กันยายน 2552

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
 
25 กันยายน 2552
All Blog
สมุยSamui ที่รัก
โอ้ ลัล ล้า(อีกแล้ว) ดีใจจังได้ไปเที่ยวทะเลอีกครั้งคราวนี้คุณชายพาไปเที่ยวเกาะสมุย เกาะที่รู้จักดีกันว่ามีต้นมะพร้าวเยอะและก็มีลิงไว้ช่วยเก็บมะพร้าวแยะ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมากๆขนาดว่าDavid Beckham ก็ยังมาปลูกคฤหาสน์อยู่ที่นี่ด้วย (บ้านของBeckham กลายเป็นจุดสนใจไปด้วย)

ครั้งนี้ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน กลับวันอังคารที่ 22 วันอาทิตย์เลือกบินไฟลท์เช้าของบางกอกแอร์เวย์(เป็นครั้งแรก) การบริการดีทีเดียวก่อนที่จะขึ้นเครื่องมีเลาจน์ของว่างและเครื่องดื่มให้บริการด้วย มีขนมปัง ครัวซองต์ ชา กาแฟ ไว้ให้บริการ เราตุนเอาแซนวิชอันเล็กๆน่ารักสองอันใส่กระเป๋าสะพายไว้ เครื่องออก 6.00เช้าๆอย่างนี้ยังไม่ค่อยมีคนเท่าไร นั่งกินกาแฟสบายๆรอขึ้นเครื่อง



เลาจน์ของบางกอกแอร์เวย์ ตบแต่งสวยงามนั่งเล่นสบายๆ



บินflight 6.00 จากสุวรรณภูมิถึงสมุย 7.05 เที่ยวบินที่PG103 เพิ่งรู้นะว่าเวลาบินต่างกันราคาตั๋วก็ต่างกันด้วย ไฟลท์เช้ากับไฟลท์ดึกจะถูกกว่าบินกันเที่ยวนี้ราคาเบ็ดเสร็จประมาณ2770 บาทต่อคนไปถึงก็รับรถเช่าของAvis ที่สนามบินสมุยได้เลย ซื้อVocherไว้แล้วจากงานไทยเที่ยวไทยซื้อ5แถม1 (รับรถเช่าของAvisต้องใช้ใบขับขี่ด้วยนะ)



ระหว่างรอการจัดการติดต่อเรื่องรถเช่าก็เอาแซนด์วิชขึ้นมาหม่ำรองท้องไปก่อน เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยเพราะยังเช้าอยู่ทำอะไรได้ง่ายๆสบายๆ คนก็ไม่เยอะด้วย พอรับรถเรียบร้อยก็กางแผนที่ สนามบินสมุยจะอยู่ทางทิศเหนือที่พักเราก็อยู่ทางทิศเหนือยังเช็คอินเข้าที่พักไม่ได้ เรากะคุณชายก็เลยขับรถเลาะหาดเฉวงลงมาทางทิศใต้บริเวณแถวหาดเฉวงไม่สามารถมองเห็นหาดได้เลยไอ้ที่กะว่าขับเลาะชายหาดและจะเห็นวิวทะเลไม่ใช่เลยเพราะจะถูกตัวรีสอร์ทและโรงแรมต่างๆบังจนมองไม่เห็นเลยและโรงแรมและรีสอร์ทที่นี่ก็เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ มากจริงๆ ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นร้านขายของประมาณว่าแถวหาดป่าตอง ข้าวสารอะไรประมาณนี้แหละ ขับรถเลาะแนวมาตามถนนเรื่อยๆก็จะถึงจุดชมวิว สามารจอดรถและลงไปถ่ายรูปได้จริงๆแล้วถ้าเป็นแสงแดดตอนบ่ายๆ หรือพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินคงจะสวยมาก ไว้ครั้งหน้าค่อยมาใหม่ไม่เป็นไร วันนี้ดูแสงแบบนี้ไปก่อน ร้อนเปรี้ยง เลยค่ะ



