Bloggang.com : ruddy01 : ตอนที่ 10 การสลับร่างของ เอกวิทย์ ไปอยู่ในร่างกายของ ฟ้าสวย

ตอนที่ 10 การสลับร่างของ เอกวิทย์ ไปอยู่ในร่างกายของ ฟ้าสวย

………..45

จากนั้น เลขา ก็ได้ไปหารถให้ เอกวิทย์ ซึ่งเป็น รถสำหรับรับรอง ลูกค้า วีไอพี ของ บริษัทเอเอเอส ซึ่งไม่ใช่รถประจำตำแหน่งของประธาน รถคันนั้นเป็นรถ ฮอนด้า CRV สีดำ

เมื่อเอกวิทย์ มาถึงที่ บริเวณล๊อบบี้ สำนักงานใหญ่ บริษัทเอเอเอส เขาได้เห็น กุญแจรถ พร้อมด้วยกระดาษโน๊ดของเลขา ความว่า

“เรียนท่านประธานค่ะ ดิฉันได้เตรียมรถ ตามที่ท่านได้สั่งแล้วค่ะ เป็นรถยนต์ฮอลด้า CRV สีดำ และจอดอยู่ที่ลาดจอดรถนะค่ะ”

และในระหว่างทางเดิน ในตึกชั้นจอดรถของ บริษัทเอเอเอส นั้น เอกวิทย์ ก็ได้เดินชนกับลูกค้าคนหนึ่ง ทำให้ลูกกุญแจตก และลูกค้าคนนั้น ก็ลูกกุญแจตกเช่นกัน ลูกค้าคนนั้นก็ใช้ รถฮอลด้า CRV สีดำเช่นกัน จึงเกิดการสลับลูกกุญแจกันขึ้น

เมื่อ เอกวิทย์ เดินไปถึงที่จอดรถ เขาเห็นรถฮอนด้า CRV สีดำจอดอยู่ 2 คัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคันไหน จึงลองไขดูทั้ง 2 คัน รถคันแรกไขกุญแจไม่ออก ก็แน่นอนว่าต้องเป็นอีกคัน ซึ่งก็ไขออกจริงๆ และเอกวิทย์ก็ ขับรถออกไป

ด้านลูกค้าเจ้าของรถ เมื่อเห็นรถของตัวเองถูกขับออกไป ก็ตกใจ และวิ่งตามรถออกไปอย่างลืมตัว และร้องตะโกนออกมาว่า

“อ้าวเฮ้ย!! นั่นมันรถผม!! จ๊ากกก!!!”

เจ้าของรถร้องตะโกน และวิ่งตาม และเมื่อเห็นว่าวิ่งตามไม่ทันแน่ ก็รีบเข้าแจ้งความทันที เพราะเริ่มเข้าใจว่าจะวิ่งทำเนี๊ยะ

ด้าน เอกวิทย์ เมื่อเห็นคนวิ่งตามมา ในกระจกหลัง เขาก็บ่นออกมาความว่า

“คนบ้าที่ไหนเนี้ย วิ่งตามอยู่ได้ บ้าป่าว เกรียนแตก”

ระหว่างนั้น เอกวิทย์ ก็ได้ขับรถไปเรื่อยๆ ไปทาง จ.เพชรบุรี เพื่อมุ่งหน้าลงภาคใต้ จุดหมายปลายทางของ เอกวิทย์ คือ อ. หัวหิน จ.ประจวบฯ

............46

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เส้นทางมุ่งหน้าลงภาคใต้ ซึ่งในขณะนั้นมีฝนตกหนัก เนื่องมาจากอิทธิพลของ พายุใต้ฝุ่น “ลินดา” ซึ่งระหว่าง 2 ข้างทางก็มีแต่นา สวยยาง และสวนผลไม้ ไม่มีบ้านเรือนผู้คนอยู่เลย

และทันใดนั้น ก็ได้ปรากกฎร่างดำๆ เล็กๆ ซึ่ง เอกวิทย์ ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ซึ่งมารู้ตอนหลังว่า เกิดจากจิตหลอนจากฤทธิ์แอลกอฮอล ซึ่งร่างเล็กๆดำๆนั้น ได้วิ่งออกมาจากข้างทางอย่างกะทันหัน ทำให้เอกวิทย์ ไม่สามารถควบคุมรถได้ เอกวิทย์ ตกใจสุดๆ จึงได้หักหลบ ไปชนต้นไม้ใหญ่ข้างทางอย่างแรง

“เอี๊ยดดด โครม!!!”

เมื่อทุกอย่างเข้าที่ และเหตุการณ์สงบลง เอกวิทย์ อยู่ในอาการสลึมสลือ สภาพรถพังยับเยิน แล้วเขาก็สลบไป ไม่มีใครรู้ว่า เอกวิทย์ ประธาน บริษัทเอเอเอส ที่ยิ่งใหญ่ ประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากขับรถผิดคันไป และไม่ได้แจ้งเลขาว่าไปไหน

ส่วนตำรวจเมื่อได้รับแจ้งเหตุ ก็รุดไปที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ซึ่งไม่ทราบชื่อและนามสกุลจึงได้นำตัวส่ง โรงพยาบาลศูนย์ จ.เพชรบุรี

ตำรวจได้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถ พบว่าเป็นรถที่ถูกแจ้งหายไว้ที่ สน.มักกะสัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บริษัทเอเอเอส สำนักงานใหญ่นั้นเอง

เมื่อเป็นเช่นนั้น ตำรวจจึงได้ตั้งข้อสันนิฐานว่า เอกวิทย์ น่าจะเป็นโจรขโมยรถ ซึ่งจากหลักฐานในตัวของ เอกวิทย์เอง ก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นใคร เนื่องจากในขณะที่ เอกวิทย์ ขับรถออกมานั้น เขาดื่มเหล้า และค่อนข้างจะขาดสติ จึงไม่ได้พกพาหลักฐานบัตรประชาชน หรือเอกสารใดๆเพื่อนยื่นยันบุคคลมาด้วยเลย

ซึ่งจากการสืบสวนในที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงสรุปสำนวนคดีอุบัติเหตุว่า ...... อาจเกิดจาก มีรถยนต์ปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด จึงเป็นเหตุให้ คนขับหักหลบ ไปชนต้นไม้ข้างทาง ซึ่งจะได้ตามหารถยนต์คู่กรณีต่อไป อีกทั้งคนขับมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และตำรวจยังขออำนาจจับกุม ในกรณีที่รอดชีวิต เนื่องจากคิดว่าเอกวิทย์ เป็นโจรขโมยรถ

............47

เมื่อ เอกวิทย์ ถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลศูนย์เพชรบุรี ซี่งในเวลาใกล้เคียงกันก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ชื่อว่า ฟ้าสวย ก็ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเช่นกัน ได้มารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน

และเหตุการณ์ในคืนนั้นคือ มีฝนตกฟ้าคะนอง และฟ้าฝ่าอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “ลินดา” จึงทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย มีพายุฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนัก

ณ ห้อง ไอซียู 1 โรงพยาบาลศูนย์ จ.เพชรบุรี ขณะที่ทีมแพทย์ พยายามเยื้อชีวิตของ เอกวิทย์ จากความตายอย่างเต็มที่ และในขณะเดียวกัน ตำรวจก็ได้ขออำนาจการจับกุม เอกวิทย์ ในกรณีที่ สามารถมีชีวิตรอด เนื่องจากเข้าใจผิดว่า เอกวิทย์ เป็นโจรขโมยรถ ซึ่งในห้องไอซียู พยาบาลคนหนึ่งจึงได้พูดขึ้นความว่า

“คุณหมอค่ะ!! แย่แล้วค่ะ!! คนไข้หัวใจหยุดเต้น!!”

“ฮิบหาย!! ปั๊มหัวใจด่วนเลยครับ!! ฉีดยาคลายกล้ามเนื้อหัวใจ ซัก2 Kcc นะ ด่วน!!”

