Group Blog
 
All blogs
 
Apple Streusel Cake

เพราะแอปเปิ้ลฟูจิ 2-3 ลูกที่นอนเล่นอยู่ในตู้เย็นแท้ๆ ทำให้ต้องหาสูตรเค้กมาช่วยแปรรูปผลไม้ซะหน่อย ออกตัวหน่อยนะคะว่าไม่เคยทำเล้ยสตรูซ่ง สตรูเซล อะไรเนี่ย แต่ไปอ่านสูตรมาแล้วเห็นว่าไม่ยากเท่าไร เนื้อเป็น butter cake ธรรมดาซึ่งเราพอมีประสบการณ์จากการทำ butter cake มาบ้างก็เลยลองดูซะหน่อย หน้าตาดีเชียวค่ะ



สูตรที่ทำวันนี้ดัดแปลงมาจากที่นี่ค่ะ
//joyofbaking.com/AppleStreuselCake.html

ใครไม่ไว้ใจ tiara ก็เข้าไปอ่านต้นฉบับกันเอาเองนะคะ เพราะเราดัดแปลงซะจนคุณเจ้าของสูตรอาจเสียใจเอาได้


พูดง่ายๆ ว่าเค้กชนิดนี้มี 3 ชั้นด้วยกันคือ ชั้นล่างสุดเป็นเนื้อ butter cake ชั้นตรงกลางป็นชั้นของแอปเปิ้ล ส่วนชั้นบนสุดเป็น streusel topping อย่าถามว่ามันแปลว่าอะไรเพราะหนูก็ไม่รู้ เอาเป็นว่ามาดูส่วนประกอบกันเลยดีกว่า

ส่วนผสมหน้าสตรูเซล :-
1. แป้งเค้กตราพัดโบก 70 กรัม
2. อบเชยป่น 1/2 ช้อนชา
3. เนยสดรสเค็มตัดเป็นชิ้นเล็กๆ 40 กรัม
4. เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด 35 กรัม ฝรั่งเขาใช้ฮาเซลนัท แต่เราใช้เม็ดกาหยีธรรมดานี่แหละ
5. น้ำตาลทรายแดง 70 กรัม



วิธีเตรียมสตรูเซล :-
เตรียมอ่างผสมไว้แล้วเทแป้งกับอบเชยป่นลงไป ใช้ตะกร้อมือผสมให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทรายแดงและเม็ดมะม่วงตามลงไป คนให้เข้ากัน สุดท้ายใส่เนยลงไปบี้ๆ ขยำๆ ให้ส่วนผสมจับตัวกันเป็นก้อนเล็กก้อนน้อยเป็นอันใช้ได้ ไม่ต้องรุนแรงมาก หากเหลวเป็นน้ำจะใช้ไม่ได้นะจ้ะ ไม่สวย เสร็จแล้วทิ้งไว้ในอ่างนั่นแหละ




ส่วนผสมตัวเค้ก :-
1. แป้งเค้กตราพัดโบก 140 กรัม
2. ผงฟู 1 ช้อนชา
3. เนยสดรสเค็ม 60 กรัม
4. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
5. ไข่ไก่เบอร์ใหญ่ 1 ฟอง แต่วันนี้ที่บ้านมีเบอร์เล็กก็เลยใส่ไป 2 ฟองค่ะ
6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
7. นมสดรสจืด 80 กรัม
8. แอปเปิ้ลลูกใหญ่ 2 ลูก สไลด์ไว้ให้เรียบร้อย



ในต้นฉบับเขาใช้เนยจืด แต่เราไม่มีก็เลยใช้เนยเค็มแล้วตัดเกลือป่นออกจากสูตรทิ้งไป เพิ่มกลิ่นวานิลลาอีกครึ่งช้อนชาเพราะเราใช้ไข่ไก่ 2 ฟอง กลัวว่าจะมีกลิ่นคาว แต่ก็ไม่น่าจะมีเพราะเดี๋ยวใส่อบเชยป่นลงไปบนหน้าเค้กด้วย ส่วนแอปเปิ้ลความจริงควรใช้แอปเปิ้ลเขียวซึ่งมีรสเปรี้ยว จะให้รสชาติที่อร่อยกว่า แต่บอกแล้วว่าจะกำจัดของที่อยู่ในตู้เย็น ก็เลยใช้ฟูจิ (หวานมาก) แล้วบีบมะนาวลงไปครึ่งผลค่ะ



