ไหว้พระ เที่ยวทะเล พักปึกเตียนคาบาน่าบีชรีสอร์ทดีกว่าที่คิด

วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2553

6.00รวมครอบครัวมินิ(คนว่างวันนี้)เรา แม่ น้าอ๋อย หลานสองน้องบี ดิฐ เด็กข้างบ้านหนึ่งชื่อไจแอนท์ รวมเป็นหกคนพากันอัดกันเข้าไปในรถคันเล็ก เพราะว่าคุณแฟนไม่ได้ไปติดภารกิจพวกเราก็เลยลุยขับรถไปกันเอง ออกเดินทางกันแต่เช้าจากย่านรามคำแหงขึ้นทางด่วนพระรามเก้ามุ่งหน้าดาวคะนองและไปลงพระราม2 ค่อยๆขับมาไม่รีบชิลล์ ชิลล์ ออกเช้าๆวันนี้ดี๊ ดี อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่

7.30เลี้ยวซ้ายจากถนนหลักเข้าตลาดแม่กลอง จ.สมุทรสงครามไปแวะไหว้พระกันก่อนที่แรก"วัดเพชรสมุทร" เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม มาถึงที่วัดกันแต่เช้าก็ดีค่ะคนยังไม่ค่อยเยอะ แบบสบายๆ



หลวงพ่อบ้านแหลมเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ชาวสมุทรสงครามและชาวพุทธศาสนิกชนเคารพสักการะพระพุทธรูปองค์นี้กันมาหลายชั่วคน หลวงพ่อบ้านแหลม จึงเป็นเสมือนเจ้าพ่อหลักเมือง หรือเทวดาประจำเมืองสมุทรสงครามก็ว่าได้ และถ้าจะว่าไปแล้ว หลวงพ่อบ้านแหลม ก็มีประวัติและความเป็นมาคู่กับเมืองสมุทรสงครามเลยทีเดียว ถ้าใครไปถึงเมืองสมุทรสงครามแล้วไม่ได้ไปนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม ก็เหมือนหนึ่งไม่ได้ไปเมืองสมุทรสงคราม พวกเราก็จะพลาดได้ไง



องค์หลวงพ่อบ้านแหลมเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ปางอุ้มบาตร ขนาดสูงแต่ปลายนิ้วพระบาทถึงยอดพระเกศมาลา 167 ซม. คือเท่าขนาดคนธรรมดานี่เอง ฐานพระบาทสูง 45 ซม. เป็นพระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยา ลักษณะเด่นเป็นพิเศษ คือพระพักตร์งดงามเหมือนพระพักตร์เทพบุตร มีคนกล่าวว่าหลวงพ่อเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีพระพักตร์เป็นเทวดานี่เอง เทวดาจึงมาสิงสถิตรักษาองค์หลวงพ่ออยู่ให้เป็นพระศักดิ์สิทธิ์



แม่เรามาที่นี่มาหลายครั้งแล้ว แม่บอกว่าถ้าเป็นช่วงเทศกาลคนจะเยอะและแน่นมาก จะขึ้นมาปิดทองข้างบนนี้จะยากลำบากมาก วันนี้พวกเรามากันแต่เช้าเลยถือว่าโชคดีที่ได้ปิดทององค์ท่านและคนยังไม่มาก



พาเด็กๆใส่ ซองทำบุญถวายวัดกัน ต่างคนต่างเขียนชื่อของตัวเอง ปลูกฝังครั้งละเล็กละน้อยให้เค้าศรัทธาในพุทธศาสนา



เริ่มหิวกันแล้วล่ะ(ก็ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน)ไปที่ลานจอดรถมีเจ้าหนึ่งขายมันฝรั่งทอด แปลกดีแฮะเลยลองซื้อชิม เข้าท่าทีเดียวไอเดียดีค่ัะ ไม้ละสิบบาท และก็มีผงท็อปปิ้งหน้าต่างๆให้เลือกโรยว่าจะเอารสชาดอะไรเช่น ปาปริก้า หรือ ชีส เป็นต้นเราก็เลยเลือกรสชีสให้เด็ก แม่พยายามสอดแทรกนิดหนึ่ง"ดูสิ พี่เค้ายังมาช่วยพ่อแม่ขายของเลย" แม่ชอบสอดแทรกเสมอค่า



