ตอนที่ 78 เอกวิทย์ ฝึกการควบคุมร่างกายของฟ้าสวย

...............461


“เห็นไหมละครับคุณวิทย์ การที่คุณวิทย์รู้สึกดี กับผู้ชายหน้าตาดี ไม่ว่าจะเป็นผม คุณชัย คุณวรวุทธ หรือผู้ชายหน้าตาดีๆคนอื่นๆ มันไม่ได้เกิดมาจากจิตใจ หรือตัวตนของคุณวิทย์เลยแม้แต่น้อย แต่น่าจะเป็นผลมาจากร่างกายของคุณฟ้าสวยโดยตรง ที่มีระบบฮอร์โมนในร่างกายคอยควบคุมอยู่อีกที”


“แล้วจะแก้ไขได้ยังไงฟ๊ะไอ้หมอพล มีวิธีมะ จนกว่ากุจะกลับร่างเดิมได้ กุไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยวะ กุรู้สึกเหมือนกับว่า กุกำลังจะกลายเป็นเกย์ ในร่างกายของผู้หญิง” เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยถามด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล


“แก้ได้ครับ แต่ คุณวิทย์จะต้องหัดควบคุมร่างกายของคุณฟ้าสวยให้ได้ และหากร่างกายของคุณฟ้าสวย ตอบสนองต่อ “สิ่งเร้า” นั้นคือ ตัวของผู้ชายหน้าตาดี หรือรูปร่างดี ซึ่งมันเป็นเรื่องปรกติของผู้หญิงทั่วไป อันเป็นผลมาจากการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ดังนั้นเวลาที่คุณวิทย์จะต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายหน้าตาหรือรูปร่างดี คุณวิทย์จะต้องทำให้ร่างกายของคุณฟ้าสวย รู้สึกไม่สบายตัวอย่างใดอย่างหนึ่ง ในขณะเจอสิ่งเร้านั้น ซึ่งอาจจะเป็นวิธี ที่ทำให้ตัวตนของคุณวิทย์ สามารถควบคุมร่างกายของคุณฟ้าสวยไม่ให้เป็นไปตามสิ่งเร้าได้”


ซึ่งหมอธีรพลก็ได้อธิบายแบบคาดเดาตามหลักวิทยาศาสตร์ว่า หากในสภาพวะที่จิตใจอ่อนแอ ร่างกายของเจ้าของเดิม ซึ่งก็คือร่างกายของฟ้าสวยก็จะเข้าควบคุม นั่นหมายความว่าร่างกายของฟ้าสวยจะตอบสนองต่อ “สิ่งเร้า” นั้นคือผู้ชายหน้าตาดี


เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ก็ได้พูดแทรกขึ้นมาว่า งั้นการหนีหน้าผู้ชายหน้าตาดี เป็นสิ่งที่ได้ผลหรือไม่ หมอธีรพล บอกว่า อาจได้ผล แต่ไม่แนะนำ แต่แนะนำให้เผชิญหน้า และต้องทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบายตัว ในขณะเจอสิ่งเร้านั้น ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งในหลายๆวิธีการ ที่จิตใจจะสามารถเข้าควบคุมร่างกายได้


ว่าแล้วเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยก็หยิกแขนของตัวเอง และก็พูดขึ้นว่า


“แบบนี้ใช่มะ”


“หยิกแขนหรือครับ รุนแรงไปไหมครับ เหมือนพวกโรคจิตที่ชอบความรุนแรงเลย ผมว่า คุณวิทย์แค่กำหนดลมหายใจ หรือกลั้นหายใจสัก 30 วินาที เพื่อให้ร่างกายของคุณฟ้าสวย รู้สึกว่าโดนทำโทษ เพราะสิ่งเร้านั้นก็พอแล้วมั้งครับ”


ว่าแล้วเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยก็กลั้นหายใจ 30 วินาทีตามที่หมอธีรพลบอก จากนั้นเอกวิทย์ก็พูดขึ้นว่า


“แบบนี้ใช่มะ”


“ครับ ประมาณนั้นครับ”


“ดีๆ กลั้นหายใจอีกๆ”

..................462


ว่าแล้วเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยก็กลั้นหายใจใหญ่ จากนั้น หมอธีรพลจึงได้พูดขึ้นว่า


“คุณวิทย์ครับ ลองเป่ายิงชุบแข่งกับผมอีกทีครับ”


“จะเล่นอะไรฟ๊ะไอ้พล กุกำลังฝึกควบคุมร่างกายยัยฟ้าสวยอยู่นะ”


“เอาเถอะครับ เดียวค่อยฝึกก็ได้ครับ ยังมีเวลาอีกเยอะ”


“ก็ได้ๆ”


ว่าแล้ว ศึกเป่ายิงชุบระหว่าง หมอธีรพลกับเอกวิทย์ กลับกลายเป็น ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนหมอธีรพลไม่เคยชนะเลย จนทั้งคู่เองก็แปลกใจ ว่าแล้วเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยก็พูดขึ้นว่า


“เอ๊ะ แปลกจัง ทำไมเป็นงี้”


“คงไม่มีอะไร หรอกครับคุณวิทย์ ผมก็แค่ไปหัดซ้อมวิชาเป่ายิงชุบมาใหม่ จากอาจารย์ท่านหนึงนะครับ”


“แหมนะ เก่งวุ้ย”


แต่ความจริงที่เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ไม่รู้ก็คือ หมอธีรพล ไม่ได้ไปเรียนวิชาเป่ายิงชุบเพิ่มเติมมาแต่อย่างใด แต่เพราะหมอธีรพล กำลังทดสอบว่า ร่างกายของฟ้าสวย กับจิตใจหรือตัวตนของเอกวิทย์ เข้าสู่กระบวนการ กลื่นผสาน แล้วรึยังเท่านั้น




... และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เมื่อเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยเจอกับชัยโรจน์ หรือหมอธีรพล ทุกครั้งเขาจะกลั้นหายใจ บ่อยครั้งก็ยิกแขนตัวเอง หลังๆเริ่มหนักขึ้นโดยใช้เข็มหมุดเล็กๆแทงที่ต้นขาโดยไม่ให้ใครรู้ และหลังๆเอกวิทย์ได้ทำร้ายร่างกายของฟ้าสวยหนักขึ้น จนแม่ของฟ้าสวยก็เริ่มเป็นห่วงอาการของลูกสาวตัวเอง และสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่หมอธีรพลคาดไม่ถึง


ในเช้าวันหนึ่ง ชัยโรจน์ตัดสินใจที่จะยกเลยกำหนดการไปพบลูกค้าคนสำคัญ โดยแจ้งลูกค้าว่า ป่วยกระทันหัน จากนั้น เขาได้ไปโรงพยาบาลศิริราชเพื่อพบกับธีรพล เพื่อไขข้อข้องใจของเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย


ในห้องทำงานของหมอธีรพล ในโรงพยาบาลศิริราช


“แหม วันนี้ฝนตกแน่ๆเลยนึกไงครับคุณชัยถึงได้มาที่นี้แต่เช้าเลย” หมอธีรพลถาม ชัยโรจน์ ด้วยความแปลกใจ


“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับไอ้คุณหมอพล แต่ว่ามีเรื่องสงสัย และกลุ้มใจเกี่ยวกับไอ้วิทย์มันนะ”


“อ๋อ ครับ เรื่องอะไรครับ”

.................463


“มิงก็รู้นิไอ้พล ช่วงนี้สุขภาพของไอ้วิทย์ ก็ไม่ค่อยจะดี เห็นบ่นปวดหัว กับอาเจียรอยู่บ่อยๆ”


“อ๋อครับ แล้วคุณวิทย์เป็นอะไรมากหรือป่าวครับ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างเลย งานก็ยุ่งมาก แถมต้องรีบหาวิธีกลับร่างเดิมให้คุณวิทย์อีกอย่างด่วน”


หมอธีรพลแสดงอาการเป็นห่วงเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยอย่างออกนอกหน้า จนเป็นที่สังเกตได้ โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว


“ก๊อกๆๆ”


และในขณะนั้นเอง พยาบาลสุนิสาก็เคาะประตู เดินเข้ามา ซึ่งเป็นพยาบาลผู้ช่วยของธีรพลนั้นเอง พยาบาลสุนิสาจึงพูดขึ้นว่า


