Group Blog
 
All blogs
 

Chocolate Fudge Muffins

สูตรนี้ขนาด 12 ถ้วย ดัดแปลงจาก “Chocolate Fudge Muffins” ในหนังสือ 1 Mix,100 Muffins โดย Susanna Tee ใครสนใจสูตรต้นฉบับสามารถหาซื้อหนังสือได้นะคะ



สวัสดีค่ะแฟนขนมนมเนยของ tiara ทุกท่าน

เจ้าของบล็อกหายไปนาน เนื่องจากเตาอบเก่าขอลากลับบ้านเกิดไปแล้ว แสวงหาเตาอบใหม่อยู่พักใหญ่ จนในที่สุดก็ตกลงปลงใจกับ HW ขนาด 70 ลิตร ใครสนใจรีวิวเชิญที่บล็อกก่อนหน้าได้เลยนะคะ ตอนนี้เราทำมามัฟฟิ่นกันดีกว่า พอดีในช่วงที่เตาเก่าเสีย tiara ไปซื้อหนังสือเล่มหนึ่งมา เห็นว่าหน้าปกสวยดี แล้วสูตรก็ทำง่ายเลยเอามาลองกับเตาใหม่ซะเลย ใครสนใจลองเปิดหาดูใน google นะคะ มีหลายคนรีวิวหนังสือเล่มนี้ไว้ว่าทำได้ผลจริง เรามาลองดูกัน แต่สูตรที่จะทำวันนี้ได้ดัดแปลงมาแล้วนะคะ เนื่องจากมีวัตถุดิบบางอย่างที่หาซื้อไม่ได้

เริ่มจากส่วนผสม :



1. แป้งเอนกประสงค์ตราว่าว 1 ½ ถ้วย
2. ผงโกโก้ตรานางพยาบาล ½ ถ้วย
3. ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือ 1/8 ช้อนชา
5. น้ำตาลทรายแดง ½ ถ้วย
6. ไข่ไก่ฟองโต 2 ฟอง
7. ครีมเปรี้ยว 1 ถ้วย
8. น้ำมันดอกทานตะวัน 6 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำเชื่อม (ตรามิตรผล) 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ :

1. วอร์มเตา อุณหภูมิที่ต้องการคือ 200 องศาเซลเซียส แล้วเตรียมกระดาษรองพิมพ์ไว้ 12 ถ้วย




2. ผสมแป้ง ผงโกโก้ ผงฟู และเกลือลงในชามขนาดใหญ่ แล้วใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป ผสมด้วยตะกร้อมือจนเข้ากันดี





3. ตีไข่ไก่ในชามเปียก เติมครีมเปรี้ยว น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำเชื่อมลงไป ใช้ตะกร้อมือผสมให้เข้ากัน





4. นำส่วนผสมในชามเปียกเทลงในส่วนผสมชามแห้งแล้วใช้พายค่อยๆ ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน อย่าตีจนเนียนเพราะจะทำให้เนื้อมัฟฟิ่นที่ได้เหนียวค่ะ




5. นำส่วนผสมที่ได้เทใส่พิมพ์ อบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง ใช้เวลาอบประมาณ 20 นาทีหรือจนกว่าจะสุก







6. จากนั้นนำออกมาวางไว้ให้เย็น รอเสิร์ฟค่ะ อืม...หอมอะ



7. ผ่าดูหน่อย เนื้อเนียนไปนิด ความจริงควรให้ด้านในมีรูอากาศหน่อยค่ะ แสดงว่าตอนผสมมือหนักไป แหะๆ.. แต่สูตรนี้อร่อยดีค่ะ ตอนแรกกลัวว่าจะหวานมาก เพราะใส่ทั้งน้ำตาลทราย ทั้งน้ำเชื่อม แต่ปรากฏว่าไม่หวานเลย กำลังกลมกล่อม ทานกับกาแฟร้อนอร่อยมากค่ะ สูตรนี้เหมาะกับเด็กด้วยนะคะ เกาทัณฑ์ชอบมากกกกก



เริ่มรู้ใจเตาอบแล้ว ทำขนมคราวต่อไปน่าจะสวยขึ้นค่ะ แต่สูตรนี้ลองทำดูได้นะคะ ไม่เสียเวลาเปล่าแน่นอน รสชาติอร่อยค่ะ สนุกกับการทำขนมทุกคนนะคะ

 






 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2556 11:07:22 น.
Counter : 6136 Pageviews.  

