กันยายน 2553

 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ซีรีส์ยาวมาก3วันจบในตอนเดียวไหว้พระเชียงราย25-27ก.ค2553
เราเป็นหัวหน้าคณะทัวร์ มีลูกทัวร์สองคน คือคุณแม่กับคุณแฟน เรากับแม่ยังไม่เคยไปเชียงรายครั้งนี้เป็นครั้งแรกอยากไปตรงไหนก็จัดไป(ตามใจหัวหน้าทัวร์)

25/7/53 เชียงแสน

10.30 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเดินทางโดย Air Asia - FD3254 (11.35-12.55) สุวรรณภูมิ – เชียงราย (ถูกและก็ค่อนข้างที่จะตรงเวลา พักหลังไม่ได้ใช้บริการสายการบินอื่นๆเลยเรา)



13.00 ถึงเชียงราย (เหนือสุดในสยาม-ชายแดนสามแผ่นดิน-ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา)

13.30 รับรถเช่าจาก Avis มุ่งหน้าสู่อ.แม่จันโดยใช้ทางหลวงหมายเลข1

14.00 "ผัดไทยป้ากาบ" - กินผัดไทยรองท้องก่อนที่นี่เพราะต้องผ่านเส้นทางนี้อยู่แล้ว เป็นร้านผัดไทยเก่าแกกว่าสามสิบปี เห็นในเน็ตเค้าบอกต่อๆกันเลยต้องมาลองซะหน่อยเค้าบอกว่าอร่อยโดยที่ไม่ต้องปรุงเพิ่ม (จริงแฮะ) มีทั้งเส้นจันทร์ วุ้นเส้น ผัดไทยห่อไข่ แม่กับแฟนเบิ้ลสองเลยเชียว(ร้านนี้อยู่ที่ถนนสี่แยกไปรษณีย์ อ.แม่จัน แต่ถ้าไม่ใช่คนเชียงรายจะรู้ได้ไงว่าอยู่ตรงไหน ..คือถ้ามาจากสนามบินก็ให้สังเกตุว่าจะมีโลตัสแม่จันอยู่ขวามือ เลยมาอีกนิดมีบริษัทประกันชีวิตอยู่ซ้ายมือ หน้าปากซอยทางเข้าจะมีซุ้มโค้งๆอยู่เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ขอย้ำว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามโลตัสแม่จันเยื้องๆมา เพราะวันไปเราขับรถวนหาอยู่หลายรอบทีเดียว ดูแผนที่นายรอบรู้อยู่กันคนละฝั่งเลย) ผัดไทยวุ้นเส้นอร่อยค่ะ ใส่เครื่องให้เยอะดี



15.30 วัดพระธาตุผาเงา (ใช้เส้นทาง 1016 มุ่งหน้าสู่เชียงแสน และ 1129)
ตอนไปเส้นทาง1016 กำลังทำทางอยู่แต่ก็วิ่งไม่ลำบากเพียงแต่จะมีเนินเป็นระยะระยะ โปรดขับด้วยความระมัดระวัง



ขับตรงมุ่งไปเส้นทางเชียงของ - เชียงแสน ประมาณ ๕ กิโลเมตร(หลักกิโลเมตรที่ 48-49)วัดอยู่ทางขวามือ



สันนิษฐานว่าเดิมทีวัดแห่งนี้คงเคยเป็นวัดที่สำคัญมากในสมัยที่อาณาจักรโยนกมีความรุ่งเรือง





แต่เดิมเป็นเคยวัดร้างอยู่ช่วงหนึ่ง ชาวบ้านต้องการย้ายวัดสบคำจากที่เดิมที่ถูกแม่น้ำโขงกัดเซาะพังทลาย จึงมาฟื้นฟูวัดร้างนี้ขึ้นเป็นวัดให้รุ่งเรืองดั้งเดิม







บริเวณที่แห่งนี้เคยเป็นถ้ำมาก่อน เรียกว่า ถ้ำผาเงา ปากถ้ำถูกปิดไว้นาน ทำให้บริเวณแห่งนี้เป็นป่ารก เต็มไปด้วยซากโบราณวัตถุกระจัดกระจาย ต่อมามีการค้นพบพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2519 เวลา 14.00 น. เมื่อคณะศรัทธาได้ปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างปีติยินดี เมื่อได้พบว่าใต้ตอไม้หน้าฐานพระประธาน มีอิฐโบราณก่อเรียงไว้ เมื่อยกอิฐออก จึงได้พบพระพุทธรูป มีลักษณะสวยงามมาก ผู้เชี่ยวชาญโบราณวัตถุ วิเคราะห์ว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุระหว่าง 700-1,300 ปีจึงได้พร้อมกันตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "หลวงพ่อผาเงา" และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น "วัดพระธาตุผาเงา"



"หลวงพ่อผาเงา" เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนที่ได้รับอิทธิพลจาก ศิลปะสุโขทัย โดยเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย พระพักตร์รูปไข่ พระหนุเป็นปม พระรัศมีเป็นเปลว มีหน้าตักกว้างประมาณ 1 เมตร สูงประมาณ1.5เมตร โดยประดิษฐานอยู่กลางพระวิหารที่ชาวบ้านได้สร้างครอบเอาไว้ตั้งแต่เมื่อครั้นค้นพบองค์พระใหม่ๆ



จากในเว็บ //www.phrathai.net/node/677 บอกเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อว่าว่า "สำหรับความศักดิ์สิทธิ์ที่เล่าขานกันมาเกี่ยวข้องกับความเมตตา ก่อนจะมีการเข้าไปบุกเบิกเพื่อบูรณะวัดพระธาตุผาเงา บริเวณดังกล่าวยังเป็นยอดดอยและมีป่าไม้หนาแน่น ชาวบ้านเล่าขานกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษและหลายคนประสบพบเจอด้วยตัวเองว่าคราใด ที่เข้าป่าล่าสัตว์ และติดตามสัตว์ป่าไปจนถึงบริเวณที่ตั้งของวัดพระธาตุผาเงาในปัจจุบัน สัตว์ป่าส่วนใหญ่จะหยุดนิ่งและไม่วิ่งหลบหนี แต่ที่น่าอัศจรรย์ คือ ไม่ว่าพรานป่าจะใช้ปืน ธนู หรืออาวุธใดๆ ยิงก็ไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวสัตว์หรือมักจะหายเอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง ซึ่งเรื่องเล่านี้ยังคงตกทอดมาจนถึงปัจจุบันความมหัศจรรย์ของบริเวณดอยอันเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุผาเงา ยังมีเรื่องเล่าขานจากผู้ที่เดินทางไปสักการะว่า เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยและเข้าไปสักการะจะหายหรือทุเลาจากโรคต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือญาติโยมหลายคนที่ไปเยือน จ.เชียงราย เพื่อไปสักการะอย่างต่อเนื่อง ด้วยเห็นผลแห่งความอัศจรรย์ดังกล่าว



ส่วนเรื่องโชคลาภ เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ที่ไปขอโชคลาภและได้ดังใจหวัง มักจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างพื้นที่หรือกรุงเทพฯ โดยบางครั้งถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 (ส่วนเราขอให้ถูกสลากออมสินสิบล้านก็พอ ไม่โลภเลยนะเรา)



