เมื่อ "แพทย์" ไหลออกนอกระบบ
ถ้าติดตามข่าวสารความเป็นไปของบ้านเมืองโดยตลอด จะพบว่าบุคลากรในทุกภาคส่วน ล้วนแล้วแต่ไหลออกจากระบบได้ เมื่อโอกาส (ของเขาเหล่านั้น) เอื้ออำนวย ยกเว้นการเมืองเพียงอย่างเดียวกระมัง ที่ไหลเข้าไม่เห็นจะไหลออกเอง ยกเว้นถูกถีบออกมา
ตัวเองอยู่ในสาขาสาธารณสุข แม้ก็ได้ไหลออกมาจากระบบราชการแล้วเช่นกัน แต่ก็ยังไม่ได้ยินปัญหามากมายที่ไม่สามารถแก้ให้จบให้สิ้นได้เสียที ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ทางด้านการปฏิบัติงานที่แท้จริงในระบบราชการนั้นมีแต่จะรุนแรงขึ้น โดยที่ประชาชนตาดำๆ ไม่มีโอกาสได้รับรู้ และตามความคาดการณ์ของฉัน คิดว่าจะย่ำแย่ลง
แพทย์ในหน่วยงานราชการที่ต้องรับภาระงานล้นมือ แต่กลับได้ค่าตอบแทนน้อยเกินไป บวกกับแรงกดดันที่ได้จากการปฏิบัติงาน ทั้งจากเบื้องบนจนไปถึงคนไข้
ทุกวันนี้เรารู้ว่าแพทย์มีหลากหลายสาขา แต่แพทย์จำเป็นจริงๆ ไม่ได้จบสาขาเหล่านั้นหรอก แค่แพทย์ที่จบแพทย์ศาสตร์บัณฑิต ให้เพียงพอที่จะอยู่ในพื้นที่โดยไม่โยกย้ายไปที่อื่นต่างหาก
แต่ทุกวันนี้ไม่ว่าตาสีตาสาไหน ต่างก็เรียกร้องจะหาแต่เฉพาะทางๆ ทั้งนั้น
อีกหน่อยคงมีแบบนี้กันบ้าง คนไข้: วันนี้เจ็บตาขวามาค่ะ พยาบาล: ขอโทษทีนะคะ คุณหมอวันนี้เฉพาะทางตาซ้ายค่ะ รบกวนมาพรุ่งนี้ค่ะ
งานแพทย์ตรวจโรคทั่วไปทั้งหนักและเหนื่อย วันๆ ตรวจกันเป็นร้อยๆ คน ทำให้แพทย์เองก็กระเสีือกกระสนหาลู่ทางที่จะทำให้คุณภาพชีวิตตัวเองดีขึ้น แพทย์หรือหมอไม่ใช่พระ มีชีวิตและครอบครัวของตัวเอง ก็ต้องมีมุมที่คิดถึงตัวเองมากกว่าคนเจ็บป่วยบ้าง และการที่คนไข้ไม่เชื่อถือผลการรักษาของหมอที่ไม่ได้จบเฉพาะทาง ก็ทำให้หมอคิดว่าการไปเรียนเฉพาะทางนั้นก็ดีต่อคนไข้มากกว่า การที่หมอคนหนึ่งจะจบเฉพาะทางได้นั้น ต้องเสียเวลาเรียนไปอีก 3-6 ปี อยากให้เหล่าคนไข้ ลองตระหนักให้ดี ว่าการเรียกร้องที่เกินความจำเป็นนั้นได้ส่งผลต่ออะไรบ้าง และการเรียกร้องเหล่านี้ยังผลให้ได้รับการรักษาที่ดีขึ้นแล้วจริงๆ หรือ ค่านิยมที่เกิดขึ้นทำให้แพทย์ที่ไม่ได้ร่ำเรียนเฉพาะทางต้องการต่อยอดทางความรู้ของตัวเอง และเมื่อเรียนเฉพาะทางแล้ว ขอบเขตของงานก็แคบลง ความอยากที่จะตรวจรักษาโรคทั่วๆ ไปก็จะลดลง หรือ บางคนไม่ทำเลย บางคนเมื่อไปเรียนแล้ว ก็หาลู่ทางที่จะทำงานต่อในกรุงเทพ หรือไม่ก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วไม่กลับไปยังที่ๆ มาอีกเลยก็มาก หรือ หลังเรียนจบก็ออกไปทำคลีนิกส่วนตัวหรือโรงพยาบาลเอกชนเลยก็มี ทำให้มีการไหลออกจากระบบของแพทย์ตลอดเวลาและกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบันปัญหาขาดแคลนแพทย์ก็ยังคงไม่ได้รับการเยียวยาในจุดที่เป็นจริง ทำอย่างไรจึงจะฉุดรั้งไม่ให้แพทย์ที่มีอยู่ลาออก หรือ ดึงกลับเข้ามา บางคนเลิกเป็นแพทย์ไปเลยก็มี ช่างน่าเสียดายนัก แม้จะมีโครงการผลิตแพทย์เพิ่ม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือคุณภาพของแพทย์ที่แย่ลง เพราะศักยภาพของแหล่งผลิตเหล่านั้นที่ยังไม่ดีนัก ทั้งจากสถานที่และบุคลากร
การเป็นแพทย์ได้นั้นไม่ได้ยาก แต่มีองค์ประกอบ คือ ความภาคเพียรจากผู้ศึกษาเอง ครูผู้สอน ได้แก่ แพทย์ที่เป็นอาจารย์ และ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คือ คนไข้ ที่ได้พบเจอเป็นเคสตัวอย่างในช่วงชีวิตของการเล่าเรียนศึกษา
เป็นกำลังใจให้น้องๆ แพทย์ที่กำลังจะจบ, เหล่าแพทย์ไทยทุกคน และสดุดีแพทย์ที่ยังคงทำงานในระบบเพื่อช่วยเหลือประชาชน ได้แต่หวังว่าปัญหาที่ได้ยินได้ฟัง จะดีขึ้นในเร็ววัน
Create Date : 01 เมษายน 2554 |
Last Update : 1 เมษายน 2554 16:54:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 585 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]
|
มีหัวใจไว้เดินทาง ค้นหาความหมายของชีวิต เพื่อเติมเต็มให้กับคำถามที่เกิดขึ้นมากมายระหว่างการเติบโต วิธีการในการเดินทางมีมากมาย แต่ ณ วันนี้ ขอเลือกสองล้อเป็นพาหนะในการนำพาไปสู่จุดหมายปลายทาง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|