9.30พากันมาถึงถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวก นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะเชียว



เราไม่เคยมาตลาดน้ำนี่หลอกค่ะแต่แม่เคยมาก็เลยแวะพาเด็กๆมาเที่ยวกันหาก๋วยเตี๋ยวกินรองท้องกันก่อน ว่าแต่....ลืมหาข้อมูลมาว่าเจ้าไหนอร่อยเดินดูไปเรื่อยๆก่อนละกัน





ของซื้อของขายเยอะไปหมด ไอ้นั่นก็น่ากินไอ้นี่ก็น่ากิน วุ้ย... ละลานตากินขนมครกโบราณก่อน (ก็ขนมครกแหละแต่เพิ่มคำว่าโบราณเข้าไปจะดูน่ากินขึ้น หุ หุ)



ไม่ได้ล่องเรือเพราะแม่ไม่สนับสนุน พวกเราก็เลยเดินชมตลาดหาก๋วยเตี๋ยวกินกันก๋วยเตี๋ยวแถวนี้ขายไม่แพงชามละยี่สิบบาท เส้นเหนียว ดีนั่งกินกันริมน้ำนี่แหละคนเดินไปมาขวักไขว่ก็เป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง ข้างๆร้านก่วยเตียวก็มีขนมกุยช่ายทอดโบราณ(เจ้านี้คนขายทำให้ขนมกุยช่ายดูขลังและเป็นโบราณของแท้)



ส่วนคุณศรีนวล ก็เพลิดเพลินกับการได้เลือกมะม่วงและผลไม้



ผลไม้แถวนี้น่าซื้อมากค่ะเพราะสด สวย และราคาไม่แพงอุดหนุนชาวสวน กระจายรายได้(มานึกได้ที่หลังว่าน่าจะซื้อกล้วยมาด้วยและก็ให้ลิงที่เขาวัง ตอนนั้นไม่ได่ซื้อเพราะคิดแต่ว่ากลับพรุ่งนี้กลัวกล้วยจะช้ำก่อน)



11.00ถึงวัดมหาธาตุ จ.เพชรบุรี ไหว้พระแห่งที่สอง (จริงๆถ้ามาเองคงจะไหว้ให้ครบเก้าวัดแต่แค่วัดที่สองเด็กก็ร้องจะเล่นน้ำกันแล้ว)ภายในพระวิหารหลวงของวัดประดิษฐานพระพุทธรุปสำคัญ คือ "หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุ"



วัดนี้ก็เป็นวัดที่เเก่าแก่มากอีกวัดหนึ่งสันนิษฐานว่าจะสร้างในสมัยทวารดี-สุโขทัยมีอายุราว 800 - 1,000 ปี



โดยประมาณอายุจากหลักฐานที่คงเหลืออยู่ภายในวัดและจากการขุดพบซากอิฐสมัยทวารวดีซึ่งพบอยู่เป็นจำนวนมาก

ภายในพระวิหารหลวงผนังทุกด้านมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ทั้งภาพชาดก และเทพชุมนุม





ที่หน้าบันประดับด้วยลาย ปูนปั้น รูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค มีพยาวานรแบกครุฑ อยู่อีกชั้นหนึ่ง พื้นหลังเป็นลายกนก ก้านขดออกช่อลายหางโต เป็นรูปครุฑ นาค ยักษ์ ฯลฯ วิจิตรงดงามมากเค้าว่านี่แหละฝีมือช่างสกุลเพชร





วัดมหาธาตุวรวิหาร มีพระปรางค์ 5 ยอด เป็นสัญลักษณ์ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุมาตั้งแต่อดีตกาล





พระวิหารน้อย เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา ฐานอ่อนโค้งทรงสำเภา ตั้งอยู่ระหว่างพระวิหารหลวงกับพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่ออู่ทอง ศิลปะแบบอู่ทอง ปางมารวิชัย ที่ฐานมีลายปูนปั้น ประดับกระจกสวยสดงดงาม







ออกจากวัดมหาธาตุจะไปเที่ยวเขาวังต่อแต่เนื่องจากอากาศร้ิอนมากๆในตอนนั้นขับขึ้นไปแล้วก็งง ทำไมไม่มีคนอื่นๆเลย สงสัยว่าจะร้อน ก็เลยยกโปรแกรมนี้ออก(ควรจะไปเที่ยวเขาวังช่วงบ่ายๆมากกว่าจะได้ไม่ร้อนมาก)

12.30 ไปไหว้พระนอน หรือ วัดพระพุทธไสยาสน์ อยู่ใกล้ๆกับทางขึ้นเขาวังเป็นวัดเก่าแก่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาซึ่งมีพระพุทธไสยาสน์ก่ออิฐถือ ปูน ยาว 21 วา 1 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว



เดิมสร้างไว้กลางแจ้ง ต่อมาสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างหลังคาคลุมไว้



พร้อมทำผนังรอบองค์พระ เป็นลักษณะวิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่สวยงามและติดอันดับพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย





ด้านขวาของทางขึ้นวิหารพระนอนมีวิหารหลังเล็กสร้างครอบ ภาพองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าบนผนังของภูเขาและพระบรมสารีริกธาตุ ข้างในเงียบสงบมากแม่ขอนั่งสมาธิในนี้สิบนาที





13.30 กินอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารทะเลทางเข้าหาดปึกเตียน ตั้งใจว่าจะไปกินร้านคุณแอ๊ว ที่เพื่อนๆในบล๊อกบอกว่าอร่อย เดินเข้าไป โอ้ แม่เจ้า วนหนึ่งรอบแล้ว ไม่ปรากฏว่าจะมีโต๊ะไหนๆว่างให้ครอบครัวเรานั่งเลย ไม่เป็นไรข้ามฝากไปกินร้านตรงข้ามก็ได้เด็กๆและผู้ใหญ่ด้วยหิวกันแล้ว "ร้านทองย้อย" อาจจะเหมือนร้านเราที่เคนเจ๊งมาเพราะไม่มีคนมานั่งกิน อร่อย แต่ไม่มีใครมากิน ฮะ ฮ่า



เข้าไปนั่งช่วงแรกๆคนก็ยังไม่ค่อยเยอะแฮะ พอหลังจากนั้นซักพักคนก็แน่นเต็มร้านเช่นกัน(วันนี้วันอาทิตย์นะเนี่ยะ)



ร้านทองย้อยอาหารทะเล ร้านนั่งสบายเพราะโปร่งหลังคาสูงกว่า อาหารทะเลสดดีค่ะ มีสัตว์ทะเลให้เลือกอยู่หน้าร้านแต่เราขอให้คนอื่นเป็นผู้กำหนดชะตาสัตว์เหล่านั้นแทน อาหารรสชาดบางอย่างอร่อย บางอย่างเฉยๆ จะออกแนวชาวบ้านหน่อย เมนูแนะนำกุ้งเผา กับ ปลาดุกผัดฉ่า ต้มยำโอเคพอได้ ถ้าใครชอบข้าวผัดแบบร่วนซุยที่นี่ไม่ใช่จะเป็นแบบแฉะๆแบบชาวบ้านหน่อย แต่อาหารที่นี่ราคาไม่แพงค่ะบ้านเราสั่ง ปลาดุกผัดฉ่า ปลาหมึกทอดกระเทียม ปูม้านึ่งโลหนึ่ง กุ้งเผาโลหนึ่ง ข้าวผัดปูจานกลาง ต้มยำรวมมิตรใหญ่ หอยแครงลวก ข้าวหนึ่งโถ เครื่องดื่มมีน้ำเปล่าและเป๊บซี่ลิตร ทั้งหมด หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน ออกบิลให้เสร็จ



15.30 ถึงแล้วที่พักวันนี้ เย้.. เย.. ปึกเตียนคาบาน่าบีช ซื้อมาจากงานไทยเที่ยวไทย ใบละ 1450 บาทซื้อมาสองใบ2900 รีสอร์ทน่ารักทีเดียวค่ะถ้าเทียบกับราคานี้ถือว่าค่อนข้างถูกเรียกได้ว่าคุ้มค่านะคะ แน่ะมาถึงมี welcome drink ซะด้วยเป็นน้ำตาลสดแช่น้ำแข็งเย็นชื่นใจ



ห้องพักโอเคมาก ใช้คูปองสองใบ ทางรีสอร์ทเลยจัดให้หนึ่งหลังเปิดประตูทะลุกันได้ ห้องมีการตบแต่งใหม่ ห้องน้ำสะอาดมาก แอร์เย็น ราคานี้ถือว่าคุ้มเชียว





16.30หลังจากเอาข้าวของไปเก็บกันเรียบร้อยแล้ว ก็พาเด็กๆไปเล่นน้ำกันที่สระของรีสอร์ท ส่วนผู้ใหญ่ก็นั่งเม้า ชิลล์ กันไป (ใช่แล้วสระว่ายน้ำที่นี่เล็กไปหน่อย)





หน้าหาดของรีสอร์ท เป็นหาดที่มีแนวกำแพงโขดหินเอาไว้รับลมทะเลอย่างเดียวแต่ถ้าอยากเล่นน้ำหรือเดินเล่นชายหาดก็เดินไปไม่ไกลและผู้คนไม่พลุกพล่าน



แม่กับลูก (คู่หูคู่ฮา)



คุณศรีนวลขอฉายเดี่ยว



ท่าฮิต" ซารางเฮโย"(แปลว่าฉันรักคุณ) คุณหลานกับเพื่อนคุณหลาน





18.00ขวดนี้สองขวดทำให้ผู้ใหญ่เม้ากันสนุกขึ้น ไม่แพงแต่อร่อย กินง่าย ไม่เปรี้ยวมากไม่เย็นจัดก็ยังกินได้ ซื้อที่ท็อปขวดละสามร้อยกว่าบาท ใครชอบไวน์ขาวลองดูนะ ถ้าไม่อยากกินเบียร์หรืออย่างอื่น





พากันไปเดินเล่นริมชายหาด ดูพระอาทิตย์ตก แต่ไม่ได้ตกฝั่งทะเลนะ โน่นอีกฝั่งหนึ่งโน่น เป็นงั้นไป (ตอนนี้เริ่มแอบคิดถึงคุณแฟนซึ่งจริงๆแล้วก็โทรคุยกันตลอดนั่นแหละ แต่ว่าเสียดายไม่ได้มาด้วยกัน)





19.00 หิวกันอีกแล้วมื้อเย็นนี้บ้านเรามากินที่ร้านอาหารของรีสอร์ตเดินมานิดหน่อยไม่ไกลบรรยากาศดีเชียว อาหารอร่อย เปิดแชมเป็ญกันอีกขวดตบท้าย ทุกคนเฮฮากันดี อ้าวหอมย่าหน่อย เอ้าหอมแม่หน่อย ทุกคนมีความสุขแน่นอนเราย่อมมีความสุุข





บ้านเราสั่ง กุ้งอบวุ้นเส้น ปูม้าผัดพริกเกลือ ปลากระพงทอดน้ำปลา และก็อะไรก็จำไม่ได้แล้วอาหารที่นี่อร่อยและรสชาดดีทีเดียว เมนูแนะนำสั่งปูม้าผัดพริกเกลือค่ะ อร่อยมาก



21.00หลังจากอิ่มและเริ่มจะตึงๆกันแล้ว (เรานะ) ก็กลับสูห้องพักอาบน้ำนอน

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2553

08.30 บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าของรีสอร์ท ก็ถือว่าค่อนข้างดีทีเดียวสำหรับราคานี้ บริเวณที่ใช้กินอาหารเช้า และที่พวกเรากินมื้อเย็นกันเมื่อวานนี้





เอ้า....เร็ว พวกเรา ตามธรรมเนียมต้องถ่ายรูปที่จุดนี้ จุดฮิต ของที่นี้จ้ะ ทุกคนยิ้ม



9.30 กลับมาที่สระว่ายน้ำอีกครั้งตามคำร้องขอของพวกเด็กๆเค้าบอกว่าเมื่อวานนัดเพื่อนไว้คนหนึ่งที่นี่ แน่ะแอบไปนัดกันตั้งแต่เมื่อไหร่กันเจ้าเด็กเก้าขวบสองคนนี้ พอไปถึงสระว่ายน้ำก็เจอน้องคนหนึ่งเล่นน้ำรออยู่จริงแฮะ เลยปล่อยให้เล่นน้ำกันอีกสักพัก



11.00ถึงร้าน"ครัวคุณแอ๊ว"เมื่อวานไม่ได้กินคนเต็มร้าน มาใหม่วันนี้ก็ได้ เย้...วันนี้ไม่มีคนเลย ก็ร้านเค้าเพิ่งเปิดนิ วันนี้เลยมาประเดิมให้เป็นโต๊ะแรกเลยค่า







ที่จอดรถเมื่อวานตรงนี่ไม่มีที่ว่าง แต่วันนี้ ตอนนี้มีที่ให้ทุกคนเลือกตามสบาย



อ่านจากบล็อกใครจำไม่ได้เห็นเค้าถ่ายถ้วยน้ำจิ้มมาให้ดู ก็ถ่ายตามเค้าบ้าง อ้อ...อ๋อ..อยากจะบอกว่าน้ำจิ้มร้านทองย้อยเมื่อวานจะออกหวานหน่อยแต่เราก็ว่าอร่อย..มันก็จะเป็นอีกรสชาติหนึ่งคือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว..อร่อยแบบหวานนิดหนึ่ง กินได้อร่อย รสชาติน้ำจิ้มร้านนี้ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่งเช่นกัน แล้วอะไรที่ทำมาจากธรรมชาติจะให้มันเป๊ะคงอยากเหมือนกัน



วันนี้สั่ง กุ้งเผาโลหนึ่ง(กุ้งแชบ๊วย) ปูม้านึ่งโลหนึ่ง ปลากระพงทอดน้ำปลา ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว เช็คบิลก็ประมาณพันห้าเหมือนกัน กุ้งเผาสด (นึกขึ้นมาแล้วหิว อยากกิน)แต่มีเมนูแนะนำที่นึกแล้วอยากกินอีก ซี๊ด...ปลาหมึกนึ่งมะนาวค่ะ เป็นปลาหมึกตัวเล็กๆแต่ว่ามีไข่เต็มท้อง แซ่บเปรี้ยวมากๆ



12.00ออกจากร้านคุณแอ๊วกลับสู่กรุงเทพ แม่บอกว่างานนี้ไม่หลงไม่ใช่เรา เค้าให้เลี้ยวซ้ายสู่ถนนหลัก ดั๊นมีป้ายบอกมากรุงเทพเหมือนกัน เราก็เลยวิ่งเลาะนาเกลือไล่มาเรื่อย ได้วิวแปลกๆดีเหมือนกันไม่เคยเห็นมาก่อนมีแต่ทุ่งนาเกลือ นาเกลือ วิ่งมาเรื่อย ทางก็ใช้ได้แต่ว่ายังไม่สมบูรณ์ มีครั้งหนึ่งต้องข้ามสะพานไม้ แวบแรกคิดว่าถ้าวิ่งข้ามไปแล้วสะพานมันยุบลงไปแบบในหนังจะทำไงดียังไม่ทันตัดสินใจ กระบะคันหลังก็มาจ่อตูด เอาวะข้ามมาโดยสวัสดิภาพ รู้แล้วล่ะว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีคนวิ่งก็โค้งเยอะมากๆ แต่ก็ดีตรงที่รถน้อย มาออกเอาตรงทางที่เกือบถึงวัดวังมะนาว พวกเราก็เลยเข้าใจแล้วว่าใครที่จะไปวัดเขาตะเครานั้นเข้าได้สองทาง

14.15 ถึงบ้านส่งทุกคนถึงบ้านแล้วส่วนเราขอไปทำงานต่อนะคะ

"ความสุขเวลาที่เราอยู่กับครอบครัวมันจะไม่เหมือนกับความสุขที่เราทำอย่างอื่นๆ"

Create Date : 04 เมษายน 2553 Last Update : 15 สิงหาคม 2555 12:25:01 น. Counter : 10756 Pageviews.		17 comments
Share Tweet