นอกจากนี้ ช่วงที่มีญาติโยมอุปถัมภ์วัดมากที่สุด(ทางวัดเค้าว่าเอาไว้) คงหนีไม่พ้นช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 เพราะมีญาติโยมจากกรุงเทพฯ ที่ประสบกับปัญหาเดินทางไปเยือนวัดพระธาตุผาเงาเป็นจำนวนมากเมื่อคนเหล่านี้พ้นจากวิกฤต ได้ปวารณาตนขอเป็นโยมอุปถัมภ์วัด แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ หลวงพ่อผาเงายังคงความเป็นพระพุทธรูป ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเมตตาต่อสัตว์โลก " แต่ที่ใกล้ตัวเราก็คงเป็นเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันได้มาทำบุญที่วัดนี้กลับไปได้โชคสองชั้นคือถูกหวยและก็ได้ลูกอีกนึ่งคนจะคลอดปลายปีนี้แล้ว(เพื่อนไม่คิดว่าจะมีลูกอีก เพื่อนอายุ38แล้ว)



จริงๆแล้ววัดในเมืองเชียงแสนมีวัดนี่น่าสนใจอยู่อีกหลายวัดแต่ว่าวันนี้มีเวลาจำกัดเราก็เลยเลือกไปสามวัดนี้ก่อน ครั้งหน้าต้องไปใหม่อีกซักครั้งบินมาถึงให้เช้ากว่านี้และอยู่เที่ยวเชียงแสนซักวันเต็มๆ

16.30 เชียงแสน เป็นเมืองโบราณเคยเป็นศูนย์กลางอาณาจักรล้านนาในยุคแรก ๆและเป็นเมืองที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เดิมชื่อเวียงหิรัญนครเงินยาง แม้ปัจจุบันยังมีซากกำแพงเมืองโบราณ 2 ชั้น ภายในเขตกำแพงเมืองเก่าประกอบด้วยวัดร้างและโบราณสถาน สลับกับบ้านเรือนชาวบ้าน เมืองเชียงแสนเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยเพราะมีหลักฐานต่างๆปรากฏมากมายว่ากำเนิดชนชาติล้านนา และราชวงค์อู่ทองอันเป็นปฐมกษัติรย์ของอยุธยาก็มาจากเชียงแสนต่างก็เริ่มต้นที่นี่ และยังคงปรากฏร่องรอยโบราณวัตถุโบราณสถานหลายแห่ง

16.30วัดพระธาตุเจดีย์หลวง -(ขับกลับมาจากวัดพระธาตุผาเงาตรงมาเรื่อยๆ เจอแยกตรงสถานีตำรวจเชียงแสนให้เลี้ยวซ้ายขับตรงมาวัดอยู่ซ้ายมือ) ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงแสน



เป็นเจดีย์เก่าแก่ทรงระฆังแบบล้านนาที่มีความสูงถึง 88เมตรเป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในเชียงราย



สร้างโดยพระเจ้าแสนภูพระราชนัดดาของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรล้านนาไท เมื่อ พ.ศ. 1887เมื่อประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๙





ภายในวัดนอกจากพระเจดีย์หลวงแล้วยังมีพระวิหารซึ่งเก่าแก่มากพังทลายเกือบหมดแล้วและยังมีเจดีย์ธาตุแบบต่างๆ อีก 4 องค์





โบราณสถานแห่งนี้แม้ว่าจะปรักหักพังไปมากแล้วแต่ก็ได้รับการบูรณะอย่างดีให้สม กับเป็นวัดที่สำคัญของเมืองหิรัญนครเงินยางภายในสมัยอาณาจักรล้านนา



บริเวณด้านในมีเด็กๆและสามเณรช่วยกันขายโปสการ์ดมีทั้งฝีมือของคุณครูและฝีมือของเด็กๆ ช่วยกันอุดหนุนเป็นทุนการศึกษาของน้องๆ





และยังมีร้านกาแฟน่ารักให้นั่งพักเหนื่อยด้วย จิบกาแฟดูเจดีย์ โอ้ ! มีฟามสุข



17.00 วัดป่าสัก - ตั้งอยู่บริเวณด้านนอกของกำแพงเมืองเชียงแสน(ขับตรงมาจากวัดเจดีย์หลวงวัดอยู่ซ้ายมือ) พระเจ้าแสนภูโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1930 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ



ซึ่งพระพุทธโฆษาจารย์นำมาถวายและโปรดให้ปลูกต้นสักล้อมรอบวัด 300 ต้นจึงได้ชื่อว่าวัดป่าสัก โบราณสถานที่สำคัญคือพระประธานทรงมณฑปยอดระฆัง ฐานกว้าง 8 เมตรสูง 12.5เมตร ตกแต่งลวดลายปูนปั้นวิจิตรพิศดาร ฝีมือช่างชั้นครู เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกระดูกตาตุ่มข้างขวาจากเมืองปาฏสีบุตร



17.30 วัดพระธาตุจอมกิตติ จากวัดป่าสักตรงขึ้นมาเจอสามแยกเลี้ยวขวาทางเข้าพระธาตุจอมกิตติอยู่ฝั่งซ้ายมือ



เชื่อกันว่า ถ้าได้มากราบไหว้พระธาตุจอมกิตติและตั้งจิตอธิฐานให้ดีท่านจะอุดมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ลาภยศผู้คนสรรเสริญ เป็นจ้าคนนายคน



ภายในพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของกษัตริย์ทั้ง4พระองค์ ของภัทรกัปนี้ จัดเป็นสถานที่" ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในภูมิภาคนี้ที่พระพุทธศาสนิกชนทุกควรหาโอกาสมาศักการะบูชา" ตั้งอยู่บนดอยจอมกิตติ สิ่งสำคัญภายในวัด ได้แก่ เจดีย์จอมกิตติที่ตั้งบนฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเตี้ย ๆ ถัดขึ้นไปเป็นฐานบัวคว่ำย่อมุมซ้อนกันสี่ชั้นรองรับเรือนธาตุย่อมุมเช่นกัน มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืนทั้งสี่ด้าน ส่วนยอดทำเป็นกลีบมะเฟืองรองรับปล้องไฉนและปลียอด



ส่วนเจดีย์จอมแจ้งและเจดีย์สวนสนุกนั้นอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ตำนานการสร้างพระธาตุจอมกิตติค่อนข้างจะสับสนเพราะมีการสร้างถึง ๒ ครั้งกล่าวคือ ครั้งแรก พระเจ้าพังคราชและพระเจ้าพรหมมหาราช พระราชโอรส โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อพ . ศ . ๑๔๘๓ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุกระดูกหน้าผาก กระดูกอก และกระดูกแขนของพระองค์ สมัยเดียวกับการสร้างพระธาตุจอมทองของเมืองเชียงราย ครั้งที่ ๒ พระเจ้าสุวรรณคำล้าน เจ้าเมืองเชียงแสน ให้หมื่นเชียงสงสร้างขึ้นเมื่อปี พ . ศ . ๒๐๓๐ ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระยอดเชียงราย ก่อสร้างเจดีย์ครอบองค์เดิม ต่อมาพระธาตุชำรุด ทรุดโทรมมาก เจ้าฟ้าเฉลิมเมืองพร้อมด้วยคณะศรัทธาได้บูรณะปฏิสังขรณ์อีกเมื่อปี พ . ศ . ๒๒๒๗ จากรูปทรงสถาปัตกรรมขององค์เจดีย์ที่ปรากฎในปัจจุบัน พระเจดีย์องค์นี้คงไม่เก่าไปกว่าพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ส่วนพระพุทธรูปประทับยืนในซุ้มทิศ ( ส่วนที่เป็นของเดิม ) คงจะซ่อมเสริมสร้างขึ้น ภายหลังระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๒๒ – ๒๓ ปัจจุบันเจดีย์องค์นี้ได้รับการบูรณะเสริมความสร้างมั่นคงและปิดทองแผ่นทอง จังโกใหม่





