Chapter 9
ตอนที่ 9

ด้านนอกสายฝนกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย ลมพัดพาเอาละอองน้ำสาดใส่กระจกหน้าต่างจนมองไม่เห็นด้านนอก หมัดของแฮร์รี่กระแทกเข้าใส่ประตูหนาครั้งแล้วครั้งเล่า ข้อนิ้วของเขาแตกเป็นแผลยับเลือดไหลหยดลงบนพื้น

โครม

หมัดขวาอัดเข้าไปบนพื้นไม้

โครม

หมัดซ้ายตามไปติดๆ

“โธ่เว้ย” ชายหนุ่มตะโกนก้องแต่เสียงฟ้าที่ร้องคำรามครืนกลบเสียงของเขาจนหมด

ชายหนุ่มไม่ได้ยินแม้แต่เสียงกริ่งหน้าประตูที่ดังไม่ขาดระยะ เขารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อมีเสียงเรียกอย่างตกใจดังมาจากทางเดิน

“แฮร์รี่!”

จินนี่ วิสลีย์ในชุดเสื้อคลุมกันฝนอุทาน เธอยกมือขึ้นปิดปากเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนสนิทของพี่ชาย แล้วรีบวิ่งเข้ามาพยายามดึงเขาออกจากประตูซึ่งเละเทะไม่แพ้มือของคนที่ชกมัน “ทำอะไรของเธอน่ะ หยุดนะ”

“ปล่อยฉัน จินนี่” ชายหนุ่มสะบัดตัวออก สติของเขาแทบไม่เหลือเพราะความเครียดถึงขีด

“ใจเย็น ๆ ก่อนรอนเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว” จินนี่ฝืนดึงแขนชายหนุ่มไว้“เขาเป็นห่วงเธอนะ เรื่องมัลฟอย...”

แฮร์รี่หันขวับมาจ้องหน้าคนพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “ห่วงงั้นเหรอ!” คำพูดของรอนลอยวนไปมาในความคิด

นายปกป้องทายาทอันดับหนึ่งของผู้เสพความตาย ศัตรูของนายเอง

โทสะที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันมาจากเหตุผลใดบ้างทำให้ถ้อยคำพร่างพรูออกมา “เขาไม่ฟังฉันอธิบาย จินนี่ ไม่ฟังแม้แต่คำเดียว” เสียงชายหนุ่มแทบจะเป็นตะคอก “ปล่อยฉัน” เขากระชากแขนออกจากมือของจินนี่แต่หญิงสาวฝืนดึงไว้

“ไม่ปล่อย แฮร์รี่ เธอนั่นแหละหยุด มีสติหน่อยสิ มือเป็นแผลหมดแล้ว”

“ปล่อยให้มันเละไปเลย” คนซึ่งกำลังโกรธจัดไม่ฟังเสียง

“แฮร์รี่” จินนี่แทบจะตะโกนเรียกสติเขา เธอหลุดถ้อยคำที่ไม่เคยคิดจะพูดออกมา

“อย่าเอาความเสียใจเรื่องรอนจะแต่งงานกับเฮอร์ไมโอนี่มาปนกับเรื่องนี้”


ประโยคนั้นหยุดเขาได้ทันที ชายหนุ่มชะงักกึก“จินนี่...เธอ...ว่าอะไรนะ” ชายหนุ่มงุนงงก่อนจะอึกอัก

“ไม่...ฉัน...ไม่ได้”

จินนี่ส่ายหน้าเบา ๆ “อย่าปฏิเสธเลยแฮร์รี่ ฉันรู้มาตั้งนานแล้ว ความรู้สึกของเธอ...”

ดวงตาสีเขียวที่กรุ่นโทสะเมื่อครู่กลับส่อประกายเจ็บปวดกึ่งอับอาย “เธอ...รู้...ตั้งแต่เมื่อไหร่”

น้องสาวคนเล็กของวิสลีย์สงสารเขาจับใจ เธอพูดเสียงเบาลง “ตั้งแต่ตอนพวกเธออยู่ปี 6 หลังจากซีเรียสตายแล้วรอนกับเฮอร์ไมโอนี่เริ่มคบกัน ฉันเห็นสายตาเธอที่มองพวกเขา...มันไม่เหมือนเดิม” เธอเห็นอีกฝ่ายนิ่งอึ้งจึงดึงร่างที่ราวกับไร้วิญญาณนั้นออกมาจากตู้ที่มีเศษกระตกเกลื่อนกราด กดไหล่ให้เขาทรุดนั่งที่โซฟา

