Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 30 เจ้าปีเตอร์ ศัตรูตัวร้ายของฟ้าสวย

.................170


และระหว่างเดินทางกลับกรุงเทพฯ เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ก็ได้พูดคุยกับหมอธีรพลถึงเรื่องราวต่างๆอย่างถูกคอ ทั้งเรื่องราวในอดีต และเรื่องอื่นๆ เพราะทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน จนถึงบ้านฟ้าสวย และส่งฟ้าสวยกลับถึงบ้าน อย่างปลอดภัย


ในเช้าวันต่อมา หมอธีรพลก็มารับเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยอีก ซึ่งหมอธีรพลบอกกับแม่ของฟ้าสวยว่า จะต้องพาฟ้าสวยไปสแกนคลื่นสมอง และตรวจคลื่นหัวใจ ซึ่งแม่ของฟ้าสวยก็อนุญาตตามนั้น


เมื่อสแกนสมองเสร็จ หมอธีรพลก็ค้นพบว่า คลื่นสมองของ เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย นั้นมีการทำงานที่มีความสับสน สัญญาณไฟฟ้าในสมอง มีลักษณะเป็นคลื่นความถี่ที่ค่อนข้างแตกต่างจากคนทั่วไป


อีกทั้งการตรวจคลื่นหัวใจของเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย มีลักษณะที่ ไม่ปกติ กล่าวคือ การเต้นของหัวใจมีลักษณะการเต้นซ้อนกัน ราวกับว่า มีหัวใจอีกดวงที่เต้นอย่างแผ่วเบา และแอบอยู่ในการเต้นของหัวใจอีกดวงที่เต้นดังกว่ามาก หมอธีรพลจึงได้ พูดคุยกับเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ว่า


ณ ห้องตรวจคลื่นสมอง CT Scan โรงพยาบาลศิริราช


“จากการตรวจคลื่นสมอง และคลื่นหัวใจนะครับ ตอนนี้ทำให้ผมเชื่อว่า อาจจะมีการสลับร่างกันจริงครับ” หมอธีรพลพูดขึ้น


“อ้าวไอ้บ้าพล นี้แกยังไม่เชื่ออีกหรือฟ๊ะเนี๊ยะ”


“ไม่ใช่อย่างนั้นครับคุณวิทย์ แต่ผมต้องการตรวจหลักฐานทางการแพทย์เพื่อสรุปก่อนนะครับ”


“ช่างเหอะๆ เรื่องอื่น กุไม่สนใจหรอก กุสนใจอยู่เรื่องเดียวว่า จะมีโอกาสกลับคืนร่างเดิมได้ไหม”


“เรื่องนี้ค่อนข้างตอบยากนะครับคุณวิทย์ ถ้าร่างของคุณวิทย์ ถูกทำลาย หรือเน่าเปื่อยไปแล้วคงลำบากละครับ”


“แต่นี้ร่างของคุณวิทย์ ถูกเก็บรักษาที่อุณหภูมิที่พอเหมาะ และผมก็ได้ขอความอนุเคราะห์ กับทางโรงพยาบาลเพชรบุรีไว้แล้วว่า ให้ช่วยดูแลเรื่องอุณหภูมิในการเก็บรักษาร่างของคุณวิทย์ไว้เป็นอย่างดีแล้วครับ ไม่ต้องเป็นห่วง”

...............171


“นี้แสดงว่า กุจะกลับร่างเดิมได้ใช่มะวะไอ้พล” เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยทำท่าทางตื่นเต้น


“คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ มันคงไม่ง่ายขนาดนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่”


เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยเห็นหมอธีรพลพูดแบบนั้น ทำให้เขาเริ่มเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยจะพูดออกไปว่า


“ เอางี้นะ รู้มาว่า แกต้องการตัวอย่าง คนที่สลับร่างกันจริงๆมาทำการศึกษาไม่ใช่เหรอ”


“เอ๊ะ” หมอธีรพลทำท่าแปลกใจ


“ไม่ต้องมาเอ๊ะ หรอก ก็ตอนวันสัมมนาวิชาการไง แกเป็นคนพูดเองนี้นา”


