Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

ตอนที่ 6 นายเอกวิทย์ นายมันใจดำมาก

.................23


(ด้านหลัง บริษัทเอเอเอส สำนักงานใหญ่)



“ไอ้วิทย์ๆ แย่แล้ว พ่อกับแม่ของเนตรดาว มาประท้วงหน้าบริษัท” ชัยโรจน์วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกเอกวิทย์


“เออ กุรู้แล้ว แล้วกุก็ได้ให้รปภ.ไล่ไปแล้ว”


“เฮ้ย ทำงั้นได้ไงวะไอ้วิทย์ มิงรู้มะว่า ยัยเนตรดาว นะตายแล้วนะ”


“เหรอ ตายเพราะเรื่องไรวะ”


“ก็ยัย เนตรดาว ไปทำแท้งเถือนนะสิ แต่ตกเลือดมากจนตายอะ”


“เหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกุวะ ตายก็ตายไปสิ”


“อ้าว ก็นั้นมันลูกของมิงนะ”


“แล้วมิงรู้ได้ไงวะ ว่านั้นคือลูกกุ ยัยเนตรดาว อะนะไม่รู้ว่าผ่านผู้ชายมาตั้งกี่คน สมน้ำหน้าแล้ววะ”


“เฮ้ย!! ไอ้วิทย์ มิงพูดยังงี้ได้ยังไงวะ อย่างน้อย มิงก็ควรดูดำดูดีกับครอบครัวของ เนตรดาว เขามั้งนะ หรืออย่างน้อย มิงก็ควรไปงานศพเขา หรือช่วยเหลือเขาด้านการเงินซักนิดก็ยังดี ครอบครัวนั้นนะ เขามีลูกคนเดียวเอง”


“ก็แล้วแต่มิงซิวะไอ้ชัย แต่ตอนนี้กุขอไปจัดการเรื่องนักข่าวก่อน”


“ไอ้วิทย์ มิงนี้มันใจดำจริงๆ กุยอมมิงแล้ว สุดยอดเลยวะ”


“อ๋อ มีอีกเรื่องที่กุจะบอกมิงนะไอ้ชัย วันนี้ กุไล่หัวหน้ายามออกแล้ววะ”


“เฮ้ย!! ไอ้วิทย์ มิงไปไล่หัวหน้ายามออกทำไมวะ”


“ก็ไล่ในข้อหาที่ บังอาญ ปล่อยให้คนแก่ 2 คน มาด่ากุถึงหน้าบริษัท”


“เออ มิงนี้ใจดำจริงๆวะ กุยอมมิงแล้ว”


................24


ซึ่ง ชัยโรจน์ นั้น สงสารครอบครัวของ เนตรดาว มาก และชัยโรจน์ ได้ไปงานศพของ เนตรดาว ในวันนั้น พร้อมทั้งให้เงินช่วยเหลือ แก่ครอบครัวเนตรดาว แม้ว่า เอกวิทย์ จะไม่ยินดี ยินร้ายก็ตาม





(ห้องทำงานของ เอกวิทย์ ในบริษัทเอเอเอส สำนักงานใหญ่)



ที่ห้องทำงานของ เอกวิทย์ นักข่าวก็ขึ้นมาพร้อมกัน และเริ่มตั้งคำถามกับ เอกวิทย์ ในฐานนะประธานบริษัท ความว่า


“ไม่ทราบว่า เรื่องที่ คุณเอกวิทย์ ไปทำผู้หญิงที่ชื่อ นส.เนตรดาว จนตั้งครรภ์ และตอนนี้ เธอทำแท้งจนเสียชีวิตแล้ว เป็นความจริงหรือป่าวค่ะ” กลุ่มนักข่าวได้ถามเอกวิทย์ จากนั้น เอกวิทย์จึงได้ตอบความว่า



“เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ไร้สาระที่สุด เท่าที่ผมเคยได้ยินมาเลยละครับ คนระดับผม จะยอมลดตัวลงไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร” เอกวิทย์ ประธานบริษัทเอเอเอส พูดอย่างสุขุม



“แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานในเรื่องนี้ แต่พ่อกับแม่ ของ นส.เนตรดาว ก็ยืนยันหนักแน่ ไม่ทราบว่า คุณเอกวิทย์ มีความคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ค่ะ” นักข่าวถาม


“ความจริงเรื่องนี้ ผมสามารถฟ้องฐานหมิ่นประมาทได้ง่ายๆเลยนะครับ และมีความเป็นไปได้สูง ที่ผมจะชนะคดี แต่ผมก็เห็นใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ ที่เพิ่งเสียลูกสาวไปนะครับ และผมคงจะไม่ดำเนินการอะไรในตอนนี้”


