Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
เกาะล้าน: พัทยา

ถ้าใครไม่รู้จักเกาะล้าน ก็ขออธิบายคร่าวๆ ว่าเกาะล้านเป็นเกาะที่อยู่ในเขตพัทยาใต้ค่ะ นั่งเรือจากฝั่งพัทยาไปประมาณ 45 นาทีเท่านั้นเอง



*ขอบคุณแผนที่จากเว็บ thepjcottage.com นะคะ

เกาะล้านเริ่มบูมสำหรับนักท่องเที่ยวไทยได้สัก 2 ปีที่ผ่านมานี้เอง (เราเองก็รู้จักจากห้อง blue planet ของพันทิปนี่ล่ะค่ะ เห็นรีวิวแล้วอยากไปมากๆ ในที่สุดก็ได้ไปเยือน ^^) แต่กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินี่รู้จักกันมาเป็นสิบปีแล้ว ข้อมูลนี้สอบถามมาจากร้านขายของที่ระลึกบนเกาะล้านตรงท่าเรือหน้าบ้านน่ะค่ะ ฟังแล้วก็เสียดายเนอะ ได้อารมณ์เหมือนตอนเที่ยวหลีเป๊ะ กว่าเกาะดีๆ สวยๆ จะรู้มาถึงเมืองไทย ธรรมชาติก็ถูกชาวต่างชาติตักตวงไปมากแล้ว จะบอกว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรู้จักเกาะดีๆ สถานที่สวยๆ ในเมืองไทยที่คนไทยไม่รู้จักกันเยอะค่ะ อย่างเกาะหลีเป๊ะ พูดชื่อไป คนไทยจำนวนมากเลยไม่รู้ว่าอยู่ที่จังหวัดไหน อยู่เมืองไทยหรือเปล่า ฟังแล้วก็สะท้อนใจเนอะ

มาเริ่มรีวิวทริปกันดีกว่า...

ทริปนี้เริ่มต้นเดินทางวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคมค่ะ วันที่ 8 ก็โทรไปถามรถตู้คิวตรง BigC เพชรเกษมไว้ เพราะมีรถออกไปพัทยาลงที่หาดจอมเทียน ราคา 190 บาท ถ้าให้ไปส่งที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายต้องเสียเพิ่มเป็น 220 บาท เรากะว่าจะไปรถรอบแปดโมงเช้า เขาบอกว่าให้โทรไปจองก่อนหน้า 1 ชั่วโมงก็ได้ เราก็พยายามโทร แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย (โทรไปถามรับรวดเร็วมากมาย >_<) พอไปถึงประมาณ 7.50 น. ปรากฏว่าไม่มีรถตู้สักคัน เพราะรถออกไปแล้ว T^T เราก็จะเอาไงดีอ่ะ เพราะจะมีรถอีกรอบก็ 9.30 น. ก็เลยตัดสินใจว่าไปขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ชัยฯ หน้าเซนจูรี่ดีกว่า ป๊าก็ขับรถพาไปส่ง

(ให้ข้อมูลของรถตู้คิว BigC เพชรเกษมไว้นะคะ เผื่อใครอยากไป เบอร์โทร 085-279-9675 รถไปพัทยาออกเวลา 6.00, 7.00, 8.00, 9.30, 12.00 ค่ะ ส่วนตอนบ่ายก็น่าจะมี แต่เราไม่ได้ถามมา แนะนำว่าถ้าใครจะขึ้น ไปก่อนล่วงหน้าสักครึ่งชั่วโมงจะดีมากค่ะ)

ขึ้นรถตู้ที่คิวตรงอนุสาวรีย์ฯ ตอนประมาณเกือบๆ เก้าโมงเช้า ค่ารถตู้ 150 บาท ส่งถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายเลยค่ะ รถไปถึงประมาณสิบโมงครึ่งได้ค่ะ ก็ไปซื้อตั๋วเรือไปท่าหน้าบ้าน แล้วก็ไปกินกาแฟที่สตาร์บัคส์รอเวลา 11.30 น. ก็เดินไปขึ้นเรือค่ะ เป็นเรือรอบ 12.00 น. แต่คราวนี้ไม่กล้าไปช้าแล้ว เพราะกลัวเรือออกก่อน อ้อ ค่าเรือ 20 บาทค่ะ

(ให้ข้อมูลเวลาเรือนะคะ ท่าหน้าบ้านมีเรือออกวันละ 7 เที่ยว คือ 7.00, 10.00, 12.00, 14.00, 15.30, 17.00 และ 18.30 น. ส่วนเรือไปหาดตาแหวนมีเรือออกวันละ 4 เที่ยว คือ 8.00, 9.00, 11.00 และ 13.00 น. นอกจากนั้นก็มีเรือไปหาดอื่น และเรือแบบอื่น ราคาก็แพงขึ้นกว่าปกติค่ะ ไปกลับประมาณ 150 บาท)

นั่งเรือประมาณ 45 นาที เรือก็พาพวกเรามาถึงท่าเรือหน้าบ้านค่ะ มองเห็นบ้านพักของเราแต่ไกลเลย



คืนนี้เราจะพักที่ “บ้านฟ้าใส” กันค่ะ จองล่วงหน้าตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เลยอ่ะน้า (ตอนจองเหลืออยู่สองห้อง คือห้องสีชมพูกับห้องสีฟ้า เราเลือกห้องสีฟ้า ราคาห้อง 1500 บาทค่ะ)