วิธีตีส่วนผสมเนื้อเค้ก :-
1. ร่อนแป้งกับผงฟูพักไว้
2. ตีเนยให้กระจายตัว ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีด้วยความเร็วสูงจนส่วนผสมฟูเบา
3. ค่อยๆ เทไข่ไก่ที่มีกลิ่นวานิลลาผสมไว้แล้วลงไปทีละนิดจนหมด ยังคงตีด้วยความเร็วสูงจนส่วนผสมข้นเนียน จึงตีด้วยความเร็วต่ำเพื่อตัดฟองอากาศ หากยังเห็นเนยไม่รวมตัวกับส่วนผสมอื่นให้ใช้พายยางปาดอ่างบ่อยๆ แล้วตีต่อจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
4. ปิดเครื่อง เอาส่วนผสมที่ได้ออกมา แล้วเทแป้งที่ร่อนไว้ลงไป 1 ส่วนใช้ตะกร้อมือผสมให้เข้ากันจนมองไม่เห็นเม็ดแป้ง จากนั้นใส่นมสดลงไป 1 ส่วนแล้วใช้ตะกร้อมือคนจนส่วนผสมเข้ากันดี ทำอย่างนี้สลับกันไปเรื่อยๆ จนแป้งกับนมหมด ควรได้อย่างละ 3 ครั้ง (แป้ง 3 ส่วน นม 3 ส่วน)



5. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ขนาด 8 นิ้ว หากเป็นพิมพ์แบบถอดก้นได้จะดีมาก แต่ tiara ไม่มียังดันทุรังทำ ใส่พิมพ์ธรรมดาเนี่ยแหละฮ้า พิมพ์ต้องทาไขมันไว้ด้วยนะจ้ะ





6. จัดเรียงแอปเปิ้ลสไลด์ลงไปบนเนื้อเค้กจนหมด



7. เอาหน้าสตรูเซลที่เตรียมไว้เทลงไป



8. เข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟล่างอย่างเดียว ใช้เวลาอบประมาณ 45-50 นาที โดย 5 นาทีสุดท้ายให้เปิดไฟบนแล้วลดอุณหภูมิเหลือ 150 องศาค่ะ



9. เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดก็สุกแล้ว!!! แต่...กรรม ลืมไปว่าเป็นพิมพ์แบบถอดก้นไม่ได้ ดังนั้นก็ต้องตัดก่อนแล้วค่อยๆ ยกออกมาทีละชิ้น สวดมนต์ให้ชิ้นแรกด้วยเพราะเละตั้งแต่ยังไม่ยกขึ้นมาเลย





คราวนี้มาพูดถึงเรื่องรสชาติบ้าง หนุ่มๆ ที่บ้านบอกว่าหวานไปหน่อย แต่เราว่าไม่หวานนะ อาจจะหวานเพราะแอปเปิ้ลก็ได้ หากเป็นแอปเปิ้ลที่มีรสเปรี้ยวน่าจะกลมกล่อมกว่านี้ สูตรนี้ใช้ได้สำหรับเราแถมหน้าตายังดูดีมีชาติตระกูลอีกด้วย เสิร์ฟกับเครื่องดื่มร้อนๆ ที่ใส่น้ำตาลน้อยก็โอเคเลยค่ะ ตอนอบออกมาใหม่ๆ เนื้ออาจจะแห้งแข็งสักหน่อยไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นธรรมชาติของเค้กเนย ทิ้งไว้สักครู่โดยไม่ต้องแช่เย็น ความชุ่มชื้นของเนยจะออกมาทำให้เนื้อเค้กชุ่มฉ่ำน่ารับประทานค่ะ





