ส่วนตัวไม่ได้เจอเองนะคะ แต่มีความรู้สึกว่าต้องประหยัด ไปไหนก็รู้สึกว่าของมันแพงขึ้น แต่เงินในกระเป๋าเท่าเดิม
เคยซื้อหนังสือทีละเยอะๆๆๆตอนนี้ ลดละเลิกค่ะ แบบว่ารู้สึกว่าเศรษฐกิจมันดูแบบยังไม่นิ่ง

สำหรับตัวเองยังไม่ค่อยกระทบอ่ะค่ะ
เพราะยังไม่มีภาระอะไรให้ต้องคิดมาก
งานที่ทำก็โอเคคงไม่ปล่อยเกาะเราง่ายๆ

มีกระทบก็แค่เรื่องกินนี่แหละค่ะ
ข้าวแพ้งแพง... จะกินหรูบ่อยๆ แบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้ล่ะ

อาจจะสวนทางกับคนอื่นอยู่หรือป่าวก็ไม่รู้ค่ะ เพราะปีที่ผ่านมาได้ทั้งโบนัสและค่าคอมมิชชั่นรวมกันก็เฉียดแสนห้าค่ะ อันนี้ยังงงอยู่เลยค่ะว่าเป็นไปได้ยังไง แต่ก็ถือว่าดีมากเลย เพราะสามารถตัดหนี้ไปได้หลายก้อนและยังได้ให้พ่อแม่และน้องชายได้อีก แถมมีเงินพอเหลือเก็บด้วยจึ๋งนึง...

แต่รู้สึกเอาเองนะคะว่า สถานการณ์ทั้งหลายตอนนี้ทำให้เราไม่อยากประมาทค่ะ มันเหมือนกับว่ามีอะไรดีๆเข้ามา ซักพักก็จะต้องมีอะไรแย่ๆตามมา ก็เลยต้องมีสติมากขึ้น จะหยิบจะใช้เงินก็ต้องระวังหน่อย แต่นี่ขนาดระวังเมื่อวานยังไปซื้อหนังสือมาซะ 500 กว่าบาท ก็ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองซะ จะได้ไม่เสียดายเงินมาก 55555

สำหรับครูบ้านนอกอย่างเพ็ญ ก็ไม่กระทบมากเท่าไหร่
เพราะ ช่วงน้ำมันขึ้นราคา ก็ต้องรัดเข็มขัดมาแล้ว
แต่เจออย่างเดียวกันค่ะ ว่า ค่าของเงินน้อยลง เวลาไปซื้อกับข้าวเงิน เท่าเดิม แต่ซื้อของได้น้อยลง

สำหรับครูต่างจังหวัดคนนี้ยังไม่รู้สึกว่ากระทบ แต่เห็นชาวบ้าน รวมทั้งผู้ปกครองนักเรียนหลายคนไม่มีเงินให้ลูกมาโรงเรียน พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัดก็บอกว่ามีแต่คนเดินไม่มีคนซื้อ ขโมยมากขึ้นจนต้องระวังกลัวเจอะแจ็คพอต ขอถามหน่อยว่างานสัปดาห์หนังสือเริ่มวันที่เท่าไร คุณปุ๋ยตัดสินใจได้หรือยังว่าไปวันไหน จะได้วางโปรแกรมไปพบคุณปุ๋ย
เราว่าเศรษฐกิจอย่างนี้วิธีดีที่สุดก้คือพอเพียงตามพระราชดำรัส ใครเตรียมตัวพอเพียงก่อนคนนั้นจะไม่เดือดร้อน

comment เสร็จไปดูในหัวข้อกระทู้ที่ต้องการให้เปิดจึงรู้ว่าคุณปุ๋ยจะไปวันที่ 28 ขอโทษด้วยที่ดูไม่ละเอียดแล้วรบกวนถามมา

แหะ แหะ ปุ้ยค่ะไม่ใช่ปุ๋ย

ช่วงนี้ได้ข้อสรุปอย่างว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจต้องออกไปใช้จ่ายค่ะ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในประเทศ แต่การเลือกซื้อควรจะเป็นแบบของที่ผลิตในประเทศ ซื้ออาหาร (ของโปรด) จะได้มีการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ เสียดายไม่ได้สองพันจากรัฐบาล ไม่งั้นจะเอามาซื้อต้นไม้ ซื้อของหัตถกรรมไทย ๆ แต่งบ้าน และเพราะไม่ได้เงินช่วยตอนนี้เลยต้องควักกระเป๋าเอง

2 พันก็ไม่ได้ 500 สำหรับผู้สูงอายุก็ยังไม่ได้เหมือนกันค่ะ อายุยังไม่ถึง 555 เลยไม่มีเงินไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศมากนัก

อยากไปเที่ยวนะคะ แต่ก็กลัวกระเป๋าแฟ่บ ไปก็ไม่สนุก

55555555555555

ไม่ได้ 2000 แต่อีกไม่นานก็จะได้ 500 นะค้า พี่ปุ้ยขา 5555

อิชั้นสิคะ โดนพิษเศรษฐกงเศรษฐกิจเนี่ยเข้าไปเต็มเปา เพราะถูกขอลดเงินเดือนลงตั้ง 10K เป็นระยะเวลา 6 เดือนหรืออาจนานกว่านั้นถ้าออร์เดอร์ลูกค้าไม่ขยับขึ้นเท่าเดิม แต่ถึงยังไงๆพี่ก็ยังเม้มค่าหนังสือนิยายไว้อย่างสุดฤทธิ์

ได้รับผลกระทบเหมือนกันค่ะ เมื่อก่อนมีโอทีทุกวัน แต่ตอนนี้บริษัทมีนโยบายให้งด เลยเหลือแต่เงินเดือนอย่างเดียว แต่ก็คิดว่ายังดีกว่าตกงาน เพราะที่อธุยาปลดพนักงานกันเยอะหรือไม่ก็ลดค่าแรง ทำงาน 3 วัน หยุด 4วัน แต่เก็บเงินบางส่วนไว้ไปซื้อหนังสือในงานแล้วแต่คงซื้อไม่ได้หมดอย่างที่อยากได้ แต่ยังไงก็ต้องซื้อ เพราะการอ่านเป็นความสุขของเราเนอะ

คิดว่าอีกหน่อยต้องได้รับผลกระทบแน่เลยค่ะ
นั้นคือ ตกงาน แหะๆๆๆ

เห็นใจพี่ทิพและทุก ๆ คนที่เจอมรสุมค่ะ รู้สึกพวกส่งออกจะโดนก่อน จากนั้นคงค่อย ๆ แผ่ไปเหมือนระลอกคลื่นในน้ำตอนโยนหินนะคะ ตอนแรกว่าเมืองไทยไม่น่าจะกระทบมาก แต่เอาเข้าจริง ๆ พวกส่งออกน่าจะเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจหลักเช่นกัน

ส่วนวงการหนังสือคงต้องรองานหนังสือคราวนี้แหละค่ะ คิดว่ายอดคงลดกันถ้วนหน้า แต่หวังว่าคงไม่ลดจนน่าเป็นห่วง ตอนนี้ใครถามว่ามีผลกระทบไหม ตอบได้แต่ว่ายังไม่รู้เลยค่ะ ต้องรอดูไปก่อน

ตอนนี้พยายามใช้เงิน ซื้อข้าวซื้อของ ซื้อขนม บางอย่างไม่เคยซื้อไม่สนใจก็ซื้อเสียหน่อยถ้าเราไม่เดือดร้อนอะไร ด้วยหวังว่าเงินบางส่วนมันจะไปหมุนเพื่อทำให้อะไร ๆ ดีขึ้น แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยวก็ตาม

ลี่เรียนจะขึ้นปี 3 แ้ล้ว ยังไม่แน่ใจเลยค่ะว่าจบไปจะมีงานทำไหม

ลี่ไม่ค่อยได้ซื้อหนังสือเท่าไรแล้ว แต่ขนาดไม่ค่อยได้ซื้อตังค์ยังไม่ค่อยมีเก็บเลย เหอๆๆ ทุกวันนี้แบงค์ร้อยหมดไปอย่างรวดเร็ว กินข้าวทีหมดไปเยอะเลย ทั้งที่สั่งแค่อย่างเดียว อาหารแพงแต่ได้น้อย กินไม่พออิ่้มอีก

ช่วงนี้แม่ก็บอกว่าขโมยเยอะนะ ไปไหนมาไหนให้ระวัง เศรษฐกิจไม่ดี ไำด้ฟังยอดคนตกงานก็แอบตกใจ

ส่วนเรื่องหนังสือ คนก็คงซื้อน้อยลง หนังสือก็แพงขึ้น ทำเอาไม่อยากออกไปไหนเลยอ่ะค่ะ

ให้ลดการซื้อหนังสือลงคงจะทำได้ยากอ้ะค่ะพี่ปุ้ยเพราะนี่คือความสุขที่สุดของเราแล้ว ก็คงตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นตัวอื่นลง เพื่อจะไม่กระทบกระเทือนการซื้อหนังสือ แต่ที่น่าโมโหมากกว่าก็เวลาซื้อเวลาซื้อหนังสือที่ไม่ค่อยหนุกมาน่ะแหล่ะ เสียดายเงินน้ำตาเล็ดอยู่เรื่อยๆ ...แต่...ก็ไม่เคยเข็ด อิ อิ

เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังเจอภาวะวิกฤตอยู่ตอนนี้ค่ะค่ะ

