"ที่ว่าง ... (ไว้ฟุ้ง) ข้างข้างใจ"
 
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
30 สิงหาคม 2550

กว่าจะรัก เท่าวันนี้ (3)

ตอนที่แล้ว ยายโซวกับฉัน พากันไปถึงภูกระดึง นั่นเป็นตอนเทอม 2 ปี 1 แล้วล่ะ (ไว้ตอนเทอม 1 ปี 1 ค่อยหวนกลับมาเล่าก็แล้วกัน คริคริ)

ต่างคนต่างได้ไปแคมปิ้งแบบ outdoor เป็นครั้งแรกของชีวิต

ครั้งแรกก็ hard core เลยทีเดียว เพราะภูกระดึงนะยะ ไม่ใช่ภูเขาทอง หรือภูเก็ต

ฉันโดนยายโซวลากขึ้นภูไปด้วยความไม่เต็มใจอย่างยิ่งในเวลานั้น

ก็ตอนนั้น เป็นต้นเดือนธันวาคม อันมีวันหยุดหลายวัน บรรดาพี่ๆ กลุ่มจังหวัดอุดรธานี จัดพาเที่ยวเกาะเสม็ดหน้าหนาว โอ้ ว้าว ... น่าสนใจอย่างที่สุด

เสม็ดสมัยนั้น ยังไร้แสงสีมาทำลายความสดสวย และฉันยังไม่เคยได้ไปมาก่อน จะว่าไปแล้วก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนทั้งสิ้น เพราะสมัยเรียนมัธยม จะได้ไปก็ต้องไปกับที่บ้าน ซึ่งหนึ่งปีไปหนึ่งหน คือ ตอนเชงเม้ง คือ ขึ้นเหนือทั้งปีทั้งชาติ

เที่ยวแบบ รักธรรมชาติ น้ำฟ้าป่าเขา เนี่ย ไม่เค้ย ไม่เคย

นี่จะได้ไปแบบพี่ๆ น้องๆ ล้วนๆ เฮฮาปาร์ตี้เป็นที่สุด ... ไป ไป ไป


ฉันไม่ใช่เด็กในจังหวัดอุดรฯ หรอก แต่ว่า ถือว่าเป็นน้องผู้หญิงจำนวนน้อยในคณะที่ผู้ชายเป็นร้อย (เกือบสามร้อยเอง) ดังนั้น จะขอไปกับพี่จังหวัดไหน เขาก็เอ็นดู ...

(จริงๆ คือ กิ๊กของฉันตอนนั้นเป็นรุ่นพี่คณะ บ้านแกอยู่อุดรฯ อิอิ ไปเสม็ดหนนี้ ต้องได้เลื่อนฐานะจากกิ๊กเป็นก๊ากแหง็มๆ ... ต้องปายยยยย )


ว่าแล้วฉันก็ไปลงชื่อจองที่นั่งพร้อมเพื่อนๆ ที่บ้านอยู่อุดรอย่างเนียนเนียน ... ไปด้วย ไปด้วย

จากนั้น พอจวนใกล้วันจะได้ไป ฉันก็กำลังปีติกับการจัดกระเป๋า ไปทะเล เอิงเอย ... เชิ้บๆ

ยายโซวก็ก้าวเข้ามา ทำลายความสุขฉาน

“แกไปภูกระดึงกะชั้นเหอะ” มันกระพริบตา ปริ๊บ ปริ๊บ แปลได้ว่า พลีสสสส ... ได้โปรด ...
“ไม่ปายง่ะ จะไปเสม็ด” ฉันไม่สนเฟ้ย จัดกระเป๋าต่อ เอิงเอยๆ
“ไปด้วยกันเหอะแก๊ ... นะ นะ”
“ไม่ปายว้อย ไปลำบาก เดินขึ้นตั้งเป็นหลายกิโล ไม่ไปฟ่ะ”
“ไม่รู้ล่ะ แกต้องไปกะช้าน” อ้อนวอนไม่สำเร็จ มันเลยเปลี่ยนกลยุทธ์
“ไม่ไป เหอเหอ เพราะว่าฉันจองที่ไปเสม็ดเรียบร้อยแล้วย่ะ”
“เหอเหอ ... แกต้องไปกะฉานล่ะ เพราะว่าฉันไปสละที่ที่แกจองไปเสม็ดให้เรียบร้อยแล้วว่ะ”
จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ...................