เอาชิ้นสวยๆ ไปให้ผู้ใหญ่ อันขี้เหร่ๆ เก็บไว้ทานเอง อะไรจะมีความสุขไปกว่าการให้เนอะ อิอิ มีความสุขในการทำขนมหน้าตาไฮโซเยี่ยงนี้กันนะคะ






Create Date : 23 กันยายน 2550
Last Update : 23 กันยายน 2550 20:05:29 น. 40 comments
Counter : 10341 Pageviews.

 
น่าทานค่ะ หน้าตาขนมดูไฮโซมาก แบ่งชิ้นสวยน้อยให้ณัฐซักชิ้นเถอะค่ะ ^^


โดย: Donat-nat IP: 203.170.255.122 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:20:08:59 น.  

 
อยากทานด้วย


โดย: ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:20:11:56 น.  

 
มาหม่ำด้วยค่ะพี่แหม่ม น่าหม่ำที่ซู๊ดค่ะ


โดย: เนส IP: 203.113.60.12 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:20:44:41 น.  

 
หอมแอปเปิลมาแต่ไกล
ของจิ๊บเอาเละๆก้อได้ค่ะ อาหย่อยหมด


โดย: จิ๊บ IP: 59.146.0.61 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:20:48:51 น.  

 
มาช่วยทานค่า


โดย: ~บีส~ IP: 125.26.183.217 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:20:59:52 น.  

 
น่ากินที่ซู้ดดดดเลยค่ะ


โดย: puppadoowab IP: 58.8.70.222 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:21:31:47 น.  

 
น่าทานมากเลยครับ ผมชอบแอ๊ปเปิ้ลด้วย ท่าจะอร่อยนะครับ ทำเก่งมากๆเลย ผมเองไม่ถนัดทำขนมหวาน แต่กับข้าวของคาวพอไปวัดไปวาได้ครับ


โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:23:27:33 น.  

 
ว้าววววว...น่าทานจังค่ะ แอ๊ปเปิ้ลตู้มๆๆ


โดย: iTiMiTi วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:23:36:55 น.  

 
โอ ไม่น่าเข้ามาตอนดึกๆเลย หิวค่ะ น่าทานจริงๆ

ว่าจะมาแสดงความยินดีเรื่องหนังสือใหม่น่ะค่ะ แม่แหม่มเก่งจริงๆเลย ไว้จะมองหาตามร้านหนังสือนะคะ


โดย: หมูเหมียว วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:2:07:07 น.  

 
Having seen your cakes..I think I trust you more than the original !! lol

As far as I know streusel refers to a crumb topping..it's German...


โดย: pepsakoy IP: 203.218.235.181 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:7:07:40 น.  

 
ผมชอบหน้าสตรอยเซ่ลมั่กๆ น่ากินๆ ขอชิ้นใหญ่สุดคร้าบ...บ


โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:8:02:31 น.  

 
คิดจะทำเหมือนกันค่ะพี่แหม่มค่ะ มีสูตรอยู่เหมือนกัน ที่บ้านมี apple อยู่ด้วยเด๋วแอบ เอาของแม่มาทำเค้กบ้างดีก่า คิคิ


โดย: ปุ๋ม IP: 222.123.52.170 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:8:35:27 น.  

 
น่ากินจังเลย


โดย: liy IP: 58.136.18.193 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:10:06:24 น.  

 
น่าทานมากเลย


โดย: wee_nong วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:11:01:12 น.  

 
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมนะคะ มานั่งทานเค้กด้วยกันเร้ว

ขอบคุณหมอหนึ่งเรื่องหนังสือนะคะ

ขอบคุณคุณก้อยนะคะสำหรับความรู้เรื่องเค้ก นั่นซิแหม่มเคยได้ยินแต่ crumble มากกว่า อืม...streusel นี่เป็นภาษาเยอรมันนี่เอง

เอ้า...มาทานกันเลยค่า


โดย: tiara IP: 125.27.154.246 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:14:13:19 น.  

