธ  วิญญาณักขันโธฯ
            ทํวาทะสายะตะมานิฯ  จักขํวายะตะนัง  รูปายะตะนัง  โสตายะตะนัง  สัททายะตะนัง  ฆานายะตะนัง  คันธายะตะนัง  ชิวหายะตะนัง  ระสายะตะนัง  กายายะตะนัง  โผฎฐัพพายะตะนัง  มะนายะตะนัง  ธัมมายะตะนังฯ
            อัฎฐาระสะ  ธาตุโยฯ  จักขุธาตุ  รูปะธาตุ  จักขุวิญญาณะธาตุ  โสตะธาตุ  สัททะธาตุ  โสตะวิญญาณะธาตุ  ฆานะธาตุ  คันธะธาตุ  ฆานะวิญญาณะธาตุ  ชิวหาธาตุ  ระสะธาตุ  ชิวหาวิญญาณะธาตุ  กายะธาตุ  โผฎฐัพพะธาตุ  กายะวิญญาณะธาตุ  มะโนธาตุ  ธัมมะธาตุ  มะโนวิญญาณะธาตุฯ
            พาวีสะตินทํริยานิฯ  จักขุนทํริยัง  โสตินทํริยัง  ฆานินทํริยัง  ชิวหินทํริยัง  กายินทํริยัง  กานินทํริยัง  อิตถินทํริยัง  ปุริสินทํริยัง  ชีวิตินทํริยัง  สุขินทํริยัง  ทุกขินทํริยัง  โสมะนัสสินทํริยัง  โทมะนัสสินทํริยัง  อุเปกขินทํริยัง  สัทธินทํริยัง  วิริยินทํริยัง  สะตินทํริยัง  สะมาธินทํริยัง  ปัญญินทํริยัง  อะนัญญะตัญญัสสามีตินทํริยัง  อัญญินทํริยัง  อัญญาตาวินทํริยังฯ
 
            จัตตาริ  อะริยะสัจจานิฯ  ทุกขัง  อะริยะสัจจัง  ทุกขะสะมุทะโย  อะริยะสัจจัง  ทุกขะนิโรโธ  อะริยะสัจจัง  ทุกขะนิโรธะคามินี  ปะฎิปะทา  อะริยะสัจจังฯ

 
คำแปล วิปัสสะนาภูมิปาฐะ
        ขันธ์ ๕ คือรูปขันธ์  เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์  อายตนะ ๑๒  คือ อายตนะ คือ ตา  รูป  หู เสียง จมูก กลิ่น ลิ้นกับรส  กายสิ่งที่ถูกต้องได้ ใจกับอารมณ์ของใจ
        ธาตุ ๑๘ คือ ธาตุคือ ตา รูป  วิญณาณทางตา  หู เสียง  วิณณาณทางหู  จมูก กลิ่น  วิญญาทางจมูก  สิ้น รส  วิณณาณทางสิ้น  กาย สิ่งที่ถูกต้องได้  วิณณาณทางกาย  ใจ อารมณ์ของใจ วิณณาณทางใจ
       อินทรีย์ ๒๒  คือ อินทรีย์ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ความเป็นหญิง ความเป็นชาย  ชีวิต สุข ทุกข์ โสมนัส  โทมนัส อุเบกขา  สัทธา  วิริยะ สติ  สมาธิ ปัญญา  อินทรีย์คืออัศยาศัยที่มุ่งบรรลุมรรคผล  อินทรีย์  คือการตรัสรู้  สัจจธรรมด้วยมรรค  อินทรีย์ของพระอรหันต์ผู้ตรัสรู้สัจจธรรมแล้ว
        อริยสัจ์ ๔ คือ ทุกข์  ทุกขสมุทัย  ทุกขนิโรธ  ทุกขนิโรธคามีนีปฏิปทา
       ปฏิจจสมุปบาท  สายเกิด  คือ เพราะอวิชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขาร  เพราะสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ  เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงมีนามรูป  เพราะนามรูปเป็นปัจจัยจึงมีอายตนะ๖ เพราะอายตนะ ๖ เป็นปัจจัยจึงมีผัสสะ  เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา  เพระเวทนาเป็นปัจจัยจึงมีตัณหา  เพราะตัณหาเป็นปัจจัยจึงอุปาทาน  เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ  เพราะภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ  เพราะชาติเป็นปัจจัยจึงมีชรา  มรณะ  โสกะ ปริเทวะ  ทุกข์ โทมนัส  อุปายาส  ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนั้นมีอย่างนี้
       ปฏิจจมุปบาท สายดับ  คือ เพราะอวิชชาดับโดยคลายความกำหนัดยินดีโดยไม่เหลือ  สังขารจึงดับ  เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ  เพราะวิญญาณดับนามรูปจึงดับ  เพราะนามรูปดับอายตนะ ๖ จึงดับ  เพราะอายตนะ๖ ดับผัสสะจึงดับ  เพราะผัสสะดับเวทนาจึงดับ  เพราะเวทนาดับตัณหาจึงดับ  เพราะตัณหาดับอุปาทานจึงดับ  เพราะอุปาทานดับภพจึงดับ  เพราะภพดับชาติจึงดับ  เพราะชาติดับ  ชรา มรณะ โศกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส  อุปายาสจึงดับ  ความดับกองทุกข์ทั้งปวงนั้นมีอย่างนี้



Create Date : 14 มิถุนายน 2563
Last Update : 14 มิถุนายน 2563 23:23:17 น.
Counter : 3696 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฆราวาสมุนี
Location :
นครปฐม  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments
มิถุนายน 2563

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog