ตอนที่ 9 กำจัดคู่แข่งทางความรัก สังหาร วรวุทธ ซะ

………….39


จนกระทั้ง สุดาทิพย์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ พ่อแม่ของเนตรดาว หลังจากที่เธอได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์หัวสีรายหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และหลังจากที่ได้คุย ทำให้สุดาทิพย์ ต้องหวั่นใจมาก เธอคิดว่าช่วงนี้ ควรจะต้องออกห่างจาก เอกวิทย์ ไว้ก่อน เพราะเธอเริ่มที่จะไม่แน่ใจแล้วว่า เอกวิทย์ เป็นคนอย่างไรกันแน่ และต้องการอะไรจากตัวเธอ



ประกอบกับ วรวุทธ นั้นก็เริ่มรู้ตัวเองว่า เขาก็เริ่มที่จะชอบ สุดาทิพย์ เหมือนกัน วรวุทธ จึงรุกเข้าหาสุดาทิพย์ บ่อยมากขึ้น


ด้านเอกวิทย์ เองนั้น ก็เริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นกับ สุดาทิพย์ เมื่อสุดาทิพย์ ไม่ยอมรับโทรศัพท์ จะชวนไปไหนก็อ้างว่า ติดธุระ แอ๊ดอีเมล์ไปหา ก็ไม่ยอมตอบกลับ ซึ่งเอกวิทย์ เข้าใจว่า สุดาทิพย์ กำลังหลบหน้า และกำลังตีตัวออกห่าง ซึ่งเขาก็ไม่ทราบถึงสาเหตุ



เอกวิทย์ จึงได้ให้ทีมนักสืบในองค์กรลับของเขา หาสาเหตุ ซึ่งก็ได้ความว่า พ่อของสุดาทิพย์ นั้นพยายามจะให้ วรวุทธ ลูกชายของ ประธานมานพ เจ้าของ บริษัทจีเทก มาคบเป็นแฟนกับ สุดาทิพย์


และนักสืบของเอกวิทย์ ก็ยังได้รายงานอีกว่า สุดาทิพย์ ได้พยายามสืบข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเอกวิทย์ และได้ไปพบพูดคุยกับ พ่อแม่ของเนตรดาวด้วย


เมื่อเอกวิทย์ ได้เอาเหตุการณ์ต่างๆ มาปะติกปะต่อกันเข้า ก็ทำให้เขารู้ได้ว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำให้เอกวิทย์ กลัวว่าจะต้องสูญเสีย สุดาทิพย์ ไป ทั้งๆที่ยังไม่ทันที่จะได้เริ่มต้น เอกวิทย์ คิดว่าเขาจะต้องทำอะไรซักอย่าง แต่ครั้นจะให้เปิดศึกกับ พ่อของสุดาทิพย์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดมากนัก เพราะพ่อของสุดาทิพย์ เป็นนายทหารใหญ่ แต่เอกวิทย์ คิดว่าคนที่จะเล่นงานได้ง่ายกว่า นั้นก็คือ วรวุทธ คู่แข่งทางธุรกิจที่กำลังเสียเปรียบ เอกวิทย์อยู่นั่นเอง



เอกวิทย์ เริ่มใช้แผนสกปกในการทำธุรกิจ เพื่อที่จะทำลาย บริษัทจีเทก ของ วรวุทธ ทั้งการดึงตัววิศวกรระดับสูง ทั้งการสร้างข่าวโจมตี บริษัทจีเทก แบบเสียๆหายๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการปั่นหุ้นของบริษัทจีเทก ซึ่งเอกวิทย์ เคยปั่นหุ้นของ บริษัทจีเทก จนทำให้ ประธานมานพ พ่อของ วรวุทธ เครียดจากการปั่นหุ้นในครั้งนั้น จนเส้นเลือดในสมองแตก และเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว และยังมีวิธีการสกปรกๆอีกมากมาย ที่เอกวิทย์ งัดออกมาใช้ในครั้งนี้ ชนิดที่เรียกได้ว่า เต็มสูบเลยที่เดียว

.............40


และในตอนเย็นของวันหนึ่ง ณ ชั้นดาดฟ้า ของตึก บริษัทเอเอเอส ที่แสนจะยิ่งใหญ่ เอกวิทย์ ในฐานนะประธาน และ ชัยโรจน์ ในฐานนะรองประธาน ก็ได้มาคุยกัน


" ถ้าทำแบบนี้ บริษัทจีเทก อาจขาดทุนมากนะเพื่อน " ชัยโรจน์พูดขึ้นมา


" ก็นั่นแหละที่ต้องการละไอชัย ซ้ำคน มันต้องซ้ำให้ตายวะเพื่อน ฮ่าๆๆๆ "


" ...................." คำพูดประโยคนั้น เล่นเอา ชัยโรจน์ พูดไม่ออก จากนั้นเอกวิทย์ก็พูดต่อ


" ถ้า บริษัทจีเทก มันล้ม เราก็จะหมดคู่แข่ง ไม่ดีเหรอไงวะ " เอกวิทย์ พูดเสริมอีก


" แต่ วรวุทธ ประธานบริษัทจีเทกคนปัจจุบัน มันก็ไม่โง่นะเพื่อน กินมันยาก "
" ก็ใช่ เลยบอกแล้วไง ว่าตอนนี้เราได้เปรียบ ก็ต้องซ้ำ ให้มันเจ๊งไป เลย ฮ่าๆๆๆ"


ชัยโรจน์ เมื่อได้ยินดังนั้น จึงทำหน้ามุ้ย ก่อนตอบไปแบบฮวนๆว่า


" งั้นก็แล้วแต่มิงแล้วกัน "


"ไอ้นั้นมันแน่อยู่แล้ว ฮ่าๆๆ สะใจจริงจริ๊ง เล่นกับใครไม่เล่น ดันมาแย่ง น้องดา กับกุ "


“เรื่องน้องดา นะชั่งมิงแล้วกัน เออ ไอ้วิทย์ ขอร้องได้ไหม เลิกจีบหญิง แล้วฟันแบบทิ้งๆขว้างๆซะที”


“ทำไม อิฉาเหรอ”


“ฮ่าๆๆ ไม่อิฉาเลยซักนิด ถ้ากุจีบหญิงนะ รับรองติดชัวร์ ไม่มีวันที่ หญิงจะมาหักอกกุได้หรอก กุมันเทพวะ ฮ่าๆๆๆ”


“อ๋อเหรอ”


“ใช่ กุมีแต่จะหักอกหญิง ไม่มีวันที่หญิง จะมาหักอกกุหรอก ฮ่าๆๆ”
............41


“อ๋อเหรอ แล้วกุจะค่อยดู”


ในวันรุ่งขึ้น ณ ห้องทำงานของผู้บริหาร บริษัทจีเทก สำนักงานใหญ่


" เจิ๊ดดดดด.......ไมมันทำงี้วะ!!"


เสียงของ วรวุทธ ประธาน บริษัทจีเทก หลังจากได้อ่านเอกสารฉบับหนึ่ง และขว้างลงกับโต๊ะทำงาน อย่างแรง จากนั้น วรวุทธ จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารด่วน


ด้านเลขาหน้าห้อง ก็ตกใจอย่างมากที่เห็น ประธานวรวุทธ พูดคำว่า เจิ๊ดดดดดด และขว้างเอกสารแผ่นนั้นลงบนโต๊ะ แต่เธอก็ยังคงไม่เข้าใจความหมายของคำว่า เจิ๊ดดดดด อยู่ดี แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามประธานโดยตรง


แต่ก็ด้วยความอยากรู้ เธอจึงตัดสินใจ ทำใจกล้าที่จะถาม ในขณะที่ ประธานวรวุทธ กำลังเดินไปห้องประชุมใหญ่ ด้วยความหงุดหงิด ความว่า


" เออ......ท่านประธานค่ะ "


" อะไร!! " ประธานวุรวุทธ หันมาแล้วทำหน้าหงุดงิด


" เออ.....คำว่า เจิ๊ดดด หมายความว่าอะไรเหรอค่ะ "


