Group Blog
 
All blogs
 

การตกแต่งหน้าขนมด้วยบลูเบอรี่ฟิลลิ่ง

ไม่มีอะไรพิเศษหรอกค่ะ เผอิญว่าอยากโชว์รูปก็เลยหาเรื่องสร้าง blog ซะงั้น เดือนที่ผ่านมาทำขนมเยอะมากจนได้รับบาดเจ็บ คุณสามีประกาศกร้าวให้เลิกทำได้แล้ว กลับมาเลี้ยงลูกซะดีๆ ก็เลยมีรูปเก็บไว้ในสต๊อคเยอะพอสมควร มาชมกันค่ะ

วันนี้จะพูดเรื่องบลูเบอรี่กระป๋อง หรือบลูเบอรี่ฟิลลิ่งที่คนทำขนมอย่างเราๆ ท่านๆ รู้จักกันดี โชคร้ายที่บ้านเราหาบลูเบอรี่สดได้ยาก หากหาได้ก็ราคาแพงมาก การเลือกใช้บลูเบอรี่กระป๋องสำหรับทำขนมจำพวกเบเกอรี่จึงเป็นทางออกของเราค่ะ เริ่มจากนี่เลย "Vanilla Sponge Cake"



อบเนื้อเค้กวานิลลาแล้วแต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีมแสนอร่อย สูตรดัดแปลงจาก UFM ค่ะ หาได้จากใน blog นะคะ พอแต่งหน้าเสร็จสรรพปรากฏว่าครีมเริ่มอ่อนตัวอย่างเห็นได้ชัด ด้วยประสบการณ์การทำขนมมา 4 ปี เห็นท่าไม่ดี เลยตัดสินใจจับยัดตู้เย็นก่อนจึงนำมาราดบลูเบอรี่ฟิลลิ่งค่ะ







ไม่ได้ตัดเค้กให้ชมเพราะก้อนนี้เพื่อนคุณหมอของลุงน้องทัณฑ์สั่งเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกสาว ได้ข่าวว่าเจ้าของวันเกิดชอบใจมาก คนทำก็ปลื้มเนอะ เอาล่ะ..ต่อไปก็ "Blueberry Creamcheese Pie" ค่ะ สูตรมีอยู่ใน blog เช่นกันนะคะ วันนี้พิเศษตรงมีสตรอเบอรี่ตกแต่งให้ด้วย ดูๆ ไปคล้ายอุ้งเท้าลูกหมาเนอะ



ครั้งนี้ใช้ชีสไม่เหมือนเดิมค่ะ แต่ยี่ห้อเดิม ที่ว่าไม่เหมือนเดิมคือ ปกติจะใช้ชีสแบบก้อน แต่คราวนี้สงสัยจะขาดตลาด หาซื้อไม่ได้เลย ก็เลยตัดสินใจซื้อแบบครีมชีสที่ใส่กระปุกมาลองใช้ดู เขาบอกว่าเป็นชีสที่ผสมกันสองชนิด และมีปริมาณของน้ำผสมอยู่ด้วยนิดหน่อย แถมเป็นแบบพร่องมันเนยอีกต่างหาก ก็น่าสนใจอ่ะนะ ลองเอามาทำดู ชิมแล้วก็ไม่เห็นความแตกต่าง แต่ลักษณะของเนื้อครีมชีสที่ได้เหลวกว่าชีสแบบก้อนค่ะ ลุงบอกว่าก็ยังมีรสชาติและกลิ่นชีสที่เข้มข้นเหมือนเดิม ดังนั้นควรจะเปลี่ยนมาใช้แบบนี้จะดีกว่า ส่วนป๊าน้องทัณฑ์ไม่รู้ถึงความแตกต่างเลย 1 กระปุกได้พาย 4 ถาดเล็ก ส่วนบลูเบอรี่ฟิลลิ่งก็ยังเข้ากันได้ดีเหมือนเดิม







วิธีเก็บรักษาบลูเบอรี่หากยังใช้ไม่หมดในคราวเดียวนะคะ ให้หาโหลแก้วที่มีฝาปิดสนิทมาเก็บแทนค่ะ ตักบลูเบอรี่ด้วยช้อนที่สะอาดแล้วใส่ในโหลแก้วปิดฝาให้สนิท นำไปแช่เย็นไว้เลยค่ะ อย่าทิ้งไว้ในกระป๋องเดิมของมันเป็นอันขาด เพราะเสี่ยงต่อการขึ้นราและเสียเร็วมากๆ ถือว่าเป็นเคล็ดลับได้ไหมเนี่ย

