ซิสโก้ เผย ผลสำรวจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบของไอทีต่อธุรกิจ แท้จริงๆ แล้วฝ่ายไอทีเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม เป็นนักดับเพลิง หรือเป็นผีกันแน่? ขณะเดียวกันยังประเมินประสิทธิภาพของผู้บริหารไอที ในการปรับกลยุทธ์ด้านเครือข่ายให้สอดคล้องกับธุรกิจ...
ผลการสำรวจเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านไอทีทั่วโลกของซิสโก้ (Cisco Global IT Impact Survey) ประจำปี 2556 มีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินบทบาทการลงทุนด้านเน็ตเวิร์ก หรือ เครือข่าย เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ พร้อมทั้งประเมินว่าการลงทุนด้านเน็ตเวิร์กในปัจจุบัน สามารถก้าวทันความต้องการของธุรกิจได้มากน้อยเพียงใด รวมถึงแนวโน้มที่ฝ่ายไอทีจะปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการปรับปรุงธุรกิจได้มากขึ้นอย่างไร
ขณะที่องค์กรธุรกิจติดตั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมสร้างประสบการณ์การใช้งานในการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ๆเพื่อปรับปรุงการ ให้บริการแก่ลูกค้า ฝ่ายไอทีก็ต้องรับมือกับปัญหาท้าทายในการขยายบริการเครือข่าย และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เน็ตเวิร์กเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของธุรกิจ จากผลการศึกษาทั่วโลกที่ซิสโก้เปิดเผยในวันนี้ พบว่าบุคลากรไอทีส่วนใหญ่ (63 เปอร์เซ็นต์) มั่นใจว่าตนเองสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างเหมาะสม แต่เกือบหนึ่งในสาม (27 เปอร์เซ็นต์) ยอมรับว่ายังไม่สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน
แอพพลิเคชั่นและความคาดหวังของผู้ใช้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเกือบสามในสี่ของบุคลากรฝ่ายไอที (71 เปอร์เซ็นต์) รายงานว่า ปัจจุบันฝ่ายไอทีติดตั้งแอพพลิเคชั่นมากกว่าเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว
เป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นว่าระบบไอทีและเน็ตเวิร์กคือเครื่องมือรองรับการดำเนินธุรกิจ ผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าเน็ตเวิร์กมีความสำคัญต่อการนำเสนอแอพพลิเคชั่นมากกว่าเมื่อหนึ่งปีที่แล้วมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น (78 เปอร์เซ็นต์)
การปรับระบบไอทีให้สอดคล้องกับธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ฝ่ายไอทีไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเสมอไป โดยผู้บริหารฝ่ายไอทีเกือบเก้าในสิบคน (89 เปอร์เซ็นต์) ทำงานร่วมกับผู้บริหารในสายงานธุรกิจอย่างน้อยเดือนละครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าส่วนงานธุรกิจมีความเข้าใจเกี่ยวบทบาทที่สำคัญมากขึ้นของเน็ตเวิร์กสำหรับการนำเสนอแอพพลิเคชั่น อย่างไรก็ตาม กว่าหนึ่งในสาม (38 เปอร์เซ็นต์) ของบุคลากรฝ่ายไอทีที่ตอบแบบสอบถามระบุว่าตนเองมีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผนและติดตั้งในขั้นตอนที่ล่าช้าเกินไป
นอกเหนือจากประเด็นอื่นๆ แล้ว การสำรวจผลกระทบทางด้านไอทีทั่วโลกของซิสโก้ยังตรวจสอบความรู้สึกของฝ่ายไอทีต่อแนวโน้มใหม่ๆ ทางด้านเทคโนโลยี เช่น ระบบเน็ตเวิร์กที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (Software Defined Networking - SDN) และเน็ตเวิร์กอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน (Internet of Things) จากผลการสำรวจ พบว่าหนึ่งในสาม (34 เปอร์เซ็นต์) คิดว่าระบบเน็ตเวิร์ก SDN เป็นเรื่องเหลือเชื่อเหมือนกับบิ๊กฟุต เอลวิส หรือสัตว์ประหลาดล็อคเนส ขณะที่ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง (42 เปอร์เซ็นต์) ระบุว่าตนเองแทบไม่เคยได้ยินเรื่อง Internet of Things