ทำไมตูมีเพื่อนเป็นคนอย่างเงี้ยะๆๆๆๆๆๆ

เมื่อกล้องตัดภาพมาอีกที จึงเป็นฉันเดินหน้าหงิก ลากกระเป๋าตุปัดตุเป๋ไปขึ้นรถบัสสีส้ม เพื่อไปขึ้นภูกระดึง โดยมีนังโซวตัวแสบหน้าตาระรื่นเดินอยู่ข้างๆ

สาเหตุที่ต้องลากฉันไปด้วยให้ได้เพราะ เพื่อนๆ เธอจากโรงเรียนเก่าจะมาสมทบ แล้วชักชวนกันไปปีนภู และเผอิญเพื่อนๆ เธอที่ว่า เป็นเพื่อนผู้ชายล้วนๆ 8 พระหน่อ (หนึ่งพระหน่อในนั้น ปัจจุบันเป็นนักร้องสังกัดแกรมมี่ที่หน้าตาหื่นที่สุดในตึก คริ คริ)

แปลว่า ความสุดซ่าปลากระดี่ยังอายของเธอน่ะ ของจริง ไม่ได้แอ๊บ ดูจากการที่มีแต่เพื่อนผู้ชายเป็นโขยง แต่เพื่อนผู้หญิงไม่คบมันเลย

ฉันก็เม้าเกินเลยไป จริงๆ แล้วนังโซวเป็นที่รักของเพื่อนผู้หญิงด้วยเช่นกัน ดังจะดูได้จากการที่เพื่อนสาวที่คณะพากันถีบส่งฉันให้มาภูกระดึงเป็นเพื่อนมันนี่ยังไงล่ะ

“แกก็ไปเป็นเพื่อนนังโซวมันหน่อยซี้ ... ไหนๆ ก็ชวดไปเสม็ดแล้ว” เพื่อนสาวทั้งหลายรุมสั่งสอนฉันกันใหญ่ (แล้วทามมายพวกเอ็งไม่ไปเองเล่าฟะ หา)

การณ์ก็เป็นไปดังที่เล่าในตอนที่แล้ว ครือ นังสองสาวเนี่ย ก็หอบมาแต่เสื้อผ้า เสบียงคืออะไรไม่รู้จัก เงินก็ไม่ค่อยมี (ตามธรรมเนียมเด็กหอ คือ ใช้เงินหมดตั้งแต่ยังไม่กลางเดือน) เกิดมาก็ไม่เคยต้องเดินเป็นระวิงถึงเพียงนี้มาก่อนเลย

นังโซวก็ทำให้ฉันรักมันจับใจก็ตอนเดินขึ้นภูนี่แหละ (ก่อนที่จะไปเกลียดมันตอนที่มันลากคอออกมาจากเต้นท์เพื่อถามว่า มันสวยม้ายยย แทนกระจก)

จริงๆ แล้ว พวกเราเป็นพวกรักเพื่อนกันทั้งคณะ เพราะถูกสอนกันมาแบบนั้น คือ พอเข้าปี 1 มาได้ ก็มีกิจกรรมซ้อมเชียร์ของคณะ โดนซ่อม โดนทำโทษ ตกระกำลำบาก กอดคอกันวิ่งตากฝน กลิ้งเกลือกไปตามถนน (ยังกะฝึกรด. เลยล่ะ จริงๆ นะ) ไม่รักกันยังไงไหว

