Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 79 เริ่มกระบวนการกลื่นผสาน เอกวิทย์ และ ฟ้าสวย

.................466


“ใช่ครับผลการศึกษาระบุว่า เมื่อมีการปลูกถ่ายอวัยวะไปแล้ว ค้นพบว่า คนๆนั้นมีลักษณะนิสัยที่เปลี่ยนไปครับ”


“ไอ้หมอพลกำลังจะบอกอะไรกันแน่”


“เรื่องนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจครับ คุณชัยเคยเรียนวิชาเคมีกับฟิสิกส์ใช่ไหมครับ”


“ใช่ เคยเรียนเคมีกับฟิสิกส์ มันเป็นวิชาพื้นฐานของชั้นเรียนมัธยมปลายนี้นา”


“งั้นคุณชัยก็คงจะรู้จัก หรือเคยได้เห็นโครงสร้างทางเคมี เช่น โครสร้างโมเลกุล โครสร้างไฮโดรเจน หรือแม้กระทั้งในวิชาฟิสิกส์ ก็ยังมีโครงสร้างทางไฟฟ้า โครงสร้างอะตอม ที่ว่าด้วยโปรตอน นิวตอน และอิเล็กตรอนใช่ไหมครับ”


“ใช่ รู้จักโครงสร้างพวกนั้น แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ละ”


“ผมกำลังจะบอกว่า ทุกสิ่งเท่าที่เรารู้จักล้วนมีโครงสร้างของมัน ตั้งแต่ตึก ก็มีเสามีคาน ร่างกายก็มีกระดูกและเนื้อเยื้อ สารเคมีก็มีโครงสร้างโมเลกุล ฯลฯ หรือแม้แต่ในแก้วกาแฟที่ผมถืออยู่นี้ก็ยังมีโครงสร้างของมันคือ น้ำ กาแฟ นม น้ำตาล และก็แก้วกาแฟ เป็นส่วนประกอบหลักเลยครับ”


“ไอ้หมอพล แกกำลังจะบอกว่า......”


“ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงโครงสร้างของวิญญาณ”


“โครงสร้างวิญญาณเลยเหร๊อ!!”


“เหอๆ มีนักคิดหลายท่าน ได้บอกว่า โครงสร้างวิญญาณ อาจมีลักษณะที่สลับซับซ้อน มากกว่าโครงสร้างทางเคมี โครงสร้างโมเลกุล โครงสร้างอะตอม หรือมากกว่าโครงสร้างทางไฟฟ้า หรืออาจมีโครงสร้างที่ชับซ้อน จนยากที่จะจินตนาการได้ครับ เรื่องนี้เกินจินตนาการจริงๆ”


“โห ขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ไอ้หมอพล ช่วยสรุป เรื่อง ความขัดแย้งระหว่างร่างกายกับจิตใจขั้นรุนแรงเร็วๆหน่อยเถอะ อธิบายเรื่องอื่นเนี๊ยะ กุรู้สึกว่าจะเริ่มมึนแล้วนะ”


“มันไม่ใช่เรื่องอื่นหรอกนะครับ แต่มันเป็นเรื่องเดียวกัน สมมุตินะครับว่า เราไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่มีวิญญาณ ของผู้ชายเข้าไปอาศัยอยู่ แบบกรณีของคุณวิทย์ที่เรามั่นใจว่า ได้เข้าไปอยู่ในร่างกายของคุณฟ้าสวยเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ หรือไม่ว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วทำไมจึงเกิดได้ เราคงไม่สามารถทราบได้หรอกครับ”


“........”


“แต่ที่รู้ๆคือ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ จิตใจของผู้ชายคนนั้น ซึ่งก็คือคุณวิทย์เพื่อนของเรา จะต้องมีการปรับตัวอย่างมาก ถึงมากที่สุด ให้เข้ากับร่างกายใหม่ของคุณฟ้าสวย ทั้ง การมีประจำเดือน ความอ่อนไหวแบบผู้หญิง สถานะทางสังคมที่เปลี่ยนไป การแต่งกาย เพื่อนฝูง ครอบครัว ฯลฯ ผมคิดว่า การที่คุณวิทย์อยู่รอดมาได้จนถึงวันนี้ นับว่าเก่งมาเลยทีเดียว”


“.......”