หรือถ้ามาช่วงบ่ายๆ มานั่งเล่นเดินล่นแถวนี้ก็วิวสวยดีนะ



ขับรถเที่ยวเองบนเกาะสมุยไม่ยากเพราะมีถนนเมนหลักอยู่ไม่กี่เส้น เราขับเลาะหาดเฉวงลงมาเรื่อยๆ จนมาถึงหาดละไมก็แวะไปที่ยอดฮิตที่แรกบนเกาะสมุย ไฮไลท์เป็นจุดถ่ายรูปของนักท่องเทียวเลยก็ว่าได้ นั่นคือ หินตาหินยาย มีตำนานเล่าให้ฟังว่า(เรื่องที่มีตำนานน่ะเราชอบ) นานมาแล้วมีตายายคู่หนึ่งชื่อตาเครงกับยายเรียมเป็นชาวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชเดินทางจะไปสู่ขอลูกสาวให้กับลูกชาย จากตาม่องลายที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ พอมาถึงหาดละไมเกิดพายุทำให้เรือล่ม ทั้งตาและยายจึงอธิษฐานว่าขอให้เกิดเป็นสัญลักษณ์ให้ตาม่องลายทราบว่าตนได้มาหาแล้วไม่ได้ผิดคำสัญญา พอตากับยายเสียชีวิตร่างมาเกยตื้นที่หาดละไมนี้จึงกลายเป็นหินตาหินยายในปัจจุบัน (ตำนานก็คือตำนานนะคะ)ใครๆเห็น ก็พอจะรู้แหละว่าอันไหนหินตา



แต่อันนี้ใช่หินยายหรือเปล่าไม่ค่อยแน่ใจ



แถวหินตาหินยาย จะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน ก็เหมือนเดิมค่ะไม่ได้ซื้อของพวกนี้เพราะว่าไปเิดินงานโอท็อบทุกครั้ง แต่ก็แวะอุดหนุน กาละแมคุณอรที่เคยอ่านเจอในบล็อกของใครจำไม่ได้อร่อยดีค่ะทำใหม่ๆสดๆ ซื้อมาฝากเพื่อนๆที่ทำงานก็ชมว่าอร่อยและอันใหญ่ดีกันทุกคน อ้ออุดหนุนวาฟเฟิลของคุณแหม่มที่ขายตรงที่จอดรถด้วย แกมาอยู่สมุยได้สี่เดือนมีแผงขายวาฟเฟิลแ้ล้ว ขับรถเลาะลงมาอีกไม่ไกลก็จะแวะไหว้พระธาตุที วัดพระธาตุศิลางู ที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวเกาะสมุย



ขับเลาะลงมาอีกแค่ประมาณห้าสิบเมตร(เกือบเลย) แวะพักรับประทานอาหารมื้อแรกตามที่นายรอบรู้เค้าแนะนำว่าอร่อยค่ะ (ไปไหนๆก็พึ่งนายรอบรู้นี่แหละ) ที่นี่เลยค่ะครัวชาวบ้าน นั่งกินข้าวอยู่ริมทะเลเลย



ทานข้าวไปพร้อมกับสูดโอโซนอากาศบริสุทธ์



อาหารอร่อยใช้ได้ค่ะเราสั่งแกงส้มใส่ยอดมะพร้าวอ่อน ปลาอินทรีย์ทอดแช่น้ำปลา ปูม้านึ่ง(ไม่เคยพลาด) ปูเนื้อผัดพริกไทยดำ ข้าวเปล่าและก็มีโค้กกับน้ำเปล่าเช็คบิลก็ เก้าร้อยพอดีค่ะเราขอแนะนำให้สั่ง แกงส้ม และ ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลาค่ะอร่อยดีค่ะ บรรยากาศนั่งสบายๆดีค่ะ



