Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
ตอนที่ 95 (นาย A + นางสาว B) = สิ่งมีชีวิตชนิด C

..........550


“เรื่องความผูกพันระหว่าง ผู้เป็นแม่ที่ให้กำเนิดลูกน้อย มันมีความสลับซับซ้อน มันเป็นสายใย แค่ความรัก ที่ผู้เป็นแม่มีให้แก่ลูก”


“มีคดีตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นเมื่อ ไม่นานมานี้ เกี่ยวกับ การอุ้มบุญ คือ มีสามีภารยา คู่หนึ่ง ภรรยาไม่สามารถตังครรถ์ได้ จึงได้ เอาเซลล์ไข่ และอสุจิ ไปฝากเอาไว้ กับผู้หญิงอีกคนโดยให้ค่าจ้างเป็นการตอบแทน และตกลงกันว่า เมื่อลูกเกิดมา ลูกต้องตกเป็นของผู้จ้าง”


“แต่ปัญหาคือ เมื่อลูกเกิดมาแล้ว ผู้อุ้มบุญ กลับมีความรัก ความผูกพัน กับเด็ก แม้ว่า เด็กคนนั้น จะไม่ได้เป็น DNA หรือสายเลือดของตัวเองก็ตาม แต่เป็นเพราะ ผู้อุ้มบุญ ได้อุ้มครรถ์ ถึง 9 เดือน และคลอดเอง จริงไม่แปลกที่ ผู้อุ้มบุญ จะรักเด็กในท้อง”



“เรื่องนี้ เป็นปัญหามาก เพราะ มีหลายกรณีมาก ที่ผู้อุ้มบุญ ไม่ยอมยกเด็กที่เกิดมาให้ผู้จ้าง จนรัฐต้องออกกฎหมายออกมาคุ้มครอง แต่เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของชีวิตคน สายใยรัก ที่บริสุทธิ์โดยแท้ เป็นเป็นสิ่งที่กฎหมาย ก็อาจจะไม่สามารถคุ้มครองได้”




“.........ชัยโรจน์ฟังอย่างตั้งใจ.........”




“ในเมื่อคุณวิทย์นั้น เติบโต มีพัฒนาการด้านทัศนคติ และใช้ชีวิตแบบผู้ชายมาตลอดชีวิต แต่จะต้องมามีลูก มาคลอดลูกในร่างกายของผู้หญิง มันจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งผมเองก็ไม่คิดว่าคุณวิทย์จะรับเรื่องแบบนี้ได้”



“แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปวะไอ้หมอพล”



“สำหรับเรื่องนี้ ผมก็เดาไม่ออกครับ แต่ผมเกรงว่า หากเราจัดการ เรื่องนี้ ไม่ดีพอ แทน ที่จะเกิด สิ่งที่เราเรียกว่า กระบวนการกลื่นผสาน ที่จะช่วยชีวิตทั้งคุณวิทย์ และคุณฟ้าสวย มันอาจจะกลับกลาย เป็นเกิด ความขัดแย้งระหว่างร่างกายกับจิตใจ แทน”


..................551


“เรื่องความขัดแย้งที่มิงเล่าให้ฟังบ่อยๆใช่ไหมไอ้พล”


“ใช่ครับคุณชัย ผมอยากให้คุณชัยดู บทบรรยาย ในงานสัมนาวิชาการทางการแพทย์ ที่ผมเคยบรรยายเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว บางส่วนครับ”


“อ๋อ งานสัมนาวิชาการวันนั้นใช่มะ กุก็ไปนิ”


“ครับ”







ว่าแล้วหมอธีรพล ก็เปิดวิดิโอ และ กรอไปถึงช่วงที่เกี่ยวกับ “ความขัดแย้งระหว่างร่างกายกับจิตใจ หากเกิดการนี้ การตั้งครรภ์” ในบทบรรยายสัมนาวิชาการในวันนั้น บรรยายความว่า


