Chapter 11
ตอนที่ 11

แฮร์รี่ พอตเตอร์เดินออกมาจากอุโมงค์ของแทนทารัสด้วยสีหน้าเผือดซีด มอทโกเมอรี่ที่เดินอยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่มเองก็นิ่งเงียบไปด้วย ประตูเหล็กบานใหญ่ปิดตามหลังพวกเขาโดยปราศเสียง

“หัวหน้าทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” มือปราบมารจากอังกฤษเอ่ยปากถามในที่สุด

“ผลยืนยันการพิสูจน์ลายมือโกเดนไฟน์เพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี่เอง” ผู้บังคับบัญชาตอบ “ผมสะกิดใจเรื่องมัลฟอย ก็เลยขอให้ทางอังกฤษช่วยส่งคนไปค้นที่คฤหาสน์ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกคุณก่อนหน้านี้”

แฮร์รี่กัดริมฝีปาก หลักฐานทุกอย่างกำลังมัดตัวหมอนั่น “แล้ว...เราจะทำยังไงกับเดร....เอ่อ...มัลฟอยครับ”

ใบหน้าที่มีเค้าของซีเรียส แบล็คมองดูชายหนุ่มอย่างเข้าใจความรู้สึกของเขาดี ดวงตาสีดำสนิทส่อแววสงสาร

“เราคงจะรอหลักฐานสุดท้ายตอนดักจับเนคตาร์ แค่มีลูกน้องสักคนที่ยอมชี้ตัวหมอนั่น เราก็คงเอาเขาขึ้นศาลกระทรวงเวทมนต์ได้”

มือทั้งสองของแฮร์รี่กำแน่น

“แต่ตอนนี้...” มอทโกเมอรี่ตบบ่าเขาเบา ๆ “เขายังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ยังไงเราก็ต้องส่งคนไปคอยคุมตัวไว้...ผมว่าคุณน่าจะทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดนะแฮร์รี่”

ชายหนุ่มยังคงกัดริมฝีปาก เขานิ่งเงียบไปไม่พูดอะไรอีกเลยหลังจากนั้น


เมื่อเขากลับมาถึงบ้านของซีเรียสในตอนเย็น ก็อกโกก็ยื่นจดหมายจากเดรโกให้

โรนีย์มันมาฝากโน๊ตให้นายที่ร้านฉัน อยู่ในซองนี้แล้ว

เขาเปิดโน๊ตของโรนีย์ออกอ่านแล้วบอกเจ้าเอลฟ์บ้านสั้น “ก็อกโก ฉันจะออกไปข้างนอกนะ ไม่ต้องรอ”

แฮร์รี่ใช้คาถาเปลี่ยนสีผมให้กลายเป็นสีเพลิงและลบรอยแผลเป็นบนหน้าผาก เขาก้าวออกจากบ้านแล้วขึ้นรถไฟใต้ดินไปยังโลเวอร์อีสไซต์ ชายหนุ่มเดินผ่านถนนที่การจราจรจอแจในช่วงเย็น เขาเลี้ยวอ้อมตัวตึกซึ่งทอดยาวเข้าสู่ตรอกแคบ ๆ ตามแผนที่ในกระดาษที่โรนีย์เขียนให้ ประตูห้องเช่าเรียงรายอยู่ในตัวตึกสองข้างทางมีแสงไฟสลัว ๆ ลอดออกมา

ชายหนุ่มเดินมาถึงประตูไม้เก่าซึ่งซับน้ำฝนจนบวมและเปลือกนอกร่อนผุ เขาก้มลงมองเศษผ้าคลุมสีม่วงเข้มที่ผูกอยู่ที่ลูกบิดจึงเอื้อมมือไปเคาะเบา ๆ

ประตูเปิดออกเป็นช่องพอมองเห็นพร้อมกับหน้าผอมซีดของโรนีย์โผล่ออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่เป็นแฮร์รี่ เจ้าพ่อค้าตลาดมืดก็พยักหน้าก่อนจะพูดเสียงแหบ ๆ “อีวาน นายมาช้า”

“พอดีมีธุระนิดหน่อย” แฮร์รี่ตอบเสียงขรึม “ของมารึยัง”

“ใจเย็น ๆ “ เสียงหัวเราะหึหึสลับกับเสียงเสียงพูด “อดอยากมานานสินะ นายน่ะ” ดวงตาซีดก้มมองพิจารณา

“แต่สภาพยังดีอยู่นี่ ไม่เหมือนพวกข้างใน” พอเขาพูดจบก็มีเสียงครวญครางลอดออกมาจากด้านในห้อง โรนีย์เบะปาก “จะลงแดงกันตายซะก่อนของมา...”

โรนีย์เปิดประตูให้ชายหนุ่มแทรกตัวเข้ามา แฮร์รี่ผงะกับกลิ่นอับและเหม็นเปรี้ยวร้ายกาจที่อบอวลอยู่ภายในห้อง เขาพยายามกลั้นหายใจและทำสีหน้าปกติราวกับคุ้นเคยกับกลิ่นแบบนี้ สภาพภายในห้องไม่ผิดกับรังหนู ไม่สิมันอาจจะร้ายกว่ารังหนูเสียอีกเพราะรังหนูคงไม่มีร่างซูบซีดราวกับศพนอนเรียงรายอยู่บนพื้น แต่ละคนสวมเสื้อคลุมขาด ๆ ที่พอจะเดาออกว่าเป็นเสื้อคลุมพ่อมด ส่วนใหญ่จะนอนเหม่อลอย แต่ก็มีบางคนที่เริ่มดิ้นกลับไปกลับมา เอามือกวาดไปตามตัวราวกับปวดไปทั้งร่าง โรนีย์เดินลากขาช้า ๆ ผ่านร่างเหล่านั้นอย่างไม่สนใจใยดี

แฮร์รี่ละสายตาจากภาพที่เห็นแล้วทรุดลงนั่งตรงข้ามกับพ่อค้าตลาดมืดที่โต๊ะมุมห้อง

“ฉันอยากสั่งของเพิ่ม” ชายหนุ่มพูด

ดวงตาของโรนีย์หรี่ลง “เพิ่ม?” เขาถามสั้น ๆ

“ใช่” แฮร์รี่ตอบ “ญาติของฉันที่แอตแลนตามีพรรคพวกอยู่นั่นเยอะ พวกมันขนเนคตาร์มาจากอังกฤษแต่เล่นกันเสียหมดแล้ว นายพอจะมีไหม” เขาเอาศอกเท้าโต๊ะด้วยท่าทางสบาย ๆ “เรายินดีจ่าย”

ร่างผอมรุงรังนิ่งไปอย่างครุ่นคิด “ฉันตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องถาม ‘นาย’เสียก่อน”

แฮร์รี่สะดุดทันทีที่ได้ยินคำเรียก “งั้นฉันก็อยากเจอเจ้านายของนายได้ไหม ฉันจะเจรจากับเขาเอง”

ใบหน้าน่าเกลียดส่งสายตาเยาะเย้ย “นายคิดว่านายเป็นใคร เจ้านายของฉันเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ของตระกูลพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ท่านไม่ลงมาเจรจากับพ่อค้าคนกลางเองหรอก”

“งั้นขอให้ฉันพบเขาสักหน่อย” แฮร์รี่ต่อรอง “เราอาจจะต้องติดต่อธุรกิจกันอีก”

“ฉันต้องถามเขาก่อน” โรนีย์ตัดบท “วันอาทิตย์หน้าของมา นายไปรอรับที่ท่าเรือใต้สะพานบรูคลินต์ ถ้าเจ้านายฉันอารมณ์ดีท่านคงจะให้พบละมั้ง”

บทสนทนาหยุดชะงักเมื่อร่างที่นอนอยู่บนพื้นร่างหนึ่งเกิดกระตุกขึ้น “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก” ร่างนั้นแผดเสียงลั่นพลางดิ้นกระเสือกกระสนไปมา ตาเหลือกค้าง สองมือกอดไว้ที่หน้าอกเล็บจุกเข้าไปในเนื้อ “อ๊ากกกกกกก”

“ไอ้บ้าเอ๊ย” โรนีย์บ่นก่อนจะละจากแฮร์รี่เข้าไปดู “ถึงเวลาไวจริงนะเอ็ง”

เขาร้องบอกพวกที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้น “เฮ้ย จับมันไว้ซิ”

แฮร์รี่เห็นพ่อค้ายาหยิบหลอดแก้วขึ้นมาจากกล่องบนชั้นสูง หลอดนั้นเหลือของเหลวภายในอยู่เพียงนิด เขาเสียบมันเข้ากับเข็มฉีดยาแล้วฉีดลงไปที่แขนของร่างที่กำลังกระตุก “เหลือแค่นี้จะพอหรือเปล่าก็ไม่รู้”

ร่างนั้นค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เสียงงึมงำแผ่ว ๆ ลอดออกมาจากปาก “เดรโก.....เดร..โ.” เพียงแค่นั้นเสียงก็ขาดหายไป นัยน์ตาซีดเหลือกค้างเมื่อลมหายใจหมดจากร่าง

“ไปอีกคนแล้ว” โรนีย์ลุกขึ้นยืน “ไม่น่าฉีดให้มันเลย เสียของจริงๆ” เขาบ่นก่อนจะหันไปทางชายหนุ่มที่นั่งนิ่งขึง “ดีนะที่พวกนายยังพอมีของเหลือ ถ้าอดนาน ๆ แล้วเป็นสภาพนี้ต่อให้ สิบหลอดอาจจะช่วยไม่ได้”

.........................................................................................................................................................................

วันต่อมาแฮร์รี่จึงเข้าประชุมเพื่อรายงานผลการสืบให้กระทรวงเวทมนต์ทราบอีกครั้ง

“เป็นอันว่าวันอาทิตย์นี้มันให้คุณไปรอที่ท่าเรือ” มอทโกเมอรี่สรุปหลังจากที่ฟังแฮร์รี่เล่าเหตุการณ์ทั้งหมด

“ครับ” ชายหนุ่มตอบหน้าขรึม ภาพศพนั้นยังติดตา แต่ที่ย้ำอยู่ในใจมากกว่าคือคำพูดสุดท้ายของมัน คำเรียกชื่อเดรโก....

“โอเค” ผู้เป็นหัวหน้าปิดแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะ “ผมจะสั่งให้จัดเจ้าหน้าที่เราอารักขาคอยคุณอยู่ห่าง ๆ เพิ่มจากกลุ่มที่คอยดักจับ”

เมื่อการประชุมเสร็จสิ้น แฮร์รี่เข้าไปพบมอทโกเมอรี่ที่กำลังนั่งอ่านเอกสารการสอบสวนอยู่ในห้องทำงาน

“หัวหน้าครับ” ชายหนุ่มเอ่ยปาก

“ว่าไงแฮร์รี่” เจ้าของห้องชี้มือไปที่เก้าอี้ให้เขาทรุดนั่งลง

“ผมขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษได้ไหมครับ ช่วยจัดเจ้าหน้าที่ให้สักสองคน”

“เอาไปทำอะไรล่ะ” ถามโดยไม่เงยหน้าจากแฟ้ม

ชายหนุ่มตอบสั้นๆ “คุมตัวเดรโก มัลฟอยครับ”

อีกฝ่ายเงยหน้ามองเขาทันที คิ้วเลิกขึ้นอย่างฉงน แฮร์รี่จึงพูดต่อ

“ให้เจ้าหน้าจับตาดูเขาไว้ อย่าให้รู้ตัว กันไม่ให้เขาไปในบริเวณที่จะส่งของ ถ้าเขาทำท่าจะเข้าไปจะได้จับกุมตัวได้ทันที” ประโยคสุดท้ายชายหนุ่มกลั้นใจพูดออกมา อย่างน้อย ฉันก็จะไม่ให้นายเป็นอันตราย

ดวงตาสีดำสนิทจ้องตอบ แววตาเข้าใจก่อนจะพยักหน้า “เอาตามนั้นก็แล้วได้ ผมจะจัดคนไว้ให้”

แฮร์รี่ยิ้มขรึม ๆ

“ขอบคุณครับ”

............................................................................................................................................................................

ก๊อก ก๊อก

เมื่อเดรโก มัลฟอยละจากสตูที่เคี่ยวอยู่บนเตาเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน เขาก็เห็นร่างสูงของแฮร์รี่ พอตเตอร์ยืนหน้าขรึมอยู่

“นึกว่าวันนี้จะไม่มาเสียอีก” ใบหน้าขาวนวลยิ้มนิด ๆ “พินซ์ถามหานายตั้งแต่เช้า” เขาว่าแล้วก็เปิดประตูกว้างเพื่อให้อีกฝ่ายก้าวเข้ามาในบ้าน

“วันนี้ไปทำงานมาเรอะ”เดรโกถามพลางปิดประตู แฮร์รี่จึงก้มลงสำรวจตัวเอง เขายังสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกับกางเกงสีดำผูกไทสีเข้มเพื่อให้เหมาะกับการเข้าประชุม “อือ” ชายหนุ่มรับเบา ๆ พยายามจะกะปมเนคไทแต่ไม่รู้ทำไมยิ่งแกะปมกลับยิ่งผูกแน่นเข้า

“ไม่ได้เรื่องเล๊ย” เดรโกมองอย่างรำคาญก่อนจะก้าวเข้ามาแกะเนคไทที่มัดคอเขาออกได้ง่าย ๆ
“เมื่อวานก็ทำงานล่ะสิ พินซ์บ่นแย่ที่นายไม่มา” คนตัวเล็กพูดโดยไม่สังเกตสีหน้าซึมของอีกฝ่าย เขาหันกลับไปทำอาหารต่อ “นายไปเล่นกับพินซ์สิ อยู่ที่ระเบียงแน่ะ วันนี้จะกินข้าวที่นี่รึเปล่า”

แฮร์รี่ทิ้งสายเนคไทลงบนโซฟา “อือ” เขาตอบรับเบา ๆ

“ท่าทางฉันต้องเก็บค่าอาหารนายเป็นรายเดือนซะแล้วมั้ง” เจ้าของบ้านพูดติดตลก มือขยับไปผูกสายผ้ากันเปื้อนที่เลื่อนหลวม “กินเยอะหยั่งกับโรงสีแล้วยังมากินบ่อยๆอีก”

ชายหนุ่มมองร่างบางที่ยืนหันหลังให้แล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ “เดรโก...”

“ว่าไง” อีกฝ่ายยังคงสาละวนคนสตูในหม้อต่อโดยไม่หันกลับมา

“ฉันมีอะไรจะถาม” แฮร์รี่แว่วได้ยินคำสั่งของมอทโกเมอรี่ เฝ้าดูเขาไว้...แฮร์รี่

“ก็ถามมาสิ”

“หันมาทางนี้หน่อยได้ไหม” ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้

“อะไรอีกเล่า” เสียงตอบกลับมาชักรำคาญ

“เดรโก”

คนตัวเล็กเอื้อมมือไปปิดเตาแล้วหันกลับมาสีหน้าหงุดหงิด “แฮร์รี่ ฉันกำลังทำอาหาร ถ้านายจะคุยก็รอตอนกินข้าวเสร็....”

เสียงบ่นขาดหายไปเมื่อร่างสูงก้าวเข้ามารวบเขาไว้ในอ้อมกอด

“เฮ้ย แฮร์รี่ ทำอะไรน่ะ เดี๋ยวเหอะ ” คนถูกกอดโวยวายดินขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงที่ยึดไว้แน่น

แฮร์รี่ซบหน้าลงกับบ่าของร่างบางอย่างอ่อนแรง ซ่อนสายตาเศร้าลึกไว้จากความสงสัย

“แฮร์รี่ นายเป็นอะไร” เดรโกหยุดดิ้น เสียงหงุดหงิดเมื่อครู่เบาลง

“เดรโก...” ชายหนุ่มเอ่ยปาก กระชับวงแขนแน่นขึ้น “นายรู้เรื่องเกี่ยวกับเนคตาร์รึเปล่า” ถามโดยไม่มองหน้า เขากำลังกลัว กลัวว่าจะเห็นแววตาที่ส่อพิรุจจากอีกฝ่าย

แม้กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าร่างบางในอ้อมกอดสะดุ้งนิดๆ “ไม่” คนถูกถามส่ายหน้า “ฉันจะรู้ได้ยังไง” เดรโกผละออกแต่ดวงตาสีฟ้ากลับหลบสายตาจากเขาลงมองพื้น

ชายหนุ่มถอนใจ หากคำตอบคือใช่ เขาจะสามารถป้องกันไม่ให้กระทรวงจับหมอนี่ไปได้งั้นเหรอ ปล่อยมันไปเถอะ อะไรจะเกิดขึ้นก็...ดวงตาสีเขียวของแฮร์รี่สลดลง

“ดี...กินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”

ระหว่างมื้ออาหารนั้นกลายเป็นเวลาที่น่าอึดอัด ทั้งแฮร์รี่และเดรโกกินอาหารกันเงียบ ๆ ต่างฝ่ายต่างมีสีหน้าครุ่นคิด มีเพียงพินซ์คนเดียวเท่านั้นที่ยังคุยสนุกสนานไปได้อย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ แฮร์รี่ถามทำลายความเงียบขึ้นมาในที่สุด

“เดรโก วันอาทิตย์นี้นายจะไปไหนรึเปล่า”

