Chapter 6
ตอนที่ 6

แฮร์รี่เหลือบมองแก้วว่างเปล่าถูกกระแทกลงกับโต๊ะแล้วเหล้าแก้วใหม่ก็มาถึงมือคนที่นั่งข้าง ๆ เขาแก้วแล้วแก้วเล่า เขาสะกิดร่างบาง “เฮ้ มัลฟอย ฉันว่าพอเหอะ”

ดวงตาสีฟ้าซีดที่บัดนี้แดงก่ำหันมามองเขาอย่างเลื่อนลอย “อย่ามายุ่ง” เสียงคนพูดยังห้วนแม้ว่าจะแผ่วลงแล้วหันไปกินเหล้าต่อ “นายกลับไปก่อน” คนถูกเตือนไล่เสียอีก

สภาพอย่างนี้จะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไงเล่า ชายหนุ่มคิด เขาเหลือบไปแอบทำสัญญาณบอกบ็อบว่าช่วยเพลา ๆ ลงหน่อย ดูเหมือนบาร์เทนเดอร์จะเข้าใจ เหล้าแก้วต่อไปจึงมาเสิร์พช้าลง แฮร์รี่จิบเหล้าที่เหลือค่อนแก้วของเขา ชายหนุ่มเองก็รู้สึกมึน ๆ เล็กน้อยแล้วเช่นกัน

“เดี๋ยวนายก็ได้นอนที่นี่หรอก พินซ์ตื่นมาไม่เจอจะเป็นห่วงนะ” เขาเตือนเรียบ ๆ

เดรโกยกเหล้าขึ้นดื่ม “นั่นสิ พินซ์....ยัยเด็กนั่นยิ่งชอบวุ่นวายอยู่ด้วย” ร่างบางเริ่มโอนเอน จนเจ้าตัวต้องคว้าขอบโต๊ะไว้ “พูดแจ๊ว ๆ เหมือนแพนซี่ไม่มีผิด”

แฮร์รี่หันมาเมื่อได้ยินชื่อมารดาของเด็กหญิง ความสงสัยในใจกลับมาอีก “นั่นสิ ถ้าอยู่กับแพนซี่ก็คงเสียงจิ๊กจั๊กทั้งวันแน่” เขาแกล้งเออออไปด้วย

ดวงตาสีฟ้าซึ่งบัดนี้แดงก่ำสลดลง “แต่แพนซี่ไม่อยู่แล้ว น่าเสียดาย...” เสียงเขาค่อยๆ แผ่วแล้วขาดหายไป

“อ้าว เฮ้ มัล....เดรก เดรก”

แฮร์รี่อุทานเมื่อศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีทองเอนงอกแงกก่อนจะฟุบไปกับโต๊ะ ชายหนุ่มพยายามเขย่าไหล่บางนั้นแต่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าตอบสนอง “เฮ้ย นายอย่ามาหลับที่นี่นะ เฮ้”

บ็อบเดินเข้ามาดู “โฮ่ เมาหลับอีกแล้ว” เขาว่าพลางเช็ดเคาเตอร์ แฮร์รี่เพิ่งสังเกตว่าตอนนี้คนในร้านเริ่มบางตา ลีซึ่งลงมาจากร้านบะหมี่ข้างบนก็เริ่มทำความสะอาดโต๊ะต่าง ๆ แล้ว “ปล่อยไว้ที่นี่แหละ เฮนรี่” บ็อบบอกด้วยท่าทางเหมือนเป็นเรื่องปกติ

“หมอนี่กินเหล้าหนักแล้วก็เมาหลับแบบนี้ทุกทีแหละ เดี๋ยวใกล้ๆ เช้าก็ตื่นออกไปเอง”

“ผมว่าผมพาเขาไปส่งบ้านดีกว่าครับ” แฮร์รี่ว่าพลางดึงเจ้าคนตัวเล็กขี้เมาขึ้นมา

เจ้าของร้านเลิกคิ้ว “นายรู้จักบ้านเดรกด้วยเหรอ”

ชายหนุ่มหน้าฉงน “ครับ”

“อืม แปลกนะ เจ้าเดรกมาที่ร้านฉันเป็นปี ๆ แล้วไม่เห็นมีใครรู้จักบ้านหมอนี่สักคน แล้วหมอนี่ก็ไม่เคยพาใครมาเที่ยวด้วย”