................467


“นี้ยังไม่นับว่า หากร่างกายของผู้หญิงคนนั้นมีโรคประจำตัวบางอย่าง ผู้ชายคนที่เข้าไปอยู่ในร่างนั้น จะต้องรับมือกับโรคประจำตัวนี้อย่างไร โรคประจำตัวนั้นจะหายไปหรือไม่ หรือจะคงอยู่ แต่สรุปคือ ผู้ชายคนนั้นจะต้องปรับตัวอย่างมาก และผู้ชายคนนั้นจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมาก ถึงมากที่สุด”


“หากว่าจิตใจของผู้ชายคนนั้นซึ่งก็คือคุณวิทย์เพื่อนของเรา ไม่เข้มแข็งพอ หรือปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ไม่ได้ บางที่อาจจะมีอาการเครียด จนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าก็เป็นไปได้ หรือบางที่อาจจะคิดสั้นจนทำร้ายชีวิตของตัวเองก็เป็นไปได้เช่นกัน นักจิตเวชให้คำนิยามโรคในกลุ่มนี้ว่า โรคจิตเวชหรือโรคซึมเศร้าขั้นร้ายแรง”


“ขนาดนั้นเลยหรอไอ้หมอพล”


“ใช่ครับ แต่ถ้าหากเราลองมองโลกในแง่ดีบ้าง หากว่าจิตใจของผู้ชายคนนั้น สามารถทนอยู่ได้ในขั้นแรกแล้ว ก็ยังมีด่านที่ 2 อีก ก็คืออารมณ์ความรู้สึกแบบผู้หญิง”


“อารมณ์ความรู้สึกแบบผู้หญิงหรอหมอพล”


“ใช่ครับ ด่านที่ 2 นี้น่ากลัวกว่าด่านแรกอีก นั้นหมายความว่า จิตใจของผู้ชายคนนั้นซึ่งก็คือคุณวิทย์ ที่ได้รับการเลี้ยงดูมาแบบผู้ชาย เติบโตมาแบบผู้ชาย มีความคิดและทัศนคติแบบผู้ชาย เมื่อมาอยู่ในร่างกายของผู้หญิง ที่มีลักษณะอารมณ์แปรปรวนโดยธรรมชาติ เขาจะรับมือมันได้หรือไม่”


“ไอ้คุณหมอพลหมายถึงอะไรเหรอ”


“ผมหมายถึงสารเคมีบางอย่างในร่างกายของคุณฟ้าสวย ที่มีลักษณะควบคุมความรู้สึกบางอย่าง เช่น ความสุข ความเศร้า ดีใจ เสียใจ ความรัก ความรู้สึก ความโกรจ ฯลฯ หรือที่วงการแพทย์เรียกว่า ฮอร์โมนครับ”


“ฮอร์โมนหรอ”


“ใช่ครับ การทำงานของฮอร์โมนมีความสลับซับซ้อนมาก ยากที่จะเข้าใจได้ทั้งหมด แต่ก็มีรายงานการวิจัยชิ้นหนึ่ง บอกว่า ผู้หญิงอาจเลือกคู่ผิด เพราะกินยาคุม หรือกำลังอยู่ในช่วงตกไข่ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของฮอร์โมนครับ”


“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ไอ้คุณหมอพลลลลลล”


“ใช่ครับ ในงานวิจัยเขาบอกว่า ผู้หญิงปรกติที่ไม่กินยาคุม และไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาตกไข่ มักมีแนวโน้มชอบผู้ชายที่สุภาพอ่อนโยน แต่หากกินยาคุมหรืออยู่ในช่วงเวลาตกไข่ ก็จะมีระดับฮอร์โมน แอสโตเจน กับ โพเจสโตโลน สูงกว่าปรกติ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะชอบผู้ชายที่มีนิสัยก้าวร้าว”


“แล้วนี้มันเกี่ยวอะไรกับด่านที่ 2 ที่ไอ้คุณหมอพลบอกตะกี้ละคร๊าบบบ”


“เกี่ยวสิครับ ผมแค่จะอธิบายว่า อารมณ์ และความรู้สึกของมนุษย์เรา มักมีฮอร์โมนในร่างกายเกี่ยวข้องด้วยเสมอ อย่างสลับซับซ้อน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ แต่ผู้หญิงจะมีระดับความอ่อนไหวกว่าผู้ชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ”

..............468


“งั้นมันก็คล้ายๆพวกยาเสพติดด้วยมะ เพราะมันมีผลต่ออารมณ์ของมนุษย์ด้วยนิไอ้หมอพล”


“ใช่ครับ อย่างพวกแอมแฟตามีนในยาบ้า หรือ เฮโลฮีน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสารเคมีที่มีลักษณะเลียนแบบ หรือกึ่งเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย แต่ว่ามันมีผลร้ายแรงและรวดเร็วกว่าเท่านั้นเอง คนที่เคยใช้ยาเสพติดก็จะเข้าใจจุดนี้ดีว่ายาเสพติดมีผลต่อพวกเขามากแค่ไหน”


“ตกลงวันนี้ผมจะได้คำตอบเรื่องความขัดแย้งของร่างกายกับจิตใจของหมอไหมเนี๊ยะ”


“ต้องได้คำตอบสิครับ คุณชัยเคยได้ยินคำว่า รักแท้แพ้ใกล้ชิด กับ ความประทับใจแรกไหมครับ”


“ก็เคยได้ยินนะ แล้วมันเกี่ยวอะไร”


“เกี่ยวสิครับ มีคนศึกษาเรื่องนี้ไว้พอสมควร เขาบอกว่า คนที่เจอกันบ่อยๆ มันจะรักกันได้ คำกล่าวนี้ได้มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งพยายามค้นหาว่า มันเกี่ยวข้องกับระดับสารเคมีต่างๆในร่างกายอย่างไร เขาสรุปว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ฟีโรโมน ครับ”


“ฟีโรโมนหรอคุณหมอพล”


“ใช่ครับ ฟีโรโมนก็คือ ฮอร์โมนชนิดหนึ่ง แต่อยู่ในรูปของกลิ่นเท่านั้นเอง ฟีโรโมนที่ว่านี้จะไปกระตุ้นการทำงาน ของต่อมไร้ท่อต่างๆในร่างกายให้หลั่ง ฮอร์โมนหลายๆชนิดออกมา เช่น Dopamines, Monomines, Norepinephrine, Serotonin ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นสารฮอร์โมนแห่งความสุขครับ จะหลังออกมาเมื่อได้รับ ฟีโรโมน ดังนั้นหากคนๆนั้นเจอใครบ่อยๆ แล้วทำให้มีความสุข ความสบายใจ คนๆนั้นอาจจะเรียกมันว่าความรักก็ได้ครับ แต่ก็อาจจะเป็นความรักจริงๆ ก็ได้ ผมไม่ได้ค้านเรื่องนี้ เพียงแต่งานวิจัย เขาก็แค่พยายามอธิบายสิ่งเหล่านี้ แต่ก็ไม่รับประกันนะครับว่าจะถูกต้องทั้งหมด”


“อืมได้ความรู้ดีนะครับ ไอ้คุณหมอพล แล้ว เรื่องความประทับใจแรกละ เขาอธิบายไว้ว่ายังไง”


“สำหรับเรื่อง ความประทับใจ นั้น ก็มีหลักการคล้ายๆกันครับ เพียงแต่ หากคนเรามีความประทับใจ กับใครคนหนึ่งแล้ว ต่อมใต้สมอง ก็จะหลังสารเคมีอีกหลายตัวเช่น endophrine ที่ทำงานคล้ายๆ ฟีโรโมนเหมือนกัน อาจจะอธิบายตามภาษาชาวบ้านได้ว่า รักแรกพบ หรือความประทับใจแรก อะไรทำนองนี้แหละครับ”


“รู้สึกว่า จากที่ผมฟังคุณหมอพลอธิบายมาทั้งหมดนี้ ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ความอันตรายของด่านที่ 2 ที่คุณหมอพลว่าอยู่ดีแหละครับ”


“นี้แหละครับผมกำลังจะเข้าประเด่น 2 เหตุการณ์ที่ผมยกมา เป็นกรณีที่ คนๆนั้นเป็นผู้หญิงจริงๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ต่อต้าน เพราะคิดว่ามันคือความรัก และมันก็อาจจะเป็นความรักจริงๆ”