รีวิวเตาอบ HW ขนาด 70 ลิตร (ใช้งานในบ้าน)



รีวิวเตาอบ House Worth ขนาด 70 ลิตรสำหรับคนที่สนใจค่ะ


(*** สามีบอกให้มาโน้ตไว้ว่าผ่านมาสามปีพอดิบพอดี เตาอบตายไปแล้วค่ะ 5555 สาเหตุการตายคือ ปุ่มด้านบนสุด (ปุ่มบอกอุณหภูมิ) มันฟรีเพราะความร้อนทำให้แกนของปุ่มละลาย ไหม้เลยอะค่ะ เมื่อวานเสียคุกกี้บาร์ไป 1 ถาด ร้องไห้ ฮือออออ...พอมันฟรี เราก็ไม่ทราบอุณหภูมิที่แท้จริง เทอร์โมมิเตอร์ขึ้นไม่หยุดเลย เกือบถึง 230 องศาเซลเซียส พอแกนละลาย เหม็นไหม้ก็ต้องดึงปลั๊กออก ขนมก็หน้าไหม้ ข้างในไม่สุก เสียดายส่วนผสม แงงงงง... คาดว่าคงไม่ส่งซ่อมอะค่ะ เพราะ search หาศูนย์บริการหลังการขาย เห็น comment ในเพจแล้วหนาวมาก คาดว่าไร้อนาคต คงเปลี่ยนเครื่องเลย สามปีคุ้มมั๊ย ปีละสองพัน ก็โอเคนะ ได้ใช้งานเยอะอยู่ ^^ : 13 ธ.ค.2559 ถ้าไม่บอกเดี๋ยวว่าเราหลอกให้ซื้อ ^^" ***)

 



- เตาไฟฟ้า สามารถอบทั้งเบเกอรี่และอาหารคาวได้
- มีไฟบน-ล่าง
- ตั้งอุณหภูมิได้สูงสุด 250 องศาเซลเซียส
- มีหลอดไฟให้แสงสว่างในเตา
- มีพัดลมกระจายความร้อน (ยังไม่ได้ลองใช้)
- มีรางวางตะแกรง 2 ชั้น (แต่แถมตะแกรงมาเพียงชั้นเดียวนะคะ)

 



 



แนะนำให้ซื้อเทอร์โมมิเตอร์มาวางในเตาเพื่อเช็คอุณหภูมิด้วยค่ะ

 



ส่วนตัวเพิ่งใช้ไปสองครั้งนะคะ อบมัฟฟิ่นซึ่งต้องการความร้อนสูง ปรากฎว่าต้องตั้งอุ่นเตาไว้ที่อุณหภูมิสูงสุด (250 องศาเซลเซียส) ก่อนประมาณเกือบสามสิบนาที ความร้อนในเตาจึงจะขึ้นถึงอุณหภูมิตามที่ต้องการ (200 องศาสเซลเซียส)

เมื่อเตาร้อนได้ที่ เราก็ลดอุณหภูมิตรงแกนหมุนให้เหลือ 200 องศาเซลเซียสแล้วเตาจะตัดทันที ลวดนำความร้อนจะดับ และจะไม่ติดขึ้นมาอีกเลยนะคะ จากนั้นเราก็นำส่วนผสมเข้าเตาอบทันที ตอนนี้อุณหภูมิภายในเตาจะลดลงเรื่อยๆ ประมาณ 30 องศาเซลเซียส แล้วจะนิ่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งอบเสร็จ ใช้เวลาอบประมาณ 20 นาทีตามสูตร เค้กสุกดีค่ะ แต่หน้าไม่แตกมากเท่าที่คิด