พอขึ้นไปบนเกาะปุ๊บ ก็จะมีมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาถามว่าจะนั่งรถมั้ย, เช่ารถมั้ย, หาบ้านมั้ย พวกเราจองบ้านพักแล้วก็เลยไม่ได้ใช้บริการค่ะ บ้านฟ้าใสหาได้ไม่ยาก เพราะอย่างที่บอกว่าจากท่าเรือก็มองเห็นแล้วน่ะค่ะ พวกเราก็พากันเดินไปทางขวามือ มีป้ายบอกเป็นระยะๆ เดินประมาณห้านาทีก็มาถึงทางเข้าบ้าน




ก็ไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ตรงนี้



บอกชื่ออย่างเดียวก็เรียบร้อย (เพราะโอนเงินมาล่วงหน้าตั้งแต่ตอนจองแล้ว <- ต้องโอนหลังจอง 7 วันนะคะ พักคืนเดียวโอนเต็มจำนวน พักหลายคืนโอน 50% ได้) ปกติจะเช็กอินได้ตอนบ่ายสองโมง แต่เราไปถึงยังไม่บ่ายโมง ห้องว่างแล้วก็เลยเข้าพักได้เลย ก่อนหน้านั้นมีแขกห้องสีชมพูแวบเข้ามาถ่ายรูปในห้องเราก่อน (ห้องสีฟ้า) ก็เลยต้องรอนิดหนึ่งน่ะค่ะ

ทางเดินเข้าที่พัก (ถ่ายออกจากที่พัก)



ทางขวามือของรูปเป็นห้องพักเรือนแถว แอบเห็นว่ามีระเบียงด้วย แต่ไม่กว้างมาก และวิวอาจจะไม่สวยเหมือนทางด้านหน้านะคะ คืนละ 1200 บาท ห้องเต็มหมดเช่นกัน


เป็นโถงหน้าห้องพัก ประตูที่มีกระจกเป็นห้องสีชมพูค่ะ




ส่วนห้องนี้สีอะไรไม่ทราบค่ะ แต่ว่ามีหนังสือวางไว้ให้เขียนบันทึกถึงบ้านฟ้าใสด้วยค่ะ แอบไปเปิดอ่านดูอยู่เหมือนกัน (แต่เราไม่ได้เขียนอ่ะ)




ซูมใกล้ๆ



หอยนี่เขาหล่อเรซิ่นยึดไว้ค่ะ เลยขยับไม่ได้อ่ะน้า


ส่วนนี่คือหน้าห้องของเรา




เปิดเข้าไปในห้องทางด้านขวามือก็คือเตียงค่ะ




ด้านซ้ายมือติดกับประตูเปิดออกไปตรงระเบียงเป็นทีวีเครื่องใหญ่มาก (แต่ไม่ได้ดูเลยอ่ะ)




ห้องน้ำอยู่ตรงข้ามเตียง



ห้องน้ำกว้างมากนะคะ มีน้ำอุ่นด้วย ชอบค่ะ

ประหลาดมากที่เราไม่ได้ถ่ายภาพระเบียงเลย ได้มาแต่นี้...



เห็นระเบียงห้องข้างๆ ด้วย แล้วก็อันนี้ (อันที่จริงถ่ายตอนเช้านะ)




เปลี่ยนรองเท้าเสื้อผ้ากันเสร็จ ก็ตัดสินใจว่าออกไปเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่ดีกว่า แอบเสียวนิดหน่อยเพราะว่าเราขี่มอเตอร์ไซด์ไม่เป็น คนไปด้วยก็ไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซด์มาสิบกว่าปีแล้ว แต่ถ้าไม่เช่ามอเตอร์ไซด์ก็ลำบาก (ตัวเราเองน่ะกะจะเช่าสองแถวแล้วอ่ะนะ) ตัดสินใจเช่าของที่บ้านฟ้าใสเพื่อความสะดวกในการส่งคืนรถ ราคา 300 บาท (แต่เราว่าเช่าที่ร้านค้าตรงท่าหน้าบ้านก็โอเคนะคะ มีตั้งแต่ 200, 250 และ 300 บาท น้ำมันไม่ต้องเติม) กะจะขอแผนที่เกาะ (ปกติเวลาเที่ยวญี่ปุ่น ไปไหนก็ต้องหาแผนที่ตลอด) แต่เจ้าหน้าที่ไม่อยู่ เราก็เลยนั่งกินโอวัลตินรอ ที่นี่เครื่องดื่มบริการตัวเองเลยค่ะ ดื่มได้ฟรีทุกอย่างที่วางเอาไว้ ชา กาแฟ โอวัลติน จาน ชาม ถ้วย วางไว้ให้ใช้ก็หยิบได้เลย ใช้เสร็จก็เอามาวางตรงที่ล้างจาน แล้วเดี๋ยวจะมีคนมาล้างให้ค่ะ สะดวกดีอ่ะ

นั่งรอกันตรงนี้




กับโต๊ะเก้าอี้ชุดนี้



หอยตัวใหญ่มาก ฮา

รอสักพักเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มา อยู่แต่ใครก็ไม่รู้ (แต่น่าจะเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักกัน) เขาก็ให้เราเอามอเตอร์ไซด์ไปได้ (เงินยังไม่จ่าย คิดว่าปกติแล้วต้องจ่ายเงินก่อนแล้วถึงจะเอามอเตอร์ไซด์ไป เพราะพอเรากลับมาถึงที่พัก เจ้าหน้าที่ก็รีบมาเก็บเงินทันที) ก็สอนวิธีขับกันนิดหน่อย (น่าหวาดกลัวมาก) พวกเราก็ขี่มอเตอร์ไซด์ไปหาดตาแหวนก่อนเป็นอันดับแรก

เนื่องจากไม่มีแผนที่ในมือ ก็ต้องมองหาป้ายบอกทาง แต่ป้ายแบบว่าเล็กๆ ไม่โดดเด่น เลยวนไปวนมาตรงท่าหน้าบ้านอยู่หลายรอบ ก่อนจะไปหาดตาแหวนกันก่อนเป็นอันดับแรกเลย

ทางขึ้นเขานิดหน่อย แอบกลัว แต่วิวสวย...