“ใช่ครับ แต่งานวิจัยชิ้นนั้น ผมไม่ได้ต้องการให้มันเป็นงานวิจัยจริงๆนะครับ แต่เป็นงานวิจัยที่เน้นเรื่องการตั้งคำถามให้คนฟังคิดตาม เพื่อเพิ่มความน่าสนใจเท่านั้นเองครับ ไม่ได้มีเหตุผลอื่น ขนาดตัวผมเองก็ยังไม่คิดว่า จะมีการสลับร่างกันได้จริงๆเลยครับ”


“เอาน่า โอกาสในการศึกษาเรื่องนี้ก็มาแล้วไง และไม่ว่าแกจะคิดยังไงนะไอ้พล เพียงแต่เรา 2 คนช่วยกัน มิงมีความรู้ กุมีตัวอย่างที่จะศึกษาให้ ถ้าเราช่วยกัน กุอาจจะหาทางกลับร่างเดิมได้ ก็ได้นะ”


“....................” หมอธีรพลทำท่าคิดหนัก


“กุจะรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวของฟ้าสวย เช่นอาการแปลกๆ หรือ ความทรงจำ หรือตัวอย่างเลือด จะช่วยเต็มที่เลยวะ ไอ้พล”


“............................”


“เอาน่า ไม่ต้องทำท่าคิดหนักหรอก ถือซะว่าช่วยลูกนกลูกกาก็ได้นะไอ้พล ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวไม่ดีหรือไงฟ๊ะ”


“ยังไงครับ”

.............172


“ก็นกตัวแรก คือ มิงก็ได้ช่วยกุให้หลุดพ้นจากเรื่องบ้าๆนี้ซะที่ ส่วนนกตัวที่ 2 มิงก็ได้งานวิจัยที่ก้องโลก อาจจะดังกว่าไอสไตย์ก็ได้นะ”


“ก็จริงครับคุณวิทย์ แต่ถ้าผมจะช่วยให้คุณวิทย์คืนร่างเดิม ก็คงเป็นเรื่องที่ ผมอยากจะช่วยคุณวิทย์เท่านั้นนะครับ ส่วนเรื่องงานวิจัยจะดังหรือไม่ ผมไม่เคยสนใจครับ แต่สิ่งที่ผมสนใจคือการหาคำตอบ ของคำถามที่ผมอยากรู้เท่านั้นครับ และหากว่า งานวิจัยของผม สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้รู้ด้วย ผมก็จะดีใจมากครับ”


“เออ น่ารู้แล้วๆ ตกลงจะช่วยไหมฟ๊ะเนี๊ยะ ไอ้พล”


“ผมจะให้คำตอบพรุ่งนี้นะครับ ขอศึกษาดูถึงความเป็นไปได้ก่อน แล้วผมจะโทรไปบอกให้ทราบนะครับ”


“เออ ได้ๆ ยังไงๆก็รีบหน่อยแล้วกัน ไม่อยากอยู่ในร่างนี้แล้วจริงๆ ขอบอก”


อีก 2 วันต่อมา หมอธีรพลก็มารับเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยอีกครั้ง และใช้เหตุผลเดิมในการบอกกับแม่ของฟ้าสวย ว่า จะพาฟ้าสวยไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศิริราช


ณ ห้องตรวจคนไข้ โรงพยาบาลศิริราช


หมอธีรพลบอกับเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยว่า อาจมีความเป็นไปได้ ในการสลับร่างคืน แต่มีโอกาสน้อยมากๆ ซึ่งเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยก็ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ว่าจะมีโอกาสน้อยสักเพียงใด เขาก็อยากจะลองดู


หมอธีรพล ได้ขอร้องกับเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยให้ ติดต่อกับหมอธีรพลทุกระยะ หากว่ามีเรื่องที่เกิดขึ้นกับร่างกายของฟ้าสวย เช่น อาการเจ็บปวดตามร่างกาย อาการควบคุมตัวเองไม่ได้ ฯลฯ และเอกวิทย์จะต้องให้ความร่วมมือกับหมอธีรพลทุกอย่าง


เพื่อจะได้ใช้เป็นข้อมูล ในการหาวิธีการที่จะทำให้เอกวิทย์สามารถกลับคืนสู่ร่างเดิมได้ ซึ่งในขณะนี้หมอธีรพลเอง ก็ยังไม่รู้ว่าจะช่วยเอกวิทย์กลับร่างเดิมได้อย่างไร