เมื่อขอให้เปรียบเทียบว่าฝ่ายไอทีมีลักษณะหรือเหมือนกับอะไร 36 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริหารในสายงานธุรกิจมองว่าฝ่ายไอทีมีบทบาทเป็น ผู้คิดค้นนวัตกรรม 34 เปอร์เซ็นต์มองว่าฝ่ายไอทีเป็น นักประพันธ์เพลง ขณะที่ 15 เปอร์เซ็นต์มองว่าฝ่ายไอทีเป็น เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 7 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าเป็น ผี และอีก 7 เปอร์เซ็นต์มองฝ่ายไอทีว่าเป็น หมอดู
ถึงแม้ข้อมูลจากการสำรวจจะระบุว่า ผู้บริหารฝ่ายไอทีส่วนใหญ่รู้สึกว่าตนเองทำงานในลักษณะที่สอดคล้องกับแนวทางธุรกิจอย่างใกล้ชิด แต่ยังคงมีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจโดยที่ผู้บริหารฝ่ายไอทีไม่ทราบ และผู้บริหารฝ่ายไอทีกว่าสามในสี่คน (76 เปอร์เซ็นต์) ระบุว่า ผู้บริหารในสายงานธุรกิจและทีมงานฝ่ายอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ฝ่ายไอที) ติดตั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ โดยที่ฝ่ายไอทีไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม ทุกครั้ง หรือ บางครั้ง
นอกจากนั้น กว่าหนึ่งในสาม (38 เปอร์เซ็นต์) ของบุคลากรฝ่ายไอทีที่ตอบแบบสอบถามระบุว่าตนเองเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผนและปรับใช้ ช่วงการเริ่มต้นใช้งาน หรือ หนึ่งวันก่อนหน้าที่จะเริ่มต้นใช้งานจริง ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าส่วนงานธุรกิจดำเนินโครงการริเริ่มใหม่ๆ โดยไม่ได้ปรึกษาฝ่ายไอที ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบเน็ตเวิร์กในการรองรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ
ผู้บริหารฝ่ายไอทีได้อธิบายเกี่ยวกับทัศนคติของตนเองต่อการของบประมาณในการ อัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานเน็ตเวิร์กจากผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ โดย 18 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าตนเองยินดีที่จะ แหกคุกหรือฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเข้าแข่งขันไตรกรีฑา มากกว่าที่จะร้องของบประมาณเพิ่มเติม
เมื่อฝ่ายไอทีถูกถามว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าตนเองทำงานได้ดีแล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามหนึ่งในสี่คน (26 เปอร์เซ็นต์) ระบุว่า ดูจากการที่ ไม่มีใครโทรติดต่อเรา และเกือบหนึ่งในสี่ (23 เปอร์เซ็นต์) เลือกคำตอบที่ว่า มีโอกาสได้นอนหลับอยู่ที่บ้านแทนที่จะต้องค้างคืนที่ออฟฟิศ
แม้ว่าส่วนงานธุรกิจมีความเข้าใจเกี่ยวบทบาทที่สำคัญมากขึ้นของเน็ตเวิร์กในการนำเสนอแอพพลิเคชั่น 82 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่าแอพพลิเคชั่นมาตรฐานทางธุรกิจ ได้รับผลกระทบจากประสิทธิภาพของเน็ตเวิร์ก แม้กระทั่งในแอพพลิเคชั่นพื้นฐาน เช่น เว็บ บริการไฟล์ และอีเมล์
เมื่อสอบถามถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการเริ่มต้นใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นเพราะงบประมาณ (34 เปอร์เซ็นต์) ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 26 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ ความพร้อมของระบบคลาวด์ และข้อจำกัดของเน็ตเวิร์ก เช่น แบนด์วิธ หนึ่งในสี่ (25 เปอร์เซ็นต์) ระบุว่า ความล่าช้าโดยทั่วไป คือสาเหตุหลัก
