|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
จะทำริซ็อตโต้ให้อร่อย ต้องใจเย็นๆๆๆๆๆ
จขบ.มาเขียนบล็อกนี้พร้อมรอยน้ำตาค่ะ ฮืออ (เว่อเจงๆชั้น) ครือว่าคงอีกนานกว่าจะได้อัพบล็อกอีก เพราะงานที่รับเค้าไว้มันไม่ทันจริงๆแล้ว คือตอนแรกมันไม่ทันธรรมดาค่ะ แต่ตอนนี้มันไม่ทันแบบไฟลนเลย ฮืออ เพื่ออนาคตต้องรีบไปปั่นก่อนนะคะ
แต่แน่นอนค่ะว่าก่อนปั่นก็ต้องกิน ฮ่า วันนี้เลยมาคุยเรื่องริซ็อตโต้หรือข้าวหุง/อบแบบอิตาลี หลายคนไม่ชอบมากๆเลย รวมทั้งคนใกล้ตัวพัทด้วย บอกว่ามันแหวะๆ แหยะๆ เละๆเหมือนอ้วกแมว เพื่อนร้ากอีกคนบอกว่าเหมือนข้าวต้มไม่มีน้ำ แต่พัทชอบนะ ยิ่งหน้าหนาวๆ ทำเสร็จกินอุ่นๆยิ่งอร่อย เป็น comfort food ยามท้อแท้ใจอ่ะค่ะ เอิ้ก (เน่าอีกแระ) จริงๆเคล็ดลับริซ็อตโต้ที่ทุกคนบอกเหมือนๆกันก็คือต้องใจเย็นๆๆๆๆ แล้วก็ค่อยๆทำ คนเยอะๆๆๆ คนบ่อยๆๆๆ เดี๋ยวมาดูนะคะว่าทำไง
แรกเลยของที่ใช้ก็มีข้าวอิตาลีพันธุ์ arborio เม็ดมันจะกลมๆป้อมๆใสๆค่ะ หอมและกระเทียมเล็กน้อยสับให้ละเอียด ไวน์ขาวแบบไม่ต้องแพงนะคะ พัทใช้แบบกล่องกระดาษ table wine ธรรมดาๆเลยค่ะ น้ำมันมะกอก เนยนิดหน่อย น้ำซุปไก่ (ใช้แบบก้อนด้วยแหล่ะ แฮ่ ไม่มีเวลามาเคี่ยวเองอ่ะค่ะ) เกลือ พริกไทยดำ แล้วก็เครื่องที่เราชอบอีกสองสามอย่าง คือจะใช้ซาลมอนกับดิล หรือซอสเพสโต้กับกุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ก็ได้ค่ะ แต่วันนี้พัทใส่กุ้งกับผักโขมอ่อนนะ พัทว่าใส่เครื่องมากกว่าสามมันไม่ค่อยอร่อยค่ะ รสชาติมันตีกันมากไปหน่อย
ทะนี้ก็วิธีทำนะคะ
1. ตั้งกระทะไฟอ่อน ใส่เนยกับน้ำมันมะกอก พออุ่นๆใส่กระเทียมกับหอมสับละเอียดผัดให้นุ่มและใส ประมาณสิบนาทีค่ะ ระหว่างนี้ก็ตั้งน้ำซุปในหม้ออีกใบให้อุ่นๆไว้นะคะ
2. ใส่ข้าวลงไปผัด ไม่ต้องซาวนะคะ เพราะว่าน้ำมันมะกอก เนยและความร้อนจะรัดข้าวไว้ไม่ให้เละค่ะ ไม่ต้องซาวเลย ทีนี้ก็ปรับไฟให้แรงขึ้น ผัดไปสามสี่นาที ข้าวจะใสแล้ว อ้อ ข้าวนี่หนึ่งกำมือต่อคนนะคะ กะๆเอา
3.ใส่ไวน์ขาวลงไปเลยค่ะ พัทใส่แก้วกว่าแน่ะ แฮ่ เพราะมันหอมมมม แล้วแอลกอฮอล์มันก็ระเหิดหมดค่ะ ผัดไปเรื่อยๆให้ข้าวดูดไวน์เข้าไปให้หมดนะคะ ใส่เกลือกับพริกไทยตามชอบค่ะ
4. ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนพิสูจน์ความอดทนค่ะ ใส่น้ำซุปลงไปทีละน้อยนะคะ ครึ่งทัพพีพอ อย่าให้ท่วมข้าวนะคะ แล้วก็คนๆๆๆๆๆๆ พอข้าวดูดน้ำหมดก็ทะยอยเติม ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆค่ะ ซักสิบห้านาทีลองชิมดู ข้าวจะพองขึ้นอีกเกือบเท่าทีเดียว แต่อย่าให้สุกมากนะคะ มันควรจะมีไตนิดๆ แบบ al dente ในสปาเกตตี้น่ะค่ะ
5. ถ้าเครื่องปรุงที่เราใส่สุกง่าย อย่างกุ้งกับผักโขมที่พัทใส่วันนี้ ก็ใส่ตอนข้าวใกล้สุกมากๆ แต่ถ้าสุกยากอย่างอาติโช้กล่ะก็ ใส่ตั้งแต่เติมน้ำซุปได้เลยค่ะ แล้วก็คนๆๆนะคะ เริ่มเมื่อยกันรึยัง
6.พอสุกแล้วหลายคนบอกว่าให้เอากระทะออกมาจากเตาแล้วปิดฝาทิ้งไว้สองนาที จะทำให้ข้าวนุ่มเนียนเป็นครีมๆค่ะ แต่พัทไม่เคยเลย เพราะว่าจะสุกก็หิวตายแล้ว ไม่รู้เป็นอะไร ชอบทำริซ็อตโต้ตอนหิวมากๆทู้กทีสิน่า ผิดสูตรนะคะ หิวมากตาลาย ใส่ซุปกระหน่ำข้าวทุกที
7. ถ้าชอบก็โรยพาร์เมซานกับน้ำมันมะกอกอีกนิดนะคะ พอดีพัทชอบเปรี้ยว เลยบีบมะนาวกับน้ำมันมะกอกแทน อร่อยดีค่ะ อ้อ ใครชอบเผ็ดหน่อย ผัดพริกแห้งไปพร้อมกับหอมกระเทียมตอนขั้นตอนที่ 1 ก็ได้นะคะ
ริซ็อตโต้นี่ต้องกินร้อนๆ ตอนทำเสร็จใหม่ๆ ตั้งทิ้งไว้แล้วอุ่นอีกจะไม่อร่อยค่ะ
ปล ไม่มีรูป เพราะมันเหมือนอ้วกแมวจริงๆ เดี๋ยวคนอ่านจะกินอะไรไม่ลง ฮ่า