“พร้อมช๊อคไฟฟ้านะ เอ้า”

“แช๊ดดด!!!”

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ในห้องไอซียูห้องที่ 2 ผู้ป่วยฉุกเฉินอีกคน ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาการสาหัส เหมือนกัน ชื่อ ฟ้าสวย ทำให้แพทย์ต้องทำงานอย่าง เพราะต้องแบ่งแพทย์ออกเป็น 2 ทีม และในห้องไอซียู 2 ของ โรงพยาบาลศูนย์ จ.เพชรบุรี พยาบาลคนหนึ่งพูดขึ้นความว่า

“คุณหมอค่ะ คลื่นสมองของคนไข้มีปัญหาแล้วค่ะ!!”

“ไหนดูสิคุณพยาบาล อ้าวเฮ้ย!! ตายละ!! ระดับสัญญาไฟฟ้าจากสมองไม่ทำงาน แย่แน่งานนี้ งานเข้าแล้วคุณพยาบาล!!”

“แล้วเอาไงต่อดีค่ะหมอ!!”

“ลองกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าดู แต่เดี่ยวนะ คนไข้เป็นผู้หญิง ใช้ไฟสัก 2.98 DCV พอนะ”

“ค่ะคุณหมอ”

............48

เหตุการณ์ดำเนินไปทั้งคืน ทั้งทีมแพทย์ และพยาบาล ต่างก็ทำงานกันอย่างหนัก ท่ามกลางสายฝนที่ตกอย่างหนัก และฟ้าผ่าอย่างรุนแรง อันเป็นผลมาจาก อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นลินดา ตลอดทั้งคืน ซึ่งถือได้ว่า เป็นปรากฏการณ์ทางคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความรุนแรงสูง

ซึ่งในขณะเดียวกัน ที่ห้องทำงานของหมอธีรพล โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ หมอธีรพล ก็ได้มาเขียนบันทึก ในค่ำคืนนี้ ข้อความในบันทึก ความว่า

“วันนี้ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าแรงมาก เป็นผลมาจากพายุไต้ฝุ่นลินดา บรรยากาศน่ากลัวดีแหะ แต่พอมานึกๆดู อะไรจะเป็นสาเหตุ ที่สามารถทำให้คนสลับร่างกันได้นะ สนามแม่เหล็กไฟฟ้าหรือป่าว ยิ่งตอนฝนตกฟ้าผ่าแบบนี้ สนามแม่เหล็ก ทั้งแรง ทั้งมีความแปรปรวนสูง

ส่วนเรื่องการสลับร่าง ที่เราสนใจศึกษามาโดยตลอดนั้น ในทางวิทยาศาสตร์ แทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลย จะมีใกล้เคียงที่สุด เท่าที่เราพอจะนึกออก ก็คือ การปลูกถ่ายอวัยวะ อย่างเช่นการเปลี่ยนสมอง แม้ว่าปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ก็ตาม หรือการเปลี่ยน หรือปลูกถ่ายอวัยวะอื่นๆ เช่นตับ ปอด หัวใจ ที่ปัจจุบันทำได้แล้ว ซึ่งงานวิจัยหลายๆชิ้น บอกไว้ว่า เมื่อมีการปลูกถ่ายอวัยวะ ลักษณะนิสัยของคนไข้ มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ในอดีต ไม่มีใครเชื่อว่า จะมีการปลูกถ่ายหัวใจ ปลูกถ่ายตับ และอวัยวะอื่นๆได้ แต่ปัจจุบันเรื่องแบบนี้ทำได้ง่ายๆ

ลองคิดเหตุการณ์สมมุติดู สมมุติว่า มีแฝดหญิง แฝดชาย คู่หนึ่ง แฝดชาย เกิดมาพิการ ส่วนแฝดหญิงมีร่างกายสมบูรณ์ สมมุติ อยู่มาวันหนึ่ง แฝดหญิง เกิดเสียชีวิต จากอุบัติเหตุ ซึ่งในทางการแพทย์ เราก็สามารถ เอาอวัยวะ ของแฝดหญิง มาใส่ให้ แฝดชาย ที่พิการได้ ซึ่งปัจจุบัน สามารถเปลี่ยนแขน เปลี่ยนขา ได้ทั้งดุ้น