ดังนั้นจึงจะต้องจดข้อมูลทุกๆอย่าง เกี่ยวกับตัวฟ้าสวย ซึ่งเอกวิทย์จะต้องจดบันทึกทุกอย่าง ทั้งกิจวัตรประจำวัตร ปัญหา อาหารการกิน ทุกๆเรื่อง ส่งให้หมอธีรพล และเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย จะต้องมาพบหมอธีรพลอย่างน้อย สัปดาห์ลง 1 ครั้ง ซึ่งเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยนั้นก็ตกลงรับปาก เพราะเขาเองก็อยากกลับร่างของตัวเองเต็มทนแล้ว

...............173


หมอธีรพล บอกกับ เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยว่า เขาจะเรียกรหัสการศึกษาในรายงาน และเรียกเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยว่า “สิ่งมีชีวิตชนิด C” ตามคำนิยามที่หมอธีรพลเคยบรรยายเอาไว้ในงานสัมมนาครั้งก่อน


แต่ในระหว่างที่จะรอหาวิธีการกลับร่างเดิมนั้น ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะหาเจอหรือไม่ หมอธีรพลจึงได้แนะนำ กับเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยว่า หากต้องไปอยู่ในร่างคนอื่นโดยเฉพาะ หากผู้ชายไปอยู่ในร่างกายของผู้หญิงจะต้องปรับตัวอย่างไร


คำตอบที่เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ได้รับมาจากหมอธีรพลคือ กฎ 3 ข้อของการปรับตัว คือ


1. ปรับตัวให้เคยชินกับสภาพพื้นฐานทางร่างกาย และอารมณ์ที่แปรปรวนแบบผู้หญิง รวมถึงพยาธิสภาพของเจ้าของร่างเดิมด้วย เช่นโรคประจำตัว และความเคยชินต่างๆ


2. ปรับตัวให้เข้ากับสังคมและสถานะทางสังคมของเจ้าของเดิม


3.สภาพความขัดแย้งกันของร่างกายและจิตใจ กล่าวคือ เป็นสภาวะที่จิตใจพยายามที่จะควบคุมร่างกายในกรณีที่จิตใจเข้มแข็งกว่าร่างกาย และในทางตรงกันข้าม ร่างกายก็จะพยายามควบคุมจิตใจเช่นกันในกรณีที่ที่จิตใจอ่อนแอกว่าร่างกาย ซึ่งสภาพวะเช่นนี้หากเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ก็อาจเป็นอันตรายได้ และยากที่จะคาดเดาถึงผลที่จะเกิดขึ้น


เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยนั้น เข้าใจถึงกฎ 2 ข้อแรก แต่ข้อที่ 3 นั้น เขาเองก็ยังไม่เข้าใจมากนัก และเขาก็ได้เขียนกฎทั้ง 3 ข้อแห่งการปรับตัว แปะติดไว้บนฝาห้องนอนฟ้าสวยนั้นเอง เพื่อใช้เป็นสิ่งเตือนสติว่าจะต้องปรับตัวให้เข้ากับร่างกายของฟ้าสวยให้ได้ จนกว่าจะสามารถกลับร่างเดิมได้


แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า หมอธีรพลจะหาวิธีกลับร่างเดิมให้กับเขาได้หรือไม่ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะทำตามคำสัญญาที่เขาได้ให้ไว้กับแม่ของฟ้าสวยหรือไม่


เหตุการณ์ก็เริ่มดำเนินไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่ทว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย เริ่มที่จะมีอาการเจ็บป่วยแบบผู้หญิง คือการมีประจำเดือน และสภาวะทางอารมณ์ บางอย่างที่เอกวิทย์เองก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร จนเอกวิทย์เองก็เริ่มที่จะเป็นกังวลมากขึ้น


เอกวิทย์ต้องปรับตัวให้เข้ากับร่างกายของฟ้าสวยอย่างยากลำบาก อารมณ์แบบผู้หญิงหลายๆอย่างที่เอกวิทย์นั้นไม่เคยเจอมาก่อน

..........174


ในคืนหนึ่งหลังจาก ที่หมอธีรพลพยายามหา วิธีการกลับร่างเดิมให้เอกวิทย์ หมอธีรพล ก็ได้เอาเทปบันทึกวิดีโอ งานบรรยายสัมมนาวิชาการของตัวเอง มาเปิดดู ซึ่งบทบรรยาย กล่าวถึง ประเด่นเรื่อง “โรคความกลัว” ซึ่งเป็นช่วงที่เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยไม่ได้ฟัง เพราะ ออกไปคุยโทรศัพท์คุยกับแม่ของฟ้าสวย นอกห้องสัมมนา ซึ่งในวิดีโอบันทึก หมอธีรพลบรรยายความว่า