เลยมีนิสัย เพื่อนไม่ทิ้งกันมาแต่นั้น


อย่างที่บอกว่า ตอนนั้นฉันค่อนข้างเป็นคุณหนูอ่อนต่อโลก อะไรๆ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวหรอก (ปัจจุบันกลายเป็นนังรู้มากไปด๊าย) เลยไม่รู้หรอกว่าจะต้องไปเจออะไรบ้างบนภู

เป็นเด็กหอ สตางค์ก็ไม่ค่อยมี แต่ไม่เคยคิดเรื่องบัญชีว่าอะไรต้องจ่าย อะไรต้องเซฟ ดังนั้น พอขนเสื้อผ้ามามากมาย กระเป๋าก็เลยแบกเองไม่ด๊ายค่า หนัก เลยจ้างลูกหาบแบกซะ (ใช้เงินตามเคย)

เดินไปร้อยเมตรก็พัก เดินไปเจอซำ(จุดพัก)ต่างๆ ก็กินแก้เหนื่อย (ใช้เงินอีกละแก ยิ่งสูงยิ่งแพง ขอบอก)

ที่รักนังโซวขึ้นมาเนี่ยก็เพราะ คริคริ มันไม่ห้ามฉันกินเลย ช่วยกันกิน ช่วยกันใช้เงินอย่างเมามัน (เงินมันและเงินฉันตอนนั้นเอามารวมกันแล้ว เพื่อการเที่ยว)
แล้วก็เดินเคียงคู่ไปกะฉันตลอดเส้นทาง ลากฉันที่เดินตุปัดตุเป๋ไปมา โดยมันไม่บ่นเหนื่อยเลยสักคำ

ตอนนั้นซึ้งมันมาก ตอนนี้มานึกได้ว่า ที่มันไม่บ่นเลยสงสัยเพราะเหนื่อยจนบ่นไม่ออกแหง็ม

ห้ากิโลทางชัน กับสามกิโลทางราบ ที่ฉันเดินเตะรากไม้ทุกสองเมตรจนถึงเต้นท์ (แฮ่ก ตูเข้าใจเพื่อนสาวที่คณะแล้วว่า ทำไมมันไม่มาเป็นเพื่อนนังโซวเสียเอง)

จากหลังแปมาถึงที่พักที่เรียกว่า วังกวาง แล้วฉันล่ะอยากเดินกลับเดี๋ยวนั้น (ถ้าเดินไหว ตอนนั้นขาไม่เป็นขาแล้ว) เพราะประชาชนมาจากไหนกันโว้ย ... แปดแสนคนได้

ก็เจือกมาภูกระดึงตอนที่ฮ็อตสุดๆ ของภูเองนี่หว่า จะบ่นทำมาย (ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเป็น high season)

ความหนาวอีกไม่นับที่พัดกระหน่ำกรูเกรียว (ตอนเดินไม่รู้สึก เพราะเหงื่อออกพลั่ก แต่ว่า ออกแล้วแห้งกลายเป็นไอให้เห็นกันจะจะทันที)

คนแน่นซะปานนี้ เราจึงลงเอยได้ที่พักเป็นเต้นท์ขนาดสิบคนนอน 1 หลัง ที่หลังคาเป็นแบบ หลังคาสุริยันจันทรา ... คือ ขาดโหว่ เป็นรอยอ้า สามารถนอนมองตะวันจันทราได้ (จ่ายตังค์อีกหนึ่งช็อต อันนี้จำเป็นๆ)


คุณหนูตกยากอย่างฉันกะนังโซวได้แต่ทำตาปริบๆ ก่อนจะมุดเข้าไปนอนในเต้นท์ โดยฉันนอนในสุด จากนั้นเป็นนังโซว แล้วก็เป็นกระเป๋าสัมภาระมากมายก่อเป็นกำแพง แล้วจึงเป็นหนุ่มน้อยทั้ง 8 เรียงราย แต่ไม่ต้องห่วงพวกนี้หรอก เพราะเอาแต่กินเหล้า(ที่อุตส่าห์แบกขึ้นมา) ดีดกีตาร์ (ก็แบกขึ้นมาเองอีกแหละ คิดว่าต้องเล่นให้สายขาดคาภู ถึงจะคุ้มที่แบกเอง) เมามายโต้ลมหนาวอยู่ข้างนอกจนหลับคากองไฟ (สมัยนั้น ก่อไฟบนภูได้อยู่ค่ะ) ปล่อยให้ฉันกะนังโซวนอนในเต้นท์ไป