พี่หน่อยก็ใช้วิธีซื้อตอนลด 50 % ซิคะ จะประหยัดแบบโอได้เยอะเลย จริงๆๆๆนะ

เห็นบางคนที่โดนลดเงินเดือนแล้ว รู้สึกว่า
ของเรา ดีไปเลยอ้ะค่ะ เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงขั้น
ลดเงินเดือน แต่ก้อรัดเข็มขัดกันเต็มที่
แล้วก้องดสวัสดิการไปหลายอย่างเหมือนกันค่ะ
ส่วนเจ้านายอิฉัน โดนลดเงินเดือนไปเรียบร้อยแล้ว
หวังว่า ปีหน้ามันจะดีขึ้นกว่านี้นะค่ะ
เพราะยอดขายของบริษัทลดไปเหลือแค่ 1 ใน 3
ของปกติอ้ะค่ะ

ปล.แต่ยังไงก้อต้องเจียดเงินมาซื้อหนังสือพี่ปุ้ยอยู่แล้วอ้ะ

ยิ่งอ่านก็ยิ่งน่ากลัวนะคะ เฮ้อ...หวังว่าไทยคงผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดีด้วยเถิด

อ่านกระทู้นี้แล้ว หวั่นๆใจเหมือนกันค่ะ เพราะงานของโอ หากินกะคนมีกะตังค์ซึ่งอาจจะดูเหมือนตัดสินใจซื้อง่าย .. แต่เอาเข้าจริง กลายเป็นโอกาสของผู้ซื้อที่จะรอเวลา รอการตัดสินใจไว้ก่อน เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลงอีก ..

ตอนนี้ยอดขายในส่วนที่โอดูแล ค่อนข้างหงอยค่ะ ... แต่แปลกมากตรงนี้ ในส่วนของโชว์รูมขายตูมๆ ...ทั้งที่โปรโมชั่น, ส่วนลด, บริการ ทุกอย่างเหมือนกัน ... เลยต้องทำงานหนักขึ้นหน่อยว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกค้าห้างสรรพสินค้า..

ที่ตลกมากคือ เช็คช่วยชาติ ที่เอามากระตุ้นเศรษฐกิจ ทางห้างเอามาขอ(กึ่งๆบังคับ)ให้supplierรับ โดยกำหนดให้ผู้นำเช็คมาใช้ ได้มูลค่าของมากกว่าเช็ค 2 เท่า แต่ให้supplierรับผิดชอบส่วนที่เกินจากเช็คทั้งหมดนะคะ รวมถึงต้องจ่ายGPให้ห้างเท่ากับยอดที่รับมาเต็ม
กระตุ้นเศรษฐกิจให้supplierกระตุกหรือเปล่าเนี่ยยยย

ตอนนี้สตูดิโอสอนวาดรูปของกิ๊บ ย้ายออกจากห้างหรู มาอาศัยในรูหนูแล้วค่ะ แต่จะว่าผลกระทบจากเศรษฐกิจอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะปัญหาอื่นด้วย แต่ก็เห็นชัดว่าการใช้จ่ายของคนมาเรียนเปลี่ยนไป ทุกคนประหยัดกันมากเลย

ลำพังค่าเรียนอย่างเดียว สตูดิโออยู่ไม่ได้หรอกค่ะ พอขายของอื่นไม่ได้ก็เลยต้องถอยดีกว่า แต่ก็มีนักเรียนตามมานะคะ ก็อยู่กันเงียบๆ เรียบง่ายกันไป ก็อบอุ่นดีค่ะ

ลูกสาวเป็นพยายาลอยู่รพ.กรุงเทพ ว่าขณะนี้เพื่อนๆพยายาลด้วยกันที่ยังสอบใบประกอบวิชาชีพจากสภาพยาบาลไม่ผ่านถูกให้ออกจนหมด ส่วนคนที่ยังอยู่ต้องทำงานหนักกว่าเดิม ปกติพยายาลจะต้องสแตนบาย24ชม.วันละ3กะ กะละ8ชม.ได้โอทีหากควง2กะ --เปลี่ยนเป็นกะละ12ชม.ถ้าคิดปกติชม.ที่เกินไปจาก8ชม.จะได้โอทีใช่ไม๊คะ ตอนนี้อดค่ะ/ส่วนพวกจนท.ประจำแผนกหลายแผนกถูกรวมไปอยู่แผนกเดียวกันแล้วคัดพนักงานออก ลดขั้นเงินเดือน-ตำแหน่ง แต่งานกว่าเดิมมากเพราะคนเหลือน้อยค่ะ

สวัสดีกิ๊บค่ะ ไม่ได้คุยกันนานเลยนะคะเนี่ย
ของตัวเองยังกระทบค่อนข้างน้อยแต่ก็ไม่ประมาท เป็นกำลังใจให้กับทุกคนค่ะ

พี่ปุ้ยขา ...พี่ปุ้ยจะซื้อโคมไฟระย้าซ้ากกโคมม้ายค้า ...จะได้ช่วยให้เงินหมุนเวียนในระบบได้มากขึ้นอีกนิ้สสสไงค้า

แห่ะ แห่ะ