เป้าหมายแรกของพวกเราก็คือ...หาอาหารกินค่ะ ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย ได้ขนมปังไส้กรอกที่สตาร์บัคส์รองท้องคนละครึ่งชิ้นเท่านั้น (ไม่กล้ากินเยอะ เพราะคนไปด้วยกลัวเมาเรือ) ก็ไปจบที่ร้านอาหารตามสั่ง แอบเสียวเรื่องราคาเหมือนกัน เพราะเมนูไม่ยอมเขียนราคากำกับไว้ แต่ก็ไม่แพงมาก ประมาณ 240 บาท มีผัดไทกุ้งสด, มาม่าต้มยำกุ้ง และผัดซีอิ๊วปลาหมึก น้ำสองกระป๋อง

อิ่มทองแล้วพวกเราก็เดินไปที่ชายหาด คนไม่เยอะอย่างที่คิด สงสัยเป็นวันอาทิตย์ ประกอบกับฟ้าครึ้มฝนมากๆ แต่หาดสวยอย่างที่ร่ำลือจริงๆ




หาดนี้มีท่าเรือด้วย (ทางซ้ายมือของรูป)




จุดเด่นของที่นี่คือห่วงยางสีสด สำหรับคนต่างประเทศอาจจะไม่แปลก (เพราะญี่ปุ่นก็ห่วงบางหลากสีแบบนี้) แต่คนไทยอย่างเราๆ ที่ชินกับห่วงยางที่ทำมาจากยางในรถยนต์สีดำ ก็แปลกตาสวยดีนะคะ




น้ำใสมากๆ




ขอถ่ายรูปตัวเองสักรูป



เสียดายลงเล่นน้ำไม่ได้ ได้แต่ย่ำน้ำเล่นอยู่ริมๆ ฝั่งเท่านั้น ไว้คราวหน้าจะไปแก้ตัวใหม่อ่ะน้า ที่นี่ทัวร์ลงเยอะมากค่ะ คนจีนก็เยอะนะ เพราะเห็นร้านอาหารเขียนภาษาจีนเต็มเลย นอกจากนั้นคนรัสเซียก็เยอะ เพราะนอกจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีภาษารัสเซียเขียนกำกับไว้ที่เมนูแทบทุกที่เลย

จากหาดตาแหวน เราก็กะว่าจะไปหาดแสมกัน ก็ขี่มอเตอร์ไซด์ไป แอบเสียวๆ เล็กน้อย ยิ่งตอนลงเขา คนขี่แตะเบรกตลอด เพราะตัวเองก็กลัว (แถมยังบอกให้เราใจชื้นว่า ถ้าเขาเป็นเจ้าของร้านรถเช่า เขาไม่มีวันให้ตัวเองเช่ารถออกมาแน่นอน -_-‘)

แต่แล้วเป้าหมายที่สองของเราก็กลายเป็นหาดเทียนค่ะ เพราะขี่มอเตอร์ไซด์เลยทางเข้าหาดแสมไป ก็โอเคน้า ไปหาดเทียนกัน

จอดรถไว้ด้านบนแล้วเดินไปตามทางนี้...



เงียบๆ มีเก้าอี้ชายหาดและร่มที่หุบแล้ว ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ แต่เห็นมีนักดำน้ำไปดำหอยมาขายด้วย



เขาบอกว่า ‘ten baht’ สงสัยจะตัวละสิบบาท แพงเหมือนกันเนอะ

หาดเทียนเงียบๆ สงบ คลื่นแรงน่าเล่นมากเลย




ทางที่เพิ่งเดินผ่านมา




คาดว่าทัวร์เกาหลีเพิ่งมาลง เพราะบนชายหาดมีเขียนภาษาเกาหลีเอาไว้ด้วย (พยายามอ่านกัน แต่อ่านไม่ออก เพราะพยายามอ่านให้เป็นภาษาญี่ปุ่น ฮา)

คลื่นสวยดี




จากหาดเทียน เราก็แวะมาที่หาดแสม จอดรถใต้ต้นลีลาวดี ออกดอกสวยมาก







รู้สึกเหมือนหาดแสมคนนั่งริมชายหาดคึกคักกว่าหาดตาแหวนนะคะ แต่ชาวต่างชาติเยอะมาก เจอคนที่นั่งเรือลำเดียวกันมาอยู่แถวนี้เพียบเลย






เดินเล่นชายหาดสักพัก ฟ้าก็ครึ้มมากๆๆๆ





แล้วฝนก็เทลงมา




เลยตัดสินใจเข้าไปนั่งที่ร้านริมชายหาด เพราะไม่อยากเสี่ยงขี่มอเตอร์ไซด์ตากฝน สั่งกาแฟร้อนกับกาแฟเย็น และเฟรนซ์ฟรายจานเล็ก เพราะดูเมนูอาหารแล้วสะดุ้งเฮือกๆ หมดไป 190 บาทค่ะมื้อนี้


ฝนตกนิดเดียวแล้วก็หยุด พวกเราเลยไปกันต่อ เพราะยังมีอีกหลายหาดที่อยากไป กะว่าจะไปให้ครบทุกหาด พวกเราไปหาดนวลกัน ป้ายแบบว่า...ยากเย็นเข็นใจมาก แต่เราก็ไปถึงน้า ฮา