นับว่าเป็นประสบการณ์ hard core อย่างแท้จริง จากไม่เคยไปแค้มปิ้งมาก่อนเลยในชีวิต พอครั้งแรกก็แบบนี้เลย

จากนั้น ฉันก็ค้นพบตัวเอง จากคุณหนูอ่อนต่อโลกกลายเป็นสาวเซอร์ติสท์แตกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คริคริ


ฉันประทับใจภูกระดึงหนแรกหนนี้มาก ก็ตรงที่ ...
ตลอดเวลาสามวันสองคืนที่อยู่บนภูนี้ ... ไม่ได้เดินไปไหนเลยโว้ย

เพราะ หนุ่มทั้ง 8 เอาแต่เมาหัวราน้ำ ทั้งวันทั้งคืน ราวกับเหล้าจะหมดโลกในอีกห้านาที เลยต้องรีบๆ กิน

นังโซว ปวดขาปวดน่องอย่างที่สุด ผนวกกับรองเท้าผ้าใบสุดแฟชั่นที่หอบหิ้วขึ้นมา ไม่อาจพาเจ้าของเดินไปไหนได้ไกลนักหนา มันเลยไม่ยอมเดินไปไหนเลย

ส่วนฉัน ... เมื่อไม่มีเพื่อนเดิน ก็เลยพาลเดินไปไหนเองไม่เป็นบนภู ได้แต่นั่งดูขี้เมาทั้ง 8 อย่างปลงอนิจจัง

เรียกว่าค้างคาใจเป็นที่สุด ...
ส่งผลให้ ...

จากวันนั้น ถึงปัจจุบันนี้ ... ฉันขึ้นภูกระดึงไปแว้ว 10 ครั้ง คริ คริ

ไปเพื่อความสะใจว้อย

กำลังรอจะไปครั้งที่ 11 อยู่หากความเป็นติสท์สุดเซอร์เบิกบาน


Create Date : 30 สิงหาคม 2550
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2554 19:58:02 น. 18 comments
Counter : 615 Pageviews.  

 
11


โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง


11 !!!!



โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.195.54 วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:16:40:17 น.  

 
ไปด้วยกันมะน้องเหล่าซือแพนด้าฯ


โดย: ดวงลดา วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:17:26:23 น.  

 
อันเรื่องการขึ้นภูกระดึง ของป้าเอฟนั้น ทำให้เป็นที่สงสัยมานานแล้วว่า ขึ้นไปทำไมนักหนา



พี่เอฟรู้จักนักเขียนเก่าๆ ไม๊จ๊ะ
ปะการัง ที่เขียนกลอนเก่งๆ ที่แต่งเพลงไดอารีเล่มแดงของแหวน รู้จักป่าว
แล้วพิบูลศักดิ์ ละครพลล่ะ
แหม มีแต่กวี รุ่นสมัยเราเลยนะ
จำได้ป่าว
ครือว่านู๋กะลังเห่อ เค้าง่า เดี๋ยวนี้เขาพากันเขียนบลอกกันใหญ่เลยนะ
แล้วยายจันทรำไพ ที่เราติดอ่านงอมแงมในสตรีสารสมัยก่อนน่ะ จำได้ป่าว
ถามเด็กๆ สมัยนี้ไม่ค่อยจะรู้จักกันเลย
สงสัยเราจาแก่แว้วววว




โดย: filmgus วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:19:50:10 น.  