 
แอปปเลกับเค้กเนยเข้ากันมากๆๆๆเลยค่ะน่ากิ้นน่ากิน


โดย: momijimi วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:14:34:52 น.  

 
น่าทานมากๆๆๆๆ


โดย: CinnamonGal IP: 125.26.32.81 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:14:36:08 น.  

 
น่ากินจังเลยค่ะ


โดย: นางฟ้าของชาลี วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:1:48:51 น.  

 
จากิน จากิน

ชอบแอปเปิ้ล




(ได้ข่าวว่าชอบกินทุกอย่าง 555+)






อิจฉาเกาทัณฑ์จังเลย มีม่ามี๊ชอบทำขนม


โดย: อรินทม วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:9:55:17 น.  

 
แวะมาเพิ่มความอ้วนที่บล๊อคแม่แหม่มกับน้องทัณฑ์ค่า


โดย: แม่เอ๋กะพี่อะตอม (aehtom ) วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:11:06:27 น.  

 
อิอิ มีคนตามมาชิมเยอะแยะเลย เอ้า...เชิญเลยคร้าบ


โดย: tiara IP: 125.27.157.205 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:15:47:18 น.  

 

แง แง..
มามา เอาภาพเจ้าหนูเกาทัณฑ์แสนเสน่ห์
ออกจากคอมเมนท์ซะแระ
ภาพนั้น ผมน่ารักมีสเน่ห์มั๊กมากเลยน๊า..

คุณหนูแหม่ม เมื่อดึกมากแล้ว
พี่เข้ามา หลับคาหน้าขนมสูตรนี้เลย
กำลังฝึกออกเสียงชื่อขนมนี้อยู่ค่ะ

เด๋วได้ทำเร็วๆนี้ เพราะ มีแอปเปิ้ลติดบ้าน
ทั้งเขียวแดงแรงฤทธิ์

พี่ทำขนมตามสูตร
เลมอนเมอแรงค์พาย อร่อยมากๆค่ะ
ทำครั้งแรก พอใจเลยค่ะ
ทำครั้งที่สอง ใช้ทั้งฐานเป็นเนื้อเค้กบัตเตอร์
ถ้าทำฐานเนื้อเค้กต่อไปคงลดน้ำตาลลงค่่ะ

เมื่อคืนอ่านตรงทำเค้ก ตีความเร็วต่ำเพื่อตัดฟอง
พี่ลืมสนิทเลยค่ะ มิน่าเค้กบัตเตอร์พี่
ทำมาครบ 5 ครั้งวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เองค่ะ
ครั้งที่ 4 ดีที่สุดเลยค่ะ

แต่ก็ถือว่าความท้อใจลดลงไปแยะเลยค่ะ
กลับพอใจ เพราะ ชม. บินต่ำ ค่อยๆฝึกไปค่ะ

ขอชมว่าคุณหนูแหม่มเก่งมากๆ เป็นคุณแม่ทั้งเก่งน่ารักทำอะไรได้หลายๆอย่าง

น้องทัณฑ์ครับมาปรบมือให้คุณแม่หน่อยเร็ว


โดย: Eternalise IP: 125.25.202.140 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:23:54:44 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณ Eternalise ที่เข้ามาเยี่ยมกันสม่ำเสมอ

หากต้องการทำสูตรนี้ แหม่มคิดว่าใช้แอปเปิ้ลเขียวจะอร่อยกว่า และหน้าสตรูเซลให้ลดน้ำตาลทรายแดงลงอีกหน่อยนะคะ ส่วนตัวเค้กอร่อยแล้วค่ะ ไม่หวานมาก

แหม่มก็เพิ่งจับทางเค้กเนยถูกตอนทำครั้งที่สอง (คัพเค้ก) นี่เอง ตอนนี้สบายแล้ว ตีไปไม่เครียดเพราะสังเกตลักษณะของเนื้อเค้กออกแล้วว่าเป็นแบบไหนจึงจะใช้ได้