“แต่หากว่ามีจิตใจของผู้ชาย เช่นกรณีของคุณวิทย์เพื่อนของเราที่ดันไปอยู่ในร่างกายของผู้หญิงซึ่งก็คือร่างของคุณฟ้าสวย แล้วดันเกิดเหตุการณ์ความรักแบบนี้ขึ้น จิตใจที่ถูกเลี้ยงดูแบบผู้ชาย เติบโตแบบผู้ชาย มีทัศนคติแบบผู้ชายของคุณวิทย์ อาจจะเกิดการต่อต้านความรู้สึกความรักแบบนี้อันเป็นผลมาจากการฮอร์โมน และระบบการทำงานในร่างกายของผู้หญิงนี้อย่างหนัก”

....................469


“แล้วมันอันตรายอย่างไรหรอหมอพล”


“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเหตุการณ์ ว่าจะเป็นไปในแบบไหน กล่าวคือ จิตใจของคุณวิทย์ที่เข้าไปอยู่ หรือ ร่างกายของคุณฟ้าสวยนั้น ใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน”


“ไอ้หมอพลกำลังหมายถึงว่า ร่างกายของคุณฟ้าสวย กับจิตใจของเอกวิทย์กำลังต่อสู้กันอยู่เหรอ”


“ประมาณนั้นครับ แต่มันก็ไม่เชิงหรอกครับคุณชัย ในสภาวะปัจจุบันของคุณวิทย์ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่มีปัจจัยอื่นๆมาแทรก เชื่อได้ว่า มันกำลังจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า การบวนการกลืนผสาน ครับ”


“กระบวนการกลืนผสานเหรอ”


“ใช่ครับ ที่จริงมันก็คือการปรับตัวของทั้งร่างกายของคุณฟ้าสวย กับจิตใจของคุณเอกวิทย์ ให้สามารถยอมรับซึ่งกันและกันได้ ผมคิดว่ากระบวนการนี้กำลังเกิดขึ้นแล้วครับ”


“โห.....”


“ผมคิดว่า กระบวนการนี้ ควรต้องเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ ไม่ควรมีปัจจัยอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นตัวเร่ง หรือขัดขวางกระบวนการนี้”


“ปัจจัยเร่ง หรือขัดขวางเหรอ แล้วหมอพลคิดว่ามันเป็นปัจจัยอะไร”


“นี้แหละครับเป็นเรื่องที่น่ากลัว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณวิทย์มาหาผมเพื่อปรึกษาปัญหาบางอย่างครับ”


“ปัญหาอะไรเหรอ”


“สำหรับเรื่องนี้ ความจริงแล้วคุณวิทย์ขอร้องไม่ให้ผมบอกกับคุณชัย แต่ผมคิดว่าควรบอกเรื่องนี้ให้คุณชัยรู้ เพื่อจะได้ป้องกันเอาไว้ครับ แต่ห้ามบอกคุณวิทย์นะครับ ไม่งั้นแย่แน่”


“ได้ๆ ไม่บอกไอ้วิทย์หรอก แต่ป้องกันเหรอ ป้องกันเรื่องอะไร”


“ป้องกันความสูญเสียครับ”


“หมายความว่าไงวะ ไอ้คุณหมอพล”


“อย่างที่ผมบอกแหละครับ การบวนการกลืนผสาน จะต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป หากมีสิ่งที่ไปเร่งหรือขัดขวางกระบวนการ บางที่เราอาจจะต้องสูญเสียทั้งคุณวิทย์และคุณฟ้าสวยไปพร้อมๆกันในคร่าเดียวกันครับ”


“เฮ้ย!!!”