หาดนวลเงียบร้างมาก แต่รู้สึกสงบดี (ข้างหลังซุ้มข้างบนมีคนมาเตรียมพื้นที่เหมือนจะทำอะไรสักอย่างด้วยล่ะ)



มีเด็กๆ ชาวเกาะนั่งเล่นอยู่




แม้หาดจะไม่ขาวเหมือนหาดตาแหวน น้ำดูแรงกว่า แต่ก็น่าเล่นนะ




นั่งกันสักพักก็ไปหาดต่อไป เพราะเวลาก็ปาเข้าไปสามโมงกว่าเกือบสี่โมงแล้ว ไม่อยากกลับที่พักดึก เพราะไม่อยากขี่มอเตอร์ไซด์มืดๆ คาดว่าข้างทางจะไม่มีไฟ เพราะเห็นแต่เสาไฟฟ้าข้างทางบางจุด แต่ไม่มีหลอดไฟในโคมเลยสักดวง ฮา

เหลืออีกสองหาดที่ขี่มอเตอร์ไซด์ไปได้ คือหาดตายายกับหาดทองหลาง ก็ย้อนกลับไปที่ท่าหน้าบ้านก่อน เพราะมันอยู่ฝั่งเดียวกับท่าหน้าบ้าน ขี่ผ่านสนามยิงปืนไปที่หาดตายายกันค่ะ

ระหว่างเดินไปที่ชายหาดก็เจอสองตัวนี้กำลังคุมเชิงจะกัดกันอยู่



(แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กัดน้า)

หาดตายายเงียบๆ ไม่ค่อยมีคน (เห็นนักท่องเที่ยวไทยอยู่กลุ่มเดียวเอง)




แต่มีหมาแมวเยอะมาก ชอบอ่ะ




เดินไปเล่นตรงโขดหินด้วย น้ำแรงดี (น้ำกำลังขึ้นเต็มที่เลย ตอนเที่ยงที่มาถึงน้ำลงอยู่ค่ะ)




หลังจากไปครบทุกหาดแล้ว พวกเราชอบบรรยากาศหาดตายายนะคะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม (จริงๆ จำชื่อหาดไม่ได้หรอก บอกแต่ว่าเป็นหาดที่มีหมากับแมว ฮา)


นั่งเล่นบนชายหาดกันสักพักก็ขี่มอเตอร์ไซด์ไปที่หาดทองหลาง ซึ่งเป็นหาดสุดท้ายต่อ แต่ทางลงหาดแบบว่าดูแล้วไม่น่าลงถึงหาดมากๆ เราจอดรถไว้บนถนนที่สุดปลายทาง แล้วเดินกันลงมา (แต่เห็นคนที่เกาะขี่มอเตอร์ไซด์ลงทางวิบากนั่นอ่ะ สุดยอด) ผ่านร้านอาหารหนึ่งร้าน ก็ชะโงกหน้าไปถามว่าหาดทองหลางหรือเปล่า เขาบอกว่าใช่ ก็เลยเดินผ่านร้านเขาไป

หาดเงียบมากๆ ไม่มีคนเลย



คาดว่าเลยเวลาเที่ยวหาดนี้แล้ว จากที่อ่านแนะนำการท่องเที่ยวเกาะล้าน พบว่ามีเรือมาที่หาดนี้โดยตรงค่ะ ค่าเรือ 150 บาท แม้จะไม่มีท่าเทียบเรือก็ตาม คือเรือใหญ่จะจอดทอดสมอห่างจากหาด แล้วถ่ายผู้โดยสารให้ขึ้นเรือท้องกระจกเข้ามายังหาด นักท่องเที่ยวเลยเป็นพวกทัวร์เสียมากกว่าค่ะ





เห็นพนักงานร้านค้ากำลังทำความสะอาดร้าน เราก็จะเข้าห้องน้ำเดินไปถาม เขาก็งงๆ แต่ก็บอกว่าค่าเข้าห้องน้ำ 10 บาท โอเคมั้ย ซึ่ง...แพงมากอ่ะ ที่อื่นคิดแค่ 5 บาทเอง พนักงานร้านถามด้วยว่าเรามาได้ยังไง ก็บอกว่าขี่มอเตอร์ไซด์มา เขาก็ทำหน้างงๆ (คือจริงๆ เหมือนพูดภาษาไทยกันไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ) สงสัยเป็นเพราะว่าส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมาจากทางเรือมากกว่าทางมอเตอร์ไซด์แน่ๆ เลย




นั่งเล่นกันสักพักใหญ่ๆ เพราะเป็นหาดสุดท้ายแล้ว เราก็เดินไปซื้อน้ำดื่มมากิน ก็นะ กระป๋องละ 30 บาท เท่ากับหาดอื่นๆ นะคะ (แต่เซเว่นตรงท่าหน้าบ้านราคาปกตินะคะ)

จากนั้นก็อำลาหาดแล้วเดินทางกลับ แวะเซเว่นซื้อขนมและน้ำนิดหน่อย แล้วก็เข้าที่พักเลยถึงหกโมงนิดๆ ฟ้าก็ครึ้มเป็นปกติอยู่แล้ว วันนี้กะจะกินข้าวกันที่ระเบียงตรงห้องพัก น้ำขึ้นเต็มแล้ว เลยเหมือนนอนอยู่กลางทะเล บรรยากาศสงบเงียบมาก ชอบมากๆ เลย เดินไปเอาเทียนมาจุดที่ระเบียงด้วย ก็โทรไปสั่งร้านอาหาร (มีสามร้านค่ะ) เราเลือกร้านพวงพยอม สั่งกุ้งเผาครึ่งโล, กั้งทอดกระเทียม (เลือกร้านนี้เพราะอยากกินเมนูนี้ล่ะ), ปูนิ่มทอดกระเทียม แล้วก็สั่งข้าวผัดปลาเค็มหนึ่งที่ ให้มาส่งตอนสองทุ่ม



