ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
19 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
น้ำดื่มในอุดมคติ โดย ศ.ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน

น้ำดื่มในอุดมคติ โดย ศ.ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน (Prof.Somsak Varakamin M.D.,Dr.PH.)

การศึกษา
- สาธารณสุขศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (Dr.PH.) Tulane University สหรัฐอเมริกา
- สาธารณสุขศ าสตร์มหาบัณฑิต (M.PH.) Tulane University สหรัฐอเมริกา
- การแพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การทำงาน
- อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
- อธิบดีกรมการอนามัย
- ผู้อำนวยการโครงการวางแผนครอบครัวแห่งชาติ กระทรวงสาธารณะสุข
- ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
- วุฒิสมาชิก
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี พรรคความหวังใหม่
- ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ)
- ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ)
- ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ดร.อำนวย วีรวรรณ)

ปัจจุบัน
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย
- ประธานกลุ่มนักวิชาการกุหลาบแดง

เกียรติคุณ
- สอบได้ที่1 ของประเทศไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 สายวิทยาศาสตร์
- นักเรียนเก่าที่มีผลงานดีเด่น (Outstanding Alumnus) ของมหาวิทยาลัย Tulane
- สหรัฐอเมริกา
- นักวิจัยดีเด่น สภาวิจัยแห่งชาติ
- ปริญญาแพทย์ศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

น้ำพลังแม่เหล็ก (Magnetized Water, Magnetic Treatment Water) G.O.N. (God Only Knows)

สมัยที่ผู้เขียนไปศึกษาต่อต่างประเทศมีเอกสารทางวิชาการหลายฉบับ บรรยายถึงสรรพคุณของสารบางชนิดที่มีต่อร่างกายว่าทำให้เกิดผลอะไรขึ้น แต่ยังไม่สามารถอธิบายได้ด้วยความรู้ในขณะนั้น อาจารย์จะเขียนต่อท้ายเพียงสั้นๆว่า G.O.N. (God Only Knows) พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ต้องมีการศึกษาและวิจัยเพิ่มขึ้นบางเรื่องเพิ่งจะมาเฉลยเหตุผลได้ในปัจจุบัน แต่อีกหลายๆ คำถาม จนถึงขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังตอบไม่ได้

มีปรากฏการณ์ธรรมชาติอีกมากมายที่รอคำอธิบายทางวิชาการ
( Many obvious phenomena in nature remain unexplained )

ก้อนเมฆที่มองเห็นอยู่บนท้องฟ้า ประกอบด้วยไอน้ำและผงฝุ่นซึ่งหนักกว่าอากาศ ทำไมยังลอยอยู่ได้เหนือพื้นโลก
เหตุใดน้ำเลี้ยงของลำตัวต้นไม้ ที่ตั้งตรงสูงขึ้นไปร้อยๆฟุต จากผิวดินจึงไหลไปสู่ปลายยอด โดยไม่ต้องอาศัยปั้มสามารถชนะแรงดึงดูดของโลก (Gravity)

ทำไมเลือดของคนเราทั้งเหนียวและข้นจึงไหลผ่านหลอดโลหิตฝอย (Capillary)ยาวเป็นไมล์ๆ ไปทั่วร่างกาย ซึ่งไม่น่าจะเกิดมาจากการบีบตัวของหัวใจ เพราะแรงอัดที่ต้องใช้ขนาดนั้นมากพอ ที่จะทำให้เนื้อเยื่อรวมทั้งหลอดเลือดระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆได้

ในเดือน เมษายน ค.ศ.1993 มีหนังสือชื่อ ทำไมซากศพของกาจึงไม่เคยถูกพบ (Why the Corpses of Crows are never found ? ) เขียนโดย จูนิชิ ยาโออิ ชาวญี่ปุ่นซึ่งฮือฮากันมากอยู่ระยะหนึ่ง (ยกเว้นศพที่ตายจากอุบัติเกหตุ)

แนวความคิดเรื่องน้ำพลังแม่เหล็ก (Conception of Magnetized Water)
ในทางทฤษฎี น้ำพลังแม่เหล็ก (Magnetized Water) หมายถึง น้ำที่ได้รับผลกระทบทางฟิสิกส์จาก พลังแม่เหล็ก เกิดการปรับตัวของโครงสร้างโมเลกุลของน้ำขึ้นมาใหม่โดยมีการจับกลุ่มที่มีขนาดเล็กลงคือจากเคยมีถึง 30 โมเลกุลของน้ำต่อกลุ่ม แตกออกมาเป็น 6 โมเลกุลของน้ำ (H2O) ต่อ 1 กลุ่มนั้น

มีความเข้าใจที่ผิดๆว่า น้ำมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก (Magnetic Water) ได้เมื่อถูกนำไปอาบในสนามแม่เหล็กแรงๆ (Stong Magnetic Field) น้ำจะไม่สามารถเป็นแม่เหล็กและไม่อาจมีคุณสมบัติของแม่เหล็ก เพราะน้ำไม่มีโลหะเหล็กอยู่ในองค์ประกอบ

