มีนาคม 2558

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ตกหลุมรักภูลมโล

  สวัสดีค่ะ

บล๊อกนี้ขอกระโดดกลับมาไทยเที่ยวไทยไปได้เรื่อยๆก่อนนะคะ ไปมาเมื่อต้นปีค่ะ เห็นใกล้ถึงเทศกาลชมซากุระที่ญี่ปุ่น เลยอยากเล่าถึงซากุระที่เมืองไทยบ้างค่ะ

17/1/2558

เรานั่งเครื่องไปลงพิษณุโลกค่ะ ไปถึงประมาณแปดโมงเช้าเพื่อนอีกสองคนมารับที่สนามบิน เพื่อนขับรถมาตั้งแต่เมื่อวานค้างตั้งแต่เมือคืนทำให้ทริปนี้เรามีคนขับรถให้

หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดซึ่งร้านอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน พวกเราสี่คนก็ตีรถขึ้นสู่อ.นครไทย อ.เก่าแก่ช่วงยุคเริ่มต้นประวัติศาสตร์ชาติไทย

ตั้งใจไปจุดหมายแรกที่วัดเหนือหรือวัดหน้าพระธาตุ เข้าไปภายในวัดดูโล่งๆ เงียบๆ  พบพระรูปหนึ่งกำลังกวาดลานวัดอยู่จึงบอกท่านไปว่าอยากมากราบ"หลวงพ่อเพชร" ท่านชี้มาที่ศาลาไม้เก่าๆที่อยู่ด้านหน้าวัดแล้วบอกว่ากุญแจอยู่ข้างประตูไขแล้วให้เก็บไว้ที่เก่าด้วย

ข้อมูลที่หามาบอกว่าใบเสมาศิลาทรายที่แกะสลัก 2 ด้านนี้ ด้านหนึ่งแกะสลักเป็นรูปสถูป อีกด้านแกะสลักเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชรนี้คือ"หลวงพ่อเพชร" ที่ชาวนครไทยเคารพนับถือและศักดิ์สิทธิ์ ดูแล้วขาดการดูแลน่าเสียดาย

จุดหมายที่สองคือต้องการมากราบอนุเสาวรีย์พ่อขุนบางกลางท่าว พ่อปู่ที่พวกเราชาวสาธิตรามนับถือ หุ หุ (ก็คือพวกเราเรียนสาธิตรามกันน่ะค่ะ ถือว่าเป็นลูกหลานพ่อขุน พวกเราเลยนับพ่อขุนบางกลางท่าวถือว่าเป็นพ่อปู่ของพวกเราค่ะ)

ด้านหลังมีต้นจำปาเก่าแก่ซึ่งเป็นจำปาขาว(หายาก)อายุกว่า 700 ปีต้องเอาไม้ค้ำยันเอาไว้ค่ะ ซึ่งตามประวิติกล่าวว่าพ่อขุนบางกลางท่าวทรงปลูกไว้

ภายในโบสถ์ของวัดกลางนครไทยหรือวัดกลางศรีพุทธามีไกด์เจ้าถิ่นตัวน้อยมาช่วยบรรยายให้ฟังด้วยค่ะ

จากอ.นครไทยไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าไม่ไกลกันค่ะ ถ้าจะมาภูลมโลและภูหินร่องกล้าเราว่ามาทางนี้ (คือมาจากพิษณุโลกใช้เส้นทางหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก แล้วเลี้ยวซ้ายไปอ.นครไทยคือทางหลวงหมายเลข 2013 ขับตรงมาเรื่อยจะเจอสามแยกถ้าตรงไปอีกสิบนาทีก็ถึงตัวเมืองอ.นครไทย แต่ถ้าเลี้ยวขวาเลยก็ไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าค่ะ)