อิ่มดีแล้ว ก็ขับรถไปทางหลวงหมายเลข 4169 ตามแผนที่มุ่งหน้าสู่วัดคุณาราม ชื่อเดิมว่า วัดเขาโป๊ะ ซึ่งมีรุ่นพี่คนหนึ่งแนะนำมาว่า ถ้าไปสมุยอย่าลืมไปตรงจุดนี้ให้ไปไหว้หลวงพ่อแดง ซึ่งแม้มรณภาพไปนานเกือบสามสิบปีแล้วแต่ทางวัดได้เก็บรักษาสรีระของท่านไว้ในโลงแก้วอย่างดีในท่านั่งขัดสมาธิ ผิวหนังเป็นสีน้ำตาลเข้มไม่เน่าเปื่อย มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติแวะไปนมัสการท่านอย่างไม่ขาดสาย





จากเส้นทางเก่าขับตรงมาเรื่อยๆใช้ทางหลวงหมายเลข4173 และเข้า 4170 มายังที่ตั้งของเจดีย์แหลมสอ เป็นเจดีย์ที่สวยงามตั้งอยู่ริมทะเล อยู่ทางตอนใต้ของเกาะสมุย (เมื่อเช้าสนามบินจะอยู่ทางทิศเหนือของเกาะแต่ตอนนี้เราอยู่กันทางทิศใต้ของเกาะแล้ว) เจดีย์แหลมสอนี้สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อแดง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้



วิ่งมาตามทาง 4170 เริ่มมุ่งขึ้นทางเหนือของเกาะเลาะหาดตลิ่งงามเข้า 4174 และ 4172 เข้าสู่หาดหน้าทอนที่เป็นท่าเรือใหญ่สำคัญของเกาะสมุย แวะซื้อของที่เซเว่น อีเลฟเว่นหน่อย เอ้า ขอถ่ายรูปเจ้าพาหนะคู่ใจของทริปนี้หน่อย บนถนนหาดหน้าทอน กับแท๊กซี่มิเตอร์ บนเกาะสมุย



เริ่มเหนื่อยและง่วงกันมากๆแล้ว รีบขับเข้าสู่ทีพักก่อนจะได้นอนเอาแรงซักตื่นหนึ่งก่อนเย็นๆค่อย ขับมาหาอะะไรกิน วิ่งมาผ่านอ่าวปอ แม่น้ำ บ่อผุด สู่หาดท้องสนใกล้กันกับหาดท้องทราย อยู่ทางทิศเหนือของเกาะสมุย

ถึงที่พักลงทะเบียนเช็คอิน เข้าพักที่Melati Resort and Spa เมลาตี ที่พักบรรยากาศดีมากแต่จะขอแยกไปเขียนต่างหากทีี่่ที่เคยไปพักอีกกรุ๊บบล็อกหนึ่ง ไปถึงได้รับพวงมาลัยคล้องคอกันคนละพวง พร้อมเวลคัมดริงค์ น้ำตะไคร้แช่เย็นและพนักงานนำขึ้นรถกลอฟ์พาเข้าสู่ห้องพัก



ค่อยยังชั่วหน่อย ถึงที่พักแล้วเดี๋ยวขอนอนเอาแรงสักชั่วโมงก่อนนะ



หลังจากตื่นนอนและเริ่มหิวมากแล้ว คุณชายบอกว่าที่เราหิวมากเป็นเพราะดื่มแอลกฮอล์กเข้าไป(บาร์คาดี้น้ำส้มขวดเีดียวเนี่ยะนะ)เรา ก็เร่งคุณชายให้รีบแต่งตัวออกไปเดินเล่น(หลังจากที่ปล่อยให้นอนไปเกือบสองชั่วโมง)จะได้ไปทานข้าวได้แล้ว หิวแย้ว

สวนภายในรีสอร์ท สวย เงียบสงบ ร่มรื่น โอ้ ลัลล้า





สระว่ายน้ำของที่นี่ เมลาตี สวยมากเลยแต่ไม่มีเวลาและโอกาสได้เล่นน้ำที่นี่เลยอะเสียดายจัง ไว้ครั้งหน้านะจ๊ะ



