Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 22




ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์
ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 22



จากตอนที่แล้ว พระเตมียราชฤษีถูกพระราชบิดาเชื้อเชิญให้เสด็จกลับพระนครเพื่อครองราชย์ โดยทรงให้เหตุผลว่า พระราชกุมารยังเป็นหนุ่มอย่าเพิ่งออกบวชเลย จึงถวายพระพรว่า บุคคลผู้จะบวชเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ ควรจะบวชเสียแต่ยังหนุ่ม เพราะนักปราชญ์ทั้งหลายสรรเสริญการบรรพชาของคนหนุ่ม อีกอย่างหนึ่ง ฐานะกษัตริย์ที่พระองค์จะพระราชทานให้นั้น เป็นเหตุให้ต้องก่ออกุศลกรรมมากมาย แม้ในอดีตชาติที่ผ่านมา อาตมภาพก็เคยเป็นกษัตริย์ได้ครองราชสมบัติอยู่ 20 ปี แต่กลับต้องเสวยทุกขเวทนาในนรกถึง 8 หมื่นปี อาตมภาพมองเห็นภัยที่จะต้องตกนรก จึงประสงค์จะออกบวช เพื่อให้พ้นจากทุกข์ภัยเหล่านั้น

พระราชาได้ทรงสดับธรรมที่พระเตมียราชฤษีแสดงตามลำดับ ก็ทรงมีพระราชหฤทัยน้อมไปในการบรรพชา ทรงดำริว่า เราจักบวชเสียแต่ในบัดนี้ จะไม่ขอกลับพระนครอีก แต่ก็ทรงเป็นห่วงพระโอรสว่ายังหนุ่ม ควรที่จะกลับไปครองราชย์เสียก่อน ต่อเมื่อเจริญด้วยบุตรธิดาแล้ว จึงค่อยบรรพชาในภายหลัง

ทรงดำริเช่นนี้แล้ว จึงตรัสเชื้อเชิญพระเตมียราชฤษีอีกว่า “พ่อขอมอบราชสมบัติของตระกูล กับทั้งสนมนารีตลอดถึงราชนิเวศน์ให้แก่เจ้า ขอเจ้าจงกลับไปสืบราชสมบัติ มีพระชายาเสียก่อน เมื่อเจริญด้วยบุตรธิดาแล้วจึงค่อยบวชในภายหลัง ลูกยังหนุ่มอยู่จะรีบบวชไปทำไม”




พระเจ้ากาสิกราชทรงทราบว่าพระราชโอรสไม่มีเยื่อใยในราชสมบัติแม้เพียงนิด จึงทรงตัดอาลัยในราชบัลลังก์ มีพระประสงค์ที่จะทรงออกผนวชอย่างแน่วแน่ จึงมีรับสั่งให้ตีฆ้อง ป่าวประกาศไปให้ทั่วพระนครว่า “ผู้ใดมีความศรัทธาเลื่อมใส ใคร่จะบวชตามพระเตมียราชกุมาร ก็ขอจงบวชเถิด”

จากนั้นก็ทรงมีพระราชดำรัสสั่งให้เปิดท้องพระคลังทั้งหมด และให้จารึกแผ่นทองคำติดไว้ ณ เสาท้องพระโรงว่า “ผู้ใดต้องการทรัพย์สมบัติเงินทองของมีค่า ก็จงมาขนเอาไปจากท้องพระคลังหลวงนั้นเถิด”

แต่ก็ปรากฏว่า มิได้มีใครต้องการพระราชทรัพย์นั้นแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม ชาวเมืองกลับพากันทิ้งบ้านทิ้งเมือง ชักชวนกันไปสู่สำนักของพระเตมียราชกุมารกันเป็นจำนวนมาก




ในเวลานั้น ความอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น พระเจ้ากาสิกราช และพระอัครมเหสีได้นำเหล่าเสนามหาอำมาตย์ ข้าราชบริพารและมหาชนชาวเมืองพาราณสีที่ติดตามมา พาออกบวชเป็นฤษี ฤษิณี กันทั้งหมด


