สวัสดีค่ะ

วันนี้จะขอกลับมาเขียนบล๊อกที่อยู่ในหมวด"เที่ยวตามใจทั่วไทยบ้าง" ไม่ได้เขียนบล๊อกในหมวดนี้เสียตั้งนาน ทั่งๆที่ก็เดินทางภายในประเทศอยู่บ่อยครั้ง

24/1/2558

มีเหตุต้องไปร่วมงานที่จังหวัดร้อยเอ็ดค่ะ เลยถือโอกาสไปเยี่ยมญาติๆที่ย้ายไปอยู่ขอนแก่นและอุดรด้วยเลย เลือกไปหางแดงไฟลท์เย็นได้ราคาถูกหน่อย บินภายในประเทศแค่หนึ่งชั่วโมงเลยเอาราคาเป็นที่ตั้งค่ะ (ตอนนั้นยังใช้อาคารผู้โดยสารหลังเก่าอยู่เลย)

มื้อเย็นนึกอยากทานจิ้มจุ่ม อยู่กรุงเทพไม่เคยได้ทานนานแล้ว มีร้านจิ้มจุ่มอยู่แถวบ้านกอกอยู่ซ้ายมือก่อนถึงไอยริศบูทีค รีสอร์ท เป็นร้านที่มีคนท้องถิ่นมาทานเยอะเชียว ปากเป็ดทอดอร่อยมาก เราเลือกมาพักแถวนี้เพราะไม่ไกลจากบ้านน้าและก็ห้องพักราคาหลักร้อยเท่านั้น ย่านนี้มีตัวเลือกเยอะราคาไม่ต่างกันมาก 

ตอนเช้ารีบออกแต่เช้าขับรถมุ่งหน้าจังหวัดร้อยเอ็ด ถนนระหว่างจังหวัดดีมาก หลังจากเสร็จจากงานขากลับรีบไปที่นี่เลยค่ะ เพราะหาข้อมูลมาแล้วเป็นสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจมากและอยู่บนเส้นทางของเราพอดี

ปรางค์กู่หรือปราสาทหนองกู่ เป็นปราสาทแบบขอมอยู่อ.ธวัชบุรีบนเส้นร้อยเอ็ด-โพนทอง อยู่ห่างจากเส้นถนนใหญ่เข้าไปไม่ลึกค่ะ ปรางค์กู่ตั้งอยู่ในวัดชื่อ"วัดศรีรัตนาราม" ชุมชนหมู่บ้านตั้งอยู่รอบๆวัดตามแบบฉบับวิถีไทย

 สามารถขับรถเข้าไปได้อย่างใกล้เลยค่ะ ทางวัดได้ดูแลบริเวณพื้นที่รอบๆไว้ดีดูสะอาดและสงบร่มรื่นดีค่ะ  

จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ยุคโรมัน เอ๊ย....ไม่ใช่ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ดูได้จากหลักฐานโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบได้ในที่ต่างๆทั่วทุกอำเภอ ทำไมถึงชื่อจังหวัดร้อยเอ็ด ก็เพราะมีปรากฎชื่อในตำนานอุรังคธาตุว่า สาเกตนครหรือ เมืองร้อยเอ็จประตู (ไปหาอ่านต่อที่วิกิพีเดียได้นะคะ)

ซุ้มประตูทางเข้าเป็นแท่งหินขนาดใหญ่วางอยู่บนเสาหินขนาดใหญ่เช่นกัน แค่เห็นหินแต่ละก้อนที่นำมาสร้างปราสาท และนึกถึงอายุของมันก็ทึ่งแล้วค่ะ ต้องมีอายุราวๆเจ็ดร้อยกว่าปี (ถึงแม้ว่าบางส่วนจะผ่านการบูรณะมาแล้ว)

ซุ้มประตูทางเข้าหรือเรียกว่าโคปุระ จะเห็นว่าเสาประตูซ้ายขวาสีไม่เหมือนกันเพราะผ่านการบูรณะมาแล้ว

 ทับหลังสลักเป็นรูปคนขี่หลังช้าง (พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ)ซึ่งกรมศิลปากรได้บูรณะในปี 2534 ลวดลายดูเรียบง่าย ไม่วิจิตรบรรจงมากนัก

สามารถมองเห็นร่องรอยการบูรณะโบราณสถาน

ได้อย่างชัดเจน 

ปรางค์กู่หรือปราสาทกู่ จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นโบราณสถานที่ทำให้เรารู้ว่า อิทธิพลของขอมเคยมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากทที่สุดได้แผ่ขยายอิทธิพลอารยธรรมถึงถิ่นนี้ 

การสร้างปราสาทของกษัตริย์ของขอมก็คงเปรียบเสมือนการสร้างวัดในศาสนาพุทธเพียงแต่ต่างกันที่ศาสนา ต่างกันที่ความเชื่อความศรัทธา

 ขับรถขากลับเจอรถบรรทุกอ้อยรอเข้าคิวส่งอ้อยเข้าสู่โกดังรับซื้อ นึกไปถึงแท๊กซี่ต่อคิวรอเติมแก๊สในกรุงเทพ

จากร้อยเอ็ดขับยาวไปอุดรค่ะ นัดทานมื้อเย็นกับญาติๆ ที่เก่าร้านประจำค่ะ "ครัวคุณนิด"ทานอาหารอีสานรสเด็ดถูกใจถูกปากค่ะ

พบกันใหม่บล๊อกหน้านะคะ

ขอบคุณที่ร่วมติดตามนะคะ

สวัสดีค่ะ