18.00 ชมทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำโขงที่หน้าที่ว่าการอ.เชียงแสน







และรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร"ริมโขง" (อยู่ในเส้นทาง) เมฆมามืดเชียว ไปเชียงรายตอนนั้นกลัวว่าจะเที่ยวไม่สนุกเพราะช่วงนั้นข่าวบอกฝนตกทุกวันทางภาคเหนือแต่ตอนเราไปเทวดาคุ้มครองไม่เจอฝนเลย



อาหารอร่อยพอกินได้ กินปลาแม่น้ำโขงปลาค้าว ทำรสชาติกลางๆ ไม่จัดจ้าน วิวสวย...มองฝั่งโน้นเป็นฝั่งลาว มีแม่น้ำโขงกั้นกลางเบียร์ซักขวดเย็นๆ..ชื่นใจ (เพิ่งไปไหว้พระมานะเนี่ยะ)



19.300 เช็คอินเข้าสู่ The Imperial Golden Triangle Resort เส้นทาง 1290 บริเวณสามเหลี่ยมทองคำจองมาในราคา2500บาท ก่อนถึงที่พักมี 7-11 ด้วยนะคะแวะซื้อของนิดหน่อย คืนนี้นอนเอาแรงกันก่อนพรุ่งนี้เที่ยวกันต่อ





26/7/53 สามเหลี่ยมทองคำ - วัดพระธาตุดอยปูเข้า - แม่สาย - ตลาดท่าขี้เหล็ก

เลือกพักที่โรงแรมนี้เพราะว่าทำเลที่ตั้งอยู่ในเส้นทางพอดีและเพราะวิวตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมาสุดยอด กับวิวแม่น้ำที่มาบรรจบกัน





8.00 รับประทานอาหารเช้า ที่ The Imperial Gloden Triangle Resort พร้อมชมวิวแม่น้ำโขง พลังธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของสายน้ำที่ไม่เคยหยุดนิ่ง





9.30 สามเหลี่ยมทองคำ - จากโรงแรมสามารถเดินมาเที่ยวบริเวณสามเหลี่ยมทองคำได้พวกเราเลยจอดรถไว้ที่โรงแรมก่อนและเดินเล่นกันมาเผื่อจะกลับไปใช้ห้องน้ำกันอีกรอบ เดินมานิดเดียวไม่ไกลก็ถึง





สามเหลี่ยมทองคำ" เป็นแนวตะเข็บชายแดนรอยต่อสามประเทศ คือจังหวัดเชียงราย ประเทศไทย, แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว และจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า มีลักษณะเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมบรรจบกัน โดยมีแม่น้ำโขงตัดผ่านชายแดนไทยและลาวมีพื้นที่ประมาณ 1.5 แสน ตร.ม. ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน

สมัยก่อนพื้นที่แถบนี้เป็นที่เป็นแหล่งปลูกฝิ่นและผลิตยาเสพติดแหล่งใหญ่ มีโรงงานผลิตเฮโรอีนกระจายอยู่ตามตะเข็บชายแดน การลำเลียงฝิ่นใช้คาราวานล่อลัดเลาะไปตามไหล่เขา มีกองกำลังคุ้มกัน ราคาซื้อขายยาเสพติดแลกเปลี่ยนด้วยทองคำ ในน้ำหนักที่เท่ากัน ยางข้นเหนียวของฝิ่นดิบ จึงถูกเรียกว่า ทองคำ พื้นที่แถบนี้จึงถูกขนานนามว่า "สามเหลี่ยมทองคำ" ตำนานสามเหลี่ยมทองคำปิดฉากลง เมื่อรัฐบาลไทยทำการปราบปรามอย่างจริงจัง ในช่วงทศวรรษที่ 2510-2520 มีการผลักดันกองกำลังติดอาวุธออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะกองกำลังของขุนส่าที่มีฐานที่มั่นอยู่ที่บ้านหินแตก สามเหลี่ยมทองคำในปัจจุบันเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวและยังนิยมข้ามไปคาสิโนฝั่งลาว



มองไปฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศลาวถ้าทางซ้ายมือที่มีสามเหลี่ยมยื่นออกมานั้นตือประเทศพม่า



ในแม่น้ำตรงหน้ายังเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำโขงและแม่น้ำรวก เรียกว่า สบรวก ทำให้น้ำในแม่น้ำบริเวณนั้นเป็นสามสีสังเกตุดูให้ดี แถวนี้ยังเป็นแหล่งขนถ่ายสินค้าที่มาจากจีนและลาวด้วย



พระสามองค์นี้กำลังจะเดินทางไปอยู่ในสามประเทศคือ จีน ลาว และพม่า มีการตั้งตู้รับบริจาคช่วยค่าเดินทาง





กราบสักการะพระพุทธนวล้านตื้อ(พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน)( สมัยโบราณบริเวณนี้มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากชื่อว่าพระเจ้าล้านตื้อปัจจุบันคาดว่ายังจมอยู่ในแม่น้ำโขง )



ต้นฝอยทอง (จริงหรืปล่าวไม่รู้ กลัวว่าแม่จะอำ)



10.30 กราบสักการะพระธาตุดอยปูเข้า อยู่ใกล้กันกับจุดชมวิวสามเหลี่ยมทองคำนั่นแหละ





เป็นวัดที่อยู่ริมน้ำโขง ตามเส้นทางเชียงแสน-สบรวก ใกล้ตลาดสบรวก(บ้านสบรวก) รถยนต์สามารถขึ้นไปถึงยอดเขา หรือจะเดินขึ้นบันไดก็ได้



บนดอยเชียงเมี่ยงนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นสามเหลี่ยมทองคำในมุมสูงได้ชัดเจน



มีความรู้สึกสื่อถึงว่าสถานที่บริเวณนี้มีพลังของพ่อปู่ที่ท่านคงจะอยู่เฝ้าพระธาตุนี้แรงมาก (กำลังคิดว่าปิดจ๊อบงานนี้ได้จะกลับไปไหว้พ่อปู่อีกรอบ)





พระธาตุดอยปูเข้านี้ สร้างขึ้นบนดอยเชียงเมี่ยง ริมปากน้ำรวก เมื่อ พ.ศ. 1302 ในสมัยพระยาลาวเก้าแก้วมาเมือง กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งเวียงหิรัญนครเงินยาง โบราณสถานประกอบด้วยพระวิหาร และกลุ่มเจดีย์ที่พังทลาย







เจดีย์ก่อด้วยอิฐและมีร่องรอยการตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น





ตามตำนานกล่าว่าองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาฉันภัตตาหารที่นี่และมอบพระเกศาไว้เส้นหนึ่ง ด้วยเหตุนี้พระเจ้าลาวเก้าแก้วจึงสร้างมหาเจดีย์ครอบพระธาตุเจ้าไว้ณ.ที่แห่งนี้



ตอนเราไปถึงสายๆกำลังเงียบสงบไม่มีผู้คนมากมายจิตใจกำลังสงบและได้สมาธิ



สักพักผู้คนเริ่มมา ตามด้วยเสียงเสี่ยงเซียมซี ถอยกันดีกว่า(เราชอบไปไหว้พระเที่ยวชมวัดแต่สิ่งที่ไม่เคยทำเลยคือเสี่ยงเซียมซีกับยกช้างเสี่ยงทาย ที่ไม่ปฏิบัติมีเหตุผลส่วนตัวว่าถ้าได้ใบเซียมซีดีเราจะไม่ค่อยเชื่อ แต่ถ้าได้ใบไม่ดีก็จะวิตกกังวลว่าจะจริง และที่ไม่ยกช้างเสี่ยงทายก็เพราะเป็นคนความจำสั้นกลัวสับสนว่าตอนแรกเราพูดว่าไงนะ) ครั้งหน้ามาใหม่มาวันธรรมดาอยู่ที่นี่ซักสองชั่วโมงถึงจะถูกใจมากกว่านี้





