"โอซีเอ" แนะ ผู้ที่ทำงานจากบ้านในช่วงชัตดาวน์ กทม. ระวังมัลแวร์และภัยร้ายออนไลน์ หากใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เป็นโปรแกรมเถื่อน แนะอัพเดตโปรแกรมและติดตั้งสแกนไวรัส ช่วยคุ้มครองข้อมูล-เครื่อง...
พันธมิตร Open Computing Alliance หรือ OCA เผยแพร่บทความเพื่อเตือนคนกรุงเทพฯ ที่จำเป็นต้องทำงานจากที่บ้านในระหว่างการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ โดยระบุว่า ผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวควรใช้ความระมัดระวังในการดำเนินธุรกรรมการเงินหรือธุรกรรมออนไลน์ โดยให้ใช้แต่ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ที่ผ่านการอัพเดตโปรแกรมรักษาความปลอดภัยล่าสุดแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ การทำงานผ่านระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ยังถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและดีที่สุด เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการชุมนุมทางการเมือง ที่พนักงานบริษัทจำนวนหลายหมื่นคนเตรียมพร้อมทำงานจากนอกสำนักงาน เป็นไปได้ว่า พนักงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่บ้านหรือสถานที่อื่นๆ อาจตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมประเภทต่างๆ และมีความเสี่ยงโดยตรงต่อระบบอีเมล์ของหน่วยงานลูกค้า โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า อาชญากรและแฮกเกอร์ได้ติดตั้งมัลแวร์ลงบนซอฟต์แวร์เถื่อน ส่งผลให้ผู้บริโภคสุ่มเสี่ยงต่ออาชญากรรมประเภทต่างๆ ได้ เนื่องจากเหล่าอาชญากรได้ลอบติดตั้งมัลแวร์ลงบนซอฟต์แวร์เถื่อน เพื่อดักบันทึกชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน ส่งผลให้ผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ เช่น การหลอกลวง หรือต้มตุ๋นทางการเงิน เป็นต้น และแม้ว่าสำนักงานหลายแห่งในประเทศไทยจะมีระบบบริหารจัดการด้านไอทีเพื่อความปลอดภัย แต่ก็อาจเกิดช่องโหว่จากการอนุญาตให้พนักงานทำงานนอกสถานที่ องค์กรจึงควรกำหนดการใช้คอมพิวเตอร์ที่ปลอดภัยไว้ในแผนรับมือเหตุฉุกเฉินด้วย
ไมเคิล มัดด์ เลขาธิการของ Open Computer Alliance (OCA) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และสมาชิกของ The Overseas Security Advisory Council (OSAC) กล่าวว่า มัลแวร์สามารถแพร่เข้าสู่คอมพิวเตอร์ได้ทางอีเมล์ ที่พนักงานส่งให้กับเพื่อนร่วมงานและลูกค้า หากพนักงานจำนวนหลายหมื่นคนต้องทำงานที่บ้านหรือสถานที่อื่นๆ นอกสำนักงาน ระหว่างสถานการณ์ความไม่สงบ อาจส่งผลให้เกิดโอกาสในการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ไม่ปลอดภัย และยังก่อให้เกิดอาชญากรรมไซเบอร์เพิ่มขึ้นด้วย เราขอให้ทุกคนใช้แต่ซอฟต์แวร์แท้ในการดำเนินธุรกรรมการเงินทุกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาชญากรรม และขอให้พนักงานทุกคนที่ทำงานที่บ้านเพิ่มความระมัดระวังและปรึกษาผู้จัดการด้านไอที เพื่อการใช้คอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย.