กิเลส(อกุศล)กรรม (อกุศล)วิบาก
Tuesday,June 6, 2017
13:55
วัฏฏะ 3 หรือไตรวัฏฏ์ (วน,วงเวียน, องค์ประกอบที่หมุนเวียนต่อเนื่องกันของภวจักรหรือสังสารจักร)
1.กิเลสวัฏฏ์ (วงจรกิเลสประกอบด้วยอวิชชา ตัณหา และอุปาทาน)
2.กรรมวัฏฏ์ (วงจรกรรมประกอบด้วยสังขารและกรรมภพ)
3.วิปากวัฏฏ์ (วงจรวิบากประกอบด้วย วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ซึ่งแสดงออกในรูปปรากฏที่เรียกว่าอุปปัตติภพ ชาติ ชรา มรณะ เป็นต้น)
สามอย่างนี้ประกอบเข้าเป็นวงจรใหญ่แห่งปัจจยาการ เรียกว่า ภวจักร หรือสังสารจักรตามหลักปฏิจจสมุปบาท
Vism.581.วิสุทฺธิ.3/198.
Cr. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺตเถร)
ข้อสังเกต:
- ในสัมมาทิฏฐิสูตร ท่านพระสารีบุตรอธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า ให้กำหนดกรรมวัฏฏ์ในปัจจุบันขณะ เพื่อละ/ทำลายอำนาจกิเลสวัฏฏ์ที่กำลังเกิดขึ้นย่ำยีจิตอยู่
- ในปฏิจจสมุปบาทนิโรธวาร พระพุทธเจ้าไม่ได้แสดงว่า วิชชาเกิด แต่แสดงว่า เพราะอวิชชาสำรอกดับไม่เหลือ สังขารจึงดับ
- ในหมวดแห่ง สุจริต ๓ และ ทุจริต ๓ ได้แก่ กายสุจริต ๓ วจีสุจริต ๔ และ มโนสุจริต ๓ ตลอดจน กายทุจริต ๓ วจีทุจริต ๔ และ มโนทุจริต ๓ รวมไปถึง กุศลมูล ๓ และ อกุศลมูล ๓ ทรงแสดงไว้ ในแนวเป็นต้นว่า การฆ่า การลักขโมย และ การประพฤติล่วงประเวณีในทางกาม นี้เป็นกายทุจริต ๓ แต่เมื่อจะแสดงกายสุจริต ๓ ก็ทรงแสดงอย่างกว้าง ๆ ว่า การกระทำทางกายใด ๆ ที่เว้นขาดจากการฆ่า ๑ จากการลักขโมย ๑ และ จากการประพฤติล่วงประเวณีในทางกาม ๑ ฯลฯ การกระทำใดก็ตามที่ละขาดจากอกุศล จึงเป็นกุศลทั้งหมด และยังทรงแสดงอีกว่า วิราคะ หรือ อริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นยอดแห่งกุศลทั้งปวงโดยปริยายนี้