หากว่า เราสามารถ รักษาสภาพร่างกายของแฝดหญิง ไม่ให้เน่าเปื่อย และค่อยๆ เปลี่ยน ให้แฝดชาย ไปเรื่อยๆ เช่น หัวใจ แขน ขา ปอด รวมทั้งมดลูก ฯลฯ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถเปลี่ยนได้แล้ว เราจะถือว่า สิ่งนี้ คือการ “ปลูกถ่ายอวัยวะ” หรือว่า “เป็นการสลับร่าง” กันแน่ จนแนวคิดนี้ มีคนเอาไปทำหนังเช่นเรื่อง Face off ที่แสดงโดย นิโคลัส แคซ แต่ในหนัง มีการเปลี่ยนแค่หน้าเท่านั้น

แต่ปัญหาสำคัญ ของการปลูกถ่ายอวัยวะ ก็คือ ระบบภูมิคุ้มกัน ของคนเราแต่ละคน จะไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเป็น ฝาแฝดกัน จะลดปัญหาตรงนี้ลงได้มาก

.................49

อวัยวะเดียว ที่ดูเหมือนจะปลูกถ่ายได้ยากมากที่สุด นั้นก็คือ “สมอง” เพราะสมอง จะรวมถึง ไขสันหลัง ลูกตา และเส้นประสาท ซึ่งยากมาก แต่ก็ไม่แน่ เพราะ ในอดีต การเปลี่ยนหัวใจ ก็ยากมากเช่นกัน

ในอนาคต หากมีการเปลี่ยนสมองกันได้ละ จะเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้เราเองก็ยอมรับว่า เกินจินตนาการของเราไปมาก แม้ว่าปัจจุบันเราจะรู้จัก และทำความเข้าใจ เกี่ยวกับสมองได้เยอะกว่าเมื่อก่อนก็ตาม แต่ก็เป็นเปอร์เซ็นที่น้อยมากๆๆๆอยู่ดี จนมีคนเคยกล่าวไว้ว่า “แค่เราสามารถทำความ เข้าใจ สมองสักเซี้ยว หนึ่งของทั้งหมด แต่นั้นก็สุดยอดมากแล้ว”

ในทางการแพทย์ เท่าที่เรารู้ในปัจจุบัน เราแทบจะไม่สามารถแยก สมอง ออกจาก สิ่งที่เราเรียกว่าวิญญาณได้เลย ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะเกินความคิด และความเข้าใจไปมากมาย ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามนั้นก็ได้ เพราะสมองของมนุษย์ มีขีดจำกัดในการเข้าใจ เราไม่สามารถเข้าใจเรื่องทุกเรื่อง ที่เกิดขึ้นในเอกภพนี้ได้ เพราะบางเรื่อง เกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผลรองรับ ตามความเข้าใจของมนุษย์

ก็ต้องยอมรับจริงๆว่า สมองของมนุษย์ ไม่สามารถทำความเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ที่มีอยู่ได้ทั้งหมดในเอกภพได้ เพราะสมองของเรามีขีดจำกัดในการทำความเข้าใจ บางเรื่องที่เกิดขึ้น เกิดอย่างไม่มีเหตุผลตามความคิดของเรา ไม่มีตรรกะใดๆพิสูทธิ์ได้ อีกทั้งวิทยาศาสตร์ ก็มีขีดจำกัดในการหาคำตอบอีก เรื่องนี้จึงไปกันใหญ่

และดูเหมือนว่า ศาสตร์ด้านวิญญาณ หรือชีวิตหลังความตาย ได้ถูกปิดกั้นเอาไว้ไม่ให้เรารู้ ไม่รู้ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

อย่างที่บอก การสลับวิญญาณ ที่ใกล้เคียงที่ สุดเท่าที่เราพอจะรู้จัก และพอจะจินตนาการออก ก็คือการเปลี่ยนสมองจากนาย A ไปอยู่ในร่างของนางสาว B