แฮร์รี่ยิ้มแหย เขาเองก็รู้จักบ้านมัลฟอยเพราะตามพินซ์ไปเหมือนกัน “ก็ผมเป็น ‘เพื่อนเก่า’ เขานี่ครับ”

ชายหนุ่มประคองร่างบางแบกขึ้นหลังโดยไม่ลำบากนัก เจ้าหนูนี่ตัวเบากว่ากระสอบน้ำหนักที่เขาต้องเคยแบกตอนเก็บตัวฝึกควิชดิชเสียอีก ศีรษะเล็ก ๆ พิงซุกอยู่กับบ่าของชายหนุ่ม “อือ....” เสียงครางอืออาอย่างไม่พอใจเมื่อเจ้าตัวถูกลากออกมาจากร้านที่อบอุ่นออกมาสู่ถนนยามค่ำที่อากาศเริ่มเย็น

“อย่าบ่นเลยน่า” แฮร์รี่พูดกับร่างที่แบกอยู่บนหลัง “ฉันเตือนนายแล้วนี่นาว่าเดี๋ยวจะเมาก็ไม่เชื่อ” เขาเริ่มออกเดินไปยังจุดที่วางกุญแจนำทางบนถนน ตอนนี้คงดึกมากแล้วเพราไชน่าทาวด์เองก็เริ่มจะเงียบ ชายหนุ่มอดพิศวงในใจไม่ได้

“ถ้าเมื่อก่อนมีใครมาบอกว่าเราจะต้องมาแบกเจ้าคุณหนูจอมหยิ่งนี่กลับบ้านเราคงขำตายแน่ เฮ้อ…” เขาถอนใจบา ๆ ก่อนจะก้าวต่อไป

ครู่เดียวชายหนุ่มก็มาถึงกุญแจนำทาง รองเท้าสเก็ตข้างเดิมนั้นยังวางพิงกับถังขยะขนาดใหญ่ แฮร์รี่ขยับตัวเพื่อให้ร่างบางนั้นสบายขึ้น “ทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็ถึงบ้านนายแล้ว” เขาเอื้อมมือไปแตะรองเท้าสเก็ต แล้วก็ถูกดูบวูบมาโผล่ที่ผนังตันในซอยใกล้อพาร์ตเมนท์ของมัลฟอย

“อ๊ะ โธ่เอ๊ย ทำไมมาตกเอาตอนนี้วะ” ชายหนุ่มคิดอย่างหัวเสีย สายฝนเทกระหน่ำลงมาทันทีที่พวกเขาหลุดออกมาจากกุญแจนำทาง น้ำเย็นเฉียบกระทบใบหน้าและเสื้อคลุมของทั้งสองจนชุ่ม แต่ร่างบนหลังเขาหลับเงียบไม่รู้สึกตัวแม้สักนิด

“มันโชคร้ายอะไรของเราเนี่ย” แฮร์รี่งึมงำหัวเสีย เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาจากกระเป๋า ร่มเก่า ๆ คันหนึ่งวางทิ้งอยู่ใกล้ ๆ กำแพง “เอ็กซิโอ ร่ม” เขาสะบัดไม้กายสิทธิ์ ร่มคันนั้นบินหวือมาหาชายหนุ่ม เขากางมันออก สภาพของมันยังดีอยู่น่าจะกันฝนได้บ้าง

“วิงกาเดียมเลวิโอซา” แฮร์รี่ปล่อยให้ร่มลอยอยู่เหนือศีรษะแล้วค่อย ๆ แบกมัลฟอยที่ร่างเปียกโชกกลับบ้านอย่างทุลักทุเลมากขึ้น

เขาใช้คาถาเปิดประตูเพราะสภาพของเจ้าของบ้านตอนนี้ต่อให้เอาฮิฟโพกริฟฟ์มาลากก็คงไม่ฟื้น แฮร์รี่พยายามก้าวเข้าไปในบ้านอย่างเงียบ ๆ เพราะกลัวว่าพินซ์ที่หลับอยู่อีกห้องหนึ่งจะตื่น เขาแบกเดรโกเข้าไปในห้องนอนแล้ววางร่างนั้นลงบนฟูก “เฮ่อ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย” ชายหนุ่มเช็ดใบหน้าที่เปียกโชกเพราะสายฝนพลางมองดูร่างที่หลับไม่รู้เรื่องนั้น “อือ....” เสียงครางงึมงำราวกับไม่พอใจเสื้อคลุมเปียกชื้นของตน

“ปล่อยไว้ได้ปอดบวมตายแน่” แฮร์รี่คิด เขาสะกิดเรียก “มัลฟอย เฮ้ มัลฟอย”