ก่อนถึงที่พักพวกเราแวะสถานที่ท่องเที่ยวที่แรกภายในอุทยาน ซึ่งจริงๆมีที่อื่นๆก่อนหน้านี้เป็นน้ำตก พวกเราไม่แน่ใจว่าไปหน้านี้จะมีน้ำหรือปล่าก็เลยไม่ได้แวะกันค่ะมาที่นี่เลย "ลานหินแตก"เดินออกกำลังกายกันค่ะ อากาศดี บรรยากาศแจ่มมาก

ถ้าเป็นผู้สูงอายุไม่ค่อยแข็งแรงไม่ขอแนะนำค่ะ เพราะเดินลำบากอยู่เหมือนกัน ไม่ค่อยมีอะไรมากค่ะถือว่าเดินออกกำลังกายใช้เวลาใกล้ชิดกับธรรมชาติไปอีกแบบหนึ่ง

เราจองบ้านพักของอุทยานไว้แล้วโดยการจองออนไลน์ซึ่งสะดวกมากๆ เป็นครั้งแรกของเราเลยค่ะที่ได้นอนบ้านพักของอุทยานแห่งชาติ ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ สะอาดสะดวกราคาไม่แพงเลยค่ะหลังนี้ราคา 1200 บาท 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำมีห้องนั่งเล่นตรงกลาง

 ทานข้าวกลางวันกันที่ร้านอาหารในอุทยานั่นแหละค่ะ ช่วงที่เราไปนักท่องเที่ยวเยอะมากๆเลยต้องใช้เวลารอหน่อย จะให้ดีกว่านี้ถ้ามาตอนนักท่องเที่ยวเยอะๆเตรียมเสบียงมาเองก็ดีค่ะ

พร้อมแล้วค่ะ พร้อมลุยขึ้นภูลมโลแล้ว ถ้าถามว่าทางลำบากไหมถ้าเป็นหน้าหนาวๆแบบนี้ก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนก็ต้องคิดใหม่อีกทีเหมือนกัน แต่นั่นก็หมายความว่าคนขับรถต้องมีความเชี่ยวชาญในการบังคับรถในระดับหนึ่งนะคะ (ให้เราขับเราก็ไม่ขับล่ะค่ะ ฮ่าฮ่า)

"ภูลมโล" เขาว่าเพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่เหมือนกับทางภาคเหนือของไทยได้ไม่กี่ปีมานี้ โดยปลูกเป็นจำนวนมาก ปลูกกระจัดกระจายกันหลายแปลงค่ะ กว้างมากๆ

ตอนนี้ก็ว่าสวยแล้ว รออีกสักสองสามปีขึ้นไปจะยิ่งสวยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆนะคะ ถ้าช่วยกันดูแลบำรุงรักษาปลูกเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ อยากให้เมืองไทยปลูกแบบนี้มานานแล้ว 

"หลงรักภูลมโล"เลยล่ะค่ะ อากาศเย็นๆ เดินชมซากุระเมืองไทย

บรรยากาศแบบไทยๆ อยู่ใกล้ๆไปได้ทุกปี ตั้งใจว่าต้องมีไปอีกค่ะ 

ขอบคุณคนที่คิดโครงการปลูกต้นพญาเสือโคร่งนี้ขึ้นมา ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้มีโอกาสชมความสวยงามของซากุระเมืองไทยแบบไทยๆ  

 

ภูลมโล ภูสีชมพู 

มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากค่ะที่นอนเต็นท์ มีทั้งเต็นท์ส่วนตัวและของอุทยาน แต่เรายอมแพ้ค่ะไม่ไหวค่ะ ขนาดนอนในบ้านห่มผ้าแล้วยังต้องใส่สองชั้นค่ะ หนาวมากๆ 

 

18/1/2558

รูปมาตรฐานค่ะถ่ายกับป้ายก่อน ฮ่าฮ่า #มาแล้วนะอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า#ภูลมโล#