“ขอโทษค่ะพี่พล เดี่ยวเก้าโมงจะมีผ่าตัดคนไข้โรคหัวใจค่ะ”


“ครับ งั้นน้องนิสาช่วยเตรียมเครื่องมือผ่าตัดให้พี่ด้วยนะ”


ว่าแล้วพยาบาลสาวสวยคนนั้น ก็เดินออกไป แต่ชัยโรจน์นั้นจำได้ว่าพยาบาลคนนั้นเป็นนักเรียนพยาบาลรุ่นน้องที่แอบมาชอบธีรพลตั้งแต่เรียนมหาลัยนั้นเอง


“เอะนั้นมัน น้องนิสา รุ่นน้องคณะพยาบาลที่แอบมาชอบมิง คนนั้นหรือป่าววะไอ้พล” ชัยโรจน์ถามด้วยความสงสัย


“เออครับ ใช่คนนั้นแหละ”


“แหม ไอ้พล มิงนี้เห็นแบบนี้ก็ร้ายกาจใช่เล่นนะเนี๊ยะ แล้วช๊อกโกแล๊ค รูปหัวใจที่น้องเค้าให้ในวันวาเลนไทย์ ตอนเรียนอยู่ปีสุดท้ายนะ กินหมดยังวะ”


“โธ อย่าอำเรื่องนั้นสิครับคุณชัย ผมเห็นเธอเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่ง แค่นั้นเอง และที่สำคัญผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วครับ ตอนนี้ผมกำลังหาทางช่วยเธออยู่”


“มีคนที่ชอบอยู่แล้ว ใครวะ”


“คุณชัยไม่รู้จักหรอกครับ”


“เหรอ แต่ว่าไปไงมาไงมาทำงานโรงพยาบาลเดียวกันละเนี๊ยะ”


“อ๋อ เธอเป็นลูกสาวผู้อำนวยการของโรงพยาบาลที่นี่นะครับ ผมดึงเธอมาเป็นผู้ช่วยงานวิจัย”


“หา เป็นลูกสาวผู้อำนวยการของโรงพยาบาลศิริราชเลยหรอ แล้วทำไมเธอไม่ไปเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลเลยละ มาเป็นพยาบาลทำไม”


“เรื่องนั้น ผมก็ไม่รู้หรอกครับ เธออาจจะชอบทำงานพยาบาลก็ได้”


“แต่ผมว่าไมละมั้ง”


“เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่าครับ เออใช่สิ ตะกี้นี้คุณชัยจะถามอะไรผมหรอครับ”


“อ๋อ ก็เรื่องที่ มิงบอกกับไอ้วิทย์เกี่ยวกับเรื่องการสลับร่าง เรื่องความขัดแย้งกันระหว่าง ร่างกายกับจิตใจ นั้นแหละครับ แต่ที่น่าห่วง เห็นตอนที่งานสัมมนาวิชาการ มิงเคยบอกว่า หากรุนแรงก็อาจจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยเหรอ แล้วตอนนี้ไอ้วิทย์มันก็มีพฤติกรรมแปลกๆชอบทำร้ายตัวเองด้วย”

............464


“อ๋อเรื่องนั้นนั่นเอง คุณวิทย์ก็เคยมาถามผม ผมก็เลยอธิบายซะยกใหญ่เลย ส่วนเรื่องความขัดแย้งนั้น มันยังคงเป็นข้อสมมุติฐานอยู่ แต่ก็ยังขาดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับอยู่พอสมควร ส่วนเรื่องการทำร้ายตัวเอง ผมคงบอกคุณชัยไม่ได้ครับ คุณวิทย์เขาของร้องไว้”


“อ้าวเป็นงั้นไป เรื่องความขัดแย้งอะไรนั่นกุไม่ค่อยติดใจเท่าไหร่หรอกไอ้พล แต่ไอ้เรื่องทำร้ายตัวเองของไอ้วิทย์นี้สิ กุค่อนข้างกังวล”


“ทำไมเหรอครับคุณชัย”


“ก็ไอ้วิทย์นะสิ บางทีมันก็แอบหยิกแขนตัวเอง หลังๆมาเนี๊ยะ มันแอบใช้เข็มหมุดเล็กๆแทงต้นขาของตัวเอง ไอ้วิทย์มันจะทำอะไรของมันฟ๊ะ กุเองก็ไม่กล้าถามมันตรงๆ เลยมาถามมิงนี้แหละ เผื่อว่ามิงจะรู้สาเหตุ”


