|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ปัดกวาดหยากไย่ต่อด้วยทริปไปเวนิส
เข้าบล็อกตัวเองอีกทีแล้วละอายแก่ใจมากๆค่ะ เพราะว่าหลังจากปีที่แล้วยังไม่ได้อัพอีกเลย เอิ้ก ไม่รู้เอาเวลาไปทำอะไรจริงๆ (จะว่าไปก็รู้ล่ะค่ะ มัวแต่ขี้เกียจตัวเป็นขนแน่ๆ)
ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนเลย งงกะหยากไย่ใยแมงมุง ก้าก ขอเริ่มจากเรื่องประทับใจ เขียนไว้กลัวลืมก่อนนะคะ
1. น้องสุดหล่อใจดีบนเครื่องนกแอร์
ตอนกลับไปเมืองไทย เอาหมาอ้วนๆไปฝากแม่ก็อยู่กับบุ้งกี๋เสียสองสัปดาห์ ร่ำลาอาลัยอาวรณ์หมายิ่งกว่าสามี พอตัดใจกลับได้เพราะจำเป็นต้องกลับแล้วด้วยก็น้ำตาไหลพรากกก กอดรัดจนพุงมันแทบแตก แต่ไอ้อ้วนทำหน้างุนงงสุดๆ ฮึ่ม หมาอะไรไม่รู้
วันนั้นจำได้ว่ามาได้ตั๋วนาทีสุดท้ายของนกแอร์รอบบ่ายสองกว่าๆค่ะ ตอนเดินขึ้นเครื่องจขบ.ก็สติแตก รู้สึกเศร้าใจมากๆๆๆที่ต้องเดินทางอีกแล้ว ต้องจากหมาน้อย แม่ ครอบครัว คนที่รักไปอีกครั้ง น้ำตาที่ไหลพรากเพิ่งหยุดไปก็ไหลออกมาใหม่ยังกะเขื่อนแตกเชียวค่ะ (วันนั้นใครที่เห็นผู้หญิงหัวยุ่งๆตัวกลมๆ เดินแบกเป้สีแดง น้ำหูน้ำตาไหลช่วยอย่าคิดว่าบ้าหรืออกหักนะคะ นั่นน่ะอาการคิดถึงหมาค่ะ ฮ่า)
วันนั้นได้นั่งแถวหน้าๆเลย แต่ตอนนั้นไม่รับรู้อะไรอีกแล้วค่ะ ทิชชู่กี่แผ่นๆกำออกมาเช็ดน้ำตาหมด แต่แล้วทันใดนั้นก็มีมืออุ่นๆมาแตะที่ไหล่ หันไปก็มองเห็นหน้าผู้ชายวัยละอ่อนน้อยกว่าพัทหลายปี น้องชายใจดีเปิดปากแล้วพูดว่า ไม่เป็นไรนะครับ แล้วมันจะผ่านไป (โอ้ เรื่องแบบนิยายๆยังงี้เกิดกะชั้นด้วยเรอะ) แถมน้องหน้าอ่อนคนนี้หล่ออออออซะ เล่นเอาจขบ.เกือบลืมไอ้อ้วนและสถานะภาพสมรสของตัวเอง ก้าก พูดเล่นให้มันเว่อๆไปงั้นแหล่ะค่ะ แต่น้องเค้าหล่อจริงๆนะ คิ้วเข้ม ตาคม ผิวขาว ตัวสูง ยังกะพระเอกนิยายสมัยนิยมตอนนี้เลย พัทก็อายนะ โห ร้องไห้ซะจะเป็นจะตาย ก็เลยตะกุกตะกักไปว่า เอ่อ พอดีต้องเอาหมาไปฝากแม่เลี้ยงน่ะค่ะ เพราะว่าต้องอยู่ต่างประเทศ
น้องขี่ม้าขาวก็ปล่อยประโยคเด็ดเป็นหมัดฮุกมาว่า ไม่เป็นไรหรอกครับ ความรักทุกแบบสวยงามเสมอ เท่านั้นล่ะค่ะ จขบ.ก็น้ำตาหยุดไหล แถมยังต้องกัดกระพุ้งแก้มกลั้นหัวเราะไว้ด้วย คือน้องเขาอาจจะเป็นพระเอกสมัยนิยมจริงๆ แต่พัทน่ะไม่ใช่นางเอกพิมพ์นิยมอย่างน้องเค้าแน่ๆ ก็มันขำอ่ะ ไม่ได้ขำน้องเค้านะ จริงๆแล้วซาบซึ้งใจกับ the kindness of a stranger มากๆ แต่ขำว่าประโยคมันช่าง ช่างอะไรหว่า ช่างไม่น่าเชื่อว่าจะเอามาใช้ในชีวิตจริงได้น่ะค่ะ บ่อน้ำตาเลยแห้งเลย พัทก็พึมพำขอบคุณน้องเขาไปแล้วควักหนังสือขึ้นมาอ่าน ตอนลงเครื่องก็ขอบคุณน้องอีกครั้ง น้องก็ถามว่าอยู่ประเทศไหนตามมารยาท ก็ตอบว่ากรีซไป
ถ้าน้องหรือคนรู้จักได้มาอ่าน (ติ๊งต่างว่าน้องเล่าวีรกรรมยายบ้าน้ำตานองในเครื่องบินล่ะก็) อยากฝากบอกไปว่าขอบคุณมากๆค่ะที่ช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นมากๆ แล้วก็น้องมีน้ำใจมากๆๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ
(ปล. ที่จริงพอเล่าให้เพื่อนฝูงสาวโสดและน้องนุ่งฟัง ทุกคนร้องกรี๊ดว่า แล้วทำไมไม่ถามชื่อแซ่มา (ยะ) ตัวเองไม่โสดแล้วก็ถามให้เพื่อนฝูงซี่ ทั้งหล่อทั้งใจดีแบบนี้หาที่ไหน ก้าก ขอแนะนำว่าอาจจะเป็นมุกพิสูจน์+เรียกร้องความสนใจชายที่ได้ผลนะเนี่ย ไอ้น้ำตาหล่นบนโต๊ะจีน เอ๊ย น้ำตาหล่นบนเครื่องบินเนี่ย ฮ่า)
2. อัพเดทไอ้อ้วน
ฝ่ายหมาบุ้งนั้นวันแรกที่พัทกลับมามันก็ยังไม่รู้ว่าถูกทิ้ง แต่วันต่อๆมาเท่านั้นล่ะค่ะ แม่พัทก็โทรมาบอกว่ามันซึมไปมาก ไม่กินข้าว น้ำและขนมด้วย มันเอาแต่นอนมองประตู ถอนใจเบาๆ แล้วก็ซึมๆๆๆ ใครเรียกก็ไม่สน นอนตาลอย พัทฟังแล้วก็น้ำตาไหลอีกรอบ แม่ก็ร้องด้วย ทำให้ตกใจมากเพราะแม่ไม่เคยร้องไห้เลย พัทกลุ้มใจมากจนโทรไปปรึกษาหมอหมาประจำ คุณหมอก็ช่างแสนดี แนะนำว่าต้องใช้เวลา แล้วก็ถ้าหมามาจากต่างประเทศอยากให้ตรวจสุขภาพละเอียดอีกครั้งเพราะกลัวป่วยด้วยโรคอื่นๆด้วย พัทก็บอกแม่ แม่ก็จัดการไป
ระหว่างที่หมาอ้วนซึมนั่นเอง แม่ก็คิดได้ว่าต้องไม่ให้มันอยู่กับสถานที่และบรรยากาศเดิมๆ เดี๋ยวมันจะคิดถึงเจ้าของ อาหารเม็ดที่กินไม่ได้แม่ก็ทำโปรโมชั่นให้กินหมูพะโล้กับหมูปิ้งของโปรดของมันแทน นัยว่าเหมือนการพักฟื้นหลังป่วยอะไรประมาณนั้น แถมยังซักล้างข้าวของทุกอย่างให้หมดกลิ่นพัท แล้วก็หอบไอ้อ้วนไปฮอลิเดย์ที่บ้านที่เชียงราย
ผลน่ะเหรอคะ ไอ้อ้วนก็หายซึมเป็นปลิดทิ้ง วิ่งเริงร่าท้าลมหนาวและวัวควาย หวั่นไหวกับสัมผัสจากมือเด็กทั้งหมู่บ้าน เดินกินลมชมวิวขึ้นดอย ลืมแม่มันไปเลย แง้ ตอนนี้หมาบุ้งกี๋น้ำหนักลดเหลือ 12.8 โลแล้ว จากที่อ้วนพุงพลุ้ยมาตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ร่าเริง กินเล่นเป็นปกติ แม่พัทก็รักและเอาใจมันมากค่ะ นับว่ามันมีวาสนาเกินหมาจริงๆ ฮึ่ม
กลับมาแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ เก็บกวาดบ้านช่อง เคลียร์งาน น้ำตาไหลคิดถึงหมาอีกหน่อย พอดีมีช่วงวันหยุดก็เลยไปเวนิสค่ะ คราวนี้ไปตั้งทู้ที่ BP ไว้ด้วย รูปพัทลงไว้หมดแล้วค่ะ ในบล็อกจะไม่ลงแล้วนะคะ
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6564699/E6564699.html
การไปเวนิสครั้งนี้เล่นเอาพ่อพิกุลพิโอดพิโอย หาว่าพัทไปอิตาลีสามรอบแล้ว ถ้ารวมไปเวนิสครั้งนี้ด้วย พัทก็เถียงไปว่าก็ไปโรมกะฟลอเรนส์นี่นา เวนิสยังไม่ได้ไป ต้องไปนะ เดี๋ยวมันจมก่อน แล้วคราวหน้าค่อยไปคาซัคสถาน ลัทเวีย ลิธัวเนียที่พ่อพิกุลอยากไปก็แล้วกัน เพราะจริงๆพัทก็อยากไปด้วย แต่ขอไปเวนิสก่อน
สุดท้ายพ่อพิกุลผู้โชคร้ายที่ต้องเป็นสปอนเซอร์ไปเที่ยวที่ที่ตัวเองไม่ได้เลือกก็ตกลงรับคำ เราไปถึงเวนิสกันกลางดึกของวันพฤหัส โชคดีได้นั่งรถเที่ยวสุดท้ายเข้าเมือง แถมพอลงเรือมาท่าริอัลโต้ คุณเป้า เจ้าของที่พักเราก็ดันหวังดีไปรอที่ท่าเรือตรง Piazza di Roma ซะงั้น คืนนั้นกว่าจะเจอกันและได้นอนปาเข้าไปตีสอง แต่เช้าวันรุ่งขึ้นก็เหมือนเดิมตรงที่จขบ.ตื่นตั้งแต่เจ็ดโมง อาบน้ำอาบท่าปล่อยพ่อพิกุลนอนต่อแล้วไปตลาด ไอ้นิสัยชอบเดินตลาดนี่แก้ไม่หายจริงๆค่ะ ไม่ว่าไปไหน ต้องตื่นไปเดินหาตลาดเสมอ แต่ปรากฏว่าวันนั้นเป็นวัน Liberation day ตลาดปิด ก็เลยซื้อแซนวิสกับกาแฟมาฝากพ่อพิกุลแทน
ไม่มีอะไรเล่ามากเท่าไหร่เพราะลงทู้ไปหมดแล้วค่ะ แต่จะบอกว่าคุณเป้าเป็นเข้าของบีแอนด์บีที่น่ารักมาก มีหุงข้าวไว้ให้เราด้วย มีน้ำใจและเอื้อเฟื้อมากๆๆ ทำเลที่พักก็ดีสุดๆ คุ้มจริงๆ