เย็นนี้ต้องรีบไปกินข้าวก่อน ที่ร้าน บางปอ (ตาโข) ซีฟู้ด เป็นร้านแบบชาวบ้านๆหน่อย แม้แต่พี่ที่มาทำงานที่นี่ก็บอกว่าถ้าจะไปกินร้านนี้ให้ไปแต่วัน เพราะถ้าไปค่ำๆ คนจะเยอะและจะรอนาน ของก็จะหมดด้วย เราเลยไปถึงที่นั่นประมาณหกโมงเย็น กำลังดีเริ่มมีลูกค้าอยู่หลายโต๊ะแล้ว



นายรอบรู้(อีกและ) เขียนถึงร้านนี้ว่า"ถ้าอยู่บนเกาะสมุยมื้อนี้(มื้อเย็น)ไม่ควรพลาด ร้านบางปอซีฟู๊ด อยู่บริเวณอ่าวบางปอ บรรยากาศร้านดูเรียบง่ายขายอาหารทะเลสดตามตำรับพื้นบ้าน ราคาไม่แพงจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่น แม้ว่าร้านนี้จะเปิดถึงเที่ยงคืนก็ควรไปก่อนแต่เนิ่นๆ หากไปช้าอาจเสียความรู้สึกเนื่องอาจจากอาหารหมด เมนูเด็ดของร้านนี้คือ เคยจี่ คือน้ำพริกกะปิโขลกกับเนื้อมะพร้าวใส่เนื้อปู นำไปใส่ในกะลามะพร้าวแล้วยกขึ้นจี่หรือย่างไฟ จนมีกลิ่นหอม เคยจี่นี้ทางร้านเสริพให้ฟรีๆพร้อมกับผักพื้นบ้านนา นาชนิด มาถึงร้านนี้แล้วอย่าพลาดสั่งปลาทอด ซึ่งมีปลาสารพัดชนิดให้เลือกชิม แต่ถ้าใครอยากลองชิมอาหารพื้นบ้านขอแนะนำวายคั่ว ที่นำวายตากแห้งมาคั่วในหัวกะทิ ใส่หอมแดง ตะไคร้ให้รสหวานเค็ม มัน ส่วนวายต้มส้ม ใส่มะม่วงอ่อนเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว ยำสาหร่ายข้อใส่หอยแครง เพิมความมันด้วยมะพร้าวคั่วหรือมะพร้าวสด สำหรับผู้ที่นินมกินหอยก็มียำหอยเจาะ ยำไข่หอยเม่น ทางร้านมีให้เลือกทั้งข้าวสวยธรรมดากับข้าวมันมะพร้าว(ข้าวกะทิ) ซึ่งเป็นข้าวกล้องที่ใช้น้ำกะทิหุงเเทนน้ำเปล่า ก็อ่านข้อมูลของนายรอบรู้มาวะขนาดนี้จะพลาดได้ไง

มาถึง เค้า ก็ เสริพมาก่อนเลยเคยจี่ แปลกดี จัง อร่อยด้วยวันหลังต้องลองทำกินเองที่บ้านบ้าง มาพร้อมกับผักนานาชนิดจริงๆ



เราก็เลยสั่งปูม้านึ่ง วายคั่วต้มกะทิ (วายคือปลาหมึกสายรูปร่างคล้ายปลาหมึกยักษ์มีหนวดยาวๆ)ผัดเผ็ดเห็ดหลุบ (เห็ดหลุบรสชาติคล้ายๆดอกไม้ทะเล) หอยนางรมสดและตัวใหญ่ (สั่งไปแปดตัว) ยำไข่หอยเม่น แล้วก็ข้าวมัน เครื่องดื่มก็น้ำเปล่ากับ โคล่า ค่ะ เช็คบิล เก้าร้อยบาทเป๊ะอีกเหมือนกัน