คนตัวเล็กที่นั่งฝั่งตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมาจากจานอาหาร “เปล่านี่” เขาตอบดวงตาสีฟ้าส่อแววซื่อจนแฮร์รี่ดูไม่ออก “ทำไมเหรอ”

“ไม่มีอะไร” แฮร์รี่ก้มลงกินข้าวต่อ “ฉันแค่จะบอกว่าฉันมีธุระอาจจะไม่ได้มาที่บ้านนะวันนั้น”

อีกฝ่ายพยักหน้ารับรู้อย่างงง ๆ แล้วทั้งคู่ก็กินอาหารต่อไปเงียบๆ โดยไม่ได้พูดกันอีก

เมื่อกินเสร็จเดรโกขยับจะเก็บโต๊ะ

“เดี๋ยวฉันทำเอง” แฮร์รี่ก้าวเข้ามายึดจานชามตั้งสูงไปจากมือเรียว “นายทำกับข้าวแล้วนี่ ไปอยู่กับพินซ์เถอะ”

เขาพูดแล้วก็หันหลังหลบสายตากึ่งสงสัยกึ่งกังวลจากคนตัวเล็ก แต่เดรโกก็ไม่พูดอะไร เขาเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วเริ่มต้นสอนพินซ์ใช้คาถาแปลงกายง่าย ๆ เสกของให้เปลี่ยนรูป

เมื่อแฮร์รี่ล้างจานชามเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากครัว เขาก็เห็นทั้งครูและลูกศิษย์นอนซบเคียงกันอยู่บนโซฟา มีแจกันที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นก็อกน้ำไปแล้วครึ่งหนึ่ง (คือตัวยังเป็นแจกันแต่หูดันกลายเป็นก็อกน้ำไปแล้ว) วางอยู่บนพื้น ทำให้แฮร์รี่อดคิดถึงสมัยเรียนคาบวิชาแปลงกายของแมกกานากัล รอนก็มักจะเปลี่ยนของได้ครึ่งเดียวแบบนี้เหมือนกัน เขาจึงอดยิ้มออกมาไม่ได้

เดรโกขยับตัวอย่างอึดอัดเล็กน้อยเมื่อเด็กหญิงตัวจิ๋วพลิกมาทับแขน แฮร์รี่จึงค่อย ๆ อุ้มพินซ์ขึ้นแล้วพาไปนอนในห้อง เขากลับออกมาคิดจะปลุกเดรโก แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่หลับพริ้มอยู่ชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจ ค่อย ๆ สอดแขนไปใต้ร่างบางแล้วอุ้มขึ้นมาเบา ๆ ระวังไม่ให้ตื่น

แฮร์รี่วางคนตัวเล็กในอ้อมแขนลงบนเตียงแล้วคลี่ผ้านวมหนานุ่มห่มให้ ชายหนุ่มทรุดนั่งลงตรงริมเตียงมองใบหน้าขาวนวลที่ยังคงมีรอยกังวลปรากฏอยู่แม้ยามหลับ เขาลูบผมสีทองนั้นเบา ๆ

“ฉันจะพยายาม...เดรโก” แฮร์รี่กระซิบ ก้มลงแตะริมฝีปากกับหน้าผากเนียนอย่างเศร้าสร้อย

“ฉันจะอยู่ข้างนายจนถึงที่สุด...”





Create Date : 03 มกราคม 2548
Last Update : 5 มกราคม 2548 17:30:47 น.
Counter : 698 Pageviews.

4 comments
  
รักแฮร์รี่ตายเลย...

เดรกรักแฮร์รี่รึยังเนี่ย??
โดย: โซระ IP: 118.173.218.149 วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:15:52:51 น.
  
ให้อารมณ์ว่าสามีเพิ่งกลับมาบ้าน แล้วมีภรรยามาต้อนรับเลย
โดย: เมย์ IP: 180.183.249.6 วันที่: 14 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:29:03 น.
  
เหมือนสามีภภรยามากมายอะ ชอบๆ
แฮร์รี่ต้องปกป้องเดรให้ได้นะ
โดย: เชอร์ลอก โฮมส์ IP: 124.122.51.153 วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:2:01:05 น.
  
ฉันจะพยายาม เดรโก
จะอยู่ข้างนายจนถึงที่สุด

สองประโยคนี้ทำให้น้ำตาเราไหลจริงๆ คือแฮร์รี่เข้มแข็งมากจริงๆ งานก็คืองาน เรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัว เสียใจ แต่ว่าก็เข้มแข็ง
โดย: hyukinuii IP: 110.168.10.156 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:48:24 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]