“ดังนั้น จากที่ผมอธิบายไป เราอาจจะรู้ได้ว่า ความรักนั้น มีการเคมีในสมอง และในร่างกายเป็นส่วนประกอบที่ สำคัญ หรือพูดง่ายๆก็คือ ความรักเกิดจากสารเคมีในสมอง แม้ว่า กระบวนการทำให้เกิดสารเคมีพวกนี้ จำเป็นต้องใช้สิ่งที่เรียกว่าพฤติกรรมเข้าช่วย เช่น การทำดีให้แก่กัน การดูแลเอาใจใส่กัน การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หรืออะไรก็แล้วแต่ครับ และแน่นอนว่า ความรักเป็นเรื่องที่สวยงามครับ”


“ความรัก มันเป็นสิ่งที่ดี แน่ๆครับ ถ้าเป็นคนปรกติทั่วไป ......แต่ช้าก่อน เรื่องนี้อาจจะเป็นต้นเหตุ ของ ปมการขัดแย้งกันระหว่างจิตใจกับร่างกายได้ ในกรณีที่มีการสลับร่างกันเกิดขึ้นจริงๆ”



“หากว่าเราเอาเหตุการณ์สมมุติมาลองคิดเล่นๆดูละ”



“เหตุการณ์สมมุติคือ จิตใจของนาย A เข้าไปอยู่ในร่างกายของ นางสาว B ซึ่งเรารู้แล้วว่า ส่วนหนึ่งของความรักนั้น นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เกิดจากสารเคมีในสมอง”



“แล้วยังไงต่อละทีนี้ เอาละ อธิบายต่อ จิตของนาย A ถูกเลี้ยงดู และเติบโต และมีความคิด และทัศนคติเป็นแบบผู้ชายโดยสมบูรณ์ แต่ร่างกายของนางสาว B นั้น ก็เป็นหญิงสาวโดยสมบูรณ์เช่นกัน”


........................552


“ก่อนอื่น ผมคงต้องตั้งชื่อ ของร่างที่เป็นส่วนประกอบระหว่าง จิตใจนาย A ที่เข้าไปอยู่ในร่างกายของนางสาว B ว่าเป็น สิ่งมีชีวิต C ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายนะครับ”



“เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้คือ สิ่งมีชีวิต C อาจจะไปชอบผู้หญิง ซึ่งนั้นอาจจะแสดงให้เห็นว่า จิตของนาย A สามารถมีอิธิพลเหนือร่างกายของนางสาว B”



“แต่ในทางตรงกันข้าม หาก สิ่งมีชีวิต C กลับไปชอบผู้ชาย นั่นแสดงให้เห็นว่า ร่างกายของนางสาว B สามารถมีอิธิพลเหนือจิตใจของนาย A”



“แต่กว่าจะไปถึงขั้นนั้น ทั้งจิตใจของนาย A และร่างกายของ นางสาว B จะต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้าหาซึ่งกันและกันก่อนนะครับ เราอาจจะเรียกกระบวนการนี้ว่า กระบวนการกลื่นผสาน ”



“นั้นหมายความว่า จิตใจของนาย A และ ร่างกายของนางสาว B จะพยายามควบคุม และมีอิธิพลซึ่งกันและกัน”


“แต่ก็ดูเหมือนว่า ร่างกายของนางสาว B จะมีข้อได้เปรียบมากกว่า จิตใจของนาย A นิดหน่อยนะครับ เพราะนอกจากระบบฮอร์โมนที่ควบคุมอารมณ์แล้ว ยังมี สัญชาตญาณดิบ (Instinct) ตามกฎของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์อีก ซึ่งเรื่องนี้แหละครับที่ชักจะยุ่งกว่าที่คิดซะแล้ว”



“สัญชาตญาณดิบ ตามกฎของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ได้แก่ ความก้าวร้าว ความต้องการอาหาร ความต้องการสืบพันธ์ และยังมีอีกหลายข้อ ซึ่งผมจะไม่ขออธิบายมาก เกรงว่าเวลาจะไม่พอครับ”



“เป็นที่น่าสังเกตว่า จิตใจของนาย A นอกจากจะต้องต่อสู้ กับระบบฮอร์โมนในของร่างกายของนางสาว B แล้ว ยังจะต้องต่อสู้กับ สัญชาตญาณดิบ เช่น เรื่องการสืบพันธ์แบบผู้หญิง ความก้าวร้าว สัญญาตณาณความเป็นแม่ เป็นต้น แล้วจะไหวไหมนี้จิตใจนาย A ”