จะว่าไปแล้วไปเวนิสคราวนี้รู้สึกเห็นใจคนท้องถิ่นขึ้นมาครามครัน ค่าที่ว่านักท่องเที่ยวเยอะเหลือใจ เดินกันจนบันไดจะสึก เรืองี้แน่นเอี้ยดจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน เห็นว่าต้องเพิ่มสายเรือใหม่สำหรับคนท้องถิ่นโดยเฉพาะด้วยค่ะ พัทว่าไปเที่ยวอิตาลีนี่หน้าหนาวน่าจะดีสุดแล้วนะ ไม่งั้นเที่ยวไม่สบายจริงๆค่ะ
อีกอย่างที่ประทับใจมากคือความมั่นใจของนักท่องเที่ยวจีนและญี่ปุ่น นอกจากป้าๆที่ร้องเพลงจีนลั่นคุ้งน้ำยามล่องเรือกอนโดลาแล้ว เราก็ได้เจอนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มั่นใจไม่แพ้กัน ตอนไปกินข้าวเย็นที่ trattoria alla madonna อยู่ตรงตรอกแทบจะติดตีนสะพานริอัลโต้ฝั่งตลาดเลยค่ะ ร้านนี้เด็ดมาก ควรไปเป็นอย่างยิ่ง เพราะถูกและดี เราก็เจอนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นหกคนนั่งเรียงราย กินกันอย่างสะใจ สักพักใหญ่ บริกรก็เข้าไปถามว่าอาหารเป็นยังไงบ้าง ทั้งหกคนก็พร้อมใจกันพูดเสียงลั่นว่า ไฮ โออิชิ! โอยยย ประทับใจมาก เหมือนได้เที่ยวเวนิสพร้อมทัวร์ภาษาญี่ปุ่นเลยจริงๆ
จบกันทื่อๆแบบนี้ล่ะค่ะ ปีนี้ต้องทำบล็อกให้มันสวยกว่านี้ให้ได้ โอทซ์!!!!
Create Date : 02 พฤษภาคม 2551 |
|
38 comments |
Last Update : 2 พฤษภาคม 2551 15:22:26 น. |
Counter : 1719 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: จขบ (Il Maze ) 2 พฤษภาคม 2551 16:48:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยาคูลท์ 3 พฤษภาคม 2551 1:45:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: grappa 4 พฤษภาคม 2551 9:27:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: s.o.s 5 พฤษภาคม 2551 10:17:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: Takaw (Takaw ) 6 พฤษภาคม 2551 0:09:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ไก่ 6 พฤษภาคม 2551 8:37:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: s.o.s 6 พฤษภาคม 2551 8:45:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: grappa 6 พฤษภาคม 2551 11:25:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: รวิษฎา 6 พฤษภาคม 2551 12:06:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: nanalove 6 พฤษภาคม 2551 12:24:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: Crono 6 พฤษภาคม 2551 14:29:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋แป๋ว (nupaew ) 6 พฤษภาคม 2551 16:48:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: tewtew 6 พฤษภาคม 2551 20:58:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: Seabed 6 พฤษภาคม 2551 21:32:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 6 พฤษภาคม 2551 22:42:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่แหม
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ความรักทุกแบบสวยงามเสมอ..."
ขอชื่อๆๆ น่ารักซะ