หลวงพ่อเชียงแสนสิงห์หนึ่งอายุ พันสามร้อยกว่าปี



12.00 ทานมื้อเที่ยงที่ตลาดแม่สาย

ร้านป้านาง - อยู่ก่อนถึงตลาดชายแดนแม่สายเล็กน้อย ร้านนี้เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ทำข้าวแรมฟืนขายเป็นอาหารของพวกไทยใหญ่ ที่หน้าร้านมีป้ายรับประกันความอร่อยของรายการต่างๆ ติดไว้เกือบครบทุกช่อง ป้านาง เจ้าของร้าน ข้ามจากฝั่งพม่ามาทำมาหากินในฝั่งไทยได้ 27 ปีแล้ว



ข้าวแรมฟืนคืออะไร คำตอบก็คือ แป้งข้าวเจ้าสุกเป็นก้อนแล้วนำมาหั่นเป็นเส้นคล้ายกับเต้าหู้ ปรุงกับน้ำซุบสูตรเฉพาะรสชาติออกเปรี้ยวๆ)เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ งานนี้แม่กับคุณแฟนบ่นว่ากินบะหมี่หมูแดงดีกว่าเพราะว่าข้าวแรมฝืนมันเบาไม่อยู่ท้อง และน้ำซุบของเค้าก็กินแบบเย็นๆไม่ร้อนเลย (ลูกค้าบางคนเข้ามาด้อมๆมองๆเห็นเป็นเต้าหู้ก็เดินกลับออกไป)



หลังจากกินอะไรรองท้องแล้ว(มีเราอร่อยอยู่คนเดียว) ก็ไปทำบัตรผ่านแดนแล้วข้ามไปฝั่งพม่าเพื่อช้อปปิ้งกัน

13.00 ตลาดท่าขี้เหล็ก - ข้ามไปฝั่งนั้นแล้วอย่าหลงเชื่อบุคคลที่บอกคุณว่าจะพาไปไหว้เจดีย์ชเวดากองแป๊บเดียวเองเพราะว่ามันเป็นองค์จำลองเอาไว้หลอกนักท่องเที่ยงที่ไม่รู้เรื่อง และยังพวกบุหรี่ปลอมอีก เราเคยมีรุ่นพี่ซื้อบุหรี่ที่นั่นมาสูบหลังจากนั้นไม่นานถึงกับตายไปเลย เราช็อปกันตั้งแต่บ่ายโมงยันห้าโมงครึ่งเมื่อยไปหมด ก่อนข้ามฝั่งแวะหนีบไวน์ที่ดิวตี้ฟรีมาอีกห้าขวด ซื้อของจากฝํ่งท่าขี้เหล็กได้แต่กระเป๋าCopy เพลินและก็สนุกดีซื้อ Keeplink มาฝากเพื่อนที่ทำงาน 6 ใบ คนได้รับยิ้มหน้าบานกันเป็นแถว แล้วก็สอยรูปพวกนี้มา(ปัจจุบันก็ยังอยู่ในถุงเช่นเดิมแฮ่ แฮ่)





เดินวนก่อนหนึ่งรอบ ขอเช็คก่อนว่าร้านไหนราคาเป็นยังไงคุณภาพเป็นไง ร้านที่พอลงมาจากสะพานแล้ววนขวาอยู่แถวๆหัวมุม ไม่บอกผ่านมาก ราคาถูกกว่าร้านอื่นๆ คุณภาพพอใช้ได้



จะรู้ไม๊เนี่ยะว่าทะเบียนอะไร



ที่หน้าโรงพักจะมีจุดพักผ่อนซึ่งพวกเราจอดรถไว้ที่นี่หลังจากที่เดินกันจนหิวโซก็ได้เสบียงรองท้องที่ซื้อตุนไว้จากข้างๆร้านป้านางซาละเปาลูกใหญ่ลูกละสิบบ้าน(ลูกใหญ่แต่ไส้ยังไม่ค่อยอร่อย) เกี๊ยวซ่าทอด(อร่อย) ไส้กรอกวุ้นเส้นตลาดแม่สาย(สิบบาทเอง) กินปะทังความหิวก่อนจะรีบขับเข้าที่พักเพราะว่าจะมืดแล้ว สามคนนั่งกินกันงุบ งับ งุบงับ หิวอ่ะ



20.00 ถึงที่พัก ม่อนแมนรีสอร์ท - อยู่ใกล้กับสนามบินเชียงรายที่พักน่ารักมากไปถึงมืดแล้วและก็หิวกันก็เลยสั่งอาหารของทางรีสอร์ทนั่งกินกันใต้แสงดาวและดูพระจันทร์ เมื่อยและง่วงมากๆเลย



27/7/53 พระธาตุดอยตุง - สวนแม่ฟ้าหลวง - วัดร่องขุน - วัดพระแก้ว - วัดพระสิงห์ - สลุงคำ

ึ7.00 นั่งสูดอากาศและสวดมนต์บนดาดฟ้าของที่พักที่ล้อมรอบด้วยภูเขา



8.00 อาหารเช้าพร้อมเสริพที่ระเบียงหลัง เมื่อคืนหลับสบายดี นอนฟังเสียงธรรมชาติและเสียงฝนตกเมื่อตอนตีห้า ได้นั่งกินอาหารเช้าตรงมุมนี้ก็สุขสุดๆแล้ว



ที่พักน่ารักมากค่ะ ราคาก็ไม่แพงเลย ประทับใจค่ะ(จริงๆแล้วแถวรีสอร์ทมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งนะแต่เราไม่ได้บรรจุไว้ในโปรแกรมค่ะเพราะเวลามีจำกัด)



10.00 พระธาตุดอยตุง - เดินทางโดยที่ขับรถมุ่งหน้าไปทางอ.แม่จัน(มีป้ายบอกทางตลอด) ใช้ทางขึ้นดอยตุงสายใหม่ เมื่อผ่านทางแยกซ้ายไปพระตำหนักดอยตุง ถึงหลัก กม.14 จะมีทางแยกซ้าย ถ้าขับตรงไปจะขึ้นตรงสู่พระธาตุดอยตุง ทางค่อนข้างแคบและชันมาก ระยะทาง 3 กม. ถ้าไปทางแยกซ้ายมือ จะเป็นทางอ้อม ผ่านสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง ทางแยกไปดอยช้างมูบ อ.แม่สาย จะไปเจอวัดน้อยดอยตุงก่อน (ตอนแรกเราเข้าใจผิดนึกว่าเป็นตรงนี้ด้วยซ้ำ เอ..ดูไม่เห็นเหมือนในรูปก็เลยไปถามคนแถวนั้น)







เจอเจ้าหมาตัวนี้เลยเอากล้องเล็งจะถ่ายเล่น มันขู่เราใหญ่เลย เราก็เลยบอกขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาติก่อนมันก็หยุดขู่แฮะ (แหมคุยกันรู้เรื่องด้วยนะเรา)



จากวัดน้อยดอยตุงให้ขับขึ้นไปอีกจะมีลานจอดรถ ถ้าไม่อยากขับรถขึ้นไปหรือจะเลือกขับขึ้นไปถึงข้างบนเลยก็ได้ (แต่ทางจะแคบและชัน)



