สวัสดีครับ

โดยทั่วไปแล้วปัญหาเงินเฟ้อเป็นปัญหาที่มาพร้อมกับการขยายตัวอันรวดเร็วของเศรษฐกิจเห็นได้จากตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) เช่น กลุ่มประเทศ BRICได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลยเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นมีผลกระทบต่อการกินอยู่ของเราโดยตรงเลยละครับทำให้รายได้ของเรามีมูลค่าลดลงและเพิ่มรายจ่ายจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นครับ

แน่นอนว่าเงินออมของเราก็ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกันเช่น เงินออม 100 บาทในวันนี้ จะมีมูลค่าเหลือเพียง 97 บาทในปีหน้าและจะลดลงเรื่อยๆ ตามกาลเวลา หากอิงตามอัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยของไทยเราที่ 3% ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอนำเสนอวิธีสวมเกราะและเสริมแกร่งให้เงินออมเพื่อต้านทานภาวะเงินเฟ้อครับ ดังนี้ครับ

1. ควบคุมรายจ่าย ซึ่งสามารถเริ่มทำได้จากการทำบันทึกรับ-จ่าย เพื่อจะได้ทบทวนการใช้เงินของตัวเอง หากรายได้และเงินออมของเราหมดไปกับค่าช้อปปิ้ง การสังสรรค์ หรืออาหารและเครื่องดื่มราคาแพง บันทึกรับ-จ่ายจะเป็นตัวช่วยให้เราเห็นว่าเราหมดเงินไปกับสิ่งเหล่านี้มากแค่ไหน ก็จะช่วยให้เราตัดรายจ่ายที่ฟุ้มเฟือยออกเพื่อให้เหลือเงินออมมากขึ้นได้ ในส่วนนี้ ขอแนะนำว่าให้ตั้งเป้าเก็บออมในแต่ละเดือนให้ได้อย่างน้อย 10% ของรายได้ และ 20% สำหรับคนที่ไม่มีภาระหนี้สิน หากเราสามารถตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นแล้วเปลี่ยนมาเป็นเงินออมได้อย่างสม่ำเสมอ เท่านี้ก็จะเป็นการสวมเกราะให้เงินออมแล้วครับ จะได้ไม่หมดไปกับการใช้จ่ายฟุ้งเฟือย

2. นำเงินออมบางส่วนไปออมไว้ในกองทุนรวมประเภทตลาดเงิน นอกจากการออมเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำแล้ว เราควรแบ่งเงินสำรองมาออมไว้ในกองทุนเปิดประเภทตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นตามดอกเบี้ยซึ่งมักจะมีทิศทางเดียวกันกับอัตราเงินเฟ้อ เป็นการเสริมแกร่งให้เกราะเงินออมครับ จะได้สู้กับเงินเฟ้อไหว นอกจากนี้ กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นยังมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง ทำให้เรามารถขยับเงินของเราได้ยามฉุกเฉินครับ

3. ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดี โดยทั่วไปแล้ว มูลค่าของสินทรัพย์จะเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อจะเกิดขึ้นในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวหรือเติบโต ช่วงเวลาดังกล่าวควรเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นให้มากขึ้น เพราะผลประกอบการของบริษัทต่างๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้นและมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้นจากดอกเบี้ยขาขึ้น

สำหรับการลงทุนที่มีความเสียงต่ำควรลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้และ/หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุเฉลี่ยของตราสารไม่เกิน 1 ปีเพราะมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว กล่าวคือหากเราติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและปรับรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสมก็จะเป็นการเสริมแกร่งให้กับเกราะป้องกันเงินออมของเราได้ครับ

Tip:ศึกษาเรื่องการลงทุนได้จาก Guidebook เรื่องอยากลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง ได้ที่ //k-expert.askkbank.com/Article/Pages/SmartInvestment_Guidebook.aspx

4. ตั้งเป้าหมายให้แน่วแน่ และทำให้ได้ตามแผนที่วางไว้ การวางแผนการเงิน ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรื่องเงินเฟ้อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเรามีเป้าหมายการเงินที่ชัดเจน เช่น ตั้งใจเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ เพื่อท่องเที่ยว เพื่อการศึกษา เพื่อครอบครัว หรือเพื่อเป้าหมายส่วนตัวของแต่ละคน ดังนั้น ไม่ว่าเงินเฟ้อมีผลกระทบต่อต้นทุนชีวิตมาน้อยเพียงใด หากเรารู้จักออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่านอกจากจะสามารถลงทุนได้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อแล้ว เรายังสามารถบรรลุเป้าหมายการเงินที่วางไว้ และคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งวินัยในการออมของเราเองนี่แหละครับ ที่จะเป็นการเสริมแกร่งให้เกราะป้องกันเงินออมของเราได้ดีที่สุด

และทั้งหมดนี้ก็เป็น 4วิธีสวมเกราะและเสริมแกร่งให้เงินออมของเราเพื่อเอาชนะภาวะเงินเฟ้อที่ผมนำมาบอกเล่ากันในวันนี้นะครับท้ายนี้ผมขอย้ำนะครับว่า วินัยในการออมเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับการออมนะครับ หากเรามีวินัยในการออมมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จตามเป้าหมายของเราครับ

ท้ายนี้หากใครมีคำถามเรื่องการเงินและการลงทุนเพื่อเป้าหมายตามฝัน สามารถปรึกษา

Email ปรึกษาทุกเรื่องการเงินอย่างเป็นส่วนตัว: k-expert@kasikornbank.com

Website รวมบทความและเครื่องมือคำนวณทางการเงิน: www.askkbank.com/k-expert

บริการ K-Expert สะดวกสบาย โทรปรึกษาได้ 24 ชั่วโมง : 0 2888 8888 กด 0 กด9

Twitter@KBank_Expert: //twitter.com/KBank_Expert

Credit: ขอบคุณภาพประกอบจากansweringasummons.com ครับ