Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 3







ทศชาติชาดก
เรื่อง พระเตมีย์
ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 3



จากตอนที่แล้ว ได้กล่าวถึงอดีตกาลในกรุงพาราณสี ได้มีพระเจ้ากาสิกราชปกครองไพร่ฟ้าด้วยความร่มเย็นมาช้านาน แต่โดยส่วนพระองค์แล้วไม่ค่อยทรงสบายพระหฤทัยนัก เพราะทรงครองราชย์มานานแล้ว แต่ไม่มีพระโอรส หรือธิดาแม้เพียงพระองค์เดียว ชาวเมืองถึงกับมาชุมนุมกันร้องเรียนขอให้ทรงมีพระโอรสบ้าง


พระองค์จึงทรงรับสั่งให้ประชุมพระสนมกำนัล และพราหมณาจารย์ทั้งหลาย ให้ทำพิธีบวงสรวงอ้อนวอนเทวดาเพื่อขอพระโอรส แต่แม้จะทำพิธีผ่านไปนานแล้ว ก็ยังไม่มีพระเทวีองค์ใดให้กำเนิดพระโอรสเลยส่วนพระนางจันทาเทวี ผู้เป็นพระอัครมเหสี ทรงเห็นว่าแม้พระนางก็ควรจะทำความปรารถนาบุตรดูบ้างเมื่อถึงวันพระขึ้น 15 ค่ำ จึงสมาทานอุโบสถศีล แล้วตั้งสัจจอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจแห่งศีลนี้ขอให้มีพระโอรสด้วยเถิด


ด้วยอานุภาพแห่งศีลบารมีที่พระนางจันทาเทวีทรงบำเพ็ญดีแล้ว กอปรกับแรงสัจจอธิษฐานนั้น ปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ของท้าวสักกเทวราชผู้ปกครองภพดาวดึงส์จึงเกิดอาการร้อนขึ้น เป็นเหตุให้ท้าวเธอร้อนรุ่มพระหฤทัยจนไม่อาจทนนิ่งเสวยทิพยสมบัติเป็นปกติสุขได้ จึงทรงสอดส่องทิพยเนตรตรวจดู ก็ทรงเห็นเหตุชัดเจนว่า พระนางจันทาเทวีทรงปรารถนาพระโอรสจึงทรงกำหนดในพระหฤทัยว่า เราจะให้พระโอรสแก่พระนางเจ้า ทรงพิจารณาดูว่า เทพบุตรองค์ใดหนอจะมีบุญญาธิการมากพอจะเป็นพระโอรสของพระนางเจ้าได้ ก็ทรงเห็นว่า มีเทพบุตรอยู่องค์หนึ่ง ชาติก่อนเคยเป็นพระเจ้ากรุงพาราณสี เสวยราชสมบัติอยู่เพียง 20 ปี

เมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว เพราะบาปที่สั่งลงทัณฑ์นักโทษ โดยสั่งจำขังบ้าง สั่งประหารด้วยวิธีการต่างๆ บ้าง จึงไปเกิดอยู่ในอุสสุทนรก ขุมบริวารของสัญชีวมหานรกอยู่ 8 แปดหมื่นปีเมื่อพ้นจากอุสสทนรกนั้นแล้ว ได้มาเกิดอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งบัดนี้ใกล้ที่จะจุติขึ้นไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่สูงขึ้นไป


ท้าวสักกเทวราช ทรงใคร่ครวญถึงเหตุนั้นแล้ว ก็ตกลงพระทัยที่จะเชื้อเชิญเทพบุตรผู้มากด้วยบุญญาธิการ มาถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระนางจันทาเทวี จึงเสด็จออกจากเวชยันต์ปราสาทด้วยราชรถอันตระการตา ไม่ช้าก็ไปปรากฏยังทิพยวิมานของเทพบุตรองค์นั้น ซึ่งมีรัศมีกายสว่างเรืองรองต่างจากเทพบุตรองค์อื่น ขณะเทพบุตรนั้น กำลังเสวยทิพยสมบัติอันโอฬารอย่างสุขสำราญภายในวิมานของตน เมื่อเสด็จเข้าไปประทับยืนใกล้เทพบุตรองค์นั้น ท้าวสักกะก็ตรัสเชื้อเชิญว่า “ข้าแต่ท่านผู้เปี่ยมด้วยบุญญาธิการ ขอท่านจงไปบังเกิดในครรภ์ของพระนางเจ้าจันทาเทวี อัครมเหสีของพระเจ้ากาสิกราชในเมืองพาราณสีด้วยเถิด เพราะบัดนี้เป็นโอกาสอันดี ที่ท่านจะได้บำเพ็ญบารมีให้บริบูรณ์ เพื่อประโยชน์สุขแก่โลกสืบไป”


เทพบุตรโพธิสัตว์ได้สดับคำเชื้อเชิญของท้าวสักกะเช่นนั้น ก็มีความปีติยินดี ด้วยปรารถนาจะสร้างบารมีให้เต็มเปี่ยมในเร็ววัน เพื่อมุ่งพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นที่สุด จึงตัดสินใจรับคำเชื้อเชิญของท้าวสักกเทวราช ส่วนเทพบุตรบริวารของพระโพธิสัตว์อีก 500 องค์ ก็ถึงเวลาใกล้จะจุติเช่นเดียวกัน จึงรับอาสาว่า แม้พวกตนก็ขออาสาที่จะจุติลงไปเกิดเพื่อเป็นบริวารของท้าวเธอ