สถานที่ซึ่งท้าวสักกเทวราชทรงประทานให้ ทั้งหมดมีพื้นที่ประมาณหนึ่งโยชน์ เป็นพื้นที่ซึ่งมีป่าไม้ออกดอกออกผลไม่จำกัดฤดูกาล จึงเต็มไปด้วยหมู่ฤษี ฝ่ายพระโพธิสัตว์ได้จัดให้เหล่าฤษิณี ที่เป็นนักบวชหญิงได้สร้างอาศรมอาศัยอยู่ตอนกลางของป่านั้น ให้เหล่าฤษีนักบวชชายสร้างอาศรมอยู่รอบนอก

เมื่อคราวที่ฤษี หรือฤษิณีเหล่าใดเกิดนึกคิดในเรื่องกาม หรือเรื่องพยาบาท พระเตมียราชฤษีก็จะประทับนั่งบนอากาศประทานพระโอวาทให้แก่ฤษีและฤษิณีเหล่านั้น เมื่อพวกเขากระทำตามพระโอวาทของพระโพธิสัตว์ ต่างก็ได้สำเร็จอภิญญา 5 สมาบัติ 8 ตามกำลังแห่งความเพียร

ส่วนพระนครพาราณสีเมื่อไร้พระราชาและรัชทายาทสืบราชบัลลังก์ ก็ต้องกลายเป็นเมืองร้างในที่สุด จะเหลือก็แต่เพียงเด็ก คนแก่ชรา และพวกนักเลงสุราที่ยังคงตกอยู่ในความประมาท จึงไม่ปรารถนาที่จะออกบวชตามพระเตมียราชฤษี




ในเวลานั้น ท้าวสามนตราช (สา มน ตะ ราช) กษัตริย์ที่ครองนครใกล้เคียงกันพระองค์หนึ่ง เมื่อได้ทราบว่าพระเจ้ากาสิกราชสละราชสมบัติเสด็จออกผนวชในป่า และแม้เหล่าอำมาตย์ราชมนตรีและพสกนิกร ต่างก็ออกบวชตามพระองค์มากมาย จึงได้ยกกองทัพเร่งรุดเข้ามาประชิดพระนคร ด้วยทรงหมายจะยึดเอาพระนครพาราณสีไว้ในครอบครอง แต่ครั้นมาถึง ก็พบว่าพระนครพาราณสีซึ่งแต่ก่อนเคยรุ่งเรืองนั้น มาบัดนี้กลายเป็นเมืองร้างไปเสียแล้ว

พระเจ้าสามนตราชรีบเสด็จขึ้นสู่ปราสาทราชนิเวศน์ ทอดพระเนตรดูกองรัตนะอันเลอค่า ซึ่งถูกทอดทิ้งไว้โดยปราศจากผู้คนเหลียวแล ก็ยิ่งทรงฉงนพระหฤทัยยิ่งนัก ทรงดำริว่า “น่าจะมีภัยเพราะทรัพย์นี้กระมัง”

ดำริดังนี้แล้วจึงให้เรียกพวกนักเลงสุรามาเข้าเฝ้า แล้วตรัสถามว่า “ภัยบังเกิดขึ้นแก่เจ้าเหนือหัว พระมเหสี และพระโอรสของพวกท่านหรือ” พวกนักเลงสุราจึงกราบทูลว่า “ไม่มีภัยอะไรเลย พระเจ้าข้า”

พระองค์จึงตรัสซักว่า “แล้วเพราะเหตุไรเล่า ท้าวเธอถึงได้ทอดทิ้งราชสมบัติไปเสียเช่นนี้” พวกนักเลงสุราก็ทูลเรื่องราวทั้งหมดให้ทรงทราบ

ท้าวสามนตราชจึงตรัสถามว่า “ก็แล้วพระราชาของพวกท่าน เสด็จออกไปทางไหนกันเล่า” พวกนักเลงสุราพากันกราบทูลหนทางที่พระราชาของตนเสด็จออกไป