นอกจากขนมสองอย่างนี้ยังเคยเอาบลูเบอรี่ฟิลลิ่งมาทำมัฟฟิ่น กับราดหน้า butter cupcake ด้วยค่ะ แบบว่าชอบเป็นการส่วนตัวอ่ะ อร่อยดี เคยลองเอามาทำไส้เค้กโรลด้วย แต่ม้วนแล้วแตกก็เลยอดเอามาอวดเลย (แต่ก็อร่อยนะ) แค่นี้ล่ะ ได้อวดรูปสวยๆ ก็พอใจแล้วคืนนี้คงนอนหลับสบาย ขอบคุณที่เข้ามาชม blog ของคนขี้อวดนะคะ




 

Create Date : 14 มกราคม 2551    
Last Update : 14 มกราคม 2551 21:08:15 น.
Counter : 12121 Pageviews.  

Strawberry Cake

คึกมาก...ปีใหม่นี้คึกเหลือเกิน ทำขนมทุกวัน วันนี้ tiara ขอเสนอสตรอเบอรี่เค้กแนวใหม่ ไม่ต้องแต่งหน้าให้ยุ่งยาก แต่รสชาติอร่อยหอมมันอย่าบอกใคร



เห็นโล้นๆ อย่างนี้อย่าเพิ่งคิดว่าเราหลอกนา สตรอเบอรี่น่ะหลบอยู่ด้านใน เค้กวันนี้เนื้อเป็นบัตเตอร์เค้ก สูตรอร่อยของน้อง Jumjee แต่ tiara นำมาปรับนิดหน่อยตามของที่มีในตู้เย็นจ้ะ

ส่วนผสม :-
1. เนยสดรสเค็ม 160 กรัม
2. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 170 กรัม
4. ไข่ไก่ฟองโต 3 ฟอง
5. แป้งเค้ก 170 กรัม
6. ผงฟู 2 ช้อนชา
7. นมสดรสจืด 90 กรัม
8. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
9. กลิ่นสตรอเบอรี่ 1 ช้อนชา
10. สตรอเบอรี่สดลูกโตหั่นชิ้นเล็กประมาณ 5-6 ลูก





วิธีทำ :-
1. วอร์มเตาที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส
2. ร่อนแป้ง+ผงฟู พักไว้
3. ตีเนยสดกับเกลือป่นจากความเร็วต่ำจนกระทั่งถึงความเร็วสูงสุด ตีจนเนียน
4. ค่อยๆ เทน้ำตาลทรายลงไป ตีต่อด้วยความเร็วสูงสุดจนฟูเบา
5. ตีไข่ให้เป็นน้ำเหลว แล้วค่อยๆ เทเป็นสายลงไปในอ่างผสมจนหมด ตีต่อไปด้วยความเร็วสูงสุดจนเนียน


6. นำส่วนผสมที่ได้ออกมาจากเครื่องตีไข่ ใช้ตะกร้อมือช่วยในการผสมแป้งและนมสด โดยการใส่สลับ 3 รอบจนหมด


7. รองกระดาษไขและทาเนยขาวที่พิมพ์ วันนี้ใช้พิมพ์ 3 ปอนด์ค่ะ เพราะอยากได้เนื้อเค้กที่ฟูเบา ไม่แน่นมาก


8. เทส่วนผสมใส่พิมพ์ เกลี่ยให้เรียบ แล้วกระแทกพิมพ์ 2-3 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ


9. นำสตรอเบอรี่หั่นเรียงลงไปบนเนื้อเค้กให้ทั่ว ไม่ต้องกระแทกพิมพ์แล้วนะคะ


10. แล้วนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟล่างอย่างเดียว นาน 50-55 นาที เช็คสุกโดยการใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงบนเนื้อเค้ก หากไม่มีเนื้อเค้กติดขึ้นมาแสดงว่าสุกดีแล้วค่ะ






11. เค้กเนย เป็นเค้กที่เมื่อสุกแล้วให้นำออกจากพิมพ์ทันที ไม่ต้องรอให้เย็นสนิทนะคะ เอาออกมาแล้ว นี่ก้น สตรอเบอรี่นอนก้นเต็มเลย แต่น่ากินเนอะ