สูตรขนมของฝรั่งคนนี้ดีอย่างค่ะคือ ทำง่าย ไม่เน้นเริ่ดหรูอลังการมาก แถมทานง่ายและอร่อย แหม่มคิดว่าจะลองทำสูตรอื่นต่อไป แต่คงต้องลดน้ำตาลลงหน่อย รู้สึกน้ำตาลบ้านเราจะหวานมากกว่าของเขา

แล้วมาเยี่ยมเราอีกนะคะ อ้อ...ส่วนรูปในกล่องคอมเม้นต์นี่เป็นปกหนังสือค่ะ ต้องขอโฆษณาซะหน่อย แต่ป๊าน้องทัณฑ์เขาก็บอกว่า เป็นรูปเขากับลูกนั่นแหละค่ะ อ๊ะ..ว่าไงก็ว่าตามกัน


โดย: tiara IP: 125.27.155.209 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:9:04:13 น.  

 
คุณแหม่ม คราวนี้ ทำขนมไฮโซเลยนะเนี่ย ดูน่ากินมากเลยล่ะ ช่วงนี้ พี่ไม่ได้ทำขนมเลยค่ะ เลยไม่ได้เป็นเจ้าหนูจำไมมาถามคุงคูแหม่ม อิ อิ เป็นภูมิแพ้ค่ะ 2 วันดี 4 วันป่วย หาเรื่องอู้ค่ะ อิ อิ แล้วว่าง ๆ จะแวะมาขอกินขนมอีกนะคะ ช่วงนี้ ต้องเริ่มลดน้ำหนักแล้วค่ะ อาการข้างเคียงของการเป็นแม่บ้านค่ะ บวม


โดย: แม่เจ้าปัญญ์ IP: 124.121.98.170 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:14:06:00 น.  

 
เป็นโรคฮิตเหมือนกันเลยค่ะคุณแม่เจ้าปัญญ์ วันที่ทำขนมชนิดนี้ก็ปวดหัวข้างเดียวอยู่ แต่ไม่ยอมแพ้ คือเป็นจนชินกับมันแล้วค่ะก็ทำขนมไปเรื่อยๆ พอทำเสร็จก็หายปวดเลย ไม่รู้ว่าหายตอนไหน สงสัยทำขนมเพลิน

อ้าว..แถมอาการข้างเคียงเหมือนกันอีก นี่จะไปแจกลายเซ็นแฟนหนังสือเดือนหน้าแล้ว ยังลดไม่ลงเลยค่ะ (จะลดได้ไงยะ ตอนนี้ก็นั่งกินปุยฝ้ายของ S&P กับ Iced Latte อยู่เลย )

ช่างมันเถอะเนอะ เรื่องกินกับเรื่องอ้วนมันเป็นของคู่กันนี่นา


โดย: tiara IP: 125.27.157.205 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:14:19:18 น.  

 
คุณแหม่มทำขนมหน้าตาน่าทานทุกอย่างเลย ทำไมเก่งแบบนี้คะเนี่ยเข้ามาดูแล้วเพลินมาก พึ่งหัดๆทำอะค่ะ ยังเละเทะอยู่เลย เห็นเค้กของคุณแหม่มแล้วแลลยอยากทำบ้าง อยากถามคุณแหม่มนิดนึงค่ะ ว่าเค้กส้มของคุณแหม่มที่เห็นใน blog เนี่ย ใช้พิมพ์กลมขนาดกี่ปอนด์อบอะคะ แล้วพิมพ์เป็นแบบตื้นหรือลึกคะ จะได้ซื้อถูกค่ะ ขอบคุณมากๆค่า


โดย: เปี๊ยะหอม IP: 192.165.213.18 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:17:39:24 น.  