หลังจากอิ่มหมีพีมัน แล้วก็ขับรถเล่นรอบ ๆ บริเวณแถวบ่อผุด นิดหน่อยก่อนเข้าสู่ เมลาตี เอาตอนเกือบสี่ทุ่มรีบนอนเช้าตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีห้า เราอาบน้ำเสร็จตีห้าครึ่ง คุณชายอาบน้ำเสร็จตอนหกโมง กินอาหารเช้าเสร็จให้ทันก่อนเจ็ดโมงเช้าเพราะรถจะมารับตอนเจ็ดโมงเช้า รุ่นน้องของคุณชายที่มาทำงานที่นี่ติดต่อให้ไป ฟรีค่ะ เกรงใจจัง อิ อิ

มาถึงท่าเรือบ่อผุด ประมาณเจ็ดโมงครึ่ง รถคันนี้แหละที่ไปรับเราสองคน มีฝรั่งสองคนไปรับด้วยเท่าที่ดูของบริษัทอื่นๆจะเป็นรถตู้ เท่ สู้รถนี้ไม่ได้เลย



นั่งรอคนอื่นๆ อยู่แถวๆเนี๊ย บริเวณท่าเรือบ่อผุดจนถึงประมาณแปดโมงครึ่งถึงจะได้ขึ้นเรือ ระหว่างนั้นก็ขอเป็นสาวเพื่อชีวิตก่อน ด้วย กระทิงแดง หนึ่งขวดเพื่อความสดชื่น





ไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองโดยสปีทโบ๊ท ออกจากท่าเรือ 8.30 นั่งไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ทั้งลำมีแต่ฝรั่ง อินเดีย ฮ่องกง มีแค่เราสองคน กับไกด์และเด็กเรือที่เป็นคนไทย



นั่งเรือมาหนึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดดำน้ำตื้นที่เกาะอะไรจำชื่อไม่ได้อีกแล้ว ปลาน้อยกว่าที่กระบี่นะ แต่คราวนี้คลื่นลมไม่แรงเท่าไหร่ เค้าปล่อยอยู่ที่นี่ประมาณหนึ่งชั่วโมง เราลงไปประมาณยี่สิบนาทีก็ไม่ไหวแล้ว แถมขึ้นมารอบนเรือที่จอดอยู่คราวนี้ดิ เวียนหัวจะอ้วก



แต่เราชอบมากนะดำน้ำตื้น ไว้หากมีเวลาจะไปเรียนดำน้ำลึกกับเค้าบ้าง แต่ว่ายน้ำไม่เป็นจะได้หรือเปล่าไม่แน่ใจ



มาสปีทโบ๊ทก็ดีตรงนี้แหละรวดเร็วมีเวลาเหลือทำกิจกรรมอย่างอื่นเยอะกมาถึงเกาะสามเส้าใครจะพายเรือคายัคก็ไปพาย ใครอยากนอนอาบแดด เล่นน้ำ ก็ตามอัธยาศัยได้ใช้เวลาเต็มที่เลยสามชั่วโมงบนเกาะนี้ หาดทรายขาว น้ำทะเลใส ส่วนเรากับคุณชายขอบายไม่อยากพายเรือเพราะเคยพายเรือแคนู มาแล้วที่พังงา แล้วเราเป็นคนเมาเรือที่จอดอยู่เฉยๆ มันจะอ๊วก เลยพักผ่อนเดินเล่นกันอยู่บนเกาะอย่างเดียว พักผ่อนสบายๆจริงๆ



นอนเล่น เดินไปเิดินมา แช่น้ำทะล ขึ้นๆลงๆ อยู่แบบนั้น กินอาหารกลางวันที่นี่ด้วยดีกว่าตอนที่ไปกระบี่ ครั้งนี้มี ข้าวกับไก่ทอด และมีผัดเปรี้ยวหวาน และ มัสมั่นไก่ และน้ำเปล่าหรือ โค้กแคนให้ดื่มตลอด