12. พลิกดูหน่อย มีฟองอากาศที่หน้าเค้กนิดหน่อย สงสัยจะผสมแป้งรุนแรงไปนิด แต่ปริมาตรเค้กสวยดีค่ะ


13. ตัดเสิร์ฟ






สำรวจรสชาติ...อร่อยมากกกกกก เพราะเนื้อเค้กเนยของน้อง Jumjee อร่อยหอมมันอยู่แล้ว บวกกับสตรอเบอรี่รสออกเปรี้ยวหน่อย อร่อยสุดๆ ไม่ต้องแต่งหน้าเค้กให้ยุ่งยาก ทานคู่กับชา กาแฟเป็นอาหารเช้าได้สบาย คุณย่าน้องทัณฑ์ create กว่านั้นเพราะทาแยมบลูเบอรี่ลงไปด้วย อร่อยเพิ่มขึ้นอีกค่ะ ว่างๆ ลองทำดูนะคะ ส่วนผสมน้อย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาทำไม่นาน แถมอร่อยคุ้มค่าค่ะ




 

Create Date : 01 มกราคม 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2551 19:45:23 น.
Counter : 4764 Pageviews.  

คุ้กกี้ปีใหม่ : Mrs.Fields Chocolate Chip Cookies

ล้าลา...สวัสดีปีใหม่ค่ะ ใครไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวก็มาทำคุ้กกี้กันเถอะ วันนี้ลองทำคุ้กกี้สูตรของ Mrs.Fields ดู อันที่จริงไม่ได้หาสูตรเอง แต่คุณสามีสุดเลิฟอยากกิน คุณชายสู้อุตส่าห์ไป search หาสูตรขนมชนิดนี้ใน bloggang ดู แล้วก็ไปเจอะสูตรใน blog ของคุณ Beebie ค่ะ ลองเข้าไปชมกันดูนะคะ
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=beebie&date=10-10-2006&group=2&gblog=7



วันนี้ทำตัวเป็นเด็กดี ไม่ได้พลิกแพลงสูตรของเขาเลย
ส่วนผสม :-
1. แป้งเอนกประสงค์ตราว่าว 2 ถ้วยครึ่ง
2. เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
3. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
4. น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
6. เนยสดรสเค็ม 1 ถ้วย (225 กรัม)
7. ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
8. กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
9. Chocolate Chip 2 ถ้วย

วิธีทำ :-
1. วอร์มเตาที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส
2. ร่อนแป้ง+เบคกิ้งโซดา+เกลือ เข้าด้วยกันแล้วพักไว้
3. ใช้ตะกร้อมือผสมน้ำตาลทั้งสองชนิดเข้าด้วยกันในอ่างแห้ง
4. ตีเนยสดให้กระจายตัวด้วยความเร็วปานกลาง จากนั้นใส่น้ำตาลทรายทั้งสองชนิดลงไปตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 3 นาที สังเกตว่าส่วนผสมฟูเบา
5. ปาดอ่างแล้วตีด้วยความเร็วปานกลาง เติมไข่ไก่และกลิ่นวานิลลาลงไป
6. เติมแป้งตามลงไป ใช้พายยางช่วยผสมเพื่อไม่ได้แป้งฟุ้งกระจาย จากนั้นตีด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 1 นาทีหรือจนส่วนผสมเข้ากันดีแล้วปิดเครื่อง


7. เติม chocolate chip ลงไป ใช้พายยางผสมเบาๆ ให้เข้ากัน


8. ใช้ช้อนกลางหรือที่ตักไอศครีม ตักส่วนผสมแล้ววางลงบนถาดที่รองกระดาษไขไว้ ให้ส่วนผสมห่างกันเล็กน้อย


9. นำเข้าเตาอบ ใช้เวลาอบประมาณ 22-24 นาทีจนเป็นสีเหลืองทอง เมื่อนำออกจากเตาอบแล้วให้แซะคุ้กกี้ออกมาผึ่งบนตะแกรงทันที


10. และเมื่อเย็นสนิทก็ใส่ภาชนะปิดสนิทเลยค่ะ อันนี้วางแค่ 2 ชิ้นก็เกือบเต็มกล่องแล้วอ่ะ บ้านนี้เขาทำคุ้กกี้ชิ้นใหญ่มากๆ