“และก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น ก็มีประเด่นที่น่าสนใจอีกหลายประเด่น เช่น โรคประจำตัวบางอย่าง เช่นโรคหัวใจ โรคทาลัสซีเมีย ฯลฯ โรคทางจิต เช่นโรคความกลัว หรือ โฟเบีย (Phobia) เช่นกลัวแมลง กลัวหนู กลัวที่มืด กลัวที่แคบ หรือปฎิกริยารีเฟกเฉพาะ ของร่างกายนางสาว B จะส่งผลอย่างไรต่อจิตใจของนาย A”


“โรคความกลัว หรือ โฟเบีย (Phobia) เป็นโรคทางจิตเวช ลักษณะอาการคือ กลัวบางสิ่งบางอย่างอย่างรุนแรง แบบไร้เหตุผล เช่น กลัวหนู กลัวแมลง กลัวที่แคบ กลัวที่สูง กลัวความมืด ฯลฯ”


“ส่วนสาเหตุของการเกิดโฟเบียนั้น ทางการแพทย์ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า โฟเบียเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ แต่ได้ให้ข้อสังเกตว่า อาจเกิดจากประสบการณ์ฝังใจในวัยเด็ก และฝังอยู่ในส่วนลึกของความทรงจำ”


“และนอกจากนี้ยังพบอีกว่า ผู้ที่มาจากครอบครัวซึ่งมีสมาชิกคนใดคนหนึ่งเป็นโฟเบียจะมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการอย่างเดียวกันมากกว่าคนทั่วไป และอาการโฟเบียนั้นมักจะเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่ในวัยเด็ก”


“ส่วนในทางการรักษานั้น โฟเบียเป็นโรคทางจิตเวช ที่มีความซับซ้อนและเรื้อรัง โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักไม่เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไปรับการรักษา ต่อเมื่อมีอาการกลัวถึงขั้นรุนแรงที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้แล้วนั้นจึงจะมาพบจิตแพทย์ เพื่อทำการบำบัดรักษาอาการทำให้ต้องเสียเวลาในการบำบัดนานขึ้นโดยระยะเวลานั้นก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการนั่นเองด้วยครับ”


“ซึ่งความจริงโฟเบียนั้น นับได้ว่าเป็นโรคเกี่ยวกับความทรงจำที่ฝังลึกในวัยเด็ก จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า หาก นางสาว B มีโรค โฟเบีย ที่ว่านี้ นาย A ที่เข้าไปอยู่ใหม่ จะเกิดอาการ โฟเบีย ไปตามนางสาว B หรือไม่ อย่างไร”


และในค่ำคืนนั้นเอง ในขณะที่ เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย นั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน ภายในห้องนอน และกำลังจะเขียน จดหมาย เพราะเป็นคืนวันศุกร์ ซึ่งจดหมายนี้ เอกวิทย์จะเขียนทุกๆสัปดาห์ เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยก็บ่นออกมา

...............175


“เฮอ วันศุกร์อีกแล้วสิเนี๊ยะ เขียนจดหมายก่อนดีกว่า”


“กริ๊ดดดดดด!!”


ยังไม่ทันจะได้เขียนจดหมาย เอกวิทย์ก็ได้ยินเสียงกริ๊ดดังลั่น ออกมาจากห้องนอนของน้องฟ้าใส ซึ่งเป็นเสียงของน้องฟ้าใส น้องสาววัยเพียง 3 ขวบ ซึ่งเป็นน้องสาวของฟ้าสวยนั้นเอง


จากนั้น ก็ได้ยินเสียงวิ่ง และเปิดประตูเข้ามาดัง ปัง!! นั่นคือ น้องฟ้าใส วิ่งเข้ามากอดเอกวิทย์ไว้แน่ และร้องห่มร้องไห้


“พี่ๆ หนูกลัว ฮื่อๆๆ” น้องฟ้าใส พูดและร้องให้


“กลัวอะไรน้องฟ้าใส”


“แมลงสาปบิน มันบินอยู่ในห้องนอนหนู”


“เหรอ ที่แท้ก็แมลงสาปบินนี้เอง ปะ เดี่ยวพี่จัดการมันเอง”


“มันแอบอยู่ใต้เตียงค่ะพี่”