จากเกาะสามเส้ามาประมาณสิบห้านาทีก็ถึงเกาะแม่เกาะ เพื่อมาดูทะเลในเป็นน้ำทะเลสีมรกต เขียวสวยมากจริงๆ



เราเลือกเดินลงสู่เบื้องล่างเพื่อไปดูปลาใกล้ๆ ในสระนั้น เห็น หอยเม่น (ที่เมื่อวานเรากินไข่ของมัน) มีหอยเม่นหลายตัวเลย ที่นี่เค้าห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาดเนื่องจากมีหินแหลมคมเยอะ และหอยเม่นเยอะนี่เอง มีคนเล่าว่ามีปลาตัวเล็กๆว่ายเข้ามาพออยู่ในี้จนอ้วนโต ก็ไม่สามารกลับออกไปได้อีกเลย น่าสงสารจัง
แล้วก็เห็นปลาอะไรไม่รู้แต่ทำท่าเป็นเจ้าบ้านได้อย่างดี ยืนสงบนิ่งให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปโดยไม่ยอมว่าหนีไปไหนเลย



จบจากที่นี่ก็ขึ้นเรือโบกมือ อำลา หมู่เกาะอ่างทอง กลับเข้าสู่เกาะสมุยนั่งเรือผ่านบ้าน David Beckham หลังคาสีแดงทางกรุ๊บทัวร์ยังพาไปขี่ช้างต่อแต่เราสองคนขอผ่านเพราะมีนัดทานอาหารเย็นกับรุ่นน้องของคุณผู้ชาย ตอนหนึ่งทุ่มที่หาดละไม และต้องการกลับมาพักผ่อนสักพักก่อน กลับมาก็ขอแช่น้ำร้อนๆให้หายเมื่อยก่อนสักครึ่งชั่วโมง ผ่อนคลายความเมื่อยล้า อ่างอาบน้ำอยู่บริเวณด้านนอกตรงระเบียงหลังแช่น้ำร้อนไป มองทิวมะพร้าวไป สุขใจจริงๆ หน้าต่างที่เห็นคือเปิดออกมาจากด้านในห้องน้ำได้ เก๋ เชียว



สบายตัวแล้ว ก็ อาบน้ำแต่งตัวไป กินมื้อเย้นที่ ร้านเสบียงทะเล อยู่แถวหาละไม เลยหินตาหินยายไปหน่อยหนึ่งเป็นร้านตั้งอยู่ริมทะเลเช่นกันแต่ไปถึงหนึ่งทุ่มก็มองไม่เห็นทะเลแล้วได้แต่กลิ่นไอทะเลกับลมทะเล รุ่นน้องของคุณชายยังไม่มาเราสองคนไม่รอแล้วสั่งก่อนกินก่อนเลยแหละ เราสั่งอาหารก็มีกรรเชียงปูม้านึ่ง กุ้งอบวุ้นเส้น ยำเสบียงทะเล( จานนี้อร่อยมากขอแนะนำ )ปลาทรายทอดขมิ้น หอยนางรมอีกสี่ตัว ข้าวเปล่าหนึ่งโถ น้ำแข็งมิกเซอร์นิดหน่อย ขนมหวานสองถ้วย เช็คบิลพันกว่าแต่รุ่นน้องคุณชายเลี้ยงเพราะว่าไปถิ่นเค้า อิอิ เกรงใจจัง (ขอคอนเฟิร์มว่ายำเสบียงทะเลอร่อย กับ หอยนางรมสด ใหญ่หวานจริงๆ)





กลับสู่เมลาตีประมาณสี่ทุ่ม ขากลับไม่ต้องใช้แผนที่ เช้าก่อนกลับขอไปถ่ายรูปที่สระว่ายน้ำอีกครั้งเสียดาย อาลัยอาวรณ์ที่ไม่ได้มาเล่นน้ำที่นี่