ตามธรรมเนียมต้องมาเช็ครสชาติกันหน่อย tiara ว่าสูตรนี้หวานไปหน่อยค่ะ หากใครจะทำทานให้ตัดน้ำตาลทรายขาวไปเลยค่ะ ใส่แค่น้ำตาลทรายแดงก็พอ เราว่าหวานแต่คุณสามีชอบ บอกว่าอร่อยดีไว้ทานกับกาแฟ เนื้อคุ้กกี้เป็นแบบนุ่มนะคะ หากใครไม่ชอบให้อบนานขึ้นอีกนิดเพื่อเป็นคุ้กกี้แบบกรอบได้ค่ะ

ขอบคุณ Mrs.Fields สำหรับสูตรอร่อย และขอบคุณคุณ Beebie ที่นำมาเผยแพร่นะคะ ส่วน Mrs.tiara ก็ขออนุญาตลาไปเอ่..เอ๊แล้ว ง่วงจัง สวัสดีปีใหม่จ้าทุกคน คร่อก...




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2550    
Last Update : 31 ธันวาคม 2550 21:58:30 น.
Counter : 7622 Pageviews.  

Chocolate Cupcakes

กลับมาแล้วจ้ะ กลับมาเปิดเตาอบอีกครั้งหลังจากหายหน้าจาก blog ขนมนมเนยไปเป็นเดือน วันนี้เอาใจคุณพ่อบ้านกับลูกชายสุดเลิฟ เพราะเขาอยากทานเค้กชอคโกแลตกัน แต่แม่ยังเหนื่อยอยู่เลยคิดว่าทำคัพเค้กจะง่ายและเร็วกว่า คราวนี้ก็ไปเปิดอินเตอร์เนตหาสูตรเช่นเคย แต่ดัดแปลงของเขาซะจนไม่น่าให้อภัย ก็ website joy of baking นั่นแหละค่ะ

//www.joyofbaking.com/ChocolateCupcakes.html

ของเขาสวยมากเลยนะ มี chocolate frosting ด้านบนตัวเค้กแล้วยังโรยด้วย white chocolate อีก ความจริงเหมาะจะทำเป็นเค้กเทศกาลอยู่เหมือนกัน คริสมาสต์หรือปีใหม่ทำให้เด็กๆ ทานน่าจะดี แต่เรามันคนขี้เกียจอ่ะ วันนี้เลยได้แต่ตัวเค้กอย่างเดียวนะคะ อย่าเพิ่งโกรธกันนา



เอาสูตรก่อนนะคะ
1. ผงโกโก้ 25 กรัม
2. น้ำร้อนจัด 120 ml.
3. เนยสดรสเค็ม 60 กรัม
4. น้ำตาลทราย 100 กรัม
5. ไข่ไก่เบอร์ใหญ่ 1 ฟอง
6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
7. แป้งเค้ก 95 กรัม
8. ผงฟู 1 ช้อนชา
9. เกลือ 1/4 ช้อนชา



ส่วนผสมที่ให้นี่เป็นสูตรที่ปรับปรุงจากต้นฉบับนะคะ พร้อมรึยัง เริ่มกันเลยดีกว่า

1. หลังจากชั่งส่วนผสมเสร็จก็วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส แล้วก็เตรียมคัพสำหรับใส่ส่วนผสมไว้ให้พร้อม
2. ผสมผงโกโก้กับน้ำร้อนให้ละลาย แล้วทิ้งไว้ให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง


3. ร่อนแป้ง+ผงฟู+เกลือ เข้าด้วยกัน พักไว้


4. ตีเนยสดกับน้ำตาลจนขึ้นฟูด้วยเครื่องตีไฟฟ้า ความเร็วปานกลางก็ใช้ได้ค่ะ


5. เติมไข่ไก่+กลิ่นวานิลลา ตีจนเข้ากัน จากนั้นใส่แป้ง ตีต่อไปจนส่วนผสมเนียน


6. ใส่โกโก้ที่เย็นแล้วผสมลงไปตีจนเข้ากันดี


ส่วนผสมที่ได้จะเหลวหน่อยนะคะ ไม่ต้องตกใจ


7. ตักส่วนผสมที่ได้ใส่พิมพ์ อบด้วยอุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ไฟล่างอย่างเดียว นานประมาณ 17-20 นาที แล้วเช็คสุกโดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปกลางคัพเค้ก หากไม่มีเศษเค้กติดขึ้นมาแสดงว่าสุกดีแล้ว