ระหว่างนั้นเราก็นั่งชมฟ้าค่อยๆ มืดลงเรื่อยๆ แวบออกมาหยิบหนังสือที่วางไว้หน้าห้องเข้าไปอ่านเล่น (เป็นนิยายเล่มละ 12 บาทอ่ะค่ะ เห็นแล้วอยากเอานิยายแจ่มใสไปวางมากเลย เพราะถ้าเป็นนิยายแจ่มใสนะ จะเข้ากับบ้านฟ้าใสมากๆ เพราะปกสดใสเป็นพร็อบถ่ายรูปที่เพิ่มความสวยงามได้มากมายกว่านิยายปกดารามากๆ) ด้านนอกห้องทางบ้านพักก็เปิดเพลงเพราะๆ ให้ฟังด้วย แต่อยู่ในห้องไม่ได้ยินหรอกค่ะ ฮา

ระเบียงห้องเราค่อนข้างร้อนนิดหน่อย เพราะตั้งอยู่ในมุมอับลมค่ะ ตอนแรกคิดว่าทำไมลมไม่พัดเลยหว่า แต่พอเดินออกมาเอาจานชามก็พบว่าตรงที่นั่งรวมลมอู้มากๆ ถึงขั้นเย็นเลยอ่ะค่ะ (เย็นมากด้วยสำหรับเรา ฮา)

สองทุ่มพอดีอาหารก็มา ค่าเสียหาย 530 บาท ซึ่งเราว่าถูกมาก เพราะอาหารเยอะมากๆๆๆๆ ข้าวผัดปลาเค็มราคา 50 บาท กินกันสองคนแบบแทบจะกินไม่หมดอ่ะค่ะ รสชาติก็อร่อยถูกใจนะคะ และดีใจมากๆ ที่ปลาอินทรีหมด ถ้าไม่หมดเราคงสั่งมาด้วย และคงกินไม่หมดแน่นอน

จัดการอาหารเรียบร้อยก็ยกจานชามออกมาวางไว้นอกห้อง เพราะถ้าไม่รีบยกเดี๋ยวมันจะมาค่ะ...มดน่ะค่ะ เยอะมากมาย กินข้าวทำตกพื้น แค่พริบตาเดียวยกขบวนมาเป็นแถวเลย น่าหวั่นกลัวมากๆ

เสร็จสรรพจากอาหารก็อาบน้ำอาบท่านั่งที่ระเบียงเหนือทะเล ฟังเสียงคลื่น ชมแสงจันทร์ที่หลบหลังเมฆ และเรือหาปลาที่ลอยออกไปกลางทะเลพอเพลินๆ ตอนกลางคืนมีไฟตกนิดหน่อย เราตื่นมาเพราะร้อนเนื่องจากแอร์ดับตอนประมาณตีหนึ่ง แต่แป๊บเดียวก็ติดค่ะ

ตื่นมาอีกทีตอนหกโมงกว่า ไปนั่งริมระเบียงชมพระอาทิตย์ขึ้น เสียดายเมฆเยอะมาก...





เรือหาปลาลอยกลับมาแล้ว เรือกลับเข้าฝั่งพัทยาเที่ยวแรกก็เริ่มออกไปแล้ว (6.30 น.) คนนั่งเต็มลำเรือเลยค่ะ เช้าวันจันทร์คงคนรีบกลับไปทำงานเนอะ

นั่งสักพักก็ไปชงกาแฟมากินกัน พอแปดโมงก็ออกไปเดินที่ท่าหน้าบ้าน เห็นเขาบอกว่าจะมีของทะเลมาขายเลยอยากดู

บ้านฟ้าใสตอนเช้า (ไม่มีคนออกมานั่งเลยนะ)




ท่าเทียบเรือหน้าบ้าน (ถ่ายจากบ้านฟ้าใส)



แต่ไปถึงท่าหน้าบ้านก็ไม่เห็นมีของทะเลมาขายเลย (คือไม่ได้ตั้งใจจะซื้อหรอกค่ะ จะดูเฉยๆ ว่าจับได้สัตว์น้ำอะไรมาบ้าง ตามประสาเด็กเรียนประมง) ถามคนแถวนั้นเขาก็ดูงงๆ เลยก็เลย อืม ไม่เป็นไร ไปเดินเล่นที่สะพานเทียบเรือก็ได้

เรือที่เมื่อคืนเห็นออกไปหาจับสัตว์น้ำ (ไม่รู้ว่าจับอะไร)



เรือจากฝั่งพัทยาเพิ่งเข้าเทียบท่า ผู้โดยสารลงไปหมดแล้ว เหลือแต่ข้าวของเครื่องใช้ที่ร้านค้าสั่งซื้อมากำลังถูกขนลำเลียงจากเรือโดยรถเครื่องซาเล้งรับจ้าง เห็นลุงบนคนวนมาหลายรอบมากๆ เลย


บ้านฟ้าใส ตอนเช้าน้ำลดอีกแล้ว (สีชมพูนั่นบ้านแดงแป้ดหรือเปล่าคะ ชอบชื่อบ้านมากเลยนะ)




ฝั่งที่อยู่ตรงข้ามสะพานคือลารีน่ารีสอร์ตค่ะ



ดูในเว็บน่าพักมากเลย แต่ราคาแพงกว่าบ้านฟ้าใสอ่ะ ไม่แน่คราวหน้าถ้าไปอาจจะลองไปพักที่ลารีน่าดูน้า แต่อาจจะอึกทึกกว่าบ้านฟ้าใสหรือเปล่า เพราะเห็นว่ามีร้านอาหารด้วย)