เราสามคนจอดรถไว้แล้วก็พากันเดินขึ้นบันไดไปเพราะว่าแม่อยากนับเกล็ดพยานาคเพื่อหาเลขเด็ด





เคาะระฆังไป โป๊ง เป๊ง โป๊ง เป๊ง (เค้าว่าเป็นกันเคาะบอกเทวดาว่ามีผู้คนมาทำบุญใช่หรือปล่าว)





บริเวณด้านบนนี้จะเป็นเขตพุทธาวาส ไม่มีห้องน้ำใดๆทั้งสิ้น(ควรทำธุระให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่บริเวณวัดน้อยดอยตุง)



พระธาตุดอยตุง เป็นเจดีย์สีทองขนาดเล็กสององค์ สูงประมาณ 5 ม. บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม มีซุ้มจระนำสี่ทิศ องค์ระฆังและปลียอดมีขนาดเล็ก พระธาตุดอยตุง อยู่บนดอยสูงแวดล้อมด้วยป่ารกครึ้ม เรียกว่า สวนเทพารักษ์ เชื่อกันว่า เป็นที่สถิตของเทพารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์



รอยปักตุง เป็นรอยแยกบนพื้น ยาวประมาณ 1 ฟุต อยู่ด้านหน้าพระธาตุ เชื่อกันว่า เป็นรอยแยกที่ใช้ปักฐานตุงบูชาพระธาตุ เมื่อ 1,000 ปีก่อน(ตุงก็คือธงนั่นเอง)



สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์(ปัจจุบันคืออำเภอแม่จัน) พระมหากัสสปะเถระได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระรากขวัญเบื้องซ้าย(กระดูกไหปลาร้า) แล้วมอบให้แก่ พระเจ้าอชุตราช ได้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุนั้นไว้บนดอยแห่งนี้ ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ แล้วจึงได้ให้ทำตุง มีความยาว 1,000 วาปักบนยอดเขาหากตุงปลิวไปถึงที่ใดก็กำหนดให้เป็นฐานของพระเจดีย์



ทั้งนี้พระองค์ได้พระราชทานทองคำให้พวกลาวจกเป็นค่าที่ดิน และให้พวกมิลักขุ 500 ครอบครัวคอยดูแลรักษาพระธาตุ (เราได้แต่คิดในใจว่าพ่อปู่จะเป็นพวกมิลักขุหรือปล่าวน้อ)



ต่อมาในสมัยพญามังรายแห่งราชวงค์มังราย พระมหาวชิรโพธิเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย 50 องค์ พญามังรายจึงให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์ใกล้กับเจดีย์องค์เดิม นับจากนั้นเป็นต้นมาพระธาตุดอยตุงจึงได้มีเจดีย์สององค์มาจนถึงทุกวันนี้



เจอป้าคนหนึ่งตอนแรกเราก็แค่ว่าจะขอวาสลีนมาแปะแผ่นทองนิดหน่อย(ด้านจริงๆเลย)แต่ป้าเค้าใจดีให้แผ่นทองของแกมาให้อีกต่างหากแกบอกว่า"ใช้แผ่นทองของแกดีกว่าเป็นทองเต็มแผ่น" และยังแนะนำให้ปิดทองที่ขั้นบันไดขาขึ้นขั้นสุดท้าย"ชีวิตจะได้อยู่ในช่วงขาขึ้น"(อะไรประมาณนี้ฟังดูดีเป็นศิริมงคล ทำตามไว้ก็ไม่เสียหาย)



"ส่วนผู้ชายให้ลงไปปิดทองเก้าแผ่นด้านล่างและให้ตั้งจิตอธิษฐานให้ดีจะสมหวัง"(ข้างล่างห้ามผู้หญิงลงโดยเด็ดขาด) เสร็จแล้วก็กรวดน้ำแผ่ส่วนกุศลโดยมีแม่เรากล่าวนำ





สามารถมองเห็นวิวด้านล่างที่สวยงาม





11.30 พระตำหนักดอยตุงตั้งอยู่ ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาดอยตุง ตั้งอยู่บนสันเขาของเทือกดอยนางนอน มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน เป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากบางคนเคยมาที่นี่แต่ไปไม่ถึงวัดพระธาตุดอยตุงด้วยซ้ำ



มาถึงกันเกือบเที่ยงหิวมากๆ ทานข้าวร้านนี้ดีกว่าแค่ชื่อก็ดูดีแล้ว"ครัวตำหนัก"





อาหารรสชาติอร่อย ให้เยอะ คุ้มราคาอยู่ค่ะ เราสั่งแกงฮังเล ยำรวมเห็ด แกงเลียง และรวมน้ำพริก ข้าวเปล่าสามจาน น้ำเปล่าก็ ห้าร้อยกว่าบาทค่ะ แต่รับรองว่าอาหารอร่อย จานใหญ่ค่ะ แนะนำมาให้ฝากท้องที่นี่ได้เลย





หลังจากอิ่มกันแล้วก็ไปเดินย่อย ชมสวนและดอกไม้นานาพันธ์ท่ามกลางบรรยากาศตอนเที่ยง(ร้อนเดินกันหน้ามันส์เลย) ตั๋วเข้าชมที่นี่ราคาแล้วแต่ความสนใจของผู้เข้าชม



ที่นี่มีไม้ดอกไม้ประดับที่ผลิดอกสวยงามตลอดทั้งปี เป็นจุดศูนย์กลางของเส้นทางท่องเที่ยวเส้นนี้เลย หน้าหนาวคงจะยิ่งมีความสุขมากกว่านี้



หน้าใครบานกว่ากันจ๊ะ





แวะซื้ออโวคาโดก่อนกลับจากชาวบ้านที่นำใส่ตะกร้ามาขายโลละ40บาท(ไม่รู้คุ้มหรือเปล่านะหิ้วมาก็หนักถือว่าช่วยๆกันเนอะ ที่โกลเด้นเพลสขายโล53บาท)



16.00 วัดร่องขุน เป็นวัดบ้านเกิดของอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชื่อดังของไทยผู้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งผลงานและบุคลิกส่วนตัว และเป็นผู้ฝากผลงานด้านพุทธศิลป์ที่เกรียงไกร วิจิตรวิไลและอลังการคณานับไว้บนผืนแผ่นดินไทยและต่างประเทศจนเป็นที่ยอมรับ ไปทั่วโลก





เบื้องหลังความสวยงาม ความวิจิตรตระการตา คือฝีมือแรงงาน จินตนาการและความศัทธา







วัดของอาจารย์เฉลิมชัยมีระบบจัดการที่ดี วัดดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย







บริเวณด้านหน้าจะมีผู้ดูแลคอยประกาศเป็นระยะๆ (น้องคนนั้นอย่าพิงครับ , กรุณาอย่าจับอย่าสัมผัสนะครับ, ดูได้อย่างเดียวครับอย่าจับครับ)



เราก็ได้ยินเสียงจากโทรโข่ง "น้องคนนั้นอย่าพิงครับ"อีกสักพัก"น้องคนนั้นอย่าพิงครับ"เราก็คิดในใจใครวะเค้าบอกไม่ให้พิงยังพิงอยู่นั่นแหละ อ้าว! เค้าหมายถึงเรานี่หว่า



อาจารย์เค้าอยู่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่นี่ทุกวันค่ะ