นำออกจากเตาอบ ทิ้งไว้ให้เย็น


ชิ้นนี้ยังไม่มีโอกาสเย็น มีหนูแทะซะแล้ว


เจอหนูหัวโตแล้ว ชิมเสร็จแล้ววิ่งมาบอกมามาในครัวว่า "อร่อย"


เอาล่ะมาสรุปกันหน่อย เนื้อเค้กแน่นตามแบบฉบับเค้กเนยค่ะ แต่เข้มข้นด้วยส่วนผสมของชอคโกแลต ใครเป็น chocolate lover ต้องชอบแน่ ป๊าน้องทัณฑ์บอกว่าเหมือนกินมัฟฟิ่น แต่แม่ว่ามันมีส่วนหนึบๆ คล้ายบราวนี่ ถ้ามี frosting ตามสูตรต้องอร่อยมากแน่เลย แต่ขี้เกียจหาซื้อคอร์นไซรัปกับซาวน์ครีมอ่ะ เอาแค่นี้แล้วกัน ถือซะว่าเป็นขนมหลอกเด็ก (น้องทัณฑ์) ทานเล่นๆ กับชาหรือกาแฟอร่อยดีค่ะ หากใครจะเอาไปตกแต่งเป็นคัพเค้กแฟนซีก็น่าจะเก๋ดี ลองทำดูซิคะ






 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2550 23:15:10 น.
Counter : 5145 Pageviews.  

Banana Bread [but in cups]

ขอหอมหน่อยยยย ช่วงนี้ร้านผลไม้ข้างทางอุดมไปด้วยกล้วยหอม อดใจไม่ไหวต้องหาสูตรอร่อยๆ มาลองทำขนมบ้าง อย่างที่ทุกคนรู้นะคะว่ากล้วยหอมเนี่ยเป็นผลไม้ที่เหมาะกับการนำมาทำเบเกอรี่หรือทานกับของหวาน เช่น ไอศครีม เป็นต้น วันนี้ tiara จึงขอนำเสนอเบเกอรี่ที่เหมาะจะทานกับไอศครีมรสวานิลลา ควบคู่กับเครื่องดื่มประเภทชา-กาแฟ ซึ่งมันก็คือ "Banana Bread" นั่นเอง แต่ก็นะคนอย่างเรามันจะทำอะไรที่ธรรมดามั่งไม่ได้รึไงฟะ ขึ้นชื่อว่า bread มันควรจะอยู่ในพิมพ์โลฟใช่ไหมจ้ะ แต่หนูขี้เกียจไปรื้อกล่องอุปกรณ์ที่ถูกอัปเปหิไปไว้ในห้องเก็บของอ่ะ ก็เลยจับส่วนผสมใส่คัพซะเลย ง่ายดี มันเลยกลายเป็น "banana bread but in cups" ดังนี้แล



ต้นฉบับมาจากคุณคนนี้เหมือนเดิม
//www.joyofbaking.com/breakfast/BananaBread.html

สูตรนี้ง่ายมากกกก เพราะไม่ต้องใช้เครื่องตีไข่ ใช้แค่ตะกร้อมือกับพายยางและอ่างผสมเท่านั้นจ้ะ ส่วนเรื่องส่วนผสมไม่ต้องบอกก็คงเดาออกว่า tiara ไม่ได้ทำตามเขาทุกอย่างหรอก เรื่องมือซนน่ะขอให้บอก เอาส่วนผสมที่ปรับปรุงแล้วไปก่อนนะ หรือถ้าใครไม่มั่นใจก็ใช้สูตรต้นฉบับได้เลยจ้า

ส่วนผสม :-

1. แป้งเค้ก 245 กรัม
2. น้ำตาลทราย 130 กรัม (ลดลงจากสูตรเพราะชิมกล้วยหอมแล้วหวานมาก)
3. ผงฟู 1 ช้อนชา
4. เบคกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
5. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
6. อบเชยป่น 1/2 ช้อนชา
7. ไข่ไก่เบอร์ใหญ่ 2 ฟอง
8. เนยละลายรสเค็ม 100 กรัม
9. กล้วยหอมใหญ่ 3 ผล ประมาณ 450 กรัม (กล้วยหอมวันนี้เล็กไปหน่อยเลยใส่ไป 4 ผล)
10. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
11. เม็ดมะม่วงหิมพานต์บุบ 35 กรัม (ฝรั่งเขาใช้วอลนัทหรือพีแกน ใส่เยอะด้วยตั้ง 115 กรัม เรามีแค่นี้เลยใส่เท่าที่มีจ้ะ)
12. กล้วยหอมหั่นเป็นแว่น 1 ผล