จากนั้นก็เดินไปดูร้านค้าค่ะ ซื้อโปสการ์ดพร้อมแสตมป์ จากนั้นก็แวะไปกินข้าวที่ร้านตรงท่าหน้าบ้าน (ชื่อร้านไรหว่า อยู่ๆ ก็ลืม ร้านขึ้นต้นด้วย ช. ช้าง) สั่งมาม่าผัดขี้เมา 1 จาน แตงโมปั่น (หวานมาก) และน้ำส้มคั่นสดๆ ค่าเสียหายหมดไป 150 บาทมั้งนะ ถ้าจำไม่ผิด


ระหว่างทางเดินกลับไปห้องพัก เจอลูกแมวสองตัวนอนเกยกัน



น่ารักสุดๆ


จากนั้นก็รีบกลับไปที่ห้องพัก เก็บข้าวของ เราก็รีบเขียนโปสการ์ดแบบว่าอย่างเร่งด่วน แล้วก็เช็กเอ้าท์ค่ะ เสียดายที่ต้องออกจากเกาะเร็ว แต่ว่าเรามีธุระต่อตอนบ่าย (ไปโร้ดโชว์แจ่มใสอวอร์ดที่คณะนิเทศฯ จุฬาฯ) เดินมาถึงท่าหน้าบ้าน หาตู้ไปรษณีย์ไม่เจอเลย ก็เลยวิ่งเอาโปสการ์ดไปฝากร้านขายส่ง แล้วก็วิ่งไปลงเรือ กลัวเรือออกก่อนมากๆ ค่าเรือ 20 บาทค่ะ

(ข้อมูลเวลาเรือขากลับนะคะ จากท่าหน้าบ้านมีเรือออกวันละ 7 เที่ยว คือ 6.30, 7.30, 9.30, 12.00, 14.00, 17.00 และ 18.00 น. ส่วนหาดตาแหวนมีเรือขากลับวันละ 4 เที่ยว คือ 13.00, 14.00, 15.00 และ 16.00 น. ค่ะ)

นั่งเรือ 45 นาที นั่งท่องเที่ยวไม่เยอะ คนที่อาศัยอยู่บนเกาะเดินทางขึ้นฝั่งเยอะกว่าค่ะ

ก่อนเรือเทียบท่า กับรูปที่ทุกคนต้องถ่าย (เราถ่ายแต่ขากลับล่ะ)



พอเรือเทียบท่า ผู้โดยสารส่วนมากก็ขึ้นรถสองแถวที่จอดรอตรงตำแหน่งที่เรือจอดเลยค่ะ ส่วนเราก็เดินไปยังที่ขายตั๋วเรือ ซึ่งจะมีโต๊ะขายตั๋วรถตู้กลับกทม. ตั้งอยู่ (ของบริษัทท่ามหานครค่ะ) ก็ไปซื้อตั๋วกลับกทม. คนละ 150 บาท ทางนั้นก็โทรเรียกให้รถตู้มารับ (คาดว่ามาจากพัทยาใต้) ก็รอสักพักน่ะค่ะ คือว่าในนามบัตรบอกว่ามีรถออกทุก 20 นาที แต่ป้ายตรงโต๊ะขายตั๋วบอกว่ามีรถออกทุก 30 นาที ก็ไม่รู้จะเชื่อใครดี ฮา

สิบโมงเกือบครึ่งเราก็ได้ขึ้นรถตู้ค่ะ คนไม่เต็มรถ แต่เขาก็แวะรับตรงม.เกษตรฯ ศรีราชาจนคนเต็ม (โทรตามผู้โดยสารกันด้วย มีมือถือก็สะดวกอย่างนี้อ่ะนะ) สักเที่ยงกว่าๆ ก็เดินทางมาถึงกทม. ค่ะ แล้วเราก็ไปทำธุระต่อไป...


ข้อแนะนำ ถ้าใครชอบแสงสีแนะนำว่าตอนกลางคืนไปพักที่พัทยาอาจจะถูกใจมากกว่าค่ะ ส่วนตัวเองถูกใจกับบรรยากาศบ้านฟ้าใสมากๆ เพราะตอนกลางคืนเงียบสงบไม่วุ่นวาย นั่งฟังเสียงคลื่นปล่อยอารมณ์สบายมากๆ เลยค่ะ


จบทริปเกาะล้านหนึ่งวันครึ่งกับอีกหนึ่งคืนอย่างสนุกสนาน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมค่าที่พัก+ค่าอาหาร+ค่ารถ+จิปาถะ ตกราวๆ 4,000 บาท/2 คนค่ะ จริงๆ สามารถทำให้ถูกกว่านี้ได้ เพราะค่าที่พักอื่นๆ บนเกาะล้านราคาประมาณ 1200 บาท รวมมอเตอร์ไซด์ก็มีนะคะ และราคาที่พักขั้นต่ำก็ประมาณ 700 บาทต่อสองคน คิดว่าสองวันหนึ่งคืนคนละ 1500 บาทก็อยู่ (หรือพันเดียวก็ยังน่าจะอยู่เลย) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ราคาไม่แพง ที่อยากให้คนไทยได้ไปเยือนกันนะคะ อย่าปล่อยสถานที่ดีๆ ให้แต่คนต่างชาติท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวความงามกันอย่างเดียวนะคะ ^^



เด็กทะเล
09.8.16



Create Date : 16 สิงหาคม 2552
Last Update : 16 สิงหาคม 2552 2:18:19 น. 21 comments
Counter : 4827 Pageviews.