 
คุณเปี๊ยะหอมคะ

ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาเยี่ยมชม เรื่องพิมพ์เค้กส้มแหม่มใช้แบบพิมพ์หนาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว ขอบสูงค่ะ แต่มีน้องหลายคนบอกว่าหาซื้อยาก ส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 7.5 นิ้ว เวลาใส่ส่วนผสมสูตรนี้ก็มักจะล้นพิมพ์ หากเป็นแบบนั้นแนะนำให้ใช้ขนาด 3 ปอนด์ไปเลยดีกว่าค่ะ เค้กอาจจะฟูเบามากๆ ไปหน่อยแต่รสชาติยังอร่อยเหมือนเดิมค่ะ

เนื้อของเค้กส้มเป็นแบบฟูไต่ขอบพิมพ์นะคะ หากใช้พิมพ์เล็กหรือขอบเตี้ยเกินไป เค้กจะเนื้อแน่น บางทีถึงกับไม่สุกก็มี พยายามต่อไปค่า สู้ๆ ได้ผลยังไงก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ อ้อ...พิมพ์ที่แหม่มใช้อบเค้กส้มก็คือ พิมพ์ที่ใช้ทำเค้กสูตรนี้แหละค่ะ พิมพ์เดียวกัน


โดย: tiara IP: 125.27.155.38 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:17:45:50 น.  

 

โอ้
กิเลสมาอีกแล้ว


โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:19:58:51 น.  

 



สวัสดีครับ

มาตอนใกล้เที่ยงด้วยซี....เห็นแล้ว หิว ... ต้องรีบลงไปทานข้าว....
แบบว่า น่าทานมากเลย

จากบล็อก .... การให้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ... เราต้องดูผู้รับด้วยว่า สมควรให้มั้ย... และ ผู้รับ สมารถรับในสิ่งที่เราจะให้ได้มั้ย ด้วยอ่ะครับ

มีความสุขนะครับ...รีบเม้นท์หน่อย หิวครับ หุ หุ หุ
........................




โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:12:00:15 น.  

 
ขอบคุณ คุณหนูแหม่มมากค่ะ ที่ช่วยบอกเรื่องลดน้ำตาล
เป็นประเภทกลัวความหวานด้วยค่ะ
แต่ก็ต้องพยายามคิดว่าคนอื่นทานด้วยน๊า..
แต่คุณน้องหนูแหม่มยืนยันมา ยังไงก็ลดค่ะ

โชคดีจัง ยังไม่มีเวลาลงมือ เพิ่งซื้อเม็ดมะม่วงมา
บ่ายเมื่อวาน กะปั่นจักรยานเสร็จ จะมาละเลงค่ำๆ
ปรากฏว่า รื้อบ้านมา 2 วัน วางของไม่ลงตัวค่ะ

เด๋วคงได้พิสูจน์ฝีมือวันเสาร์หรือวันอาทิตย์นี้มั๊งค่ะ

ไม่เป้นไรคร๊าบ เพื่องานเขียนมามี้ ทัณฑ์ทนได้คร๊าบ


โดย: Eternalise IP: 125.25.201.11 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:6:07:43 น.  

 


โดย: tiara วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:14:23:29 น.  

 
สวัสดีคุณหนูแหม่มค่ะ

นั่งมองส่วนผสมที่ตัวเองวางไว้
ยังไม่ได้ลงมือเลยค่ะ

ใจไปกังวล กลัวไข่จะเก่า ซื้อมานับจากวันผลิต 10 วันแล้วค่ะ
คำถามจ๊า
1 บัตเตอร์เค๊ก ไข่เก่าใหม่มีผลมั๊ยค่ะ?
2 การที่เราตีส่วนผสม แล้วมีฟองอากาศ
(เพราะลืมตีสปีดต่ำ เพื่อลดฟองฯ )
จะส่งผลอะไรเกี่ยวกับเค๊กค่ะ?


พี่ถามทิ้งไว้ จะออกไปซื้อไข่มาเพื่อความสบายใจค่ะ
แล้วจะได้รู้ว่า เจ้าบัตเตอร์เค๊กครั้งที่ 6 ของข้าพเจ้า
หน้าตาจะส่งเข้าประกวดได้มั๊ย
ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ


โดย: Eternalise IP: 125.25.200.12 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:22:29:03 น.  