หมอธีรพลไม่ตอบคำถามนั้น แต่เขาก็แสดงอาการวิตกอย่างเห็นได้ชัด หมอธีรพลไม่นึกเลยว่า การที่แนะนำให้เอกวิทย์ฝึกควบคุมร่างกายของฟ้าสวย มันจะเลยเถิดจนถึงขึ้นทำร้ายร่างกายของฟ้าสวย โดยเอกวิทย์ จากนั้นหมอธีรพลจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความหมดหวังว่า


“สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เกินกำลังความเข้าใจของผม และบางทีอาจจะเกินกำลังของวิทยาศาสตร์ในการอธิบายไปแล้วครับคุณชัย”


“มันเกินกำลังอะไรวะ ไอ้หมอพล” ชัยโรจน์ถามด้วยความมึนงง


“หากเปรียบเทียบวิทยาศาสตร์เป็นรถยกของคันหนึ่ง ผมคงไม่สามารถเอารถยกคันนี้ ไปยกเกาะภูเก็ตทั้งเกาะได้หรอกครับ เพราะมันเกินกำลังของรถยกคันนี้”


“อะไรวะไอ้หมอพล เฟ้อเจ้ออยู่หรือไง”


“ไม่ใช่อย่างนั้นครับคุณชัย เรื่องของคุณวิทย์ กับคุณฟ้าสวย มันเกินวิทยาศาสตร์ไปแล้วครับ ผมมืด8ด้านจริงๆ สมองของมนุษย์ มันก็มีขีดจำกัด เหมือนร่างกายเช่นกัน นั้นหมายความว่า เรื่องบางเรื่องเรา สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ แต่เรื่องบางเรื่องมันก็เกินความเข้าใจจริงๆครับคุณชัย”


“อืม ไอ้หมอพลแม้ว่ากุจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่ากุเห็นด้วยแล้วกัน”


“ยังไม่หมดแค่นั้นนะครับคุณชัย เมื่อกี้ผมยังยกตัวอย่างไม่หมด คุณชัยอาจจะพอรู้ว่า วิทยาศาสตร์ เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งของมนุษย์ ที่ใช้ในการหาคำตอบ และใช้อธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น แต่วิทยาศาสตร์ก็มีขีดจำกัดของมันเหมือนกัน”


“อืมๆ แต่ว่าแล้วมันเกี่ยวกับการสลับร่างของไอ้วิทย์ยังไงละเนี๊ยะ”


“เกี่ยวสิครับ และนี้คือประเด่นเลย สมมุติว่าเราดันไปเจอคนที่เราคาดว่า มีการสลับร่างสลับวิญญาณกันจริงๆแบบคุณวิทย์กับคุณฟ้าสวยเนี๊ยะ แม้ว่าเราจะเชื่อว่าเป็นความจริง แต่เราก็ไม่สามารถเข้าใจได้ว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นมาทำไม และสิ่งที่เราเชื่อนั้นเป็นความจริงหรือไม่ ทำไมต้องเกิด ฯลฯ ส่วนเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ของเราที่มีอยู่ในตอนนี้ ก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้เลย”

..............465


“อืม กุก็เห็นด้วยในประเด่นนี้นะไอ้หมอพล แต่เรื่องที่ว่า ความขัดแย้งระหว่างร่างกายกับจิตใจขั้นรุนแรง จนอาจทำให้ตายได้นี้มันคืออะไร”


“ก่อนที่ผมจะอธิบายเรื่องนั้น ผมอยากให้คุณชัย ลองตอบคำถามเรื่องนี้ก่อน”


ว่าแล้วหมอธีรพล นายแพทย์หนุ่มไฟแรง ก็เดินไปชงกาแฟงใส่นมมา 1 แก้ว โดยที่ยังไม่คนแก้วกาแฟ และจากนั้น หมอธีรพลจึงพูดขึ้นว่า