“ได้ งั้นเราไปจัดการมันเลย แกตายแน่ ไอ้ปีเตอร์”


“เอ๊ะ ใครค่ะพี่ ปีเตอร์”


“อ๋อ มันเป็นศัพท์ทางเทคนิคนะน้องฟ้าใส เอาไว้ใช้เรียกแมลงสาป”


เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ได้อาวุธชิ้นสำคัญ นั้นก็คือ ไม้กวาดอย่างดี และเตรียมบุกเข้าไปหาเจ้าปีเตอร์ ที่บังอาญ มาบินให้น้องฟ้าใสกลัว


เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย กระโดดถีบประตูห้องนอนของน้องฟ้าใส หมายว่า จะสังหารเจ้าปีเตอร์ให้ได้ภายในคืนนี้ แต่ทว่า เจ้าปีเตอร์มันแอบอยู่ที่ไหนละ

............176


“พี่ๆ ระวังนะค่ะ มันน่ากลัวมากเลย” น้องฟ้าใสพูดเตือนด้วยความเป็นห่วง


“ไม่ต้องกลัวหรอก น้องฟ้าใส เจ้าปีเตอร์ มันไม่คารนามือของพี่หรอก ฮ่าๆๆ”


แต่แล้วเมื่อเจ้าปีเตอร์ ได้กลิ่นตัว ของร่างกายของฟ้าสวย เหมือนกับ พวกมันจะรู้ว่า เหยื่อรายนี้เป็นเหยื่อที่คุ้นเคย และ เป็นอาหารอันโอชะ ของพวกมัน และพวกมันก็ตามพรรคพวก แมลงสาป มาอีกหลายตัว


พวกเจ้าปีเตอร์ จ้องมอง เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ราวกับว่า เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน และพวกมันพร้อมที่จะบินพุ่งเข้าชนทันที ทำตัวหยั่งกับเครื่องบินรบญี่ปุ่น กามิกาเซ่ ไม่มีผิด หนวดเรดาร์ของพวกมันส่ายไปมา สายตามองหาเหยือ ปีกกระพรือพร้อมบิน ราวกับว่าซ้อม เพื่อโจมตีในสงครามครั้งใหญ่


ถึงเวลานี้แล้ว เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย กลับรู้สึกแปลกประหลาดมาก นั่น คือ ขาอ่อน ไม่มีแรง ใจเต้นเร็ว ไม่เป็นจังหวะ ตัวสั่น เกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่ เอกวิทย์เอง ก็ไม่ใช่คนที่กลัวแมลงสาปขนาดนี้เลย ถึงเวลานี้แล้ว เอกวิทย์ จะหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะแก๊งค์ปีเตอร์ เริ่มที่จะทำการบุกโจมตี


เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ไม่เข้าใจว่า เหตุใดจึงไม่สามารถควบคุมร่างกายของฟ้าสวยได้ แต่ก็ยังคงควบคุมสติ และสามารถหลบการโจมตีของเหล่าแก๊งค์ปีเตอร์ ได้หลายดอก เจ้าพวกปีเตอร์ บินอย่างรวดเร็ว หยั่งกับเครื่องบินรบขับไล่ JAS-39


แต่แล้ว เจ้าปีเตอร์ตัวใหญ่สุด ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นหัวหน้าใหญ่ ถ้าสังเกตุมันดีๆจะพบว่า มันมีตาเดียว อีกตามันเอาผ้าปิดเอาไว้ แถมมีรอยสักอีกต่างหาก เจ้าหัวหน้าใหญ่ ที่แอบอยู่บนตู้เสื้อผ้า ก็ได้ทำการบินเข้าโจมตี เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยทันที


“เฟี้ยวววว!!”


และด้วยร่างกายที่อ่อนล้า จากการหลบหลีกลูกสมุนเหล่าแก๊งค์ปีเตอร์ ทำให้ความว่องไวของร่างกายเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยหมดไป เจ้าปีเตอร์หัวหน้า จึงได้ที เข้าบินมาเกาะที่ ปลายจมูก ของเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยอย่างจัง


“พรืบๆ แป๊ะ”


“กริ๊ดดดดดดด!!”




...............โปรดติดตามตอนต่อไป



Create Date : 06 มีนาคม 2553
Last Update : 6 มีนาคม 2553 12:07:35 น. 0 comments
Counter : 563 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ruddy01
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ruddy01's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.