 
กำลังนับอยู่ว่าในสิบหนนี่มีพี่อยู่ด้วยกี่หนกันนะ
หนึ่งหนน่ะแน่ๆ

ที่จำได้แม่นๆน่ะ ภูเรือนะน้อง
เจ้าแอ้ทน่ะจำพี่เอฟได้ไม่มีลืมเลย คริ คริ


โดย: SevenDaffodils IP: 65.203.0.242 วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:21:00:24 น.  

 
กว่าจะรักเท่าวันนี้ กว่าจะมีคนมาเข้าใขต้องใช้เวลา ใช่เพียงมองตากันเมื่อไร


ผมยังไม่เคยขึ้นสักครั้งเลย อิจฉามากๆ


โดย: อั๊ต (yibby ) วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:0:58:50 น.  

 
โอ...ขนาดไปครั้งแรก ประสบการณ์ ขมขื่นปานนั้น ก็ยังไปเยือนอีกถึง 10 หน ... นับถือจริงๆค่ะ แสดงว่าน้องเอฟต้องชอบที่นั่นจริงๆ ... พี่เคยขึ้นไปแค่หนเดียว ยังไม่มีโอกาสได้ไปอีกเลย กำลังสงสัยว่า สังขารปานนี้ยังจะไปไต่ภูไหวอยู่อีกมั๊ยเนี่ย ตรู


โดย: VA_Dolphin วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:8:45:10 น.  

 
อยากรู้ว่าขึ้นครั้งที่ 2-10 นั้น ความรู้สึกแตกต่างกันยังไง
เดินไหวไหม

เหมือนคุณด้าเลย ตอนไปก็เป็นสองสาวในกลุ่มหนุ่มแบกกีต้าร์ แต่ยังดีที่ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกับพระอาทิตย์ตกบ้าง ขาพลิกขาแพลงทั้งสองข้าง บวมเป่งเลย แต่ยังอุตส่าห์ลากสังขารไปดูกับเขา ทรมานมาก นอกจากวิวทิวทัศน์อันสวยงามแล้ว เรื่องเดินไม่ประทับใจเลย จะบอกใครๆที่จะไปเที่ยวภูกระดึง ต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงเสียก่อน ไม่งั้นลำบากค่ะ

ขำจากกิ๊กเป็นก๊าก
ก็เลยไม่ได้เป็นก๊ากเลย เฮ้อ !



โดย: นวลกนก วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:9:08:21 น.  

 
Amazing !! อิอิ


โดย: ใสซื่อดื้อตาใส วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:0:12:57 น.  

 

อย่าให้siad เลยค่ะ เคยชวนเจ๊ดวงฯ ว่า พี่ไปภูกระดึงกันมั๊ย เจ๊ชะงักและส่ายหน้าพรึบพรับ อย่างกะตั้งออโต้โหมดไว้ และเจ๊ก็ถามว่า "เธอรู้มั๊ย ชั้นขึ้นภูกระดึงมากี่ครั้งแล้ว"
อุวะ จะไปรู้ได้ไง ก็เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานเอง พอพิจารณาหน้าตาสังขารเจ๊แล้ว ก็เลยตอบส่งๆ ไปว่า "ห้าครั้งมั้ง" เจ๊ทำหน้าอย่างนี้และตอบเสียงหนักแน่นว่า "เก้าแล้วโว๊ย เพราะงั้นถ้าขึ้นอีกทีก็สิบ ฉันไม่ไปเด็ดๆ"
เผลอแผล็บเดียว เจ๊มาสะกิดด้วยเสียงร่าเริงว่า "เธอฉันจะไปภูกระดึงล่ะ ไปมะ" ป๊าดโธ๋ อีตอนชวนไม่ไปตอนไม่ชวนดันจะไป สงสัยจะทุบสถิติลง belive it or not ค่ะ เลยปล่อยเจ๊เขาเข้าป่า เอ๊ยขึ้นภูไปเองกะเพื่อนๆ เขา
กลับมาสีหน้าเจ๊เขาลันล้ามั่กๆ หยั่งงี้เลย