71 เปอร์เซ็นต์มีแผนที่จะปรับใช้โซลูชั่น SDN ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยหนึ่งในสาม (33 เปอร์เซ็นต์) ระบุว่าเหตุผลหลักก็คือ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะที่อีกหนึ่งในสาม (33 เปอร์เซ็นต์) ระบุว่า เพื่อให้สามารถปรับขนาดโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว
เกือบสามในสี่ (71 เปอร์เซ็นต์) รายงานว่า ฝ่ายไอทีติดตั้งแอพพลิเคชั่นมากกว่าเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว แต่ 41 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าเน็ตเวิร์กของตนยังไม่พร้อมที่จะรองรับนโยบาย การนำเอาอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ในที่ทำงาน (Bring Your Own Device - BYOD) ขณะที่ 38 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าตนเองยังไม่พร้อมที่จะรองรับระบบคลาวด์
เมื่อขอให้ประเมินความพร้อมสำหรับแอพพลิเคชั่นและการปรับใช้เทคโนโลยี Internet of Things เกือบครึ่งหนึ่ง (48 เปอร์เซ็นต์) เชื่อว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยขยายโอกาสใหม่ๆ ทางด้านธุรกิจ
ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ความพร้อมสำหรับระบบคลาวด์ (29 เปอร์เซ็นต์) เป็นโครงการริเริ่มทางด้านเน็ตเวิร์กที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กรของตนในช่วงปีหน้า ตามมาด้วย การผสานรวมเทคโนโลยีด้านไอทีและเทคโนโลยีด้านการปฏิบัติงาน (28 เปอร์เซ็นต์) และ การผนวกรวม/การทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ (27 เปอร์เซ็นต์)
เมื่อขอให้จัดอันดับโครงการริเริ่มทางด้านไอทีที่ยากที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา อันดับหนึ่ง คือ การย้ายแอพพลิเคชั่นไปยังระบบคลาวด์ (40 เปอร์เซ็นต์) และอันดับที่สองคือ การทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ (38 เปอร์เซ็นต์) ข้อมูลนี้สอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับเน็ตเวิร์กคลาวด์ทั่วโลกของซิสโก้ (Cisco Global Cloud Networking Survey) ประจำปี 2555 ซึ่งพบว่าบุคลากรฝ่ายไอทีบางคนเลือกที่จะยอมถอนฟัน หรือทำรายการภาษีด้วยตนเอง แทนที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องระบบเน็ตเวิร์กที่เกี่ยวเนื่องกับการปรับใช้ระบบคลาวด์
อีกประเด็นหนึ่งที่สอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับเน็ตเวิร์กคลาวด์ทั่วโลกของซิสโก้ประจำปี 2555 ก็คือ ประเด็นเรื่องความปลอดภัย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นอุปสรรคสำคัญอันดับ 1 ที่ขัดขวางความสำเร็จในการปรับใช้บริการคลาวด์หรือโมบิลิตี้ โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 80 เปอร์เซ็นต์ระบุว่านี่คือปัญหาท้าทายที่สำคัญเช่นกัน
นายร็อบ โซเดอร์เบรี่ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเน็ตเวิร์กระดับองค์กรของซิสโก้ กล่าวว่า เทคโนโลยีไอทีมีก่อให้เกิดผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อธุรกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมถึงการมีโอกาสในการทำหน้าที่เป็นพันธมิตรรายสำคัญ ด้วยการสร้างสถาปัตยกรรมเน็ตเวิร์กที่สามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่หลากหลาย บุคลากรฝ่ายไอทีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ ผู้ที่รับทราบว่าการตัดสินใจที่รวดเร็วภายในองค์กร ขึ้นอยู่กับความพร้อมของระบบเครือข่าย.