"จะไปรู้เร๊อะ!! เห็นเด็กแถวบ้านมันชอบพูดกัน " วรวุทธ ตอบแล้วก็รีบเดินไปห้องประชุม


" ค่ะ " T-T



ณ ห้องประชุมใหญ่ บริษัทจีเทก วรวุทธ ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ระดมสมอง เพื่อแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งวรวุทธได้กล่าวต่อที่ประชุม ความว่า

.............42


" ขณะนี้ บริษัทเอเอเอส ได้ประกาศ เพิ่มเงินเดือน ให้กับวิศวกร กับช่างเทคนิค และยังได้ประกาศจะให้เงินโบนัสแรกเข้าจำนวนมาก ถ้าวิศวกร และช่างเทคนิคคนนั้นมาจาก บริษัทจีเทก และวันนี้ก็เป็นไปตามคาด มีช่างเทคนิค ไม่มาทำงานจำนวนหนึ่ง ซึ่งพวกเขา อาจจะไปอยู่กับ บริษัมเอเอเอส ก็เป็นไปได้ อีกทั้งยังปล่อยข่าวลือต่างๆสร้างความเสียหาย ให้กับบริษัทของเราอย่างร้ายแรง เพื่อเป็นการปั่นหุ้นให้หุ้นของเรา ราคาตกลงไปอย่างรุนแรง นี้แสดงให้เห็นว่า เออเอส เล่นเกมส์ธุรกิจ ที่มุ่งทำลายเราโดยเฉพาะ วันนี้ พวกเราในฐานะบอร์ดผู้บริหาร ต้องระดมสมอง เพื่อแก้วิกิฦติ ครั้งนี้ให้ผ่านไปได้ อีกครั้ง "




และแล้ว การประชุมในวันนั้น ก็ล่วงเลยไปจนค่ำ แต่ก็ยังไม่พบทางออก เพราะครั้งนี้ เอกวิทย์ประธานเอเอเอส เล่นแรงกว่าหลายๆครั้งที่ผ่านมา



อีกทั้ง วรวุทธ ได้สั่งให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าให้ ประธานมานพ พ่อของวรวุทธ รู้เรื่องนี้เป็นอันขาด เพราะจากการปั่นหุ้นของ เอกวิทย์ ในครั้งก่อน ก็ทำให้ ประธานมานพ เครียดจัด จนเส้นเลือดในสมองแตก จนต้องเข้าโรงพยาบาล หากว่าประธานมานพ ได้รับรู้ข่าววิกฤติของ บริษัทจีเทก อีกในครั้งนี้ เกรงว่า ประธานมานพ จะรับเรื่องนี้ไม่ไหว



และแล้วว่ากันว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั้น” แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่อยากลำบากมากสำหรับ วรวุทธ แต่เขาก็สามารถแก้ไขมันไปได้ชั่วคราว โดยการเพิ่มเงินเดือนให้วิศวกรระดับสูง แม้ว่าฐานนะทางการเงินของ บริษัทจีเทก อาจจะไม่ค่อยดีนัก รวมทั้งการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับ ผู้ถือหุ้นบริษัทจีเทก ได้รู้ เพื่อไม่ให้หุ้นตก จากกระดานซื้อขายมากเกินไป



สำหรับ วรวุทธ ที่ต้องต่อสู้กับ เอกวิทย์ ในเรื่องราวของธุรกิจ ที่เอกวิทย์ ใช้แผนสกปกต่างๆนานา จนทำให้พ่อของวรวุทธ คือท่าน ประธานมานพ ต้องเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาลไป นั้นได้สร้างความเจ็บปวดในหัวใจให้กับ วรวุทธ เป็นอย่างมาก



ส่วนเอกวิทย์ เมื่อได้รู้ว่า วรวุทธ สามารถได้แก้ไขสถานการณ์ในครั้งนี้ได้ ก็รู้สึกไม่สบายใจในเรื่องราวทางความรักเป็นอย่างยิ่ง เพราะ เอกวิทย์ กลัวว่าจะสูญเสีย สุดาทิพย์ ไป เนื่องจากนักสืบ ในองค์กรลับ ของเอกวิทย์ ได้รายงานว่า สุดาทิพย์ กำลังมีใจให้กับ วรวุทธ และอาจจะกำลังมีการแต่งงานเกิดขึ้นในอีกไม่นาน โดยการสนับสนุนอย่างแข็งขัน จาก ผบ.ทบ. พ่อของสุดาทิพย์นั่นเอง

.............43


และจากคำกล่าวที่ว่า “ความรักทำให้คนตาบอด” ทำให้ เอกวิทย์ จึงคิดกำจัด วรวุทธ ให้พ้นทางความรักของเขาไปให้เร็วที่สุด ซึ่งความคิดที่ขาดสติที่สุดในชีวิตของ เอกวิทย์ นั่นก็คือ การส่งมือปืนไปลอบสังหาร วรวุทธ ซึ่งมือปืนนั้นไม่ยอมทำให้ในตอนแรก เนื่องจากมือปืนรู้ว่า วรวุทธ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่ เอกวิทย์ ก็ได้ให้ค่าตอบแทนที่สูงมากเกินกว่าที่มือปืนจะต้านทานไหว มือปืนบอกกับ เอกวิทย์ ว่าจะหนีออกนอกประเทศให้เร็วที่สุด เมื่องานทำงานเสร็จ



ผลของการลอบสังหารในครั้งนี้ เป็นผลให้ วรวุทธ ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ทว่าคนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากที่สุดกลับกลายเป็น ท่านประธานมานพ ที่ได้ทราบข่าวว่าลูกชายคนเดียวของตัวเอง ถูกยิงอาการสาหัส โอกาสรอดเป็นตายเท่ากัน



ทั้งๆที่ ประธานมานพ ยังไม่หายดีจากอาการล้มป่วย จากความเครียดเมื่อครั้งที่แล้ว กลับต้องมาเจอเรื่องนี้อีก ประธานมานพ จึงอาการหนักขึ้นอีก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่ วรวุทธ เองก็ไม่รู้เลยว่าพ่อของตัวเองได้เสียชีวิตลงแล้ว เนื่องจากว่าตัวเองก็ถูกยิงอาการสาหัส และนอนอยู่ในห้องไอซียูเช่นกัน



ส่วนมือปืน หลังจากทำงานเสร็จ ก็รีบหนีออกนอกประเทศโดยเร็วที่สุด โดยไม่ได้รอให้ วรวุทธ นั้นเสียชีวิตก่อน เนื่องจากมือปืน ถูกคนกลุ่มหนึ่ง ติดตามอย่างกระชั้นชิด ซึ่งคนกลุ่มนั้นก็คือ คนของ ผบ.ทบ. พ่อของสุดาทิพย์ นั้นเอง เนื่องจากคนของ ผบ.ทบ. ได้ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ เอกวิทย์ มาโดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพราะองค์กรลับของ เอกวิทย์ น่ากลัวจริงๆ แต่จนแล้วจนรอด มือปืนก็สามารถหนีออกนอกประเทศผ่านชายแดนไทยออกไปจนได้



หลักฐานต่างๆ ที่คนของ ผบ.ทบ. พ่อของสุดาทิพย์ รวบรวมมาได้นั้น เป็นหลักฐานความเป็นไปได้ว่าเอกวิทย์ เป็นผู้สั่งการ แต่ก็เป็นหลักฐานที่ค่อนข้างอ่อนไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า เอกวิทย์เป็นผู้สั่งการจริง



ส่วนสุดาทิพย์ นั้นเมื่อได้รู้ว่า วรวุทธ ถูกยิงอาการสาหัส เธอเสียใจมาก และจากข้อมูลที่พอจะเชื่อได้ว่า เอกวิทย์ เป็นคนสั่งการ แม้จะเป็นหลักฐานอ่อนก็ตาม เธอจึงไปคาดคั้นเอาคำตอบจาก เอกวิทย์ แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อว่า เอกวิทย์ จะเป็นคนทำจริงก็ตาม