“ไม่ต้อง เฮ้ยหรอกครับคุณชัย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณวิทย์มาหาผมพร้อมกับบอกว่า คุณวิทย์เริ่มไม่เข้าใจว่าทำไม่เขาถึงได้รู้สึกดีๆกับผู้ชายหน้าตาดี เวลาคุณวิทย์อยู่ใกล้ๆคุณชัย หรือผม มันทำให้คุณวิทย์รู้สึกดี ทั้งๆที่ตัวของคุณวิทย์เองนั้นรู้ตัวดีว่า ไม่ได้ชอบหรือคิดอะไรกับคุณชัย และผม มากไปกว่าคำว่าเพื่อนสนิท”


“คุณชัย ยังจำเรื่องที่ผมบอกว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด กับความประทับใจได้ไหมครับ”


“ใช่ จำได้”

.................470


“นั้นเป็น กระบวนการทางเคมีในร่างกายของคุณฟ้าสวยครับ แต่สำหรับจิตใจของคุณวิทย์แล้ว เขาบอกว่า ไม่สามารถรับเรื่องนี้ได้ จิตใจของคุณวิทย์จึงเกิดการต่อต้านร่างกายของคุณฟ้าสวยขึ้นครับ”


“...............”


“ดังนั้น ทั้งคุณชัย และตัวผม ควรจะต้องถอยห่างออกจากคุณวิทย์ก่อนในช่วงนี้สักพัก เพื่อเป็นการลดแรงกดดันที่มีต่อจิตใจของคุณวิทย์ และแรงกดดันที่มีต่อร่างกายของคุณฟ้าสวยด้วย ผมเองก็จะพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดคุณวิทย์ด้วยเช่นกัน”


“จะต้องหลบหน้าไอ้วิทย์นะหรอ แล้วต้องหลบหน้านานแค่ไหน”


“ไม่ต้องถึงขนาดหลบหน้าหรอกครับ แต่ไม่ควรทำให้คุณวิทย์รู้สึกดี หรือรู้สึกประทับใจ และไม่ควรจะอยู่ใกล้ๆคุณวิทย์มากเกินไป ซึ่งควรปล่อยให้ทั้งจิตใจของคุณวิทย์ และร่างกายของคุณฟ้าสวยปรับตัวเข้าหากันให้ได้ก่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการกลื่นผสาน แล้วเรื่องอื่นค่อยมาว่ากัน”


“เรื่องอื่นค่อยมาว่ากันหมายความว่าไงหรอหมอพล”


“เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วผมจะบอกครับคุณชัย”


“แหม ลับลมคมในจริงๆนะไอ้หมอพล แล้วหากว่าเกิดความขัดแย้งกันจริงๆ แล้วเราจะสังเกตุยังไง แล้วมันมีผลกระทบแบบไหน”


“ก่อนอื่นก็ต้องมีผลกระทบด้านจิตใจก่อนครับ อาจจะทำให้เกิดเป็นโรคซึมเศร้าได้ และหากคนๆนั้นหาทางออกไม่ได้ ก็อาจจะคิดสิ้นฆ่าตัวตายเอาได้ง่ายๆ ซึ่งจากใบประวัติคนไข้ คุณวิทย์เคยคิดจะกระโดดตึก ฆ่าตัวตายที่ โรงพยาบาลเพชรบุรีด้วยครับ”


“เฮ้ย จริงหรือเนี๊ยะ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย”


“ใช่ครับ ตอนนั้น ผมสันนิฐานว่า คุณวิทย์น่าจะอยู่ในร่างกายของคุณฟ้าสวยแล้ว และคุณวิทย์น่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่สับสนมากในตอนนั้น”


“เหรอ ไอ้คุณหมอพล แต่จากที่ฟังมา กุก็พอจะเข้าใจบ้างแล้วนะ ถ้ากุจะลองเปรียบเทียบกับระบบคอมพิวเตอร์ดูนะ สมมุติร่างกายของฟ้าสวยเป็นฮาร์ดแวร์ จิตใจไอ้วิทย์เป็น ซอฟ์แวร์ หากวันใดเราดันไปลองซอฟ์แวร์ผิดที่ไม่ใช่ของมันเอง อาจจะทำให้เกิดอาการบัค บางที่อาจจะเจอปัญหาเล็กๆ แต่บางที่คอมพิวเตอร์ก็พังไปเลย ใช่ไหม”


“คุณชัยเปรียบเทียบได้เข้าท่าดีนะครับ แต่คุณชัยก็อย่าลืมนะครับว่า ทั้งหมดที่ผมอธิบายให้ฟังนั้นเป็นเป็นแค่ข้อสมมุติฐานทั้งสิ้น โดยใช้ความรู้ทางการแพทย์ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน เพราะเหตุการณ์การสลับร่างยังไม่มีรายงานการเกิดซักราย”