ท้าวสามนตราชและเหล่าเสนามหาอำมาตย์ จึงได้ยกไพร่พลติดตามไปยังชายป่านอกเมือง ครั้นเสด็จไปถึงอาศรมของพระเตมียราชฤษี ก็ได้เห็นพระราชา พระราชินี และบรรดาเสนาอำมาตย์มุขมนตรี อีกทั้งพสกนิการทั้งปวง ต่างพากันทรงเพศเป็นฤษีฤษิณี เป็นดาบสดาบสินีบำเพ็ญพรตอยู่ในป่าเป็นจำนวนมาก

ท้าวสามนตราช จึงได้เข้าเฝ้าพระเตมียราชฤษี ครั้นท้าวเธอได้ทรงสดับเหตุผลที่ทรงเสด็จออกผนวช และพระโอวาทจากพระเตมียราชฤษีแล้ว ก็จึงบังเกิดความศรัทธาเลื่อมใส ในที่สุดจึงได้ขอบวชอยู่ในสำนักของพระเตมิยราชฤษีพร้อมทั้งบริวาร




ในสมัยต่อมา ได้มีกษัตริย์ต่างเมืองทรงทราบข่าวการเสด็จออกผนวชของพระเตมียราชกุมาร จึงได้สละราชสมบัติ ทิ้งราชบัลลังก์ทั้งแก้วแหวนเงินทองให้เกลื่อนกลาดกลายเป็นของไร้ค่า ทรงนำข้าราชบริพารเสด็จออกผนวชอยู่ในสำนักพระเตมียราชฤษี โดยทำนองนี้อีกถึง 3 พระองค์

ส่วนช้างม้าที่ทรงขับขี่เป็นพาหนะเสด็จออกไป เมื่อไม่มีใครดูแลใช้สอยอีก ก็กลายเป็นช้างป่า ม้าป่า แต่ก็เป็นสัตว์ป่าที่คุ้นเชื่อง และมีใจเลื่อมใสในหมู่ฤษี ด้วยอำนาจจิตที่เลื่อมใสนั้น เมื่อสิ้นอายุขัยก็ได้ไปเกิดในสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น ตามกำลังแห่งความเลื่อมใสของตน

ราวไพรซึ่งมีหมู่ฤษีอาศัยอยู่แต่เดิมนั้น เมื่อมีเหล่ากษัตริย์และข้าราชบริพารออกบวชตามมากขึ้น จึงขยายกว้างใหญ่ออกไปอีกถึง 10 โยชน์ กลายเป็นเมืองฤษีที่เต็มไปด้วยเหล่าฤษีฤษิณี และดาบสดาบสินี ล้วนตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ บำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ในป่าแห่งนั้นด้วยความสุขสำราญ ต่างได้รับผลของการปฏิบัติได้สำเร็จอภิญญาสมาบัติ ครั้นดับจิตก็ได้ไปบังเกิดในพรหมโลก




พระบรมศาสดาครั้นตรัสเล่าเตมิยชาดกนี้จบแล้ว ได้ตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่เราสละราชสมบัติออกบวช แม้ในกาลก่อน เราก็ได้สละราชสมบัติออกบวชมาแล้ว”


ตรัสดังนี้แล้วจึงทรงประกาศอริยสัจ ๔ แล้วประชุมชาดกว่า เทพธิดาผู้สถิตอยู่ที่เศวตฉัตรในกาลนั้น ได้มาเป็นภิกษุณีชื่ออุบลวรรณาเถรีในบัดนี้ นายสุนันทสารถี มาเป็นพระสารีบุตรเถระ ท้าวสักกะมาเป็นพระอนุรุทธเถระ พระชนกและพระชนนีได้มาเป็นมหาราชสกุล ข้าราชบริพารนอกจากนี้ได้มาเป็นพุทธบริษัท ส่วนพระเตมิยราชกุมารผู้แสร้งทำเป็นใบ้ ทำเป็นง่อยเปลี้ย คือเราตถาคตนี้แล

เรื่อง ”พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี” นี้ เป็นเรื่องราวการบำเพ็ญเนกขัมมบารมีขั้นสูงสุด ที่เรียกว่า ปรมัตถบารมี ในชาติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเกิดเป็นพระราชกุมาร ในชาตินั้นแม้พระองค์จะยังทรงพระเยาว์ แต่ก็ทรงมีพระหฤทัยแน่วแน่ที่จะเสด็จออกบรรพชา