หลังจากที่ สุดาทิพย์ คาดคั้นหาคำตอบจาก เอกวิทย์ จนเธอต้องทะเลาะกับ เอกวิทย์ อย่างรุนแรง และ ประโยคสุดท้ายที่ เอกวิทย์ ได้ยินจากปากของ สุดาทิพย์ ก็คือ เธอตกลงที่จะแต่งงานกับ วรวุทธ ไม่ว่า วรวุทธ จะเป็นหรือตาย


..................44


ประโยคนั้นทำให้ เอกวิทย์ เสียใจมาก เขาไม่รู้ว่า เขาได้ทำอะไรลงไป เขารู้สึกว่า ตัวเองนั้นโง่ และขาดสติยิ่งนัก และเริ่มที่จะสำนึกผิดในสิ่งต่างๆที่เขาได้ทำมา ถึงแม้ว่า หลักฐานตามกฎหมายจะไม่สามารถเอาผิดเขาได้ก็ตาม เนื่องจาก เขาได้เตรียมแผนการมาเป็นอย่างดี จนไม่สามารถสาวไปถึงผู้บงการได้



ในครั้งนี้ เอกวิทย์ เริ่มรู้สึกตัว และเขาคิดว่ากำลังจะสูญเสีย สุดาทิพย์ ไปจริงๆซะแล้ว เอกวิทย์ ดื่มเหล้าภายในห้องทำงาน ในตึกของ บริษัทเอเอเอส สำนักงานใหญ่ ด้วยความเสียใจ และแล้ว ก็มีเสียงเคาะประตูจากเลขาหน้าห้อง พร้อมส่งจดหมายให้ฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นจดหมายลงทะเบียนจาก สภ.อ. ชะอำ จ.เพชรบุรี



“ก๊อกๆๆ ท่านประธานขออนุญาตค่ะ”


“เข้ามา”


“คือว่า มีจดหมายด่วนลงทะเบียนมาจาก สภ.อ. ชะอำ จ.เพชรบุรี มาถึงท่านประธานค่ะ”


“อืมวางไว้ก่อน แล้วออกไป”


หลังจากที่ เอกวิทย์ ได้อ่านจดหมายฉบับนั้นแล้ว ก็ทำให้เขาร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่เขาได้เคยสัญญากับตัวเองไว้แล้วในวัยเด็กว่า จะไม่ร้องไห้อีก


ซึ่งในเวลานี้ เอกวิทย์ เศร้า และเสียใจอย่างถึงที่สุด หลังจากที่ได้อ่านจดหมายฉบับนั้น ประกอบกับเรื่องคำพูดของ สุดาทิพย์ ผู้หญิง ที่เขารักที่สุดในวันนี้ด้วย เอกวิทย์ จึงเอามือบีบที่จมูก โดยหวังว่า จะทำให้หายใจได้โล่งขึ้น และอาจจะทำให้ จิตใจของเขารู้สึกดีขึ้น ตามคำแนะนำของ ด.ญ.สุดาทิพย์ ในวัยเด็ก ที่ ด.ช.เอกวิทย์ จำฝั่งใจมาก



แต่ทว่า เรื่องหนัก และเรื่องกระทบจิตใจที่สุดทั้ง 2 เรื่องของ เอกวิทย์ ได้เข้ามาในเวลาที่พร้อมๆกัน ดังนั้นคำแนะนำดังกล่าว ของ ด.ญ.สุดาทิพย์ จึงแทบไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย


เอกวิทย์ ดื่มเหล้าจนเมา และเริ่มขาดสติ และเขาคิดว่า จะต้องรีบไปยังสถานที่ที่นั้นให้ได้ จึงได้บอกเลขาให้เตรียมรถให้ และให้เอากุญแจรถไปไว้ที่ล๊อบบี้ของ บริษัทเอเอเอส สำนักงานใหญ่


..........โปรดติดตามตอนต่อไป

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2552		1 comments
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2552 7:51:08 น.
Counter : 926 Pageviews.
Share Tweet