ส่วนอีกสูตรอันนี้ง่ายสุดๆ พัททำบ่อยเวลาอยู่ไกลบ้านค่ะเพราะมันง่ายจริงๆ ไม่ต้องคอยดูด้วย นั่นก็คือปลานึ่งเต้าเจี้ยวค่ะ ของที่ใช้ก็มีแค่ปลา แต่ต้องสดที่สุดที่หาได้นะคะ ไม่งั้นคาวจริงๆ ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ขอดเกล็ด ควักไส้ บั้งนิดหน่อยนะคะ ขิงซอย คึ่นไช่ ผักชี ต้นหอมหั่นเป็นท่อนๆ เห็ดหอมแช่น้ำซอยบางๆ ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย พริกไทยป่น น้ำมันงา เหล้าจีน อันสุดท้ายนี่ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่พัทถือว่าอาหารใดมีเหล้าย่อมอร่อย ฮ่า
วิธีทำก็ง่ายจริงๆ ขอยืนยัน แค่อุ่นเตาอบให้ร้อนที่ 180 เซลเซียส เอาจานอบทนไฟแบบมีขอบใหญ่พอใส่ปลาได้มา วางปลาลงไป โรยเครื่องทั้งหมด แล้วผสมซอสทั้งหลายเข้าด้วยกัน ใส่น้ำแช่เห็ดหอมซักสามสี่ช้อน ขึ้นอยู่กับขนาดปลานะคะ แล้วก็ราดลงไป โชะ เอา foil มาคลุมให้มิด อบประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดปลานะคะ พอเนื้อปลาสุกเป็นสีขาวก็ใช้ได้ค่ะ อย่าอบนานมากนะคะ เพราะว่าเนื้อจะกระด้าง ระหว่างนั้นใครชอบแซ่บๆก็ไปตำน้ำจิ้มทะเลรอไว้ได้เลยค่ะ อ้อ ใครมีลังถึงก็นึ่งเลยนะคะ น้ำเดือดๆ ประมาณ 20-30 นาทีเหมือนกันค่ะ
รูปไม่มีอีกเหมือนกันค่ะ วันนั้นไอ้เจ้าหมาอ้วนกวนใจมาก เลยไม่ได้ถ่ายไว้เลย
อัพบล็อกนี้แล้วก็ขอลาไปทำงานก่อนนะคะ ฮือออ
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2549 1:22:28 น. |
|
24 comments
|
Counter : 14373 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Picike วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:53:22 น. |
|
|
|
โดย: น้องเบิร์ด(AsWeChange) (AsWeChange ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:09:38 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:12:00 น. |
|
|
|
โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง (หลั่มหมั่นเหม่ง ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:03:41 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:29:01 น. |
|
|
|
โดย: Htervo วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:46:25 น. |
|
|
|
โดย: ฝนตกแดดออก วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:05:18 น. |
|
|
|
โดย: Bramasole วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:51:01 น. |
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:32:23 น. |
|
|
|
โดย: Plin, :-p วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:04:37 น. |
|
|
|
โดย: nzmum วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:04:46 น. |
|
|
|
โดย: Robotoon วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:02:58 น. |
|
|
|
โดย: Crono วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:57:10 น. |
|
|
|
โดย: Htervo วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:3:42:16 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:12:41 น. |
|
|
|
โดย: kornnakarn วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:40:12 น. |
|
|
|
โดย: nzmum วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:2:29:04 น. |
|
|
|
โดย: ClayAnn วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:22:25:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่ปลานึ่งเต้าเจี้ยวนี่น่าสนมากๆเลยค่ะ ชอบกินปลานะ แต่เหล้าจีนนี่ไม่รู้จะหาได้ไหม ใส่เหล้าอื่นได้ไหมคะ แหะๆ