ตะลอนชิมตามลายแทงร้านอาหารอร่อยในเมืองหาดใหญ่
ทริปหาดใหญ่เมื่อวันที่ 14-15/5/53 โปรโมชั่นจากแอร์เอเชียไป-กลับ 600 บาท แต่เจอค่าจอดรถที่สนามบิน 500 บาทซะแล้ว เกือบจะไป-กลับหาดใหญ่ได้อีกรอบแล้วนะนี่ ทริปนี้ตั้งใจไปตะลอนชิมลูกเดียว ก็เลยหาแต่ลายแทงร้านอร่อย ไม่ได้หาที่เที่ยวเลย มาถึงหาดใหญ่เกือบๆ เที่ยง นั่งรถตู้จากสนามบินต่อเข้ามาในเมืองอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เช็คอินที่โรงแรมนิวซีซั่นเรียบร้อย ออกมาเดินหาอะไรกินซะหน่อย ตอนแรกๆ ตั้งใจจะไปร้านขนมจีนลุงทอง แต่ไกลไปนิด เลยมองหาอะไรใกล้ๆ แถวโรงแรมก่อนดีกว่า เดินมาเจอ "ร้านไก่ทอดเดชา" ร้านนี้เคยได้ยินชื่ออยู่เหมือนกัน ความอร่อยของไก่ทอดหาดใหญ่ดังไปทั่วประเทศ ขอมาลองชิมถึงถิ่นซะหน่อย "ข้าวหมกไก่ทอด" กินข้าวหมกเข้าไปคำแรก ตะลึงเลย เพราะข้าวหมกแถวบ้านจะไม่ถึงเครื่องแบบนี้ แรกๆ เกือบรับไม่ได้ แต่กินไปหลายๆ คำก็อร่อยดีเหมือนกัน ด้วยความหิว ก็เลยสั่งมาซะเยอะ กินหมดไม่หมดอีกเรื่องนึง "ข้าวเหนียวไก่ทอด" ให้หอมเจียวมาเยอะดี หอมๆ กรอบๆ อยากกินประเภทยำๆ ไม่รู้จะสั่งอะไรดี เห็นชื่อนี้แปลกดีก็เลยลองสั่งดู แต่ถ้ามาดูกันจริงๆ ชื่อเค้าก็ไม่แปลกนี่นา ก็ร้านเค้าชื่อ "ไก่ทอดเดชา" อ่ะ "ยำเดชา" หรือยำไก่ทอดนั่นเอง หาน้ำซุปอีกสั่งถ้วย "ซุปไก่" เปรี้ยวๆ เผ็ดๆ แซ่บๆ ตอนกินก็อร่อยดีนะ แต่สงสัยจะใส่ผงชูรสเยอะไปหน่อย หิวน้ำตลอดเวลาเลย ตอนสั่งลืมถามพนักงานว่าจานใหญ่ขนาดไหน ได้แต่สั่งๆ ไป น้องก็ไม่ทักท้วงซะด้วยนะ ต่ออีกจานกับ "ส้มตำปูม้า" แต่ที่นี่เค้าไม่ได้ใช้ปูม้าดอง กลับเป็นปูม้าต้มแทน อร่อยไปอีกแบบ ระหว่างนั่งกินข้าวก็คิดว่าจะไปเที่ยวไหนดี ไม่ได้เตรียมข้อมูลมาเลย หาเช่ามอเตอร์ไซค์ก่อนแล้วกัน ถูกดี เกียร์ธรรมดาวันละ 250 บาท ทีนี้ก็ตะเวนได้ทั่วเมืองแล้ว มีเวลาครึ่งวันบ่าย ขี่รถเข้าเมืองสงขลาก่อนดีกว่า ระยะทางหาดใหญ่-สงขลา ประมาณ 30 กว่ากิโล เคยได้ยินชื่อไอศกรีมใส่ไข่จากรายการตลาดสดสนามเป้า ขอตามไปชิมซะหน่อย รู้แต่ว่าร้านอยู่ที่ถนนนางงาม แต่ก็ไปไม่ถูก ขี่รถไปถามทางไปเรื่อย ในที่สุดก็มาเจอ "ร้านหลีฮับเฮง" อยู่ตรงข้ามศาลเจ้าหลักเมืองพอดิบพอดี "ไอศกรีมโบราณใส่ถั่วเขียวราดไข่แดง" ตำรับฮกเกี้ยน ถ้วยละ 20 บาท ปกติเป็นคนไม่กินไข่ดิบ แต่เมนูขึ้นชื่อขนาดนี้ ก็เลยต้องขอลองซะหน่อย หวานๆ เย็นๆ ไม่คาวเลยอ่ะ แปลกจริง ดั้งด้นมาตั้งไกล ต้องต่ออีกสักถ้วย ถ้วยนี้ใส่ถั่วเขียว ลูกชิด และขนมปัง ที่งาน "สงขลาแต่แรก" ธีมงาน "ถนนคนเดิน เพลินกินของหรอย ย้อนรอยบ่อยาง" มีทุกวันศุกร์-เสาร์ มีอาหารมาขายกันเพียบ แต่ยังอิ่มจากมื้อกลางวันมื้อใหญ่อยู่ ก็เลยชิมขนมมาอย่างเดียวเอง "ขนมปำจี" เป็นขนมที่นิยมกินกันในตอนเช้าและบ่าย มีแป้งข้าวเจ้า ไข่ มะพร้าว น้ำตาลโตนด และเกลือเป็นส่วนประกอบ เค้าจะเทแป้งลงในกระทะ รอจนแป้งสุก ตักออกมาใส่มะพร้าวอ่อนขูดฝอย แล้วก็ม้วนๆ ร้านนี้ต้องหยิบบัตรคิวกันด้วย อร่อยสมกับการรอคอยจริงๆ เดินเที่ยวงานจนลืมเงยหน้ามองฟ้า ออกจากถนนคนเดินประมาณทุ่มกว่าๆ ขี่รถออกมาได้หน่อย ฝนเทลงมาอย่างหนักหน่วง (สงสัยปีนี้จะถูกโฉลกกับสายฝนจริงๆ ไปเที่ยวไหนก็เจอฝนตลอด) มองหาร้าน 7/11 เพื่อจะซื้อเสื้อกันฝน แล้วจะได้ขออาศัยหลังคาหลบฝนด้วย กว่าจะกลับมาถึงโรงแรมได้ก็ 2 ทุ่มกว่าแล้ว อาบน้ำสระผมซะก่อน เดี๋ยวค่อยไปหามื้อเย็นลงท้อง ขี่รถร่อนไปรอบเมืองหาดใหญ่ ไม่รู้จะจอดร้านไหนดี จนในที่สุดมาเจอ "ร้านหนานหยวน" จบลงด้วยเมนูต้องลอง "บะหมี่เกี๊ยวกุ้งน้ำ" ชามละ 35 บาท มาซะชามเบ้อเริ่มเลย เกือบกินไม่หมดแน่ะ เส้นหมี่เหนียวนุ่ม เกี๊ยวกุ้งได้เนื้อเต็มๆ คำ จริงๆ ที่โรงแรมก็มีอาหารเช้าให้กินนะ แต่ดูๆ แล้วไม่ค่อยถูกใจเลย มีให้เลือกน้อยมาก กินข้าวต้มรวมมิตรไปถ้วยเดียว ไม่ค่อยอร่อยด้วย ก็เลยมาอาหารเช้าที่อื่นกินดีกว่า เล็งๆ ร้านนี้ไว้ตั้งแต่ก่อนมาแล้ว เค้าบอกว่ามาเที่ยวหาดใหญ่ต้องกินติ่มซำหรือแต้เตี้ยมสักมื้อ "ร้านโชคดีแต้เตี้ยม" เป็นคนละร้านกับ "โชคดีติ่มซำ"นะ อยู่บนถนนละม้ายสงเคราะห์ เปิด 2 ช่วง คือ 6.00-12.00 และ 17.00-22.00 ประวัติความเป็นมาของร้านนี้น่าสนใจมาก เริ่มเปิดขายตั้งแต่ปี 2539 แต่กิจการยังไม่ค่อยดี ต้องอาศัยหน้าม้าคือเพื่อนๆ ของลูกชาย มากินวันละ 50-60 เข่ง หรือเพื่อนลูกสาวมากินก็คิดให้ราคาพิเศษ ซึ่งดีกว่าทำแล้วต้องเททิ้ง ช่วงแรกของการขายบะกุ๊ดเต๋ก็ไม่ค่อยมีคนมาอุดหนุน เพราะรสชาติไม่ถูกปาก ต้องปรับอยู่หลายหน จนปี 2540 กิจการเริ่มดีขึ้น เริ่มติดปากคนหาดใหญ่ และขยายไปยังนักท่องเที่ยว จนตอนนี้มีคำกล่าวว่า "ถ้ามาหาดใหญ่ไม่ได้มากินโชคดีแต้เตี้ยม ถือว่ายังมาไม่ถึง" (ข้อมูลจากนิตยสารผู้จัดการ) Click! พออิ่มจากที่นี่ ก็ไปขี่รถเล่นในเมืองหาดใหญ่ จากนั้นก็ไปสวนสาธารณะหาดใหญ่ ตอนบ่ายๆ กลับมากิน "เย็นตาโฟเจ๊เล็ก" ใกล้ๆ กับโรงเรียนศรีนคร การสั่งอาหารที่นี่ จดก่อน ยื่นก่อน ได้ก่อน เราต้องจดรายการอาหารที่หน้าร้าน แล้วมานั่งรอข้างใน เห็นคนมากินกันเพียบเลย ชามนี้ "บะหมี่เย็นตาโฟ" เครื่องเพียบ.... ชามละ 35 บาท ช่วงขี่รถร่อนในเมือง มองเห็นร้านไอศกรีมไทย-ไท ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่ต้องมาพิสูจน์ความอร่อยให้ได้ ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากร้านเย็นตาโฟซะเท่าไหร่ อยู่ตรงข้ามโรงเรียนแสงทองเลย เห็นป้ายเขียนติดไว้ว่า "ไอศกรีมใส่ไข่เจ้าแรกในหาดใหญ่" เครื่องเคียงให้เลือกเพียบ นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ 2 ถ้วยติดๆ แบบไม่รั้งรอ ขี่รถมาร้อนๆ มาเจอไอศกรีมเย็นๆ ชื่นใจจริงๆ ออกจากร้านนี้ ก็ไปหาซื้อของฝากที่ตลาดกิมหยง ร้านขายของเยอะแยะไปหมด เลือกไม่ถูกเลย ได้ของที่เค้าฝากซื้อมานิดหน่อย แต่ดันลืมซื้อของตัวเองซะนี่ เป็นไปได้ยังไง ตอนแรกตั้งใจให้เค้ามารับรถที่สนามบิน เพราะจะได้ไม่ต้องหารถมาที่นี่อีก แต่ตอน 5 โมง เจ้าของร้านโทรมาถามว่าอยู่ที่ไหนแล้ว พอบอกว่ากำลังกลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรม พี่เค้าก็เลยบอกว่า เอารถมาคืนที่ร้านดีกว่า และนั่งรถสองแถวไป เพราะฝนตั้งท่าจะตกหนัก ดีนะที่เชื่อเจ้าถิ่น พอขึ้นรถสองแถวได้ไม่ถึง 5 นาที ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ครั้งนี้มาทั้งลมทั้งฝนด้วย ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าขี่มอเตอร์ไซค์มาคนเดียวจะเป็นยังไงบ้าง ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปกินซาลาเปาทอดที่ร้านโกอ้วน เพราะที่นี่เค้าเปิด 4 โมงเย็น แต่ไม่ทันซะแล้ว เลยต้องมาหาอะไรกินที่สนามบินแทน เพราะกว่าจะกลับถึงกรุงเทพก็ 3 ทุ่มกว่าแล้ว มื้อเย็นปิดท้ายทริปตะลอนชิมมาจบลงที่ "ร้านโกปี้เตี๊ยม" ในสนามบินหาดใหญ่ สั่ง "ข้าวมันไก่ตำรับไห่นาน" มา 1 ชุด ชุดละ 120 บาท มีไก่ 1 จาน ข้าว 1 ถ้วย น้ำซุป 1 ถ้วย รสชาติอร่อย และแปลกไปอีกแบบ อิ่มอร่อยตลอดระยะเวลา 2 วัน 1 คืน แต่ก็มีอีกหลายๆ ร้านที่ยังไม่ได้ไปชิม คิดไว้แล้วว่า ต้องหาโอกาสมาเที่ยวหาดใหญ่อีกแน่ๆ จะลองไปกินร้านอื่นๆ ในลายแทงดูบ้าง กลับจากทริปนี้แล้วไม่กล้าชั่งน้ำหนักเลย ไม่รู้ว่าน้ำหนักจะขยับขึ้นมาอีกกี่กิโล...
Create Date : 17 พฤษภาคม 2553 |
|
71 comments |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2553 18:19:46 น. |
Counter : 4643 Pageviews. |
|
|
|
ตอนนี้ยังอิ่มตั้งแต่บ่าย แต่หลังจากนี้คงออกไปหาอะไรใส่พุงแล้วล่ะค่ะ
พรุ่งนี้ไม่รู้จะได้ไปทำงานไหม
แต่แวะมาบอกว่าอาจหายไปอีกแล้วค่ะ
เวลางานเล่นเนตแล้วงานอืดสุดๆ ค่ะ ขอบอก