ร่างบางหันหลังหนีทำท่าจะซุกผ้าห่มหาไออุ่น

“เฮ้ย นายนอนอย่างนี้ไม่ได้นะ เปลี่ยนเสื้อก่อน”

เงียบ ศีรษะที่มีผมสีทองซุกนิ่งกับหมอน แฮร์รี่มองนิ่งก่อนจะถอนใจเฮือก เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าข้าง ๆ เปิดออกแล้วหยิบเสื้อนอนตัวโคร่งกับผ้าเช็ดตัวออกมา “อย่ามาว่าฉันทีหลังแล้วกัน”

ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อให้เจ้าขี้เมาที่งึมงำไม่พอใจเมื่อถูกกวนอีกครั้งแต่ก็ยอมเปลี่ยนเสื้อโดยดี รูปร่างของหมอนี่ผอมบางเป็นเด็กจริง ๆ แฮะ เมื่อเปลี่ยนเสื้อพร้อมกับใช้ผ้าซับผมที่เปียกชื้นเสร็จร่างเล็กก็คลานกลับไปซุกผ้าห่มนอนต่อ แฮร์รี่ค่อยมีเวลาพิจารณาตัวเอง เสื้อคลุมของเขาก็ชื้นไม่แพ้กัน

“เฮ้ มัลฟอย” เขาเรียกทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบ “ขอยืมเสื้อนายตัวนึงนะ”

“ฮือ อือ” แฮร์รี่ถือว่านั่นเป็นคำอนุญาต เขาจึงเดินไปหยิบเสื้อยืดกับผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป

เมื่อออกมาอีกครั้ง ผมสีแดงเพลิงที่เกิดจากอำนาจเวทมนต์ก็กลับเป็นผมสีดำยุ่งเหยิงดังเดิม แฮร์รี่เดินเข้ามาทรุดนั่งข้าง ๆ ฟูกพลางใช้ผ้าเช็ดผมที่เปียกชื้น เครื่องดื่มสีเขียวนั่นเริ่มออกฤทธิ์ ชายหนุ่มรู้สึกมึนงงจนนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สายตาเขาจับอยู่ที่ร่างเล็กซึ่งนอนหลับสนิทท่าทางสบายบนฟูก

“หนอย ให้เรากินเหล้าเป็นเพื่อนจนมึน แถมตากฝนแบกมาอีก จะกลับโรงแรมไหวไหมเนี่ย” เขาคิดพลางสลัดศีรษะ
“ฮือ....” มัลฟอยพลิกตัว มือควานหาผ้าห่มที่หลุดออกไป

“หนาวละสิ นายนี่นอนดิ้นเหมือนกันนะเนี่ย” แฮร์รี่มองอย่างเอ็นดูพลางดึงผ้าห่มมาห่มให้ เขาลูบศีรษะปกคลุมด้วยผมสีทองนั้นอย่างลืมตัวราวกับลูบผมน้องเล็ก “มัลฟอย” เขาเรียกเบา ๆ

“อือ” เสียงงึมงำราวกับตอบรับ

“ฉันเรียกนายว่าเดรโกได้ไหม”

“อือ” มือเรียวดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว

“ฉันแวะมาที่บ้านนายอีกได้รึเปล่า” แฮร์รี่เริ่มมึนงงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ร่างเล็กบนฟูกพลิกหันหลังให้เขา “อือ…”

“เดรโก....” เสียงชายหนุ่มเริ่มแผ่วลง ตาเขาหนักจนแทบจะลืมไม่ขึ้น

“อือ”

“ฉันง่วงชะมัดเลย...”

แล้วเขาก็หลับไปข้าง ๆ กับร่างเล็กนั่นเอง


แสบตาชะมัด ใครปิดหน้าต่างทีซิ โอย ปวดหัวด้วย จริงสิเมื่อวานเราไปกินเหล้าที่ร้านบ็อบมานี่นา

ฮื่อ หนาวจัง ผ้าห่ม ผ้าห่มไปไหนแล้ว อ๊ะ หมอนข้างนี่นา กอดหมอนข้างก็ได้ ถึงจะแข็งไปหน่อยแต่ก็อุ่นดี

เดี๋ยวสิ เราไม่มีหมอนข้างนี่นา

เดรโก มัลฟอยลืมตาขึ้นมอง ‘หมอนข้าง’ ของเขา ดวงตาสีฟ้าจึงปะทะกับดวงตาสีเขียวที่จ้องมองแบบง่วง ๆ อยู่พอดี