เช้าๆ อากาศ ดี๊ ดี กินอาหารเช้าก่อนอาหารเช้าที่เมลาตินี่สุดยอดมากๆเลยเรากินสลัดไปสองจานเลยแหละน้ำสลัดอร่อยมากๆมีให้เลือกหลายแบบแต่ที่เราชอบคือน้ำสลัดแบบ Italian fresh salad oil มีชีสให้เลือกกินหลายแบบด้วยแบบที่ขึ้นราหน่อยๆก็มี โอ้หอมอร่อยกินกับขนมปังกรอบๆ เซลามีก็มี อาหารเช้าที่นี่แบบไฮโซมากๆ มีแค่เราสองคนกับคุณชายที่เป็นคนไทยนอกนั้นเป็นต่างชาติหมดเลย เรากำลังกินสลัดเสร็จเพิ่งวางช้อนคุณชายก็โทรตามให้รีบมาขึ้นรถอ้อตอนนี้ขอให้คะแนนที่เมลาตีนี้อันดับหนึ่งเลยในเรื่องของอาหารเช้า เสียดายยังกินไม่ครบเลยต้องรีบไปขึ้นเครื่องแล้ว เพราะเครื่องออกเก้าโมงครึ่งและต้องไปคืนรถเช่าก่อนด้วย ขากลับเป็นครั้งแรกที่บินชั้น Business Class อิ อิ คุณชายเอาไมล์ไปแรกน่ะอยากพาเราใช้บริการดูเพราะเราไม่เค๊ยเลย ว่ามันแตกต่างกันยังไง แตกต่างกันมากจริงๆติดใจอีกแล้ว (จุ๊บ จุ๊บ รักคุณผู้ชายที่สุดเลยนะคะ)



พอขึ้นเครื่องปุ๊บอย่างแรกเลยที่นั่งชั้น Business Class นั่งสบายกว่ากว้างกว่านั่งแป๊บหนึ่งเค้าก็เสริพ น้ำชามะขาม หอมอร่อย เย็นชื่นใจดีมากแม้ว่าจะใช้เวลาบินแค่ชั่วโมงก็เสริพอาหารเป็น ผัดหมี่ซั่วและก็ขนมหวานเช่นกัน ถูกใจกับ ชามมะขามกับที่นั่งที่นั่งสบายกว่านี่แหละ



ถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณสิบโมงกว่าถึงบ้านประมาณสิบเอ็ดโมงแยกย้ายกันไปทำงานกันตามปรกติค่ะ จบทริปนี้ด้วยข้อความที่ว่า "ความรักเปรียบดังต้นไม้ที่ต้องการรากแก้วอันมั่นคง"



Create Date : 25 กันยายน 2552
Last Update : 27 กันยายน 2552 21:59:27 น.
Counter : 4539 Pageviews.

3 comments
  
ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะค่ะ ไปสมุยก็บ่อยแต่ยังไม่เคยไปหมู่เกาะอ่างทองเลยค่ะ ขอแอบตามก่อนแล้วกันนะค่ะ
โดย: ps_2a วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:0:06:03 น.
  
สถานที่ท่องเที่ยวงาม
คนนำเที่ยวก็สวย
อาหารก็อร่อย
และ เพลงก็ไพเราะ
โดย: 7347 IP: 112.142.113.225 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:7:41:18 น.
  
สวยดีนะ
โดย: ไอซ์ IP: 192.168.10.59, 119.42.68.157 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:38:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hellojaae
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



เขียนบล๊อกเพราะอยากเขียน อยากแบ่งปัน ใช้วิธีจิ้มดีดจึงมีผิดๆถูกๆ (แม้จะพยายามตรวจทวนทุกครั้ง) เป็นบล๊อกอนุรักษ์รูปแบบเดิมๆคือเขียนไล่เรียงลงมา เพราะทำรูปแบบอื่นไม่เป็น 555 ยังเขียนต่อไปเพราะเห็นว่าก็ยังมีคนหลงๆเข้ามาอ่าน 555 สวัสดีและขอขอบคุณทุกคนค่ะ
Website counter