 
ว้าวววววววววววว..

แมวสองคนนั้น เหมือนโลโก้ไฟร์ฟ็อกเลย..

สวัสดีเจ้าของบ้านจ้ะ..

นอนดึกเหมือนกันนะคะ..

ฝันดีครับ.



โดย: ยายเมี้ยน ฟันเหยิน.. (อสัญแดหวา ) วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:2:25:15 น.  

 
น้ำลงมากๆ เลยนะคะ
ตอนแป๋วไปน้ำเยอะกว่านี้อ่ะค่ะ
แต่ก็ยังสวยเหมือนเดิม

บ้านฟ้าใสสวยนะคะ
อยากไปพักเหมือนกัน แต่แอบแพงอ่ะ
เลยหาที่อื่นดีกว่า

วาแพลนคร่าวๆ ว่า
ถ้าเดือนหน้าชีวิตไม่ยุ่งเหยิงจนเกินไปนัก
ก็จะกลับไปเกาะล้านอีกซักรอบค่ะ


โดย: nupaew วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:7:14:56 น.  

 
^
^
^
ไหนพี่แป๋วบอกว่าจะงดเที่ยวไง ฮ่าๆๆๆ

น้องแมวน่ารักมากค่ะพี่อ้อม ชอบอ่าาาาา
ว่าแต่พี่อ้อมไปเที่ยวกับใครเหรอคะ อิอิ ^^


โดย: ปลายฝัน IP: 58.8.186.7 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:13:24:40 น.  

 
เข้ามาดูค่ะ กำลังอยากหาที่พักผ่อนใกล้ๆ เหมือนกัน


โดย: ด.ญ คณิตกร วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:13:42:05 น.  

 
สวยดีนะเนี่ยะ

เกาะล้าน



....



โดย: Rabbit_Filter IP: 202.12.118.61 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:15:03:11 น.  

 
บอกรายละเอียดเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ


โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:16:57:41 น.  

 
ไม่ได้ไป เกาะล้านมา 2-3 ปีได้แล้ว รู้สึกว่า มันไม่สงบเหมือนเดิม ครั้งนึงเคยไป 2 คนกับเพื่อนไปนั่งเล่นดูน้ำทะเล อ่านหนังสือเพลินๆแล้วก็กลับกรุงเทพ
ปกติ มีบ้านป้าอยู่แถว บางละมุง เวลาไปพัทยาทีไรเลยไม่เสียค่าที่พักซักที แต่ บ้านฟ้าใสนี่สวยจริงๆนะเนี่ย น่าชวนเพื่อนๆไปเที่ยว (หาเรื่องเที่ยวอีกแล้ว)


โดย: กุ้งก้ามกราม IP: 58.9.240.173 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:19:24:56 น.  

 
น้องอิ๊ก อย่าแซวสิ เขินน้าาาา 555

จะพยายามลดๆๆๆๆ จ้า
ให้งดเลย สงสัยพี่จะขาดใจตายซะก่อน อิอิ
หรือเราจะนัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัดกันซักทีดีคะ


โดย: nupaew วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:21:08:00 น.  

 
ชอบเฮดบล็อกจังเลยคะสวยมากมาก เกาะล้านปลาเคยไปมาครั้งนึงเอง


โดย: NIRISSA วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:13:19:41 น.  

 
ถ้าฝนไม่ตก และท้องฟ้าไม่ครึ้มคงสวยกว่านี้แน่เลยใช่รึเปล่าจ๊ะ บ้านฟ้าใสที่พี่อ้อมไปพักน่ารักดีค่ะสีสันสดใสมาก ๆ


โดย: ปุ้ม IP: 58.8.153.108 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:20:09:36 น.  

 
อิจฉาพี่อ้อมได้เล่นน้ำ เซฟเคยฝันอยากดำน้ำ แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่ฝันแล้ว แงๆๆๆๆๆๆๆ ขนาดว่ายน้ำเดี๋ยวนี้
ยังลำบากเลย กระซิกๆ อิจฉา...ฉา ฉา


โดย: บินหลา (ภูชิดา) IP: 124.120.40.190 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:15:17:28 น.  

 
++ คุณอสัญแดหวา ++
ดูไปแล้วก็เหมือนจริงๆ นะคะ น่ารักดีค่ะ ^^

++ น้องแป๋ว ++
ไปคราวนี้น้ำลงตอนกลางวันไงคะ ตอนกลางคืนน้ำจะเต็มเลยค่ะ
บ้านฟ้าใสสวยนะ แต่แพงจริงๆ ค่ะ เห็นด้วย แต่ก็คุ้มกับสิ่งที่ได้นะคะ พี่ก็อยากไปอีกรอบเหมือนกันจ้า

++ น้องอิ๊ก ++
เที่ยวกับคนสำคัญจ้า (เจอกันแล้วนิ ฮา) ;)

++ คุณ ด.ญ. คณิตกร ++
แนะนำให้ไปนะคะ ใกล้มากค่ะ สวยด้วยน้า

++ คุณ Rabbit_Filter ++
สวยค่ะ ถ้าฟ้าใสๆ ยิ่งสวยใหญ่เลยน้า

++ คุณกางเกงยักษ์ลอยฟ้า ++
ดีใจที่บล็อกนี้พอเป็นประโยชน์บ้างนะคะ ^^

++ น้องกุ้งก้ามกราม ++
ไปตอนเย็นๆ นะคะ สงบมากๆ เลยน้า ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย เพราะกลับฝั่งพัทยากันหมดเลยน้า ว่าแต่...ไปเที่ยวกันเถอะ ฮา
(ป.ล. บ้านฟ้าใสเหมาะสำหรับไปกันสองคนอ่ะค่ะ ^^V)

++ คุณ NIRISSA ++
ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^^

++ น้องปุ้ม ++
ใช่ค่ะ เสียดายน้า แต่ก็สวยไปอีกแบบอ่ะน้า ส่วนบ้านฟ้าใส น่ารักมากเลยค่ะ ชอบน้า

++ น้องเซฟ ++
ไปคราวนี้อดว่ายน้ำค่า เลยได้แต่ชมทะเลอย่างเดียวอ่ะน้า ทำไมถึงดำน้ำไม่ได้อ่ะคะ ถ้าชอบจริงๆ ไปเรียนได้น้า เอาใจช่วยจ้า


โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:23:09:12 น.  