การเรียกชื่อที่ถูกต้องของ “น้ำพลังแม่เหล็ก” (Magnetized Water) ควรจะเป็น “น้ำที่เป็นผลจากพลังงานแม่เหล็ก” (Magnetic Treatment Water หรือ Magnetically treated) และไม่ควรใช้คำว่า “น้ำแม่เหล็ก” (Magnetic Water) เพราะซึ่งทางเคมี มีแต่ไฮโดรเจนและออกซิเจนเป็นองค์ประกอบ ไม่อาจเป็นแม่เหล็กได้

ผู้เขียนขอใช้คำว่า น้ำพลังแม่เหล็ก ไปก่อนทั้งที่ดูไม่เหมาะสมจนกว่าราชบัณฑิตยสถาน จะบัญญัติคำแปลไว้ในพจนานุกรม

คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของน้ำพลังแม่เหล็ก (Magnetic Treatment Water)
น้ำพลังแม่เหล็ก (Magnetized Water) มีโครงสร้างหรือกลุ่มโมเลกุลของน้ำขนาดเล็กลง จากที่เคยเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ (Boun Water) เหลือเพียง 5-6 โมเลกุลของน้ำต่อ 1 กลุ่ม (Microcluster) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์แต่ละสำนัก ก็จะเรียกชื่อต่างๆ กันออกไปอีก เช่น Microclustered Water, Nanoclustered Water, Clustered Water, Cosmic Water, Structured Warter, Magnetic Resonanace Water ฯลฯ

น้ำที่มีกลุ่มโมเลกุลเล็กกะทัดรัด อันเกิดจากอิทธิพลของคลื่นแม่เหล็กนี้ จะมีคุณสมบัติของน้ำที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ในอดีตใครก็ตามถ้าพูดถึงน้ำพลังแม่เหล็ก (Maggnetized Water) ถือว่าเป็นคนมีอาชีพหลอกลวง (Quackery)

ความรู้เรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำที่ได้รับพลังแม่เหล็ก (Magnetized Water, Magnetic Treatment Water) กว่าที่จะเป็นที่ยอมรับฟังในสังคมนักวิทยาศาสตร์ได้ ก็ต้องใช้เวลาอยู่นาน ถึงอย่างนั้นแพทย์ส่วนใหญ่ก็ยังมองว่า การใช้คุณสมบัติของแม่เหล็ก (Magnetism) เพื่อการรักษาโรคเป็นเรื่องที่หลอกลวง (Quackery) เป็นเรื่องไม่จริง พวกหมอเถื่อนเท่านั้นที่จะยอมเชื่อถือ ในขณะที่กลุ่มนักฟิสิกส์สมัยใหม่ให้การยอมรับว่า อิทธิพลของคลื่นแม่เหล็กมีผลต่อร่างกายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

อย่างไรก็ดี น้ำที่ได้รับพลังงานแม่เหล็ก (Maggnetized Water) ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะเรียกว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาโรคได้ทุกอย่างไปหนมด (Not amagic panacea or cure-all) และน้ำพลังแม่เหล็กนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกหลอกลวงไปทุกอย่างถ้าไม่พูดโอ้อวดจนเกินไป เพราะตามความเป็นจริงมันช่วยทำประโยชน์ให้กับสุขภาพของคนเราอย่างน้อยก็ 2 ทางด้วยกันคือ

1. มันทำให้น้ำ มีคุณสมบัติเป็นด่าง (Alkaline Water) ซึ่งช่วยกวาดล้างความเป็นกรดของร่างกาย ขยะของเสียที่มีฤทธิ์เป็นกรด (Acidic Waste) เกิดมาจากการกินอาหารในปัจจุบัน ที่มีเนื้อสัตว์หรือโปรตีนเป็นหลักหรือเกิดจากมลภาวะ (Prollution)ต่างๆ ภาวะเป็นกรด (ขาดออกซิเจน) เป็นที่ชื่นชอบของโรคมะเร็ง (Otto Warburg 1931)

2. พลังแม่เหล็ก จะทำให้โครงสร้างของน้ำ จับตัวกันใหม่ (Structured Water) เป็นกลุ่มขนาดเล็ก (Microcluster) มีความเป็นระเบียบดูดซึมเข้าเซลล์ง่ายขึ้น จึงมีประสิทธิภาพในการพาออกซิเจน เอนไซม์ สารอาหารต่างๆ ที่ละลายในน้ำเข้าไปให้เซลล์ได้ใช้งาน และในทำนองเดียวกันน้ำที่มีโครงสร้างของกลุ่มโมเลกุลขนาดเล็ก ก็สามารถออกจากเซลล์ได้ง่ายขึ้น พาเอาขยะสารพิษ (Toxin) ต่างๆ รวมทั้งแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ อันเป็นผลจากการเผาผลาญอาหาร (Metabolism) ออกมา เซลล์จึงสดชื่นแข็งแรงมีความต้านทานโรคเข้มแข็ง

จุดเปลี่ยนที่ทำให้สังคมต้องยอมรับเรื่องพลังแม่เหล็ก คือ รางวัลโนเบลทางการแพทย์ในปี ค.ศ 2003 ในผลงานการคิดค้นเรื่อง (สร้าง) ภาพ MRI (Magnetic Resononce Image)