17.00วัดพระแก้ว (พระอารามหลวง)ตั้งอยู่ถนนไตรรัตน์ ตำบลเวียง อำเภอเมือง



เดิมเป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐาน บริเวณวัดนี้มีไผ่พันธุ์พื้นเมืองชนิดหนึ่ง คล้ายไผ่สีสุก ไผ่ไม่มีหนาม ซึ่งชาวบ้านนิยมมาทำหน้าไม้และคันธนู ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดป่าเยี้ยะ หรื วัดป่าญะ

ต่อมาในปี พ.ศ.๑๙๗๗ ได้มีการค้นพบพระแก้วมรกตในบริเวณวัดนี้ชาวบ้านจึงขนานนามเสียใหม่ว่า “วัดพระแก้ว” (ปัจจุบันอยู่ที่กรุงเทพ) พระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปที่คู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญมากองค์หนึ่งของประเทศไทยและมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและยังเชื่อมโยงเกียวพันกับประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างยาวนาน



17.30วัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง) ด้านข้างติดกับถนนสิงหไคล เป็นวัดโบราณดั้งเดิม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ามหาพรหมพระอนุชาของพระเจ้ากือนา เจ้าเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าพรหมได้มาครองเมืองเชียงรายระหว่างปี พ.ศ.๑๘๘๘-๑๙๔๒



เคยเป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์มาก่อน พระสิงห์เป็นพระนามพระพุทธรูปที่สำคัญองค์หนึ่งแทบจะกล่าวได้ว่าเป็นพระพุทธ รูปที่บ่งบอก ได้ถึงพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทอย่างลังกาวงศ์ ตรงกับพระพุทธสิหิงค์ นิยมเรียกว่า พระสิงค์ ท่านผู้รู้บางท่าน ให้ข้อคิดว่า พระสิงค์ หมายถึง พระสิงหวัติ กษัตริย์โบราณ ผู้สร้างเมืองโยนกนครก็มี บางที่อธิบายว่าหมายถึง พระศากยสิงห์ คือ พระบาทหนึ่งของพระพุทธเจ้า



18.30 รับประทานอาหารเย็นก่อนกลับที่ร้าน"สลุงคำ" เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30-22.30 น. เบอร์โทร. 053-717-1



ถ้ามาจากสนามบินก็ขับมาทางที่จะเข้าตัวเมืองเชียงราย อยู่ก่อนถึงห้แยกพ่อขุนเม็งราย(พอข้ามสะพานที่ข้ามแม่น้ำกกก็ชิดซ้ายร้านอยู่ซ้ายมือ) แต่ถ้ามาจากแยกพ่อขุนเม็งรายจะไปสนามบินให้กลับรถใต้สะพาน ร้านอยู่ติดกับโรงเรียน







อาหารอร่อยรสจัดจ้าน ไม่เคยกินแหนมหมก ครั้งแรกที่ลอง อร่อยมากกกก เปรี้ยวแซ่บ กินกับข้าวเหนียวเชียงรายขอบอกว่าสุดยอด และขอแนะนำให้สั่งหมูรมควันของทางร้านด้วย กินกับแหนมและข้าวเหนียวเข้ากันเป็นอย่างดีเลย





อาหารทุกอย่างอร่อยถูกปากค่ะ อยากกลับไปกินแหนมหมกกับหมูรมควันอีกครั้ง หอมกลิ่นใบตองปิ้ง



20.00 ถึงสนามบินเชียงรายกลับโดย Air Asia – FD 3257(21.45-23.05) กลับถึงบ้านกันประมาณเที่ยงคืน สิ้นสุดการเดินทางเที่ยวนี้แต่คุยกันเอาว่าจะหาโอกาสไปเชียงรายหน้าหนาวนี้อยากกลับไปที่จุดเดิมอีกรอบเพราะว่าประทับใจหลายอย่างค่ะ "เที่ยวทั่วไทย เศรษฐกิจไทยคึกคักนะค้า"




Create Date : 05 กันยายน 2553
Last Update : 5 กันยายน 2553 2:14:00 น.
Counter : 8491 Pageviews.

37 comments
  

>

โดย: หน่อยอิง วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:6:19:16 น.
  
อ่านจุใจเลยค่ะ เห็นแล้วอยากกลับไปเที่ยวอีก
โดย: diamondsky วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:6:29:16 น.
  
แวะมาทักทายและมาขอตามเที่ยวเชียงรายด้วยครับ
โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:9:21:27 น.
  
น่าเที่ยว อาหารก็น่ากินครับ
โดย: motoman_31 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:12:42:27 น.
  
พึ่งไปมาครับ ไม่เจอฝนเลย
สนุกมากๆ
โดย: ตาล IP: 124.122.196.96 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:12:51:47 น.
  
ใสไหว้พระด้วยคนค่ะ

ท่าทางน้องหมาจะกลัวกล้อง หุหุ
โดย: จีนี่ในกระจกแก้ว วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:15:29:52 น.
  
ครบหมดเลยนะคะ

โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:15:48:22 น.
  
ขอบคุณมากค่า เจ้าของบล็อกนี้ก็น่ารักเช่นกัน ใสปิ๊งๆๆ ไว้จะแวะมาทักทายกันอีกนะคะ
โดย: diamondsky วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:15:56:59 น.
  
สวัสดีหัวหน้าคณะทัวร์ เราเอง หัวหน้าคณะตลก คริ คริ งิ งิ

โห ซี่รี่ย์นี้ยาวจริง ๆ ด้วย หนักไปทางธัมมะธัมโม หัวหน้าทัวร์เน้นวัดเป็นพิเศษ ลงทุนขี่เครื่องบินไปเที่ยววัด ได้เกิดเป็นนางฟ้าแน่เลย

ชอบสายหมอกยามเช้าตามตีนเขา แบบนี้แหละที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง ... ก็จะหาได้ยังไง เมืองกรุงไม่มีภูเขา มีแต่ภูเขาทองกะหมอกจาง ๆ ปกคลุมยอดตึกสูงในบางครั้ง

ชอบวัดร่องขุ่นเป็นพิเศษด้วย เห็นแล้วทึ่งอึ้งจริง ๆ
โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:20:18:35 น.
  
อยากมีโอกาสแบบนี้บ้างจัง
ได้กอดเอวคุณแม่ไปกันไปเที่ยวไหนต่อไหน
ไว้ปายต้องหาโอกาสไปสักครั้งแล้วล่ะค่ะ
โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:1:03:17 น.
  
รูปจุใจดีจังค่ะ

แถมได้เห็นหน้าจขบแสนสวยด้วย

ดูจากรูปที่เชียงราย จขบ ทำการบ้านก่อนไปดีมากๆ ได้ไหว้พระตั้งหลายที่

อนุโทนาบุญค่ะ



โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:1:38:57 น.
  
มอร์นิ่งจ้ะ
พี่ยุ้ยขอตามมาไหว้พระและตามมาเที่ยวด้วยคนจ้า
ทริปครั้งนี้มีหลายแห่งที่ไปเที่ยวคล้ายๆกับบ้านพี่เลย
เห็นแล้วนึกถึงอากาศเย็นๆ บรรยากาศสงบๆ
แล้วก็อาหารอร่อยๆด้วย อิอิ
โดย: nLatte วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:7:40:16 น.
  
สงสัยคงไม่ค่อยมีเวลา
เลยรีวิวเป็นเมดเลย์เลย

เที่ยวคุ้มมากเลยนะคะ
3 วันโปรแกรมเต็มเหยียด
คุณแม่ก็เก่งจัง ไปไหนไปกัน
ถ้าเราไปคงจะได้แค่ครึ่งเดียว
เพราะเวลาอีกครึ่งขอนอนเอาแรง
โดย: narellan วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:9:34:06 น.
  