......................553


“สรุปง่ายๆคือ นาย A ที่เติบโตแบบผู้ชาย และมีทัศนคติแบบผู้ชาย อาจจะ มีอารมณ์ทางเพศ หรือต้องการการสืบพันธุ์ตาม สัญชาตญาณดิบ (Instinct) ซึ่งเป็นผลและอิทธิพลมาจาก ร่างกายของนางสาว B ล้วนๆ”



“นั่นคือ นาย A อาจจะเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง ว่า ทำไมจึงได้เกิดอารมณ์บางอย่าง ซึ่ง แน่นอน ครับ ย่อมเป็นสิ่งที่นาย A ย่อมไม่คุ้นเคยแน่นอน และเหตุการณ์ก็มีแนวโน้มว่า จิตใจของนอน A อาจจะต่อต้าน ร่างกายของนางสาว B ได้ และร่างกายนางสาว B ก็อาจจะต่อต้านจิตใจ ของนาย A ด้วยเช่นกัน และนี้แหละครับ อาจจะเป็นต้นเหตุของกระบวนการเริ่มต้น ความขัดแย้งระหว่างร่างกายกับจิตใจ ที่ผมเกริ่นไว้แต่แรก”



“ซึ่งนี้ยังไม่ได้รวม สัญชาตญาณของความเป็นแม่ อีก นะครับ หากสมมุติว่า สิ่งมีชีวิต C ตั้งครรถ์ขึ้นมา จิตใจของนาย A นะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าศึกษาดีครับ”



“ในกรณีของจิตใจของนาย A กับร่างกายของนางสาว B หากมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอ่อนแอกว่า ก็จะทำให้อีกฝ่ายเข้าควบคุมได้ง่าย และเมื่อเข้าควบคุมได้แล้ว สิ่งมีชีวิต C จะแสดงออกถึงลักษณะนั้นๆ”



“แต่ ถ้าหากจิตของนาย A และร่างกายของนางสาว B แข็งแกร่งพอๆกัน และไม่สามารถปรับหาซึ่งกันและกันได้ อาจจะเกิดการขัดแย้งขั้นรุนแรงระหว่าง จิตใจของนาย A กับร่างกายของนางสาว B ขึ้นมา ก็เป็นไปได้ครับ”


“แต่จะเกิดอะไรขึ้นมานั้น ผมไม่สามารถเดาได้เลย ได้แต่คาดคะเนได้เท่านั้น”


“สิ่งมีชีวิต C อาจจะทำงานต่อไปได้ หรืออาจจะทำงานต่อไปไม่ได้ อาจกลายเป็นเจ้าชาย หรือเจ้าหญิงนิจทรา หรืออาจเสียชีวิต หรืออาจเป็นบ้า หรือ อาจมีอาการโรคบางอย่างเช่นโรคประจำตัวกำเริบ หรืออาจจะไม่เป็นอะไรเลยก็ได้ ผมไม่สามารถคาดเดาได้เลยจริงๆ เพราะไม่มีตัวอย่างให้ทำการศึกษาครับ”


“สุดท้ายนี้ เนื่องจากเวลาใกล้จะหมดแล้ว ผมก็ต้องขอสรุปก่อนนะครับ”


“เรื่องแรก วิทยาศาสตร์ และสมองของมนุษย์มีข้อจำกัดในเชิงการรับรู้ และความเข้าใจนะครับ”


“เรื่องที่ 2 สิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูทธ์ได้ ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่มี และเป็นเรื่องไร้สาระ มันอาจจะมีจริง หรือไม่มีจริงก็ได้”


.......................554


“เรื่องที่ 3 ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ หรือความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ สามารถลบล้างได้ เมื่อมีหลักฐานใหม่ที่ดีกว่ามายืนยัน”



“เรื่องที่ 4 ระบบสารเคมี ระบบประสาท และระบบต่างๆในร่างกาย รวมทั้งสิ่งที่เราบริโภคเข้าไปในร่างกาย สามารถมีอิธิพล ต่อร่างกาย พฤติกรรม ลักษณะนิสัย และการเป็นอยู่ ของบุคคลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ”



“เรื่องที่ 5 สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู ประสบการณ์ สังคม ล้วนส่งผลต่อร่างกาย พฤติกรรม ลักษณะนิสัย และการเป็นอยู่ ของบุคคลอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน”



“เรื่องที่ 6 จากเหตุการณ์สมมุติ เมื่อจิตใจของนาย A เข้าไปอยู่ในร่างกายของ นางสาว B จนเกิดเป็นสิ่งมีชีวิต C อาจจะเกิดเหตุการณ์ ความขัดแย้งกันระหว่างร่างกายกับจิตใจ หรืออาจจะเกิดกระบวนการกลื่นผสาน ก็เป็นไปได้เช่นกัน”








เมื่อดูวิดิโอบันทึกงาน สัมนาวิชาการทางการแพทย์จบ หมอธีรพลจึงพูดขึ้นว่า


“จากที่คุณชัยได้ดู วิดีโอ ชุดนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ผมว่า คุณชัยอาจจะพอนึกออกว่า จะเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนนี้ คุณวิทย์อาจจะไม่สามารถ กลับร่างเดิมได้อีกแล้ว”



“อืม ที่จริงเรื่องที่ ไอ้วิทย์ ไม่สามารถกลับร่างเดิมได้ กุก็คงต้องเก็บเป็นความลับ เพราะกุกลัวว่า ไอ้วิทย์มันจะรับไม่ได้ เดียวมันจะสติแตกโดตึกอีก”



ส่วนเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ที่แอบฟังอยู่ที่ ข้างประตู เมื่อได้ยินดังนั้น เขาแทบที่จะไม่เชื่อหูของตัวเอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จากนั้นหมอธีรพลก็พูดต่อว่า


.................555


“ผมว่า กระบวนการกลื่นผสานน่าจะเริ่มไปแล้วนะครับ”


“อืม แต่ก็น่าสงสารไอ้วิทย์มากเลยนะไอ้พล ตอนที่กุอยู่กับมัน มันจะพูดตลอดเลยว่า ความฝันอันสูงสุดของมันในตอนนี้ คือการกลับร่างเดิมให้ได้ นี้ถ้ามันรู้ว่า ไม่สามารถกลับร่างเดิมได้อีกแล้ว มันคง จะช๊อคตายแน่ๆ”


“ก็นั่นนะสิครับ เราจึงไม่สมควรบอกให้คุณวิทย์รู้ครับ”







และก็เป็นจริงอย่างที่ ชัยโรจน์ ได้พูดไว้ เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยช๊อคจริงๆ เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ทรุดตัวลงนั่งข้างประตู ก่อนจะเอามือกุมที่หัวใจ เนื่องจากอาการโรคหัวใจกำเริบ ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงในสมองไม่ทัน และหมดสติไป


ซึ่งในเวลานั้น พยาบาลสุนิสา ก็เห็นเข้าพอดี เธอเลยร้องว่า


“คุณ!! คุณ เป็นอะไรค่ะ ใครอยู่แถวนี้บ้างช่วยทีค่ะ คนเป็นลม!!”


เสียงเอะอะโวยวาย ของพยาบาลสุนิสา ดังเข้าไปถึงห้องของหมอธีรพล จนทั้งหมอธีรพล และชัยโรจน์ต้องออกมาดู



แต่ภาพของเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ที่เป็นลมหมดสติ อยู่ข้างประตูห้องทำงานของหมอธีรพล ทำเอา ชัยโรจน์ และหมอธีรพลเอง ก็แทบช๊อคเช่นกัน แต่หมอธีรพล นั้น ยังควบคุมสติได้อยู่ และรีบทำการช่วยเหลือเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยเป็นการด่วน ส่วน ชัยโรจน์ ในวินาทีนั้น ถึงกลับสติแตกหลุดโลกไปเลย กว่าจะดึงสติ กลับมาได้ ก็ใช้เวลาอยู่หลายนาที







..............................โปรดติดตามตอนต่อไป



Create Date : 25 ธันวาคม 2554
Last Update : 25 ธันวาคม 2554 12:27:06 น. 0 comments
Counter : 691 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ruddy01
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ruddy01's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.