ถ้าถามว่าพอใจในคุณภาพไหม เราพอใจค่ะ ถ้าคะแนนเต็มร้อยเราให้ 80 นั่นคือ ใช้งานง่าย ความร้อนถึงอุณหภูมิที่ต้องการ แม้จะแกว่งไม่ตรงตามที่ตั้งไว้บ้าง แต่ก็พอรับได้สำหรับคุณภาพของเตาอบขนาดใหญ่ที่ใช้ภายในบ้าน ด้วยราคาขนาดเกินครึ่งหมื่นมานิดๆ ก็โอเคค่ะ เพราะส่วนตัวเคยใช้ของยุโรปขนาด 60 ลิตร แพงกว่านี้มาก ถ้าไม่ได้ซื้อเตาเพื่อทำธุรกิจ แต่แค่ทำให้คนภายในบ้านหรือเพื่อนๆ ทาน ยี่ห้อนี้ก็ใช้ได้ค่ะ

 



 




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 13 ธันวาคม 2559 9:23:05 น.
Counter : 50977 Pageviews.  

Blueberry Muffins

ไปเจอบลูเบอรี่สดในซูปเปอร์มาร์เก็ตราคาพอซื้อไหว 125 g. 150 บาท ก็เลยลองทำสักหน่อย เพราะปกติชอบทานแต่ไม่เคยทำเองเลยค่ะ เคยใช้บลูเบอรี่กระป๋องแต่มันก็ให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน เอาล่ะ...ตามมาเลยค่าใครสนใจ สูตรนี้ปรับจาก Strawberry Muffins นะคะ




ส่วนผสม :-

1. แป้งเอนกประสงค์ 200 กรัม และแป้งเค้ก 80 กรัม
2. เกลือ 1/4 ช้อนชา
3. เบคกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
4. เนยสดรสเค็มทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 100 กรัม
5. น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
6. ไข่ไก่ฟองโต 1 ฟอง
7. ครีมเปรี้ยว 1 กระปุก (หรือ 145 ml.)
8. น้ำเบอรี่เข้มข้น 1/4 ถ้วย
9. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
10. บลูเบอรี่สด 125 กรัมหรือ 1 กล่อง
*สูตรนี้ไดัมัฟฟิ่น 12 ถ้วยขนาดกลางนะคะ*

วิธีทำ :-

1. ชั่งตวงส่วนผสม



2. ตอนนี้ก็วอร์มเตารอไว้เลยนะคะ แล้วเริ่มร่อนแป้งสองชนิดกับเบคกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน (ของแห้ง) จากนั้นก็หันไปตีเนยสดที่วางไว้จนนิ่มแล้วให้กระจายตัว เติมน้ำตาลทรายกับเกลือลงไปตีให้เข้ากันจนฟู ใส่ไข่กับกลิ่นตามไป ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน (ไขมัน) ใช้ความเร็วต่ำก็พอค่ะ

แล้วเอาครีมเปรี้ยวกับน้ำเบอรี่เข้มข้นผสมกัน(ของเปียก) แล้วค่อยเอาไปผสมกับไขมันนะคะ ตีเบาๆ จนเหลวเป็นเนื้อเดียวกันแล้วค่อยเทใส่ของแห้งค่ะ



3. ขั้นตอนต่อไปเราจะตะล่อมนะคะ ไม่ใช้เครื่องตีแล้ว โดยการเทไขมันกับของเปียกที่ผสมกันแล้วลงไปในของแห้ง ใช้พายยางตะล่อมจนแป้งไม่จับตัวกันเป็นก้อน จากนั้นก็ใส่บลูเบอรี่ลงไป คนให้เข้ากันค่ะ



4. จากนั้นตักส่วนผสมใส่พิมพ์ (แอบเก็บบลูเบอรี่ไว้แปะหน้าด้วย อิอิ)



5. แล้วเอาเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟล่างอย่างเดียว ใช้เวลาอบ 15-20 นาที ให้สังเกตว่าขนมตรงขอบถ้วยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ



เนื้อมัฟฟิ่นนุ่ม ไม่หนัก รสชาติอร่อยแบบละมุนค่ะ เหมาะสำหรับกินคู่กับเครื่องดื่ม เพราะใช้น้ำตาลทรายแดง เนื้อขนมจึงไม่หวานแหลม คนที่บ้านชอบเพราะไม่ติดหวานกันเท่าไร หากใครชอบรสจัดจ้านก็ใช้น้ำตาลทรายขาวนะคะ

ผ่ากันหน่อย



ขอให้สนุกกับการทำขนมค่ะ




 

Create Date : 08 มีนาคม 2556    
Last Update : 8 มีนาคม 2556 17:32:42 น.
Counter : 13640 Pageviews.  

Strawberry Muffins

สุขสันต์วันพ่อด้วยสูตรมัฟฟิ่นหอมๆ และอร่อยค่ะ

หายหน้าหายตาจากวงการเตาอบมาพักใหญ่ เพราะมัวแต่ไปฆ่าคนในนิยายมา กลับมาคราวนี้เพราะคุณย่าน้องทัณฑ์ซื้อสตรอเบอรี่จากเชียงใหม่มาฝาก ก็เลยหาวิธีแปรรูปผลไม้ชนิดนี้สักหน่อย

สูตรนี้ดัดแปลงจากสูตรใน blog ของตัวเองนะคะ ตามมาดูกันเลยว่าต้องใช้อะไรบ้าง เผื่อใครอยากทำไว้กินเป็นอาหารเช้ากับชาหรือกาแฟหอมๆ นะคะ

ส่วนผสม :-

1. แป้งเอนกประสงค์ 200 กรัม และแป้งเค้ก 80 กรัม
2. เกลือ 1/4 ช้อนชา
3. เบคกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
4. เนยสดรสเค็มทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 113 กรัม (หรือครึ่งก้อนเล็ก)
5. น้ำตาลทราย 150 กรัม
6. ไข่ไก่ฟองโต 1 ฟอง
7. ครีมเปรี้ยว 1 กระปุก (หรือ 145 ml.)
8. น้ำสตรอเบอรี่หรือเบอรี่เข้มข้น 1/4 ถ้วย
9. กลิ่นสรอเบอรี่ 1 ช้อนโต๊ะ
10. สตรอเบอรี่สด 12 ลูก
*สูตรนี้ไดัมัฟฟิ่น 12 ถ้วยขนาดกลางนะคะ*



วิธีทำ :-

1. ชั่งตวงส่วนผสม


2. ตอนนี้ก็วอร์มเตารอไว้เลยนะคะ แล้วเริ่มร่อนแป้งสองชนิดกับเบคกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน


3. จากนั้นก็หันไปสนใจเครื่องตีเลย เอาเนยสดที่วางไว้จนนิ่มแล้วมาตีให้กระจายตัว จากนั้นก็เติมน้ำตาลทรายกับเกลือลงไปตีให้เข้ากันจนฟู


4. ใส่ไข่กับกลิ่นตามไป ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้ความเร็วต่ำก็พอค่ะ




5. คราวนี้ขั้นตอนสำคัญคือการใส่แป้ง ต้องค่อยๆ ใช้พายยางตะล่อมให้แป้งเข้ากับส่วนผสมในโถตีก่อนนะคะ เพราะถ้าใส่ปุ๊บแล้วเปิดเครื่องตีเลย แป้งจะกระจายเต็มครัวแน่ ใครมือใหม่ระวังนะคะ




6. ส่วนผสมจะจับตัวกันเป็นก้อนไม่ต้องตกใจ ให้เติมครีมเปรี้ยวที่ผสมน้ำเบอรี่เข้มข้นไว้แล้วลงไปค่ะ ทำไมต้องเอาสองตัวนี้ผสมกันก่อน ก็เพราะน้ำเบอรี่จะช่วยให้ครีมเปรี้ยวกระจายตัว เวลาเทรวมกับแป้งจะได้ไม่จับตัวกันเป็นก้อนนะคะ


