|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
1 กันยายน 2550
|
|
|
|
กว่าจะรัก เท่าวันนี้ (4)
กลายเป็น amazing การท่องเที่ยวภูกระดึงไปซะแล้ว ในบล็อกที่แล้ว กึ๋ย
หลังจากนั่งจับเจ่าดูแปดเทพอสูรไหสุราอยู่ครบ สองคืนสามวัน ... บนภูกระดึง ก็ได้เวลาลงกลับสู่พื้นราบ
จริงๆ ตลอดเวลาที่นั่งดู 8 หนุ่มเมามายนั้น ไม่ได้เลวร้ายหรอกค่ะ เพราะบริเวณที่ทำการอุทยานฯ วังกวาง ที่จัดเป็นที่พักแรมให้นักท่องเที่ยวนั้น แท้ที่จริงแล้ว อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของดงสนสองใบ และสามใบ ที่เชปสุดจะคลาสสิค กิ่งก้านหงิกหงอไปกับแรงลมด้วยฝีมือจิตรกรที่ชื่อธรรมชาติ
ด้วยฤดูกาลอันเหมาะสม ... สายลมหนาวพัดพา หอบเอาสายหมอกมากอดป่า ตั้งแต่รุ่งสางจนสาย
พอหมอกเริ่มสลาย ก็ทิ้งน้ำค้างแวววามอยู่ตามใบไม้ใบหญ้า ใบเฟิร์นและยอดสนสวย ... อีกทั้งดอกไม้มากมายบนภูที่แย้มบาน จำพวก ดุสิตา กระดุมเงิน หญ้าข้าวก่ำ พวงไข่มุก แววมยุรา ตลอดจนดอกเอื้องดิน และพืชประเภทหม้อข้าวหม้อแกงลิง ที่ว่ามานี่อยู่เพียงแค่รายรอบที่พักนี่เอง
ทางเดินบางตอนยังเป็นดินทรายสีขาวสะอาดอย่างกับแป้ง ... เล่นเอานึกว่าเดินอยู่ริมหาด (ยกเว้นตอนลมหนาวพัดหวิวววมา)
คนชอบดอกไม้ (ขัดกับลุค) อย่างฉันจึงสุดจะหรรษาพาเพลิน ดีกว่าดูหน้าขี้เมาทั้งแปดนั่นเป็นไหนไหน
ไม่นับต้นเมเปิ้ล ถนนสายหน้าผา ป่าและน้ำตก ที่ฉันไม่ได้เดินไป (ในครั้งนั้น)
ยามกลางวันงามขนาดนี้ ยามกลางคืนมายิ่งงามเจิดเฉิดฉันท์ด้วยแสงดาวนับล้านดวง ดาวแน่นเอี๊ยดเบียดดาวอยู่บนฟ้า สุกปลั่งสว่างไสว เห็นทางช้างเผือกจรดโค้งขอบฟ้าชัดเจน
ฉันนอนมองดาวตกนับได้เป็นสิบๆ เคล้าคลอด้วยเสียงเพลงข้างหู (ก็ไอ้กีตาร์ที่แบกมานั่นประไร ... )
แถมแปดหนุ่มนั้น ตั้งใจสุดๆ ที่จะมาก๊งบนภู จึงหอบเอาเสบียง(แกล้มเหล้า) มาเปิดให้สองสาวกิน เป็นการเอาใจ (จะได้ไม่บ่นโวยวาย)
ฉันเลยได้กินขนมปังแซนวิชไส้คอร์นบีฟ (ยี่ห้อ อสร.) เป็นครั้งแรกบนภู อร่อยวุ้ย (ปัจจุบันรู้สึกไม่มีขายแล้วล่ะยี่ห้อนี้)
ต่อด้วยแซนวิชหอยลายรสเผ็ด
เรียกว่าถูกหลอกล่อด้วยของกินอยู่ตลอดสามวัน ไม่นับว่า วงก๊งเกิดจะต้องก๊งกับโซดาน้ำแข็ง (เลยต้องซื้อน้ำแข็งบนภู ซึ่งแพงมหันต์ แต่ด้วยความเมา มันซื้อกันไปด๊าย)
วงนี้มันมาเพื่อก๊งจริงๆ ฉันไม่ได้เม้าเกินเลย เพราะ เสบียงอย่างอื่นไม่มีนอกจากกับแกล้ม และ เครื่องทำโซดา ... เปลี่ยนน้ำให้เป็นโซดาน่ะค่ะ คุณท่านหอบขึ้นมาบนภูเชียวแหละ เอากะพ่อสิ
กินเหล้ามากๆ ก็ต้องกินข้าวด้วย ... ก็สั่งข้าวบนภูมากินจนปรีดิ์เปรม ... แพงอีกตามเคย
ตอนนั้นยังไม่สำเหนียกว่า ตังค์พวกเราทั้งสิบรวมกันจวนหมดเกลี้ยงแล้วววววว
ตอนจะลงยังมีหน้าเรียกลูกหาบมาแบกของลงอีก (คิดตังค์ค่าแบกด้วย อย่าลืม)
เรียกว่า พอมาถึงท่ารถเดินทางกลับมหาลัยนั่น เหลือตังค์พอดีเด๊ะ ส่วนแปดหนุ่มต้องกั๊กมากกว่าหน่อยเพราะต้องตีตั๋วรถไฟกลับกทม.อีกด้วย เวง
ยายโซวด่าเพื่อนชายพึมมมมไปตลอดทาง "เงินเกลี้ยงอย่างนี้ มันต้องกินม่าม่าแล้ว ไม่ใช่มาสั่งข้าว สั่งน้ำแข็ง" (ธ่อ บ่นไปได้ แกนั่นแหละ นังโซวที่เกิดอยากจะกินไข่เจียวหมูสับ)
"ขาลงมันไม่ลำบากเหมือนขาขึ้น มันต้องแบกของลงมาเองแล้ว ตังค์ไม่มียังจะไปจ้างเขาอีก" เออ แฮะ ขาลงบ่นเก่งกว่าขาขึ้นวุ้ย
สรุปว่า สองสาวสามารถถีบชายหนุ่มทั้งแปดขึ้นรถไฟกลับไปได้ (รถไฟชั้นสามด้วย แกยังมีหน้าจะนอนตู้นอนอีกเหรอยะ) และมีเงินสองคนรวมกัน 9 บาท ยืนมองหน้ากันปริบปริบ