“งั้นเหรอ”


“อ๋อ คุณชัยลองอ่านบทความนี้ดูสิครับ” ว่าแล้วหมอธีรพลก็ยื่นบทความชิ้นหนึ่งให้ชัยโรจน์อ่าน เนื้อความในบทความนั้นเขียนว่า


..............471


"ชีวิตหลังความตาย" ของคนหัวใจวาย


นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษได้ศึกษาปรากฏการณ์ วิญญาณออกจากร่าง ของผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจวาย 1500คน


เมื่อรอดชีวิต ผู้ป่วยมักเล่าถึงประสบการณ์เฉียดตายด้วยการมองเห็นร่างตนเองนอนอยู่บนเตียง ขณะที่แพทย์และพยาบาลยืนให้ความช่วยเหลืออยู่รายรอบ นายแพทย์ แซม พาร์เนีย หัวหน้าการศึกษาจากโรงพยาบาลเซาท์ แธมป์ตัน กล่าวว่า "ถ้าเราสามารถทราบว่าการมีสตินั้นยังคงมีอยู่แม้ว่าสมองจะไม่ทำงานไปแล้ว ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่า การมีสตินั้นแยกไปจากความตาย และน่าสนใจอย่างยิ่งที่เราสามารถนำหัวข้อนี้มาศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ได้"


นายแพทย์พาร์เนีย ยังอธิบายต่อไปอีกว่า "เราเข้าใจทั่วไปว่า ความตายคือจุดๆหนึ่ง วินาทีใดวินาทีหนึ่ง แต่จริงๆแล้ว ความตายเป็นกระบวนการ เริ่มจากหัวใจหยุดเต้น ปอดหยุดทำงาน สมองหยุดทำงาน ซึ่งผู้ที่มีอาการหัวใจวายเฉียบพลันจะมีขั้นตอนทั้ง3สิ่งนี้ โดยอาการหัวใจวายอาจกินเวลาไม่กี่วินาที ไปจนถึงหนึ่งชั่วโมงหรืกว่านั้น ขณะที่แพทย์ พยายามช่วยปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยให้หัวใจผู้ป่วยกลับมาทำงาน และรอดชีวิตในที่สุด ผู้ที่เคยมีประสบการณ์หัวใจวายเฉียบพลันจึงเทียบเท่ากับมีประสบการณ์ตาย"

ที่มา : ข่าวสด ฉบับวันที่ 26/09/2008





ชัยโรจน์เมื่อได้อ่านแล้วก็ยังรู้สึกงงๆอยู่เล็กน้อย แต่ก็พยายามทำเป็นว่าเข้าใจ และก็พูดขึ้นว่า


“อืมก็น่าสนดีนะหมอพล แต่ยังไงก็ช่างเหอะ เพราะเดี๋ยวไอ้วิทย์มันก็จะกลับร่างเดิมได้แล้ว แล้วพอไอ้วิทย์กลับร่างเดิมได้ ฟ้าสวยก็ฟื้นขึ้นมา จบแบบนี้ ก็แฮปปี้เอนดิ้งดีนิ”


เมื่อชัยโรจน์พูดจบ หมดธีรพลก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที่ ราวกับว่า มีเรื่องหนักใจบางอย่าง ที่กำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และไม่สามารถบอกใครได้ในขณะนี้ และในเวลานั้นเอง


“ก๊อกๆๆ”


“พี่หมอพลค่ะ คนไข้โรคหัวใจ ต้องการการผ่าตัดด่วนค่ะ อาการค่อนข้างหนักแล้วค่ะ”


เสียงของพยาบาลสุนิสา พยาบาลผู้ช่วยพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน ทำให้หมอธีรพลต้องรีบออกไป และก่อนไปหมอธีรพลก็หันมาพูดกับชัยโรจน์ว่า


“เราค่อยคุยกันต่อวันหลังนะครับคุณชัย ส่วนเรื่องของคุณวิทย์ กับคุณฟ้าสวย ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”


ว่าแล้วหมอธีรพลก็รีบออกไป





..................โปรดติดตามตอนต่อไป



Create Date : 14 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2553 8:33:25 น. 0 comments
Counter : 558 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ruddy01
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ruddy01's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.