 มื้อเช้าพวกเรากินข้าวเหนียวไก่ทอดจากร้านค้าปากทางเข้าลานหินปุ่ม ไก่ทอดร้อนกับข้าวเหนียวอร่อยมาก แล้วจึงไป"ภูแผงม้า" ช่วงนี้ทางเริ่มโค้งซํดขวาซัดซ้าย พอรถจอดเราก็อ้วกพอดี ฮ่า ฮ่า ขออภัยจริงๆที่เล่าให้ฟังหมดซะทุกอย่าง เราจอดไว้แล้วเดินขึ้นไปกันค่ะ ก็พอเดินได้ค่ะไม่ไกลมาก

ความเห็นส่วนตัวเราคือถ้ามีคนแก่หรือเด็กมาด้วยนะคะ มาจากกรุงเทพขับรถมาเลยก็ได้ค่ะ ไม่ต้องนั่งเครื่องเพราะไม่ต้องไปเสียเวลารอขึ้นเครื่องอะไรอีกใช้เวลาไปพอๆกัน มาแค่ภูหินร่องกล้าและขึ้นไปชมซากุระที่ภูลมโลแล้วกลับทางเก่าดีกว่าค่ะ ไม่เมาโค้งมาก

จากภูแผงม้ามองไปเห็นภูทับเบิกอยู่ตรงหน้าค่ะ

 

จริงๆควรมาเช้าๆค่ะมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก 

แวะเข้าไปในภูทับเบิกค่ะ ที่ภูทับเบิกนี้นักท่องเที่ยวนิยมมาช่วงปลายฝนต้นหนาวเพื่อมาดูทะเลหมอก 

ออกจากภูทับเบิกลงมา โค้งซ้าย โค้งขวา โค้งซ้าย โค้งขวา โค้งซ้าย โค้งขวา ฮ่าฮ่า กว่าจะถึงพื้นราบเมาโค้งอีกล่ะ ค่อยยังชั่วตอนเริ่มหาซื้อมะขามหวานนี่แหละค่ะ มะขามหวานพันธุ์ประกายทองถูกปากจริงๆค่ะเนื้อหนาหวานไม่เปรี้ยวมาก

จะแวะหาอะไรทานเป็นมื้อเที่ยงที่นี่ โอ้แม่เจ้าเดินเข้าไปลูกค้าเต็มร้าน ฮ่า ฮ่า เอางั้นถ่ายรูปหน้าร้านเสียหน่อยกลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญแถวนี้ 

เลยมาทานมื้อเที่ยงร้านนี้ค่ะ ดูแล้วน่าจะเพิ่งเปิดได้ไม่นาน (ไม่แน่ใจนะคะ ) เย็นๆน่าจะบรรยากาศดีมากๆ อยู่ปากทางเข้าวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ร้านนี้บรรยากาศดีมากค่ะ ราคาก็ไฮดีด้วยหุ หุ 

ถึงแล้วค่ะวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว 

กราบพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ 

และเข้าที่พักคืนนี้ค่ะ อิมพิเรียลภูแก้วฮิลล์รีสอร์ท (เข้าทางเดียวกันกับภูแก้วรีสอร์ทค่ะ) บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การมาพักผ่อนมากๆ  

อิมพิเรียลภูแก้วฮิลล์รีสอร์ท ตอนที่ไปห้องละ 1500 บาทรวมอาหารเช้า สามารถเปิดสองห้องเปิดประตูเชื่อมถึงกันได้ค่ะ ภายนอกอาจจะดูเก่าไปบ้างแต่ภายในห้องพักที่เราไปพักนั้น สะอาดอุ่นนอนสบายมาก

 ออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจกันตรงสนามข้างหน้าห้องพัก มื้อเย็นเราไม่ได้ทานอาหารของทางโรงแรมค่ะ เราขับรถกันออกไปกินกันที่ร้านกลิ่นข้าวไร่ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทางเข้าโรงแรม อาหารอร่อยและราคาไม่แพงเลยค่ะ