 
ปกติแหม่มไม่เสี่ยงใช้ไข่เก่านะคะ คงเพราะชินกับการทำสปองจ์ที่ต้องไข่สดเท่านั้น เวลาทำบัตเตอร์แหม่มก็พยายามใช้ของใหม่ ใช้ของใหม่ดีกว่าของเก่าแน่นอนค่ะ

ส่วนการตีส่วนผสมแล้วลืมตัดฟองอากาศ อาจจะทำให้เนื้อเค้กที่ได้เป็นรูพรุน ไม่เนียน หน้าไม่เรียบสวยเท่านั้น แต่ไม่เป็นปัญหากับรสชาดค่ะ


โดย: tiara IP: 125.27.157.36 วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:9:29:49 น.  

 
ขอบคุณน้องหนูแหม่มมากค่ะ

อยากจะสารภาพว่า..
ผิดพลาดทางเทคนิคกะเจ้าบัตเตอร์อีกแระ

แต่เพราะสูตรที่แปลงมาลงตัวของนองหนูแหม่ม
แอปเปิ้ล กะ สตรูเซล เลยลากเจ้าบัตเตอร์เค้กพี่ไปได้อย่างชนิดที่ไม่น่าเกลียดเลยค่ะ

พี่ขอชมนะค่ะ ที่น้องหนูแหม่มเก่ง มีพรสรรค์หลายได้
คนเราเนี่ยเวลาใจเย็นๆ ปัญญามันเกิดได้จริงๆนะค่ะ

ดูซิ มีแอปเปิ้ลฟูจิ ก็คงฟูจิ คงทำไปแบบ ไม่คิดว่าต้องเติมมะนาวเพิ่มรส

น้องหนูแหม่มเป็นผู้หญิงที่มีสเน่ห็มากๆเลย รู้ตัวป่าว


โดย: Eternalise IP: 125.25.206.237 วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:23:59:57 น.  

 
ตัวแหม่มไปติดเพดานแล้วค่ะ ช่วยเอาลงมาหน่อย

อย่าชมมากค่ะ เดี๋ยวเหลิง ยิ่งเป็นคนบ้ายออยู่
ขอบคุณมากนะคะ มีเพื่อนคุยเยอะๆ แบบนี้ก็มีกำลังใจทำ blog ต่อไปอ่ะค่ะ


โดย: tiara วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:11:47:02 น.  

 
เมื่อคืนลองทำดูแล้วคะเป็นของขวัญให้เพื่อนชิมครั้งแรก ตื่นเต้นมาก...
แต่ตอนอบนึกว่าลืมอะไรไปอย่างนึง...ผงฟูนั่นเอง - -


โดย: eeling IP: 58.64.53.34 วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:22:43:11 น.  

 
อิอิ แล้วเพื่อนชมว่าอร่อยเปล่าคะ ขาดผงฟูไปนิดหน่อย ไม่เกี่ยวกับรสชาติแต่อาจทำให้เนื้อเค้กแน่นและแบนไปสักหน่อยค่ะ


โดย: tiara วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:15:36 น.  

 
น่าทานมากๆ เลยค่ะ ขออนุญาตจดสูตรไปลองทำดูนะคะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:6:35:14 น.  

 
ยินดีค่า


โดย: tiara วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:25:24 น.  

 
แวะมาอ่านครับ
credit history check


โดย: lavenderbreeze999 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:31:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tiara
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [?]




blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ

ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^
ผลงานของ tiara

...เรื่องยาว...

...เรื่องสั้น...

"จอมยุทธ์ผู้ตามหาหงส์ขาว"
"Don't read my mind!"
"ลิลลี่สีขาวกับสาวน้อยของผม"
"หนุ่มรับเหมากับสาวแบรนด์เนม"
New Comments
Friends' blogs
[Add tiara's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.