ทิ้งช่วงไปอีกซ้ากหน่อย ลองหยั่งเชิงเจ๊แกดูว่า "พี่ไปภูดึงกันปะ" เจ๊แกสวนทันควัน "วันไหนดีล่ะ" กับหน้าตาแบบเนี๊ยะ แบบเนียะ
เฮ้อ โลกวะโลกเหวยจริ๊ง จริ๊งงงงงง เจ้าค่ะ
เอวัง


โดย: ป๋องแป้ง IP: 58.9.125.186 วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:8:46:00 น.  

 
น้องออ - คริ คริ ... หายคาใจแล้วใช่มะ
รายชื่อนักเขียนและกวีที่ว่ามา พี่(และพี่แป๋ว SevenDaffodils) รู้จักหมดเลยและเคยอ่านงานเขาด้วย ... ว่าแต่ว่า มาเห่ออะไรเขาตอนนี้ฟะ พี่หมดอารมณ์สายลมแสงแดดแสงเดือนแสงดาวไปแล้วว้อย (หมดไปพร้อมกะฮอร์โมนส์ความกระดี๊กระด๊า)

พี่แป๋ว - จริงค่ะ เรามีภูกระดึงร่วมกัน 1 หน ภูเรือ 1 หน ดอยหลวงเชียงดาวอีก 1 หน อินทนนท์อีก 1 หน ... จังหวัดอื่นๆ และ ทะเลอีกไม่นับก๊า ... ว่าแต่ว่า คืนวิชาประดาน้ำ (สกูบ้า) ให้อาจารย์เขาไปหมดหรือยังก้ะ
... แล้วเจ้าแอ้ทไปจำอะไรหนูได้แม่นบนภูเนี่ย ... ออกจะสงบเสงี่ยมแบกกล้อง (สองตัวบึ้กๆ พร้อมขาตั้ง) ไปอย่างเงียบๆ คริ คริ

คุณอั๊ต - ต้องรีบไปเลยนะคะ ... ก่อนที่ไปไม่ไหว พูดจริ๊งงงง ถามป้าๆ แถวนี้ดูได้ คริ คริ

พี่แจ๋ม - ถ้าพี่แจ๋มได้เห็นทางช้างเผือกกับทะเลดาวเป็นล้านดวงบนภูกระดึงสักครั้ง พี่จะไม่ถามเลยว่า ไปทำอะไรตั้ง 10 รอบ

คุณนัน - ก็ครั้งที่ 1 มันออกแนวนี้ไปซะแล้ว มันเลยต้องไปเก็บตกอ่ะค่ะ ตะลุยไปถึงป่าปิดมาเรียบร้อยแล้ว แต่ให้เข้าป่าปิดอีกทีก็ไม่ไหวแล้วก้ะ เดิน 20 กิโลในวันเดียวเนี่ย (ฮือ)
กิ๊กเลยไม่ได้ก๊าก ได้แต่จ๊ากกกก มาแทนอ่ะค่ะ คริ คริ

คุณใสซื่อ - รอบหลังสุด amazing ไปถึงได้เพราะนึกถึงหน้าติ๊กเจษฎาภรณ์แบกเป้ล่ำบึ้กเดินหล่อกลางสายหมอกบนภู (โฆษณา ททท. ไง เมืองไทย ไม่ไปไม่รู้) แหม เป็นพลังใจที่ซ๊ามคาญญญญยิ่ง

ป๋องแป้ง - ได้ที กระหน่ำเชียวนะยะ ... เฮอะ ... สามภูจังหวัดเลยเนี่ย พอก่อนเปิดเทอมทีไร นัดเพื่อนมาขึ้นภูก่อนเริ่มเรียนหนังสือกันทุกทีก่ะ ภูกระดึง 10 ครั้งที่ว่ามา มีเพื่อนพ้องน้องพี่คณะอยู่ในทริปด้วยเสีย 8 ครั้ง แต่ละคนก็มากกว่า 1 ครั้งทั้งนั้นแหละ ... amazing กันทั้งคณะนิ

ไปกะเราอีกหนม๊า จะให้ลูกหาบแบกให้


โดย: ดวงลดา วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:12:01:57 น.  