 19/1/2558

ตอนเช้าขับรถแวะเข้าไปเที่ยวไร่บีเอ็น แฮ่ แฮ่ ไปวันนั้นเงี๊ยบ เงียบค่ะ คือทางไร่คงออกไปจัดงานกันตรงด้านหน้าที่ติดถนนหมด ด้านในเลยเงียบมาก หรือเพราะเป็นวันจันทร์ หรือนักท่องเที่ยวจะมากันเฉพาะหน้าที่ต้นลิ้นจี่ออกลูก

อย่างไรก็แล้วแต่ค่ะแต่ปากทางเข้าไร่ปลูกต้นไผ่ไว้เป็นโค้งสวยงาม 

ความตั้งใจที่สำคัญอีกเรื่องของทริปนี้คือการได้มาไหว้"พระพุทธชินราช" พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในประเทศไทย และก็ต้องไปตามสูตรค่ะคือออกจากวัดไปกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่อยู่ด้านริมน้ำน่าน เห็นมีอยู่หลายร้านค่ะคนเยอะทุกร้านน่าจะอร่อยพอๆกัน ฮ่าฮ่า

เราขี้เกียจรอขึ้นเครื่องกลับในตอนเย็นค่ะ เลยนั่งรถเพื่อนกลับมาเลย ก็ไม่ไกลเท่าไหร่นิ (รู้แบบนี้นั่งรถมาจากกรุงเทพตั้งแต่ตอนแรกเลยดีกว่าฮ่า ฮ่า) ขากลับแวะกินกุ้งผากันที่ตลาดกลางเพื่อการเกษตร กุ้งตัวใหญ่ดีนะคะ แต่ใครช่วยบอกดิฉันทีค่ะความหวานในเนื้อกุ้งมันหายไปไหนหมด ข้องใจมากดิฉันก็เลยเปลี่ยนร้าน

 มาอีกร้านหนึ่งที่ในเน็ตเขาว่าอร่อย บอกแม่ค้าตามตรงเลยว่าเมื่อกี๊ลองกินมาร้านหนึ่งแล้วข้องใจว่าทำไมเนื้อกุ้งไม่หวานจืดสนิทเลย ขอทดลองสั่งแต่กุ้งเผามาชิมก่อนอย่างเดียวก่อนนะคะ

ลองร้านที่สองก็เจอแบบเดียวกันอีกแฮะ ฮ่าฮ่ามันยังไงกันนะ ดิฉันไม่ใช่คนเรื่องเยอะนะคะ แต่เจอแบบนี้ทั้งสองร้านจะมากินร้านแถวนี้อีก ครั้งหน้าต้องลองคิดใหม่แล้ว ใครมีร้านที่มั่นใจว่ากุ้งเผาสดอร่อย เนื้อหวานเด้งช่วยหลังไมค์มาบอกบ้างนะคะจะไปอุดหนุน

 ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมติดตามกันเสมอมานะคะ

พบกันใหม่บล๊อกหน้านะคะสวัสดีค่ะ

จุ๊บ จุ๊บ Smiley

 




Create Date : 22 มีนาคม 2558
Last Update : 23 มีนาคม 2558 0:46:42 น.
Counter : 3565 Pageviews.

0 comments

hellojaae
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



เขียนบล๊อกเพราะอยากเขียน อยากแบ่งปัน ใช้วิธีจิ้มดีดจึงมีผิดๆถูกๆ (แม้จะพยายามตรวจทวนทุกครั้ง) เป็นบล๊อกอนุรักษ์รูปแบบเดิมๆคือเขียนไล่เรียงลงมา เพราะทำรูปแบบอื่นไม่เป็น 555 ยังเขียนต่อไปเพราะเห็นว่าก็ยังมีคนหลงๆเข้ามาอ่าน 555 สวัสดีและขอขอบคุณทุกคนค่ะ
Website counter