แม้ว่าจะต้องทนทุกข์ทรมานจากบททดสอบที่ยากยิ่งเพียงใด และไม่ว่าพระองค์จะต้องรอคอยเป็นเวลายาวนานสักเพียงไหน แต่เพื่อที่จะบำเพ็ญเนกขัมมบารมีให้เต็มเปี่ยม พระองค์ก็ไม่ทรงละทิ้งขันติธรรม กระทั่งทรงออกผนวชได้สำเร็จ ทำให้เป็นที่เลื่อมใสของหมู่ญาติและชาวประชา จึงได้พากันออกบวชตาม

ท่านผู้มีบุญทั้งหลาย ท่านใดที่ได้ติดตามประวัติการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภพชาติก่อนๆที่ได้นำเสนอมาตั้งแต่ต้น ก็ย่อมจะทราบดีว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาล้วนมีเป้าหมายคือการสร้างบารมี เพื่อจะได้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่เกิดจากการเวียนตายเวียนเกิด เพื่อเข้าถึงบรมสุขคือพระนิพพาน

ไม่ว่าบุคคลนั้นปรารถนาเพื่อจะหลุดพ้นจากทุกข์ในฐานะใด คือ ต้องการจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือเป็นพระอรหันต์สาวกก็ตาม เมื่อหวังบุญบารมีอันไพบูลย์ จึงควรต้องเข้มแข็งหนักแน่น มุ่งมั่นอยู่ในเป้าหมายที่ตนปรารถนา โดยที่จะไม่ยอมละทิ้งความตั้งใจเดิม ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด

และการที่จะสร้างบารมีให้ได้ดีที่สุดนั้น ควรต้องอยู่ในฐานะนักบวช เพราะเพศนักบวชเป็นอุดมเพศ ซึ่งมีความปลอดโปร่ง มีโอกาสว่างในการสร้างบารมี เพื่อบ่มอินทรีย์ของตนให้แก่รอบโดยเร็ว บุคคลใดที่ไม่มีภาระทางครอบครัว เมื่อจะสร้างบารมีตามแบบอย่างพระโพธิสัตว์ หรือตามอย่างบัณฑิตทั้งหลายที่ต้องการเพียงเพื่อความหลุดพ้นในฐานะพระอรหันต์สาวก จึงควรต้องออกบวช




ส่วนผู้ที่มีภาระทางครอบครัว และภาระทางสังคมที่ผูกพันเหนียวแน่นเสียแล้ว ก็ควรตั้งตนไว้ในทางที่ชอบ คือมีศีล 5 บริสุทธิ์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข เว้นจากความลำเอียงด้วยอำนาจแห่งอคติทั้ง 4 ขวนขวายสร้างมหาทานบารมีอย่างเต็มกำลัง เพราะทานบารมีนั้นเป็นอุปการะทั้งต่อมนุษย์ทั้งต่อเทวดา และเป็นอุปการะทั้งแก่บรรพชิตทั้งหลาย

ดังนั้น ถ้าเรารักตัวเอง ปรารถนาความเจริญก้าวหน้า อยากมีความสุขที่เพิ่มมากขึ้นไปตามลำดับ จึงต้องศึกษาประวัติการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในต้นแบบแห่งการการดำเนินชีวิตที่ดีที่สุด อันจะนำไปสู่การปรับปรุงวิธีการดำเนินชีวิตของเราให้ถูกต้องดีงาม ซึ่งจะทำให้เราประสบความสำเร็จ และมีความสุขยิ่งขึ้นไปตามลำดับ จนกว่าจะหลุดพ้นจากทุกข์เข้าถึงบรมสุขอันเป็นอมตะคือพระนิพพาน เพราะเราคือผู้ออกแบบชีวิตของเราเอง

โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

from dmc.tv




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2550
0 comments
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2550 19:09:16 น.
Counter : 1827 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เมืองทะเลทราย
Location :
Dubai United Arab Emirates

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ว้า...ดูไบเนี่ยทำไม มันร้อนจริง ๆ เลย



Friends' blogs
[Add เมืองทะเลทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.