ตอนรู้จักดอกดาหลาครั้งแรก
ปายก็ชอบเลย อารมณ์ว่าเห็นแล้วมันโดนใจจริง ๆ
ถึงจะมารู้ประวัติที่หลัง
แต่ดาหลาก็ยังเป็นหนึ่งในจำนวน
ดอกไม้ไม่กี่ชนิดที่ปายชอบอยู่ดีค่ะ
ประเภทรู้ว่าเสี่ยง...แต่ไงก็ขอลอง
...
...

ทักทายวันศุกร์นะคะ
ขอให้วันนี้มีแต่ความสุขค่ะ
โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:13:36:40 น.
  
ไว้มีโอกาสคงได้เจอกันค่ะ
โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:15:37:11 น.
  
ทักทายยามบ่ายจ้ะ
พรุ่งนี้ไปเที่ยวไหนรึเปล่าจ้ะ น้องสาวบ้านนี้
ส่วนพี่ยุ้ยว่าจะไปเขาใหญ่กันน่ะจ้ะ
ยังกลัวว่าจะเจอฝนอยู่เลย
แต่แฟนเค้ามีธุระต้องไปทำนิดหน่อย ยังไงก็คงต้องไป
ถ้าอากาศดีดี คงมีภาพสวยๆมาฝากกัน
พรุ่งนี้พักผ่ิอนมีความสุขมากๆน๊า

xoxo ขอบคุณสำหรับคะแนนเชียร์ด้วยจ้ะ
โดย: nLatte วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:15:46:03 น.
  
ตอนเรียน มช. ก็มีรุ่นน้องผู้หยิง ชมรมเทนนิส มาจากสาธิตรามเหมือนกันค่ะ ห่างกันไม่กี่ปี อาจเป็นรุ่นแรกก็ได้นะคะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:14:34:27 น.
  
สวัสดีวันหยุดครับ

รีวิวละเอียดยิบภาพเยอะจุใจเลยล่ะครับ

สามเหลี่ยมทองคำผมเคยไปนานมาแล้ว ดูภาพจากบล็อกนี้แล้ว มีอะไรใหม่ๆ เยอะเลยนะครับ อย่างพระพุทธรูปองค์ใหญ่เมื่อก่อนก้ยังไม่มีเลย

วัดร่องขุ่นเคยไปครั้งนึง ดูกี่ทีก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ
โดย: NET-MANIA วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:14:52:48 น.
  
ยาวมากกกกก จริงๆ ค่ะ ไม่แบ่งบล็อกย่อยๆ หละคะ ดีนะใ้้ช้เน็ตที่ทำงาน เลยโหลดดูได้ครบอะค่ะ

ดีจังค่ะ ได้พาแม่เที่ยวด้วย อยากพาไปมั่งจัง
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:8:45:37 น.
  
ยาวมากจริงด้วย .... ดูจนตาแฉะ 55+
โดย: bettygirl วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:15:54:03 น.
  
พี่เป็นคนเหนือ ยังไม่เคยไปเลย 555 มาครั้งนี้คุ้มจริง ๆ เห็นไปเที่ยวหลายที่มาก ที่อิจฉาก็คือได้ถ่ายรูปกับอาจารย์ด้วย
โดย: เอื้องผึ้งจันทร์ผา IP: 202.28.25.29 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:11:37:36 น.
  
ยาววววมากกกกกกกจริงๆ ด้วยค่า

มีืสื่อถึงพ่อปู่ด้วยเหรอคะ? จขบ.เป็นคนมีเซ้นส์ด้านนี้เหรอคะ? (เหมือนแม่เราเลยง่ะ)

แหะๆ เราใส่โค้ดให้โหวตผิดค่ะ ที่จริงโหวตบล็อกอื่นแล้วก็ยังโหวตบล็อกเราได้

แก้โค้ดให้แล้วนะคะ โหวตได้แล้วหละค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:13:18:28 น.
  


แล้วม่านดำก็คลุม..กุมเวหา
ดาริกาวาววับประดับทั่ว
จันทร์แรมค่อยค่อยแง้ม..ให้เห็นตัว
ถักทอแสงมัวมัว..อย่างเอียงอาย

รติกาลห่มห้วง..ลมหรรษา
ช่วยปลุกมวลมาลา..หอมเป็นสาย
ขับบรรเลงครื้นเครง..เร่งระบาย
ให้ใจกายใฝ่นิทรากับราตรี

เปลื้องบทกลอนทออ้อน..กับฟ้ากว้าง
ให้เปิดทางสร้างพริ้ม..ยิ้มเต็มปรี่
กับฝันดีทุกวันทุกชีวี
ผ่านวิถีโลกมีทางรวยเริง..เทอญเอย


ฝันดีค่ะ
โดย: ญามี่ วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:1:08:34 น.
  
สวยจังค่ะ นางแบบน่ะ
โดย: เชิญจุติ วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:11:24:59 น.
  
หวัดดีจ๊ะ
ตามมาแอ่วด้วยคนจ๊ะ
น่ารักจังเลยทริปนี้ .. อิอิ
โดย: SongPee วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:13:45:49 น.
  
กลุ่มเพื่อน 5.63 โรงเรียนอุตรดิตถ์ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับ ทีมงานพิพิธภัณฑ์พืชแห่งแรกของกรุงสยาม "พิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพ" จัดเลี้ยงสังสรรค์ต้อนรับเหมันตฤดู วันออกพรรษา 2553 "เชียงคานยังหวานอยู่" ณ บ้านครูแดงโฮมสเตย์ อ.เชียงคาน จ.เลย วันที่ 23-25 ต.ค. 2553 มีโปรแกรมกิจกรรมที่น่าสนใจดังนี้
วันที่ 23 ตุลาคม 2553
06.00 - 12.00 น. เดินทางสู่จังหวัดเลย,รับประทานอาหาเที่ยงตามอัธยาศัย
13.00 น. ถึงจึงหวัดเลย พบกันที่ร้าน แชมป์โปรเจค (ตรงข้ามโรงพยาบาลเมืองเลยราม
13.30 - 14.30 น. ขบวน Rally รถยนต์ 5.63 และเครือข่าย เดินทางสู่อำเภอเชียงคาน
14.30 - 15.00 น. เข้าที่พัก ผักผ่อนตามอัธยาศัย
15.00 - 15.30 น. ชมทัศนียภาพแก่งคุดคู้ อำเภอเชียงคาน
15.30 - 17.30 น. Walk rally หรรษา 5.63 พาสนุก
17.30 - 18.30 น. ปั่นจักรยาน เที่ยวถนนชายโขง เมืองเชียงคาน

วันที่ 23 ตุลาคม 2553
06.00 - 12.00 น. เดินทางสู่จังหวัดเลย,รับประทานอาหาเที่ยงตามอัธยาศัย
13.00 น. ถึงจึงหวัดเลย พบกันที่ร้าน แชมป์โปรเจค (ตรงข้ามโรงพยาบาลเมืองเลยราม
13.30 - 14.30 น. ขบวน Rally รถยนต์ 5.63 และเครือข่าย เดินทางสู่อำเภอเชียงคาน
14.30 - 15.00 น. เข้าที่พัก ผักผ่อนตามอัธยาศัย
15.00 - 15.30 น. ชมทัศนียภาพแก่งคุดคู้ อำเภอเชียงคาน
15.30 - 17.30 น. Walk rally หรรษา 5.63 พาสนุก
17.30 - 18.30 น. ปั่นจักรยาน เที่ยวถนนชายโขง เมืองเชียงคาน

