สุดแต่ใจจะไขว่คว้า สุดแต่ใจจะไขว่คว้า สุดแต่ใจจะไขว่คว้า
=สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ^_^ สุดแต่ใจจะไขว่คว้า=
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
2 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 

จุดอ่อนของ แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานคณะกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดงานสัมมนาระดมความคิดจากกูรูในหลายภาคส่วน ภายใต้หัวข้อ พลิกเส้นทางพัฒนา...สถาปนาความมั่งคั่งใหม่ให้ประเทศ ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ โดยทางสถาบันฯได้มีการจัดทำงานวิจัย เรื่องเส้นทางสู่ความมั่งคั่ง...เปรียบเทียบไทยกับภูมิภาค โดยมีโจทย์สำคัญของการไปสู่ความมั่งคั่งว่า การเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางนั้นไม่ยาก แต่การจะยกระดับเป็นประเทศที่มีรายได้สูงไม่ใช่เรื่องง่าย เห็นได้จากปี 2503 มีประเทศที่ถูกจัดอันดับว่ามีรายได้ปานกลาง 101 ประเทศ จนถึงปี 2553 ประเทศที่สามารถก้าวข้ามและยกระดับตนเองเป็นประเทศที่มีรายได้สูง มีเพียง 13 ประเทศ ส่วนประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางตั้งแต่ปี 2519 ตามด้วยมาเลเซีย เริ่มมีรายได้ปานกลางตั้งแต่ปี 2512 ประเทศในเอเชียอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน กลายเป็นประเทศที่มีรายได้สูงตั้งแต่ปี 2530 และเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2538

ทั้งนี้ หนึ่งในแนวทางเพื่อไปสู่ความมั่งคั่งจะต้องยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์ (Moving up the value chain) หัวใจหลักคือต้องมีนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมที่เป็นผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมด้านกระบวนการผลิต เพื่อยกระดับสินค้าและการพัฒนาการผลิตเพื่อหนีจากการแข่งขันกับประเทศที่ค่าแรงต่ำกว่า แต่ประเทศไทยก็ยังมีปัญหาในการยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์ เห็นได้จากสินค้าที่ผลิตและส่งออกยังมีราคาเพิ่มไม่มาก ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเกาหลีใต้ ที่มีดัชนีราคาส่งออกสินค้าประเภทหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์สูงขึ้นถึง 4 เท่า ขณะที่ราคาส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 เท่า เท่านั้นในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา

ดังนั้น จะต้องก้าวไปทำกิจกรรมอื่นในกระบวนการผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (Value Added) โดยให้น้ำหนักกับการวิจัยและพัฒนา สร้างนวัตกรรม และการสร้างแบรนด์ เห็นได้จากในระหว่างปี 2543-2551 เกาหลีใต้เพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อวิจัยและพัฒนาจาก 2.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เป็น 3.36% ของจีดีพี ไต้หวันเพิ่มจาก 1.94% เป็น 2.77% ขณะที่จีนเพิ่มจาก 0.9% เป็น 1.47% แต่ไทยมีสัดส่วนลดลงจาก 0.25% ในปี 2543 เป็น 0.21% ในปี 2550 และเห็นได้ว่าจีนซึ่งมีระดับรายได้ต่อหัวใกล้เคียงกับไทย แต่มีสัดส่วนการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาสูงกว่าไทยถึง 7 เท่า และมาเลเซียสูงกว่าไทย 3 เท่า

“ในปี 2556 รัฐบาลไทยจัดสรรงบประมาณให้ยุทธศาสตร์การพัฒนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม เพียง 0.8% ของงบประมาณรวม 

ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯได้งบ 8,926 ล้านบาท 
โครงการรถคันแรกกลับได้รับงบถึง 24,720 ล้านบาท
โครงการรับจำนำข้าว ประจำปี 2555-2556 โดยใช้งบประมาณ 4.5 แสนล้านบาท
และใช้งบประมาณ 3 หมื่อนล้านบาท ในการ อุ้มราคายางพารา 

ในงบประมาณปี 2557 ซึ่งโดยรวมแล้วโครงการนี้จะได้รับการจัดสรรงบเป็นเงิน 32,095 ล้านบาท เมื่อรวมงบปี 2555-2557 แทนที่รัฐบาลจะนำไปอุดหนุนการวิจัยและพัฒนาในสายการผลิตรถยนต์ กลับไปอุดหนุนให้มีการบริโภครถยนต์เพิ่มขึ้นแทน”

นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีนและมาเลเซียกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ของไทย พบว่าวิสัยทัศน์ในระยะยาวของจีนและมาเลเซียมีความชัดเจนและมีจุดเน้นที่เด่นชัดกว่า อีกทั้งมีแผนไปสู่การปฏิบัติและการวางโครงการรองรับอย่างเป็นระบบ และมีเป้าหมายหลักของการพัฒนาพร้อมให้เกิดการปฏิบัติได้ ส่วนแผนของไทยไม่ระบุชัดเจนถึงภาคเศรษฐกิจหลักที่จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ไม่ได้มีการพูดถึงโครงการต่างๆ ที่จะมารองรับ และตัวชี้วัดหลายตัวไม่ได้ระบุตัวเลขเป้าหมาย ดังนั้น วาระสำคัญของการยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์ของประเทศไทยจะต้องเน้นไปที่
 1. กลยุทธ์ด้านนวัตกรรมแบบบูรณาการ 
2.การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสถาบันที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ วิชาการ และเอกชนที่ยังขาดอยู่ในหลายส่วน โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ นอกจากนี้ ต้องเปลี่ยนทัศนคติของประชาชนต้องมีเศรษฐกิจอยู่บนฐานความรู้ ได้เยาวชนและประชาชนที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและการเรียนรู้มากขึ้น จากที่นับวันเยาวชนไทยมีแนวโน้มนิยมทำงานง่ายไม่ต้องใช้ความรู้อย่างการเป็นดาราหรือนักร้อง.




 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2555
2 comments
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2555 13:08:30 น.
Counter : 3590 Pageviews.

 

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ
แวะมาเยี่ยมเพื่อนคนแรก

ทำงานด้วยความสุขนะคะ
ยกแตงโมที่บล็อคมาฝากค่ะ

 

โดย: pantawan 5 พฤศจิกายน 2555 13:42:36 น.  

 

สวัสดีค่ะเพื่อนคนแรก
แวะมาเยี่ยมเยียน
ไม่ได้มาหลายวัน คิดถึงค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

pantawan 22 พฤศจิกายน 2555 22:44:53 น.
 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


bestyx
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]





เป็นคนเรียบง่าย สบาย ๆ ..คิดอะไรได้ช้า.. คิดไม่ค่อยทันคนอื่น...เขียนอะไรไม่ค่อยเป็น... เลยต้องหาสิ่งที่คนอื่นคิด สิ่งที่คนอื่นเขียน มาเก็บรวบรวมไว้อ่าน เพื่อให้ตนเองได้ฉลาดขึ้น เป็นคนที่ไม่ชื่นชอบหรือหลงใหลสิ่งใดเป็นพิเศษ ..แต่ก็ค้นหาหาไปเรื่อยๆ.. จนกว่าได้จะพบเจอ....แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งค้นหาก็ .."ยิ่งยาก".. ที่จะพบ เพราะโลกกว้างใหญ่เกินไปที่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะเรียนรู้ได้หมด

Friends' blogs
[Add bestyx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.