7. ขั้นตอนนี้ใช้พายยางช่วยอีกนิดแล้วค่อยเปิดเครื่องตีค่ะ ตีจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน มันจะหนึบนิดนึงนะคะ ไม่ต้องตกใจ




8. ทั้งหมดทั้งมวลที่ต้องลุกขึ้นมาทำขนม ก็เพราะเจ้าสิ่งนี้ค่ะ เพิ่งซื้อมาใหม่ ลด 20% ด้วยล่ะ ขนาด 12 ถ้วยนะคะ กระดาษรองน่ารักอ่ะ






9. ขั้นตอนที่สนุกที่สุด ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ แล้วเอาสตรอเบอรี่ 1 ลูกปักลงไปตรงกลางเลยค่ะ พยายามกดให้มันชิดก้นพิมพ์ไว้นะคะ










10. แล้วเอาเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟล่างอย่างเดียว ใช้เวลาอบ 15-20 นาที ให้สังเกตว่าขนมตรงขอบถ้วยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ




11. หลังออกมาจากเตาอบให้ราดหน้ามัฟฟิ่นด้วยน้ำเบอรี่เข้มข้นเล็กน้อยนะคะ เพื่อให้เนื้อขนมชุ่มชื่นขึ้น ไม่ต้องราดเยอะนะเดี๋ยวจะแฉะ แล้วก็ทานได้เลยค่ะ










รสชาติเนื้อมัฟฟิ่นอร่อยมากค่ะ เสียดายสตรอเบอรี่ที่ได้มาเปรี้ยวไปหน่อย ถ้าหวานกว่านี้น่าจะให้รสชาติที่กลมกล่อมขึ้น วิธีเก็บรักษานะคะ ให้ใส่ภาชนะที่ปิดสนิทไว้ค่ะ ถ้าอยากเก็บไว้หลายวันก็แช่เย็นไปเลย แล้วเวลาจะรับประทานก็เอาออกมาอบให้อุ่นอีกครั้งก็รับประทานได้ค่ะ


หวังว่าทุกคนจะชอบสูตรนี้นะคะ




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2555    
Last Update : 5 ธันวาคม 2555 21:53:30 น.
Counter : 10613 Pageviews.  

ขนมปังหวาน

อยากกินขนมปัง เลยทำขนมปัง

ปกติเป็นคนที่ทำขนมปังทีไรเจ๊งทุกที เพราะใส่ใจมันมากไป เทคนิคเยอะเกินไป จริงจังกับมันมากไป คราวนี้เอาใหม่ ลองทำแบบชิล..ชิลดู เจ๊งก็ช่าง บอกตัวเองว่าออกกำลังกาย ในที่สุดก็เจ๊งสมใจ เพราะแป้งที่เก็บไว้นานหมดอายุ วันนี้เลยขอแก้มือใหม่ แต่นแต้น...สวยมะๆ



งานนี้เบิก Kinchen Aid ออกมารับใช้ชาติหน่อย หลังจากปล่อยให้หยากไย่ขึ้นมาเป็นปี เพราะปันใจไปให้ OTTO เสียนาน ได้ทำงานสมใจ มอเตอร์ร้อนฉ่ากันเลยเชียว น่าสงสาร

สิ่งที่ต้องมีคือ หัวตีตะขอสำหรับตีโดว์ขนมปัง, พิมพ์ทาเนยขาว, อ่างผสมขนาดใหญ่สำหรับหมักแป้ง

วันนี้ทำแบบบ้านๆ ปั้นโดว์แล้วแปะๆ ใส่ไส้ ไม่ต้องคลึงและแผ่ด้วยไม้เลย อิอิ ลองดูๆ สูตรนี้เคยเอามารีวิวแล้วตอนเป็นขนมปังเนยสดค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีเนยตรงกลางแล้ว กลายเป็นไส้กรอกกับหมูหยองแสนอร่อยแทน

