สวัสดีครับ

เชื่อว่าการมีบ้านและรถยนต์เป็นฝันและเป้าหมายทางการเงินอันดับต้นๆของใครหลายคน แต่ก็มีอยู่บ่อยครั้ง ที่ฝันที่ว่านั้นได้กลายเป็นฝันร้ายอันยาวนานเพราะการซื้อบ้านและรถนั้นนำมาซึ่งภาระทางการเงินก้อนโตที่เราจะต้องแบกรับไปนานหลายปีและแน่นอนว่าระหว่างทางสู่การเป็นเจ้าของบ้านและรถนั้น อาจมีอุปสรรคทางการเงินเข้ามาบั่นทอนกำลังใจไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคที่เกิดจากรายรับที่ลดลง รายจ่ายที่สูงขึ้น หรือจะเป็นปัจจัยอื่นๆที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการบริหารหนี้ ด้วยเหตุนี้ หลายๆคนจึงท้อถอยและยอมแพ้ไปในที่สุด ดังนั้น วันนี้ผมจึงขอนำเสนอแนวทางการจัดการหนี้บ้านและรถเมื่อเราผ่อนต่อไม่ไหวครับ

สำหรับผู้ที่มีปัญหาการผ่อนบ้าน มีแนวทางดังนี้ครับ

1. หากยังมีอายุไม่มากนักแนะนำให้ติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอขยายระยะเวลาผ่อนออกไปซึ่งจะส่งผลให้ยอดการผ่อนรายเดือนลดลงครับ เช่น ขยายจากการผ่อน 25 ปี เป็น 30 ปี เป็นต้น

2. ขอรีไฟแนนซ์เพื่อลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ก่อนขอรีไฟแนนซ์ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้ดีว่าอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ลดลงนั้น คุ้มค่าไหมเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะเกิดขึ้นการการขอรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกัน ค่าธรรมเนียมจดจำนองรวมถึงค่าปรับที่อาจต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงินเดิมของเราในกรณีที่ขอรีไฟแนนซ์ในช่วง3 ปีแรกครับ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะปรับอยู่ที่ 2-3% ของวงเงินครับ

3.หากมีภาระหนี้คงเหลือไม่มากนัก และมีสวัสดิการการเงินอื่นๆ จากบริษัทที่ทำงานอยู่เช่น สวัสดิการกู้ยืมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราเดิมที่เราจ่ายอยู่ก็แนะนำให้ลองพิจารณาทำเรื่องขอกู้เงินจากสวัสดิการมาปิดภาระหนี้บ้านก็จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้ครับ

4. หารายได้เพิ่มด้วยการแบ่งพื้นที่บ้านบางส่วนเพื่อสร้างรายได้ เช่น ปล่อยเช่า เป็นต้น

สำหรับผู้ที่มีปัญหาการผ่อนรถ มีแนวทางดังนี้ครับ

1. ขอรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิมที่เราผ่อนชำระอยู่วิธีนี้จะช่วยยืดระยะเวลาในการผ่อนและแบกภาระผ่อนรายเดือนน้อยลง แต่โดยทั่วไปแล้วการขอรีไฟแนนซ์รถกับสถาบันการเงินเดิมมักจะมีเงื่อนไขว่า จะรีไฟแนนซ์ได้ก็ต่อเมื่อเราเหลือเวลาการผ่อนต่ำกว่า12 เดือน และขอรีไฟแนนซ์ได้สูงสุดไม่เกิน 60 เดือน(ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและการพิจารณาของสถาบันการเงินนั้นๆ)

2. หากมีรถอยู่แล้ว 1คันที่หมดภาระผ่อนแล้ว แนะนำให้ลองพิจารณานำรถคันดังกล่าวไปแปลงเป็นเงินสดโดยการใช้บริการสินเชื่อรถช่วยได้ โดยจะแปลงเป็นวงเงินให้สูงสุด 80% ของราคาประเมินและมีระยะเวลาผ่อนชำระ 12-60 เดือน ในอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ สำหรับวิธีนี้เราสามารถนำเงินก้อนนี้ไปปิดหนี้รถเพื่อที่จะได้ส่วนลดดอกเบี้ย 50% ครับ ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาให้รอบคอบว่าส่วนลดดอกเบี้ย 50%นั้น คุ้มกับดอกเบี้ยใหม่ที่ต้องจ่ายให้กับสินเชื่อรถช่วยได้หรือไม่

และนี่ก็เป็นแนวทางการจัดการหนี้บ้านหนี้รถในยามที่เราผ่อนต่อไม่ไหวครับใครมีคำถามเกี่ยวกับการซื้อบ้านและรถ สามารถส่งอีเมล์มาปรึกษา K-Expert ได้ที่k-expert@kasikornbank.com หรือเข้าไปอ่านสาระดีๆ ได้ที่ www.askkbank.com/k-expert และสำหรับคนที่ชื่นชอบการรับข้อมูลข่าวสารทาง Twitter ก็สามารถติดตามข้อมูลดีๆ ได้ที่ @KBank_Expert (//twitter.com/KBank_Expert)

Credit: ภาพประกอบจาก Justweb.com

Create Date : 04 กันยายน 2555
Last Update : 4 กันยายน 2555 10:47:57 น.		0 comments
Counter : 2525 Pageviews.
Share Tweet