ชั่งส่วนผสมแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้


อ้อ...มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาฝากกันด้วย หากใครต้องการให้เค้กกล้วยหอมของตัวเองนูนสวยให้นำกล้วยหอมแช่ตู้เย็นไว้ 1 คืนก่อนนำมาทำขนมนะคะ นี่ก็เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ปลอกเปลือกเสร็จแล้วก็ใส่ตู้เย็นไว้


มาเริ่มทำกันเลยดีกว่า :-

1. วอร์มเตาที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมถาดทาไขมันไว้สำหรับคนที่มีพิมพโลฟ เจ้าของสูตรเขาแนะนำว่าควรเป็นขนาด 9x5x3 นิ้ว หรือ 23x13x8 ซม.ค่ะ แต่วันนี้ tiara ใช้พิมพ์มัฟฟิ่นกับพิมพ์คัพเค้กนะคะ

2. อ่างแห้ง -- ผสมแป้ง น้ำตาล ผงฟู เบคกิ้งโซดา เกลือ และอบเชยป่นเข้าด้วยกันด้วยตะกร้อมือ


3. อ่างเปียก -- ผสมกล้วยหอมบด ไข่ไก่ เนยละลาย และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกันด้วยพายยาง


4. นำส่วนผสมเปียกเทลงไปในอ่างส่วนผสมแห้ง ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากันดีด้วยพายยาง ใส่เม็ดมะม่วงลงไป ไม่จำเป็นต้องตีแรงจนเป็นเนื้อเดียวกันเพียงคลุกเคล้าให้เข้ากันเท่านั้นพอค่ะ






5. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ เวลาเทใส่คัพเค้กใส่ประมาณ 3/4 ของพิมพ์นะคะ เหลือพื้นที่ให้ขนมขึ้นฟูบ้าง แล้วเอากล้วยหอมที่หั่นเป็นแว่นไว้มาแต่งหน้าขนมด้วยค่ะ


6. ใช้เวลาอบประมาณ 30 นาทีจนเป็นสีเหลืองทอง เช็คสุกโดยใช้ไม้จิ้มฟัน หากเป็นพิมพ์โลฟใช้เวลาอบประมาณ 55-60 นาทีค่ะ




7. ทิ้งไว้พออุ่นจึงเอาเค้กออกจากพิมพ์ เสิร์ฟในขณะอุ่นหรืออุณหภูมิห้อง เราทำใส่คัพสบายหน่อยเอาออกจากพิมพ์ได้ทันที สวยไหมคะ


ด้านข้าง


เนื้อใน




อร่อย...


อ๊ะ..บอกเล่าเรื่องรสชาติกันหน่อย อร่อยค่ะ เนื้อนุ่ม ยิ่งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องยิ่งหอม ยิ่งนุ่ม โชคดีที่ลดน้ำตาลลง 20 กรัมทำให้เนื้อเค้กไม่หวานมาก กำลังดีเลย สูตรนี้ทำง่ายแถมอร่อย ขอแนะนำสำหรับคนหัดทำเค้กให้ลองทำดูนะคะ

หลังจากนี้ blog ขนมจะไม่ update นานหน่อยนะคะเพราะใกล้เทศกาลกินเจแล้ว คงไม่ได้ทำเค้กแล้วล่ะค่ะ เจอกันเดือนหน้านะจ้ะแฟนๆ ขนมนมเนย หากคิดถึงกันก็อ่าน "ต่อรักเติมใจ" ไปก่อนน้า เอ..เข้าข่ายโฆษณาขายสินค้ารึเปล่าหนอ บายค่ะ มีความสุขกับการทำขนมต่อไปเน้อ




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2550    
Last Update : 6 ตุลาคม 2550 22:45:09 น.
Counter : 6804 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

tiara
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [?]




blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ

ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^
ผลงานของ tiara

...เรื่องยาว...

...เรื่องสั้น...

"จอมยุทธ์ผู้ตามหาหงส์ขาว"
"Don't read my mind!"
"ลิลลี่สีขาวกับสาวน้อยของผม"
"หนุ่มรับเหมากับสาวแบรนด์เนม"
New Comments
Friends' blogs
[Add tiara's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.