ส่วนผสม

1. แป้งขนมปัง ตรา "หงส์ขาว" 480 กรัม
2. แป้งเค้ก ตรา "บัวแดง" 120 กรัม
3. ยีสต์ 10 กรัม
4. น้ำ 355 กรัม (ตรงนี้มีเทคนิค***มาร์คไว้ก่อน)
5. น้ำตาลทราย 150 กรัม
6. เกลือ 1 ช้อนชา
7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
8. เนยสด 90 กรัม
9. ไส้ขนมปังที่ต้องการ วันนี้ใช้ไส้กรอกหมู 6 ชิ้น และหมูหยอง 1 ถุงเล็กค่ะ

ข้อดีของการทำขนมปังอย่างหนึ่งคือ ส่วนผสมน้อย ตวงง่าย



วิธีทำ

1. ผสมแป้งหงส์ขาว,แป้งบัวแดง,ยีสต์ เข้าด้วยกัน



2. ละลายน้ำตาลทราย,เกลือ,ไข่ไก่ ลงในน้ำ*** ผสมให้กัน เติมลงในส่วนของแป้ง นวดพอเข้ากัน
(***ตรงนี้มีเทคนิคนิดหน่อยค่ะ สำหรับน้ำให้เหลือไว้ประมาณ 60-80 กรัม เพื่อป้องกันโดว์แฉะเกินไปจนแก้ไขไม่ได้ อย่าเพิ่งใส่น้ำจนหมด)



ในขั้นตอนนี้ถ้าสังเกตว่าโดว์แห้งไปให้ค่อยๆ เติมน้ำลงไปทีละนิดนะคะ (วันนี้ tiara ทำก็ใช้น้ำไม่หมด 355 กรัมค่ะ เหลือประมาณ 40 กรัมเห็นจะได้)



3. เติมเนยสด นวดจนเนียนได้ที่



4. ทาเนยขาวในอ่างผสมแล้วนำโดว์มาหมักให้ขึ้นเป็น 2 เท่า (ประมาณ 45 นาที) ปิดด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ หรือพลาสติกใสก็ได้ค่ะ



5. (ปล.หลังจากนี้ไม่ได้ถ่ายภาพไว้เนื่องจากมือกำลังเป็นพังผืด ="=) นำมาตัดน้ำหนัก ก้อนละ 80 กรัม คลึงกลม พักอีก 5-10 นาที ทำรูปร่าง ห่อใส้ ตามต้องการ แล้วรอให้ขึ้นเป็น 2 เท่าอีกครั้ง (ประมาณ 45 นาที) ระหว่างนี้ก็เปิดเตาทิ้งไว้ค่ะ

6. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง ประมาณ 10-12 นาที หรือจนกระทั่งสุก นำออกจากเตา แกะออกจากพิมพ์ แล้ววางไว้บนตะแกรง รอให้เย็นสนิทก่อนกิน อิอิ เนื้อนุ่มๆ หวานๆ แบบนี้ ใครจะอดใจไหว



QC เค้ามาอย่างไวอ่ะ แถมยังกินแต่เนื้อขนมปัง เหลือไส้กรอกไว้ให้แม่กินอีก เอ๊ะ...ยังไง แสดงว่าแม่ทำอร่อยสิ



สูตรนี้รสชาติจะหวานติดลิ้นนิดหน่อยนะคะ ถ้าใครไม่ชอบหวานก็ลองลดน้ำตาลลงได้ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการอบขนมปังให้หอมฟุ้งทั่วบ้านกันทุกคนนะคะ




 

Create Date : 13 สิงหาคม 2554    
Last Update : 14 สิงหาคม 2554 0:16:38 น.
Counter : 100770 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

tiara
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [?]




blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ

ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^
ผลงานของ tiara

...เรื่องยาว...

...เรื่องสั้น...

"จอมยุทธ์ผู้ตามหาหงส์ขาว"
"Don't read my mind!"
"ลิลลี่สีขาวกับสาวน้อยของผม"
"หนุ่มรับเหมากับสาวแบรนด์เนม"
New Comments
Friends' blogs
[Add tiara's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.