คณะกรรมการรางวัลโนเบล ได้มอบ The 2003 Nobel Prize in Medicine (รางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ พ.ศ.2546) ให้ท่านเซอร์ ปีเตอร์ แมนฟิว นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม (Nottingham University) โดยเป็นรางวัลร่วมกับ ดร.พอล ลอเทอเบอ (Dr.Paul Lauterbur) นักเคมีชาวอเมริกันจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ (University of IIInois) สำหรับการค้นพบวิธีสร้างภาพ (Image) ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายมนุษย์โดยใช้ความสั่นสะเทือน ของไฮโดรเจน ในโมเลกุลของน้ำ อันเกิดจากคลื่นแม่เหล็ก (Magnetic resonance) เป็นหลัก ทำให้นำไปประดิษฐ์เครื่องมือใช้สำหรับตรวจโรคที่ดียอดเยี่ยมทางการแพทย์ชื่อ เอ็ม อาร์ ไอ (MRI-Magnetic Resonance)ซางมีประโยชน์มากกว่า เครื่องถ่ายภาพเอกซเรย์ (X-Ray) และเครื่องถ่ายภาพ ซี ที สแกน (CT Scanner)

ความจริงแล้ว คณะกรรมการโนเบลในปี ค.ศ.1971 ไม่ยอมเชื่อเรื่องนี้เมื่อครั้ง ดร.เรย์มอนด์ ดามาเดียน (Dr.Raymond Damadian) เสนอผลงานการประดิษฐ์เครื่อง เอม อาร์ ไอ (MRI) ในปี ค.ศ.1971 (เป็นเครื่องของโลกขณะนี้เก็บอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์สมิทโซเนียนในสหรัฐอเมริกร) และ ดร.ดามาเดียนได้จดสิทธิบัตรเอาไว้ด้วย เพราะช่วงนั้นทุกคนมองว่าเรื่องความถี่ของคลื่นแม่เหล็กไปสร้างความสั่นสะเทือน (Frequency of Vibration) ให้กับโมเลกุลต่างๆ เป็นนิยายโกหก ขณะนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาผู้ผลิตเครื่อง MRI Scanner เลยแพ้คดี ต้องจ่ายเงินค่าปรับในการละเมิดลิขสิทธิ์ของ ดร.ดามาเดียน ไปถึง 129 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะไม่ทราบว่าเป็นผู้จดสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีของเครื่อง เอม อาร์ ไอ (MRI) เอาไว้ก่อนแล้ว

การที่คณะกรรมการรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ในปี ค.ศ.2003 ยอมรับว่า พลังแม่เหล็กเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยการสั่นสะเทือนของโมเลกุลไฮโดรเจน ในน้ำที่ได้รับคลื่นแม่เหล็ก จึงเป็นจุดเปลี่ยน (Turning Point) ทางด้านความคิดที่สำคัญต่อกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เคยคัดค้าน

MRI (เอม อาร์ ไอ) นี้ ในตอนแรกเรียกว่า Nuclear Magnetic Resonance (NMR) ต่อมาได้ตัดคำว่า Nuclear (นิวเคลียร์)ออก เพราะดูจะไปคล้ายกับ Nuclear Bomb (ระเบิดนิวเคลียร์) โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซางฟังน่ากลัวที่จริงคำว่านิวเคลียร์ที่ใช้ใน MRI นี้ หมายถึงการสั่นสะเทือนที่นิวเคลียส ของไฮโดรเจนในน้ำ (H2o) จากสนามคลื่นแม่เหล็ก Magnetic Field เท่านั้น

เครื่อง เอม อาร์ ไอ (MRI – Magnetic Resonance Image)
เครื่อง MRI เป็นเครื่องมือสร้างภาพที่ใช้ในทางการแพทย์ซึ่งมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรค ก่อนศัลยกรรม (ผ่าตัด) เกี่ยวกับสมองหรืออวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย ได้อย่างแม่นยำง่ายดายมองเห็นเหมือนดูด้วยตาเปล่า เป็นรูปแบบ 3 มิติได้ด้วย ไม่มีกระบวนการที่จะทำให้คนไข้บาดเจ็บ ยกเว้นบางครั้งต้องฉีดสีชื่อ Gadolinium และเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องใช้เอกซเรย์ หรือรังสีใดๆทั้งสิ้น ทำให้การผ่าตัดปลอดภัยยิ่งขึ้น

อ่านต่อเรื่องอื่นๆ

- ทำไมน้ำที่รับพลังแม่เหล็กจึงเกิดประโยชน์สุขภาพ ของมนุษย์ตอนจบ

- ทำไมน้ำที่รับพลังแม่เหล็กจึงเกิดประโยชน์สุขภาพ ของมนุษย์ ตอนแรก

- ที่มาของพลังแม่เหล็ก (Magnenetic energy)

- ดื่มน้ำวันละเท่าไรดี

- สัญญาณของการขาดน้ำ

- พลังบำบัดของน้ำ

ที่มา
//www.thebestinsure.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=389558


Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2553 11:51:54 น. 0 comments
Counter : 1694 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.