“เฮ้ย” ร่างเล็กออกแรงแถบเข้าที่ท้องอีกฝ่ายโดยไม่ต้องคิด “โอ๊ย” คนตัวใหญ่กว่าที่นอนหมิ่นเหม่อยู่แล้วเลยกระเด็นตกฟูกไป

แฮร์รี่เอามือกุมท้องลุกขึ้นนั่ง “อูย ทักทายแบบนี้แต่เช้าไม่ดีนะ เดรโก”

“นาย! นาย !” คนเพิ่งตื่นผุดลุกขึ้นยืนชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยท่าทางราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “นายมานอนที่นี่ได้ยังไง”

“ก็เมื่อคืนนายเมา แล้วฉันก็แบกนายกลับมาไง”

สายตาหงุดหงิดมองผมเผ้ายุ่งเหยิงของตัวเองแล้วมองกวาดไปที่เสื้อนอน ใบหน้านวลเรื่อขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ “แล้วใครใช้ให้นายเปลี่ยนเสื้อฉันฮ๊ะ” เสียงเกรี้ยวกราดยังหาเรื่องต่อ

“ฝนมันตก ฉันกลัวนายจะปอดบวมตาย ก็เลย....” เอาละสิ ทำคุณบูชาโทษเสียแล้ว แฮร์รี่

“ใช้คาถาทำให้แห้งก็ได้ นายเป็นพ่อมดรึเปล่า” คราวนี้เสียงตะเบ็งดังลั่น

ชายหนุ่มยิ้มแหย “เออเนอะ ลืมไปเลย” เขาขยี้ผมตัวเองแบบเขิน ๆ แต่ก็ไม่ช่วยให้อีกฝ่ายคลายความหงุดหงิดลงเท่าไหร่ “นายออกไปเลย ไป” เดรโกชี้นิ้วไปทางประตูห้อง

“งั้นฉันออกไปรอข้างนอกนะ เดรโก” ชายหนุ่มเดินออกไปโดยไม่รอฟังเสียงประท้วงที่ลั่น ๆ ตามมา

“เฮ้ย ฉันหมายถึงออกไปจากบ้านฉัน แล้วก็ใครอนุญาตให้เรียกฉันว่าเดรโก...”

แต่แฮร์รี่ปิดประตูห้องเสีย กั้นเสียงอีกฝ่าย แล้วก็กั้นสายตาของเดรโกที่อาจจะเห็นว่าสีหน้าของเขาเองก็งุนงงไม่แพ้กัน แต่เป็นความงุนงงว่าทำไมตนเองถึงได้นอนจ้องใบหน้ายามหลับสนิทนั้นอยู่ได้ตั้งนานต่างหาก

ชายหนุ่มล้างหน้าล้างตาแล้วเดินไปเดินมาอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาเปิดหน้าต่างออกเพื่อให้แสงส่องเข้ามาแล้วเดินไปทรุดนั่งที่โซฟา แสงสะท้อนบางอย่างกระทบกับตาของเขา แฮร์รี่จึงเงยหน้าขึ้นมองบนหลังตู้ติดผนังที่มาของแสงนั้น มีบางอย่างที่สะท้อนแสงแดดได้ วางอยู่ในตำแหน่งสูงเกินกว่ามือของพินซ์จะหยิบถึง แต่แฮร์รี่สามารถเอื้อมไปหยิบมาได้อย่างสบาย ๆ

มันเป็นแท่งแก้วขนาดเล็ก ยาวประมาณ 2 นิ้ว แพ็คเรียงเป็นแผงประมาณ 5 หลอดวางเรียบร้อยในกรอบโลหะเพื่อกันกระแทก ภายในแท่งแก้วบรรจุของเหลวสีเงินขุ่นข้น จากฝุ่นที่จับอยู่บนผิวแท่งแก้วและกรอบเหล็กบ่งบอกว่ามันคงจะถูกวางทิ้งไว้บนหลังตู้นี้นานพอสมควร

ชายหนุ่มหยิบแท่งแก้วออกมาแท่งหนึ่ง หย่อนมันลงในกระเป๋าเสื้อคลุมอย่างเงียบ ๆ สีหน้าของเขาเคร่งเครียดต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ เขาค่อย ๆ วางกล่องโลหะนั้นกลับเข้าที่เดิมเมื่อมีเสียงเปิดประตูดังขึ้นจากด้านหลัง แฮร์รี่หันขวับไปมอง