24 ตุลาคม 2553
05.00 - 06.30 น. รับอรุณยามเช้าที่ภูทอก
06.30 - 07.30 น. ชาว 5.63และเครือข่าย บำเพ็ญกุศล ไหว้พระ ทำบุญตักบาตร ยามเช้าที่เชียงคาน
07.30 - 08.30 น. รับประทานอาหารเช้า และแลกเปลี่ยนสนทนาเวลาเช้าที่เชียงคาน
อาหารเช้า
- กาแฟเลิศรส และขนมไทย ๆ
- ขนมจีนน้ำแจ่ว
- ข้าวต้มทรงเครื่อง
08.30 -09.30 น. ชาว 5.63 และเครือข่าย บำเพ็ญประโยขน์ บริจาคเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม สมุดเครื่องเขียน ฯลฯ ให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาส ณ โรงเรียนมูลมัง หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดท่าแขก อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
09.30 - 10.30 น. นัดดวลกอล์ฟ สำหรับคนรักกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟ อาทิตย์ กำลังเอก ค่ายศรีสองรัก จ.เลย
- เดินทางท่องเที่ยวตามอัธยาศัย
1. ไหว้พระธาตศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย
2. ไหว้พระที่วัดเนรมิตวิปัสสนา อ.ด่านซ้าย จ.เลย
3. เที่ยวสะพานไทย -ลาว อ.ท่าลี่ จ.เลย
4. เที่ยวท่าสด็จ จ.หนองคาย
เดินทางท่องเที่ยว ค้างคืนตามอัธยาศัย
25 ตุลาคม 2553 เดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
Rally รถยนต์ 5.63 และเครือข่าย เดินทางสู่อำเภอเชียงคาน
14.30 - 15.00 น. เข้าที่พัก ผักผ่อนตามอัธยาศัย
15.00 - 15.30 น. ชมทัศนียภาพแก่งคุดคู้ อำเภอเชียงคาน
15.30 - 17.30 น. Walk rally หรรษา 5.63 พาสนุก
17.30 - 18.30 น. ปั่นจักรยาน เที่ยวถนนชายโขง เมืองเชียงคาน
ยินดีต้อนรับสู่เชียงคาน
ด้วยสัจจะและไมตรีจาก
พ.ต.ท.เสฏฐวุฒิ รอดจันทร์ รอง ผกก. สภอ.ภูกระดึง จ.เลย และคณะ
นางกมนวรรณษ์ วัฒนศรีทานัง
นายวิชรัตน์ บุปผาพันธ์ และ
นายเรืองวิทย์ ล้อศิริรัตน์
โดย: กลุ่มเพื่อน 5.63 อ.ต. IP: 210.246.186.9 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:23:19:03 น.
  
แวะมาเยี่ยมค่ะ
โดย: นู๋ที วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:13:31:09 น.
  
แวะมาทักทายยามค่ำจ้ะ
วันนี้พี่ไปชิดลมมาตั้งแต่เช้า
พึ่งถึงบ้านเนี่ยล่ะจ้ะ
เดินเมื่อยไปเลยวันนี้ อิอิ

วันนี้มาส่งน้องสาวเข้านอนด้วยน๊า
คืนนี้ฝันดีนะจ้ะ จุ๊ฟๆจร้า

โดย: nLatte วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:19:55:52 น.
  
ได้มีโอกาสพักผ่อนกับครอบครัวดีจังนะคะ แต่ว่า คุณแฟนมัวแต่ถ่ายรูป เลยไม่มีรูปเลย ..หุหุ แล้วเพื่อนสนิทที่ว่าคุณแฟนไม่หึง แสดงว่าเพื่อนเป็นผู้ชายหรอค่ะ ^.^ โชคดีที่มีคุณแม่กะคุณแฟนที่เค้าใจ ไม่เหมือนของป้าเลย 555+
โดย: ป้าโบราณ วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:22:14:12 น.
  
สวัสดีอีกรอบค่ะ

แหะๆ รายละเอียดเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะอ่านหมดนะคะ แฮ่..

แต่เราก็อยากทำไว้ให้เป็นข้อมูลแหละค่ะ


ขอบคุณที่แวะไปเที่่ยวที่บล็อกนะคะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 ตุลาคม 2553 เวลา:13:26:09 น.
  
สวัสดีครับคุณ hellojaae
เป็นทริปเดินทางที่ยอดเยี่ยม ได้ทั้งความสนุกสนาน บุญ และ ความรู้ทางประวัติศาสตร์ด้วยครับ

บุญใดที่คุณhellojaaeได้ทำเช่นการปิดทอง บูชาพระพุทธรูป และ พระเจดีย์ก็ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ

ที่บริเวณแม่น้ำโขง เชียงแสนนั้น ได้เห็นกองเรือสินค้าติดธงชาติจีนด้วยหรือเปล่าเอ่ย ผมได้ไปเมื่อหลายเดือนก่อนมีกองเรือสินค้าจีนอยู่หลายร้อยลำ

หลังจากปี 2558 AEC เปิดโดยสมบูรณ์แบบแล้วเชียงรายจะเปลี่ยนแปลงไปมาก ภาพที่นำมาลงนี้จะเป็นตัวเปรียบการเปลี่ยนแปลงสำหรับอนาคตนะครับ

blog นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกทางประวัติศาสตร์แห่งยุคสมัยครับ
โดย: moonfleet วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:7:55:48 น.
  
เหนื่อยไหมคะเนี่ย
โดย: เชิญจุติ วันที่: 15 ตุลาคม 2553 เวลา:1:33:40 น.
  
เอ๊ะ...คนญี่ปุ่นหรือเปล่าคะเนี่ย..อิอิ
โดย: เชิญจุติ วันที่: 15 ตุลาคม 2553 เวลา:21:10:07 น.
  
แวะมาเยี่ยมจ้า

สบายดีใช่ไหมคะ
โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:8:24:22 น.
  
เรื่องน้ำท่วม ขอบคุณค่ะ

บ้านอยู่ในเขตกำแพงเมืองเลยไม่ท่วมค่ะ ส่วนใหญ่จะท่วมแถวที่ที่น้ำผ่าน กับที่ลุ่ม แต่ก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ก็ 2 กม.จากบ้านค่ะ

แต่ได้ข่าวว่าน้ำกำลังมาอีกระรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปดูแถวหน้า รพ.มหาราช อีกค่ะ วันนี้เช้าไปดูเหลือ 50 เซนต์จะท่วม
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:19:23:44 น.
  
เที่ยวหลายที่ เหนื่อยไหมเนี้ย ภาพสวยดีครับ
โดย: babyboy IP: 115.87.242.163 วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:2:50:27 น.
  
แม่ก็งาม ลูกสาวก็งาม มีบ่าวมาจีบนักก่ เกิดแม่จัน แต่บ่ได้ปิ๊กบ้านเมินแล้วคับกึดเติง
โดย: เวย์ 0806526889 IP: 192.168.100.1, 180.183.50.246 วันที่: 13 มิถุนายน 2555 เวลา:3:50:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hellojaae
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



เขียนบล๊อกเพราะอยากเขียน อยากแบ่งปัน ใช้วิธีจิ้มดีดจึงมีผิดๆถูกๆ (แม้จะพยายามตรวจทวนทุกครั้ง) เป็นบล๊อกอนุรักษ์รูปแบบเดิมๆคือเขียนไล่เรียงลงมา เพราะทำรูปแบบอื่นไม่เป็น 555 ยังเขียนต่อไปเพราะเห็นว่าก็ยังมีคนหลงๆเข้ามาอ่าน 555 สวัสดีและขอขอบคุณทุกคนค่ะ
Website counter