ในราตรีนั้น เทพบุตรโพธิสัตว์จึงจุติลงสู่พระครรภ์ของพระนางเจ้าจันทาเทวี ส่วนเทพบุตรบริวารทั้ง 500 องค์นั้น ก็จุติลงมาบังเกิดในครรภ์แห่งภรรยาของอำมาตย์ทั้งหลาย ในคืนที่เทพบุตรโพธิสัตว์เสด็จจุตินั้น พระนางเจ้าจันทาเทวีมีความรู้สึกประหนึ่งว่า พระอุทรของพระนางเต็มไปด้วยแก้ววิเชียรอันสว่างไสว ทำให้ทรงแน่พระทัยว่าทรงตั้งพระครรภ์แล้ว ครั้นทรงตื่นบรรทมในเวลาเช้า พระนางเจ้าทรงมีพระทัยยินดี ปรารถนาจะให้พระราชสวามีทรงมีความยินดีเช่นเดียวกับพระนาง จึงเสด็จเข้าสู่ห้องสรง ทรงพระภูษาอันวิจิตร แล้วรีบเสด็จเข้าไปกราบทูลพระราชสวามีให้ทรงทราบ


เพียงได้สดับว่า พระอัครมเหสีจะทรงมีพระราชโอรสแด่พระองค์ พระราชาก็ทรงดีพระหฤทัยยิ่งนัก ด้วยทรงปรารถนาพระราชโอรสมาเป็นเวลานานเหลือเกินแล้ว จึงทรงพระราชทานเครื่องบริหารพระครรภ์แก่พระนาง กำชับเหล่านางสนมกำนัลให้คอยระวังรักษาพระครรภ์ และดูแลพระพลานามัยของพระนางเป็นอย่างดี นับแต่วันที่พระนางทรงพระครรภ์ พระเจ้ากาสิกราชก็ทรงเฝ้ารอคอยวันที่พระนางจะประสูติพระราชโอรสอย่างใจจรดใจจ่อ แม้เหล่าข้าราชบริพารและชาวเมือง ต่างก็มีความปลื้มปีติใจกันทั่วหน้า มีใจเบิกบานแจ่มใสไม่น้อยไปกว่าพระราชาของตน


เมื่อพระนางจันทาเทวีทรงพระครรภ์ครบกำหนด ๑๐ เดือน ก็ทรงประสูติพระราชกุมารผู้มีพระฉวีวรรณผุดผ่อง ทรงเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยบุญลักษณะอย่างหาผู้เปรียบปานมิได้ ฝ่ายพระเจ้ากาสิกราชเล่า เมื่อได้ทรงทราบข่าวจากเจ้าพนักงานว่า พระอัครมเหสีทรงประสูติพระราชโอรสแล้วเท่านั้น ก็ทรงปรีดาปราโมทย์ มีปีติซาบซ่านไปทั่วพระราชหฤทัย เกิดความรักในพระราชโอรสเป็นกำลัง ราวกับผืนดินอันแห้งผากได้รับฝนอันฉ่ำชื่นในยามวสันตฤดู จึงทรงดำริว่า

“ลูกเราเป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด ย่อมไม่เกิดเพียงลำพังผู้เดียว จะต้องมีบริวารติดตามมาเป็นแน่แท้”

จึงตรัสเรียกเสนาบดีมาเข้าเฝ้า แล้วรับสั่งว่า

“ท่านจงไปเที่ยวสืบดูทีซิว่า ในเรือนของเหล่าอำมาตย์ในวันนี้นะ มีทารกเกิดขึ้นบ้างหรือไม่”


ท่านเสนาบดีรับคำว่า “รับด้วยเกล้าพะย่ะคะ ข้าพระองค์จะรีบตรวจค้นตามเรือนอำมาตย์ให้ทั่ว ขอพระองค์ทรงวางพระทัยเถิดพระเจ้าข้า”แล้วก็เป็นจริงดังที่พระเจ้ากาสิกราชคาดการณ์ไว้ เพราะไม่ว่าท่านเสนาบดีจะไปสู่เรือนของอำมาตย์คนใด ก็ล้วนมีทารกที่กำเนิดในวันนั้นทั้งสิ้น เป็นที่อัศจรรย์ว่าในวันนั้น มีกุมารเกิดพร้อมกันจำนวนมากถึง 500 คน
ท่านเสนาบดีทราบความนั้นแล้วก็รีบกลับมาเข้าเฝ้าพระราชา กราบทูลว่า “ขอเดชะ พระอาญาไม่พ้นเกล้า ในวันนี้ภรรยาของเหล่าอำมาตย์ได้ให้กำเนิดบุตร 500 คนพร้อมกัน พระเจ้าข้า” ส่วนพระเจ้ากาสิกราชเมื่อทรงสดับข่าวสารอันเป็นมงคลนั้นแล้ว ก็ทรงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง พระองค์จะทรงรับสั่งประการใด เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป

โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

from dmc.tv



Create Date : 16 ตุลาคม 2550
Last Update : 23 ตุลาคม 2550 17:15:54 น. 0 comments
Counter : 731 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมืองทะเลทราย
Location :
Dubai United Arab Emirates

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ว้า...ดูไบเนี่ยทำไม มันร้อนจริง ๆ เลย



Friends' blogs
[Add เมืองทะเลทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.