พินซ์ยืนอยู่ตรงนั้น เด็กหญิงยังสวมชุดนอน มือข้างหนึ่งลากหมอนใบเล็กออกมาด้วย ท่าขยี้ตาอย่างงัวเงีย ทำให้แฮร์รี่ยิ้มออกมาได้ “อรุณสวัสดิ์ พินซ์”

ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างประหลาดใจ “แฮร์รี่ มาแต่เช้าเลย”


อ้อ ฉันนอนที่นี่ต่างหาก ชายหนุ่มคิดแต่ไม่ได้ตอบ เขาเลี่ยงบทสนทนาไป “ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวเดรโกก็จะออกมาแล้ว” พินซ์พยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าห้องไป

ไม่ทันขาดคำประตูห้องนอนก็เปิดออก เดรโกเดินหน้าบูดบอกอารมณ์ว่ายังหงุดหงิดไม่หายก้าวปึงปังไปที่ครัว เขาคุ้ยข้าวของกุกกักก่อนจะเริ่มทำอาหารเช้า แฮร์รี่เดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว เท้าคางมองแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่สาละวนอยู่กับกะทะบนเตา
“พินซ์ ตื่นได้แล้ว กินข้าว” เสียงตะโกนปลุกเด็กหญิงโดยที่เจ้าตัวไม่หันกลับมา

“มาแล้ว!!!!!!” เสียงร่าเริงของเด็กหญิงดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งเข้ามานั่งที่โต๊ะโดยไม่สังเกตสิ่งผิดปกติ

“เดรโก” แฮร์รี่เรียก “นายยังไม่หายโกรธอีกเหรอ”

มัลฟอยหันกลับมาวางจานไข่ดาวลงบนโต๊ะ “กินซะ พินซ์” เขาสั่งแล้วหันไปชงกาแฟ

“เดรโก....”

คราวนี้เจ้าตัวคนถูกเรียกหันกลับมาหน้าหงิก “ใครให้นายเรียกฉันว่าเดรโก”

แฮร์รี่ยิ้ม “ก็นายไง เมื่อคืนฉันถามแล้ว นายบอกว่า อือ”

แก้วกาแฟกระแทกโครมลงบนโต๊ะ “มนุษย์แถวบ้านนายเค้าเรียกนั่นว่าการอนุญาตเร๊อะ”

“เอาน่า เอาน่า” ชายหนุ่มพยายามทำท่าหยวน “ว่าแต่...นายจะไม่ทำอาหารเช้าเผื่อฉันเลยเหรอ ตอนนี้ฉันหิวจะตาย”

จานออมเล็ตถูกกระแทกลงตรงหน้า “กินซะ แล้วรีบ ๆ กลับไปเลย” คนทำบอกแล้วทรุดนั่งฝั่งตรงข้าม แฮร์รี่มองคนตัวเล็กที่ก้มหน้าก้มตากินอาหารแล้วก็ยิ้ม เขาลงมือกินอาหารเช้าฝีมือของอดีตคู่อริเป็นครั้งแรก

“เมื่อคืนได้ข่าวอะไรบ้าง” เสียงบอกว่าอารมณ์คนถามเริ่มเย็นลง

“โรนีย์บอกว่าของหมด” แฮร์รี่ตักออมเล็ตใส่ปาก อร่อยดีแฮะ “ต้องรอล็อตใหม่ส่งมาจากอังกฤษ”

ชายหนุ่มหวนคิดถึงคำฝากของพ่อค้าตลาดมืด บอกเดรกด้วยว่าของที่เขาสั่งจะมาคราวหน้าเหมือนกัน แฮร์รี่รู้สึกถึงน้ำหนักของแท่งแก้วที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ สีหน้าแจ่มใสของเขาขรึมลง

อย่าให้หมอนี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนคตาร์เลยเถอะ





Create Date : 02 มกราคม 2548
Last Update : 5 มกราคม 2548 17:20:25 น.
Counter : 708 Pageviews.

2 comments
  
เดรโกเขินน่ารักจิง ๆ

(เขินหรอน่ะ?)

อ่านต่อ ๆ
โดย: โซระ IP: 118.173.218.149 วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:15:05:28 น.
  
เดรอะโมโหกลบเกลื่อนความเขินอะเด้
ขอให้เดรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยคน TT
โดย: เชอร์ลอก โฮมส์ IP: 124.122.51.153 วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:21:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]