“นั้นหมายความว่า คุณเอกวิทย์ จะไม่ยอมรับใช่ไหมครับ ว่าลูกในท้องของ นส.เนตรดาว เป็นลูกของคุณวิทย์” นักข่าวผู้ชายคนหนึ่งถามจี้


“เอ๊ะ!! คุณถามแบบนี้หมายความว่าไง!! นี้คุณกำลังกล่าวหาผมอย่างไม่มีหลักฐาน คุณเป็นนักข่าวช่องไหน ผมสามารถฟ้องคุณเรียกค่าเสียหายได้เป็นล้านนะครับ” เอกวิทย์ พูดขึ้นเสียง อย่างดุดันเพื่อข่มขู่นักข่าวคนดังกล่าว


“....................” นักข่าวคนนั้น โดน เอกวิทย์ ดุใส่ เล่นไปไม่เป็นเลยเหมือนกัน จากนั้น เอกวิทย์ ก็พูดต่อความว่า


………….25


“ผมว่า หากพวกคุณฉลาดพอ อย่าได้ลงข่าวนี้เลยจะดีกว่า ถ้าไม่อยากโดนผมฟ้องเรียกค่าเสียหาย และผมจะมอบสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ให้พวกคุณไปกินขนมด้วยอย่างงาม หากเรื่องที่เราคุยกันวันนี้ จะหยุดอยู่เพียงแค่ในแต่ห้องนี้เท่านั้น ทุกท่านเข้าใจไหมครับ”


นักข่าวทุกคนพยักหน้า และบอกว่าจะไม่ลงข่าวนี้ เพราะมีโอกาสสูงมาก ที่จะเจ็บตัวหากลงข่าวที่ขาดซึ่งหลักฐาน เพราะไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้ว่า เอกวิทย์ เป็นพ่อของเด็กในลูกของ นส.เนตรดาว จริง



แต่ทว่า ก็ยังมีนักข่าวหนังสือพิมพ์หัวสีรายหนึ่ง ได้แอบลงข่าวเรื่องนี้ไว้ในคอลัมพ์เล็กๆ ซึ่ง เอกวิทย์โกรธมาก และเอกวิทย์ ก็ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจริงๆ และสุดท้าย หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นก็แพ้คดี และต้องยอมจ่ายเงินค่าเสียหาย และเขียนบทความเพื่อขอโทษ เอกวิทย์ ในที่สุด



แต่ทว่า ในวงการไฮโซ และวงนินทาของบุคคลชั้นสูง ต่างเชื่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และจากการบอกปากต่อปาก เรื่องนี้ก็รู้ไปถึงหูของ ผบ.ทบ. พ่อของ สุดาทิพย์ ก็ยิ่งทำให้ พ่อของ สุดาทิพย์ ยิ่งเกลียด เอกวิทย์เข้าไปอีก และยิ่งทำให้ เอกวิทย์ ที่กำลังหาที่อยู่ของ สุดาทิพย์ ยากเข้าไปอีก เพราะพ่อของสุดาทิพย์ พยายามกันทุกทาง เพื่อไม่ให้เอกวิทย์ หาที่อยู่ของสุดาทิพย์เจอ



และแล้ว จากการหาข้อมูลที่อยู่ของ สุดาทิพย์ อย่างหนัก ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทั้งจากตัวของเอกวิทย์เอง และจากทีมนักสืบ ในองค์กรลับของเอกวิทย์ ให้มาหาข้อมูลนี้โดยเฉพาะ แม้ว่าจะมีอุปสรรค์ที่สำคัญคือ ผบ.ทบ. และทีมงานของ ผบ.ทบ. ที่คอยขัดขวาง การหาที่อยู่ของสุดาทิพย์ทุกวิถีทาง



ทั้งการปกปิดเอกสารต่างๆ ทั้งการลบฐานข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ และข่มขู่ทีมงานนักสืบของเอกวิทย์อย่างหนัก แต่ทีมงานนักสืบในองค์กรลับของเอกวิทย์ ก็ยังทำงานให้เอกวิทย์อย่างลับๆต่อไป เพราะ เอกวิทย์ ทุ่มเทเงินลงไปเป็นจำนวนมาก



และแล้ว จากคำกล่าวที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั้น” ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เมื่อที่นักสืบของเอกวิทย์ ได้เจอข้อมูลสำคัญจากระบบอินเตอร์เน็ตนั้นคือ อีเมล์ที่ สุดาทิพย์ ใช้เป็นประจำนั้นเอง นั้นเป็นเพราะ ทีมงานของ ผบ.ทบ. ตามลบ อีเมลล์ของสุดาทิพย์ในระบบอิเตอร์เน็ตไม่หมด