วันนั้นเป็นคืนวันเสาร์แล้ว ... เราต้องรอถึงวันจันทร์ ถึงจะไปถอนเงินจากธนาคารมาได้ ... สมัยนั้น ATM เปิดให้บริการเฉพาะจันทร์ถึงศุกร์ล่ะ ... แต่ก็ใช่ว่าเราจะมีให้ถอนเยอะแยะอ่ะนะ
แถมผลของการหยุดยาวหลายวัน เพื่อนๆ พากันกลับบ้านบ้าง ไปเที่ยวที่อื่นบ้าง (เช่น เสม็ด) ... ไม่มีที่พึ่งอื่นใดนอกจากพึ่งตนเอง
สองสาวเลยต้องนอนหายใจระรวยอยู่ที่หอ "หายใจเบาๆ แก ห้ามพูด เดี๋ยวหิว" นังโซวสอนวิธีจำศีล
ตอนนั้นหน้าเซียวแล้วฉัน ... เงิน 9 บาท เราเอาไปซื้อกล้วยปิ้ง เอาแบบแข็งๆ ด้วย (จะได้อยู่ท้อง) สมัยนั้น บาทหนึ่งได้สี่ลูก พอประทังชีวิตไปได้ โชคดีนะเนี่ย หอมีน้ำดื่มให้มากดกินได้ ม่ายงั้นมีหวังกินน้ำก๊อกของจริง
นี่แหละ ... สิ่งเหล่านี้แหละ ... ที่ทำให้ยายโซวเป็นตำนานประจำชีวิตช่วงหนึ่งของฉัน ...
ตำนานที่ฉันจะบอกเล่าให้ลูกหลานฟัง
ว่า ...
ถ้าไม่อยากกินกล้วยปิ้งประทังชีพ ก็อย่าไปคบกะลูกหลานมันนะลูกกกกก
Create Date : 01 กันยายน 2550 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2554 19:58:36 น. |
|
21 comments
|
Counter : 490 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: นวลกนก วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:15:27:52 น. |
|
|
|
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:21:31:51 น. |
|
|
|
โดย: ออ IP: 222.123.220.237 วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:7:28:05 น. |
|
|
|
โดย: เสือเตี้ย IP: 202.47.237.156 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:10:47:00 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:11:04:56 น. |
|
|
|
โดย: เสือเตี้ย วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:12:54:21 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:13:28:17 น. |
|
|
|
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:32:05 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:8:27:20 น. |
|
|
|
โดย: เซ้ว ณ ไกลบ้าน (Still Alive ) วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:8:31:56 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:15:15:58 น. |
|
|
|
โดย: VA_Dolphin วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:23:32:13 น. |
|
|
|
โดย: ck_naka วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:20:34:38 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:20:41:44 น. |
|
|
|
โดย: ing IP: 182.53.212.113 วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:19:54:32 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:20:22:23 น. |
|
|
|
โดย: ing IP: 182.53.212.113 วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:22:08:26 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:22:33:00 น. |
|
|
|
โดย: ing IP: 182.53.215.217 วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:10:46:05 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:20:16:21 น. |
|
|
|
| |
|
|
ดวงลดา |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
" I simply know where my heart is "
================================= ข้อความและภาพถ่ายในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ได้รับการสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ผู้ฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด =================================
|
|
|