 
คนสำคัญของพี่อ้อมนี่คนไหนเหรอคะ นู๋ไม่รู้ นู๋รู้แค่ว่าหล่อทั้ง 2 คนที่เจอเลย ฮ่าๆๆๆ
คนสำคัญมีคนเดียว งั้นอีกคนยกให้นู๋ละกัน เอิ๊กๆๆ


โดย: ปลายฝัน IP: 58.8.182.191 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:1:30:54 น.  

 
++ น้องอิ๊ก ++
อย่าตอบแบบนี้ พี่หนาว เพราะแฟนพี่คนนั้นเขาขี้หึงมากๆ พี่กลัว

เอาเป็นว่าคนสำคัญของพี่ไม่ใส่แว่นจ้า ฮา


โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:17:46:53 น.  

 
ลงรายละเอียดเยอะดีค่ะ
บ้านฟ้าใสน่าพักทีเดียว
เพิ่งรู้ว่าหาดบนเกาะล้าน ยังสามารถหาหอยขาวได้ด้วย


โดย: อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:18:23:22 น.  

 
น้องอิ๊ก เคยเจอคนสำคัญของพี่อ้อมด้วยเหรอเนี่ย อยากเจอมั่งจัง

ว่าจะแซวพี่อ้อมอยู่ว่าไม่เห็นมีรูปผู้ร่วมทริปเลย


โดย: กุ้งก้ามกราม IP: 10.10.11.205, 58.137.73.57 วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:9:47:45 น.  

 
เป็นป่วยค่าพี่อ้อม....หมอบอกว่าทางที่ดี เปลี่ยนไปเล่นกีฬาอื่นจะดีกว่านี้เหอๆ
คือเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจอ่ะค่ะ แต่ไม่ใช่หอบหืดนะ

ก่อนหน้าเคยจะไปว่ายน้ำกับน้องแถวบ้าน แต่หมอบอกว่าอย่าดีกว่า...ไม่จำเป็นไม่ต้องว่ายน้ำหรือดำน้ำจะดีมาก
โดยเฉพาะอย่างหลัง หมอบอกว่าอย่าเสี่ยง T _ T ห้ามหัวหรือผมชื้นหรือเย็นนานเกินครึ่งชั่วโมงอ่ะค่ะ ไม่งั้นอาการกำเริบ
ป.ล. อยากเห็นหน้าคนสำคัญของพี่อ้อมจังอิๆ


โดย: บินหลา (ภูชิดา) IP: 124.122.128.40 วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:11:00:21 น.  

 
++ คุณอยากเป็นไกด์ ใครช่วยที ++
บ้านฟ้าใสน่ารักมากๆ ค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองไปพักน้า
เกาะล้านเราว่ายังเป็นธรรมชาติอยู่เยอะนะคะ แนะนำว่าไปตอนเย็นๆ นักท่องเที่ยวกลับพัทยาไปหมดแล้ว บรรยากาศจะสงบมากๆ เลย


++ น้องกุ้งก้ามกราม ++
น้องอิ๊กเจอตอนไปนิเทศฯ จ้า เพราะพี่กลับจากเกาะล้านก็ไปเลยล่ะ
ส่วนรูปผู้ร่วมทริป ออกมาประมาณ 1/5 หน้านะคะ รูปไหนเอ่ย ฮา


++ น้องเซฟ ++
อ้อ ถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจจะดำน้ำลำบากนะคะ เพราะว่าต้องอาศัยการหายใจพวกจังหวะต่างๆ เยอะ เสียดายเนอะ ไว้ไปนั่งเรือท้องกระจกชมปะการังแทนแล้วกันน้า

ส่วนคนสำคัญ...อย่างที่บอกน้องกุ้งข้างบนอ่ะค่ะ ฮา


โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:0:51:14 น.  

 
แวะเข้ามาบอกว่า "เสียดาย" มาก ๆ ค่ะ ^ ^

,, รู้งี้ หนูจะไปหา พี่อ้อมที่นิเทศเลย

ถึงกับ โดด เรียน ไปเลยทีเดียว ฮา ๆ

,, จะได้เจอคนสำคัญพี่อ้อม เอ้ยยย ม่ายช่ายยย จะได้เจอพี่อ้อมตะหาก ~ อิอิ

ป.ล. แซวเล่น ๆ นะค้า ,, ขำขัน ๆ ^ w ^


โดย: loNliPop IP: 161.200.255.162 วันที่: 30 สิงหาคม 2552 เวลา:20:46:38 น.  

 
แนะนำเว็บท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม


โดย: attractions (loveyoupantip ) วันที่: 7 สิงหาคม 2554 เวลา:7:01:14 น.  

 
ไม่เล่นห่วงยางหรอค่ะ


โดย: กันยา IP: 182.52.82.224 วันที่: 12 มกราคม 2555 เวลา:16:00:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลิปิการ์
Location :
ตอนใต้ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำรูปภาพ และบทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add ลิปิการ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.