“มนุษย์ส่วนใหญ่บนโลกนี้ โดยลึกๆแล้วเชื่อว่าจิตวิญญาณมีจริง แต่ว่า จิตวิญญาณ ที่ว่านั้น มันอยู่ตรงไหนของร่างกายละ ที่หัว ที่คอ ที่มือ ที่แขน หรือขา ที่หัวใจ ที่ตับไตใส้พุง และมันมีรูปแบบหรือลักษณะอย่างไร”


“อืม....ก็ไม่รู้เหมือนกันนะไอ้หมอพล อาจจะอยู่ที่หัวก็ได้ เพราะถ้าไม่มีหัวก็ตายแน่ๆ”


“ก็อาจจะจริง ของคุณชัยนะครับ เพราะทางการแพทย์เท่าที่เรารู้ในปัจจุบัน เราแทบจะแยกสมองกับวิญญาณ แยกกันไม่ออกเลย แต่ว่าถ้าหากไม่มีปอด ไม่มีตับ ระบบเลือด หรือหัวใจ ก็ตายเหมือนกัน ผมจึงไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ เพราะมันเกินสติปัญญาของผมจริงๆ แต่ก็มีคนบอกเอาไว้ว่า .......”


จากนั้นหมอธีรพล ก็ชี้นิ้วไปที่ นมข้นหวานที่นอนก้นอยู่ที่ถ้วยกาแฟ


“บอกว่าอะไรเหรอไอ้หมอพล” ชัยโรจน์ถาม


“หากผมสมมุติว่า นมข้นหวานที่นอนอยู่ก้นแก้วกาแฟใบนี้คือจิตวิญญาณ และผมสมมุติอีกว่า กาแฟที่ใส่ลงไป และน้ำร้อน เป็นร่างกาย เมื่อเราคนส่วนผสมของกาแฟใส่นมนี้มันให้เข้ากัน ผมอยากถามคุณชัยว่า นมข้นหวานที่นอนอยู่ก้นแก้วตะกี้มันไปอยู่ที่ไหน”


ว่าแล้วหมอธีรพลก็คนส่วนผสมของกาแฟใส่นมในแก้วกาแฟให้เข้ากัน ก่อนจะยกขึ้นมาโชว์ จากนั้นชัยโรจน์จึงตอบว่า


“มันก็อยู่ในแก้วนั้นแหละ ถามแปลกๆ”


“นั่นแหละ แต่ผมเองก็ไม่กล้าบอกว่า ความคิดนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะผมก็ไม่กล้าบอกว่าถูกหรือผิด”


“ อืมๆ”


“อีกเรื่องนะครับ เมื่อตะกี้คุณชัยบอกว่า วิญญาณน่าจะอยู่ที่หัว ซึ่งก็มีเหตุผลทางการแพทย์สนับสนุนอยู่บ้าง แล้วถ้าหากผมสมมุติว่า ต่อไปในอนาคต เมื่อมีการปลูกถ่ายสมองได้เป็นผลสำเร็จแล้วคุณชัยคิดว่าวิญญาณมันจะตามสมองไปหรือไม่ครับ และเรื่องนี้ผมคงไม่กล้าสรุปใดๆทั้งสิ้น เพราะอย่างที่บอกมันเกินความเข้าใจของผมครับ”


“ปลูกถ่ายสมองหรือ เป็นไปไม่ได้หรอกหมอพล ปลูกถ่ายสมองมันเป็นเรื่องยากมาก”


“ใช่ครับ ในอดีต การปลูกถ่ายอวัยวะต่างๆเช่น ตับ หัวใจ ปอด ฯลฯ ก็เป็นสิ่งที่นักวิทย์ศาสตร์และนักการแพทย์ในสมัยก่อนหน้านี้ซัก 100 ปีที่แล้ว ก็เคยบอกว่าเป็นไปไม่ได้ และทำได้ยากมากเช่นกัน”


คำพูดของหมอธีรพลทำให้ชัยโรจน์ต้องอึ้ง จากนั้นหมอธีรพลก็อธิบายต่อ


“มีผลการศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนอวัยวะ และการเปลี่ยนถ่ายเลือดจำนวนมากๆด้วยครับ”


“ไอ้พลหมาย มิงความว่า...”





................โปรดติดตามตอนต่อไป

Create Date : 25 ตุลาคม 2553		0 comments
Last Update : 25 ตุลาคม 2553 14:15:44 น.
Counter : 813 Pageviews.
Share Tweet