ขันธ์ ๕ ตอน ๑
สำหรับในขั้นนี้ เฮียเห็นคุณมีความสนใจแนะรู้สึกประทับใจเกี่ยวกับเรื่อง “อุปาทานขันธ์ ๕” มากโขอยู่ ทำให้เฮียอยากส่งพระสูตรมหายานพระสูตรหนึ่ง ชื่อว่า “ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร” (Heart Sutra) ซึ่งเป็นพระสูตรที่แสดงถึงเรื่อง “วิสุทธิขันธ์ ๕” อันเป็นวิปัสสนาภูมิประเภทหนึ่ง กับ เรื่อง “ศูนยตา” ที่พระสารีบุตรเถระกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสนทนาธรรมกัน.
แต่เฮียมีข้อสังเกตบางอย่างอยากให้คุณระลึกไว้เสมอว่า “ไตรสิกขา” ก็ดี “อริยมรรคมีองค์ ๘” ก็ดี ต้องทำงานพร้อมกันอย่างสมดุลจึงสามารถประหารกิเลสได้อย่างถาวรสิ้นซาก นอกเสียจากว่า องค์ธรรมใดองค์ธรรมหนึ่งจะเกิดก่อนและคอยเวลาที่องค์ธรรมที่เหลือค่อย ๆ เกิดตามมาจนครบ ในที่นี้ เฮียอยากจะเน้นกับคุณถึงตัวอย่างขององค์ธรรมขั้น “ศีล” และ “ปัญญา” แน่นอนว่า เมื่อปัญญาเกิดก็อาจสามารถชักนำศีลให้เกิดตามมา หรือ เมื่อศีลเกิดก็อาจสามารถชักนำให้ปัญญาเกิดตามมา หรือ ในนักปฏิบัติบางคนทั้งศีลและปัญญาและสมาธิจะทยอย ๆ กันเกิดมาพร้อม ๆ กัน โดยที่ไม่ว่ากรณีใด เมื่อองค์ธรรมทั้งหมดเกิดมาจนครบใน “จิต” (ตัวรู้ แต่ไม่มีใครหรือคนรู้ เป็นแต่ตัวรู้ หรือ สติ ระลึกรู้ เฉย ๆ) จึงทำงานฯ
แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ก่อนทุกอย่างหมด เมื่อปัญญาเกิดล้ำหน้าเกินไป จำเป็นต้องมีศีลมากำกับไว้โสดหนึ่งด้วย ไม่ฉะนั้น จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ขันธ์ ๕ ฆ่า ขันธ์ ๕ หรือ ขันธ์ ๕ ทิ้งลูกเมียพ่อแม่ที่ชรา ไปบวช หรือ ขันธ์ ๕ มีชู้ เป็นต้น ดังนี้ นักปฏิบัติที่ฉลาดอาจเจริญ “ศีลานุสติ” คือ เอาศีลของตนมาเพ่งหรือกำหนดให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติที่สมบูรณ์พร้อม ไม่ตึงหรือไม่หย่อนจนเกินไป.
สรุปนักปฏิบัติที่ดี จึงรักษาศีล โดยไม่ยึดมั่นในศีล แต่ก็ไม่ลืมเอาศีลมาสมาทานประดับไว้ในกายสังวรวจีสังวรมโนสังวรของตน รักษาศีลจนไม่ต้องรักษาศีล แต่ให้ศีลมารักษาตน.
ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร:
https://youtu.be/BZ5KFv9tBPc