 
วัยมันกลับมั๊งพี่ อิอิ


โดย: ออ IP: 222.123.220.237 วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:7:24:23 น.  

 
นิดไปขึ้นมาสองรอบก็เกินจะพอแล้วนี่
แถมที่ขึ้นรอบสองเพราะยังไม่ได้เข้าป่าปิด
เลยต้องไปเข้าสักหน่อย
ถ้าให้ไปอีกรอบ ไม่ไปแหง ๆ ยกเว้นแต่ว่าไม่ต้องเดินทางชัน 5 กิโล

ว่าแต่ว่า พี่ไม่จัดทริปไปเที่ยวใกล้ ๆ บ้างเหรอปีนี้
หนูอยากเที่ยว


โดย: เสือเตี้ย IP: 202.47.237.156 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:10:42:29 น.  

 
ออ -

นิด - พี่ก็เคยคิดอย่างนิดนี่แหละ แต่ว่า พอลมหนาวมาทีไร มันหัวใจเรียกร้องอยากไปดูดอกไม้และทะเลดาวบนภูกระดึงทู้กทีเยย


โดย: ดวงลดา วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:8:26:05 น.  

 
พี่ด้า ขา

เอ่อ
เอ่อ

ขึ้นไป 10 ครั้งแล้วเหรอคะ

ขอย้ำ 10 ครั้ง

โห

ของ ซี ตัด ศูนย์ ออกคะ

เหอเหอ

โค-ตะ-ระ ฟิต เลยนะคะพี่

ครั้งที่เท่าไหร่ คะพี่ ที่ต้องถอดเล็บเท้าอะคะ

สุดยอดเลย พี่

ไปจน กวาง จำได้แล้วมั้งเนี่ย


โดย: ck_naka วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:20:29:14 น.  

 
น้องซี @ พี่ถอดเล็บไปสัก 4-5 ครั้งเองค่ะ กว่าจะบรรลุว่า ควรใส่รองเท้าแบบ kito ...


โดย: ดวงลดา วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:20:38:13 น.  

 
อยากไป อีกเหมือนกัน แต่

กลัว ต้องไปเป็น คุณนาย นั่งให้เค้าหาบอะคะ

เด่วมาอ่านต่อนะคะ

ไปข้างนอกแป๊บคะ



โดย: ck_naka วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:21:18:36 น.  

 
ขำจัง จากกิ๊กเป็นก๊าก เลยอดกิ๊บกิ๊วเลย55

หลังคาสุริยันจันทรา ขำได้อีก ใครเป็นคนตั้งชื่อเนี่ย

คงจะประทับใจน่าดูชม ไปซะ10ครั้ง

รู้เลยว่าเป็นคนรักธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าเขา ลำเนาไพร

แต่คิดว่าที่ไปที่เนี่ย คงจะคิดถึงสถานที่ด้วย เพราะไปเยอะ

เลยผูกพัน


โดย: ing IP: 182.53.212.113 วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:19:42:50 น.  

 
ชอบป่า ชอบเขา ชอบสายลม ชอบต้นสน ชอบดอกไม้ ... เฮ่อ ... คุณ ing นะคุณ ing ทำให้คิดถึงภูกระดึง (ที่ตอนนี้ไม่ควรขึ้นไปเป็นภาระของชาติแล้ว)

sun roof moon roof ไงค้า หลังคาสุริยันจันทรา


โดย: ดวงลดา วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:20:21:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดวงลดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




" I simply know where my heart is "



=================================
ข้อความและภาพถ่ายในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ได้รับการสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ผู้ฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
=================================

[Add ดวงลดา's blog to your web]