แต่ก็มีอีกความคิดหนึ่งที่น่าสนใจ ที่พอจะจินตนาการไปได้ นั้นคือปรากฏการณ์ทางไฟฟ้า โดยเฉพาะ ในคืนนี้ ที่ฝนตกฟ้าคะนอง และฟ้าผ่ารุนแรง ซึ่งเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เข้มข้น เพราะปัจจุบันทางการแพทย์เรารู้ว่า สมองสั่งร่างกายให้ทำงานได้ โดยใช้กระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนๆ ดั้งนั้นเมื่อร่างกายมาเจอกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ที่รุนแรงและแปรปรวนแบบนี้ ไม่แน่นะ ฝนตกฟ้าผ่าแบบนี้ อาจจะมีคนสลับร่างกันจริงๆก็ได้ น่าคิดๆ”

............50

หลังจากที่ทีมแพทย์ ของโรงพยาบาลศูนย์ จ.เพชรบุรี ให้การช่วยเหลือทั้ง เอกวิทย์ และ ผู้หญิงที่ชื่อ ฟ้าสวย ตลอดทั้งคืนจนถึงเวลาเช้า ก็ปรากฏว่ามีญาติๆของผู้หญิงคนนี้ ได้รู้ข่าวการประสบอุบัติเหตุของเธอ ได้มาที่โรงพยาบาล ด้วยความกระวนกระวายใจ และตามเฝ้าการรักษาอย่างถึงที่สุด

ส่วน เอกวิทย์ ในฐานะประธาน บริษัทเอเอเอส ที่ยิ่งใหญ่นั้น กลับกลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน ไม่มีใครทราบข่าวอุบัติเหตุของเขาเลย

เมื่อเวลาผ่านไป เอกวิทย์ ได้ฟื้นขึ้นมาอย่างสลึมสลือ ในห้องพักฟื้นผู้ป่วยฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลศูนย์ จ.เพชรบุรี และเอกวิทย์ ก็ได้เห็นคนแปลกหน้าร้องไห้ และดีใจ แต่มีอยู่ หนึ่งคนที่อยู่ข้างๆเขามาหอมที่แก้มเขา และบอกว่า ไม่เป็นไรแล้วนะ แม่รักลูกนะ แล้วเธอก็ร้องไห้พร้อมซบกับอกของเขา

เอกวิทย์ งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องนอนต่อ เพราะอาการยังไม่หายดี และระว่าง กำลังจะหลับนั้น ก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่รู้สึกอบอุ่นมาก ดังข้างๆหู แต่เอกวิทย์ ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และใครเป็นคนพูด ความว่า

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ดอกไม้และใบไม้ยังไม่ได้รวมอยู่บนต้นเดียวกัน อย่างเช่นทุกวันนี้.......”

ในระหว่างพักพื้นนั้น เอกวิทย์ ได้ฝันถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย และฝันถึงสิ่งต่างๆที่เขาเคยทำมาอย่างมากมาย ทั้งเรื่องที่ดี เรื่องที่ไม่ดีที่เคยทำในชีวิต เช่น เรื่องของแม่ของเขา ที่ทำให้เขาต้องร้องไห้อีกครั้งในวัยผู้ใหญ่ แม้ว่าจะเคยสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้อีก และรอยยิ้มของ น้องแนน น้องสาววัย 3ขวบของ เอกวิทย์ ที่เสียชีวิตไปก่อน ที่เคยเรียก เอกวิทย์ว่า พี่จ๋า ตลอด แม้แต่ก่อนใกล้จะสิ้นลม และ เอกวิทย์ ก็ยังมองเห็นผู้หญิงที่ชื่อ เนตรดาว ยิ้มมาให้เขา

..................โปรดติดตามตอนต่อไป

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2552

Last Update : 17 พฤศจิกายน 2552 9:33:51 น.

1 comments

Counter : 3865 Pageviews.

อยากอ่านต่อมากๆเลยงิ

โดย: แฟนคลับ IP: 58.9.7.139 วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:14:08 น.