เมื่อเอกวิทย์ ได้อีเมล์ของสุดาทิพย์มาแล้ว และเขาก็ได้แอ๊ดไปหาสุดาทิพย์ทาง MSN ทันที โดยการพิมพ์ข้อความหากันความว่า


................26


(โต๊ะคอมพิวเตอร์ ในห้องนอนของเอกวิทย์)


“สวัสดีครับน้องดา ยัยหัวฟู” เอกวิทย์ พิมพ์ข้อความผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต MSN


“สวัสดีค่ะ เอ๊ะนั้นใครเหรอค่ะ”


“จำพี่ไม่ได้แล้วเหรอ น้อยใจแล้วนะน้องดา”


“อืม....ขอโทษนะค่ะจำไม่ได้แล้วจริงๆค่ะ”


“พี่น้อยใจมากๆเลย งั้นบายนะ”


ว่าแล้ว เอกวิทย์ก็ปิดโปรแกรม MSN พร้อมกับยิ้ม ก่อนดูนาฬิกา และคิดในใจความว่า


“อิ นี้เป็นแผนจีบหญิงขั้นเทพ แค่แกล้งกดดันให้ฝ่ายหญิงรู้สึกผิดนิดๆ และอีกไม่เกิน 10 นาที น้องดาต้องเอ๊ดเมลล์มาแน่ๆ” จากนั้น เอกวิทย์ก็จับเวลา


ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น สุดาทิพย์ ก็เอ็ดเมลล์มาจริงๆ เมื่อครบกำหนด 10 นาทีตามที่เอกวิทย์ ได้คาดการณ์ไว้ ความว่า


“นี้ นาย อยู่ไหม เราขอโทษนะที่จำไม่ได้ อีเมลล์มันไม่คุ้นจริงๆ ไม่ตอบหน่อยเหรอ”


และด้วยความเก๋าเกมส์ ของเอกวิทย์ ในการจีบสาว เขาจึงรู้ว่า ควรให้สุดาทิพย์ รู้สึกผิดก่อนเป็นอันดับแรก ที่ไม่สามารถจำชื่อเพื่อนได้ และต้องให้กระวนกระวายใจเล่นซักวันสองวัน ว่าคนที่เอ็ดเมลล์มานั้นเป็นใครกันแน่ จากนั้นเอกวิทย์ จึงพิมพ์ตอบไปว่า


“ขอโทษนะน้องดา เดี่ยวพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นนะ ไว้คุยกันพรุ่งนี้นะ”


“อ้าวเดียวสิ ใครอะเรียกเราน้องดา มีคนเรียกแบบนี้ไม่กี่คนนะ แล้วเรียกเรายัยหัวฟูด้วย ใครอะ เดียวก่อน”


และแล้ว เอกวิทย์ก็ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเขาก็ยิ้ม และคิดในใจว่า


“จีบหญิงมันต้องแบบนี้แหละ ฮ่าๆ อย่าทำตัวให้เป็นของง่าย ให้น้องดาค้นหา และกลุ้มใจเล่นซักวัน พรุ่งนี้ค่อยเอ็ดเมลล์ไปหาอีก”


.............27


และแล้ว แผนการของ เอกวิทย์ ก็เป็นจริงดังนั้น เพราะแค่ข้อความเพียงไม่กี่ประโยค ก็เล่นเอาสุดาทิพย์ กลุ้มใจทั้งวัน จนไม่เป็นอันเรียนจริงๆ


(ในห้องเรียน มหาวิทยาลัยแฟชั่นในฝรั่งเศส)



สุดาทิพย์ กลุ้มใจนิดหน่อยจนถึงปานกลาง และเรื่องนี้มันก็สามารถรบกวนการเรียนของเธอได้อย่างมากมาย จากนั้นสุดาทิพย์ ก็บ่นในห้องเรียนความว่า


“เรียกน้องดานี้ เขาเป็นใครกันะ แต่อีเมลล์นี้ไม่คุ้นเลย”


“ หรือจะเป็น พี่วรวุทธ ไม่น่าจะใช่นะ พี่วุทธไม่เคยเรียกเราว่าน้องดา”


“แล้วใครกันนะ หรือไอ้พวกยัยป๊องพวกนั้นแอ๊ดเมลล์มาแกล้ง ไม่น่าจะใช่”


“เรียกน้องดานี้แปลกจัง เรียกว่ายัยหัวฟูด้วย ใครนะ”


“โอ้ย........เรียนไม่รู้เรื่องแล้ว แถมพรุ่งนี้ต้องออกแบบแฟชั่น ส่งอาจารย์อีก ใครนะแกล้งแบบนี้ถ้ารู้จะด่าให้เจ็บเลย”



....................โปรดติดตามตอนต่อไป




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2552
0 comments
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2552 9:00:11 น.
Counter : 732 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ruddy01
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ruddy01's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.