“ยิ่งพอรอนขอเฮอร์ไมโอนี่แต่งงาน เธอไม่รู้ตัวหรอก แฮร์รี่ เธอหน้าเศร้าทุกทีที่มองพวกเขาอยู่ด้วยกัน”

แฮร์รี่ทรุดลงนั่งโดยดี สีหน้าเขาซีดเผือด เขากระซิบถามเสียงแผ่ว “แล้วเฮอร์ไมโฮนี่กับรอนรู้หรือเปล่า”

“เฮอร์ไมโอนี่คงรู้จ๊ะ เขาพยายามเลี่ยงไม่ให้เธอเจ็บปวดมากกกว่านี้ ถึงไม่ได้คัดค้านที่เธอจะไม่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แต่รอนคงไม่สังเกตอะไร”

แฮร์รี่หลับตาเอนตัวพิงพนักโซฟาอย่างอ่อนล้า “ฉัน...มัน...ทุเรศมาก...ใช่ไหม” ก้อนแข็ง ๆ มาจุกที่คอชายหนุ่ม “ทั้งที่สองคนนั้นเป็นเพื่อนรักของฉัน แต่ฉันกลับ...” ชายหนุ่มพยายามสะกดอารมณ์

“ทั้งเฮอร์ไมโอนี่ทั้งเธอคงผิดหวังในตัวฉัน” เขาตัวสั่นกึก ๆ เขากล้ำกลืนความรู้สึกที่ล้นออกมาลงไปไม่ได้

“แฮร์รี่” จินนี่เรียกเสียงอ่อน เธอเข้าใจว่าตอนนี้คนตรงหน้าต้องการการปลอบโยน อาจจะเป็นเพราะสัญชาติญาณความเป็นแม่ เธอจึงเอื้อมมือไปดึงชายหนุ่มเข้ามาแล้วโอบกอดเขาไว้

“ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันเข้าใจ เฮอร์ไมโอนี่เองก็เหมือนกันไม่เป็นไรนะ”

แฮร์รี่รู้สึกถึงความไออุ่นจากอ้อมแขนที่โอบรอบกาย ไออุ่นเหมือนที่มิสวิสวิสลีย์เคยกอดเขาตอนที่ซีเรียสตาย เขาสะอื้นฮักอย่างห้ามอยู่ “จินนี่...ฉันขอโทษ” เพียงประโยคเดียว น้ำตาที่เอ่อคลอทำให้นัยน์ตาเขาพร่ามัว นานมากแล้วที่ต้องเก็บกดความรู้สึกทุกอย่างไว้ หลายปีที่ไม่เคยร้องไห้อีก

จินนี่ลูบหลังคนในอ้อมแขนเบา ๆ “ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ไม่เป็นไรแล้ว”

หญิงสาวปล่อยให้เขาร้องไห้จนพอ เมื่อเห็นว่าแฮร์รี่สงบลงมากหลังจากที่เขาได้ระบายความอัดอั้นในใจออกไปแล้ว เธอจึงถามขึ้น “แล้ว...เรื่องมัลฟอย....ตกลงเธอจะทำตามที่รอนบอกรึเปล่าแฮร์รี่”

ชายหนุ่มส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้”

“งั้น...” หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิด “แล้วเธอเชื่อหรือเปล่าว่ามัลฟอยเป็นหัวหน้าของแก็งค้ายานั่น”

ชายหนุ่มส่ายหน้า “ฉัน...ไม่แน่ใจ จินนี่ แต่ว่าเดรโก...เอ่อ มัลฟอยน่ะ เขาผิดจากที่เราเคยรู้จักสมัยเรียนมาก และ...” เสียงเขาแผ่วหายไป

จินนี่จ้องตาเขา “และเธออยากจะเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นคนค้ายานั่น, ใช่ไหมจ๊ะ”

แฮร์รี่พยักหน้า คอตกยอมจำนน

หญิงสาวยิ้มให้เขา “งั้นก็ลองเชื่อใจเขาดูก่อนก็ได้นี่จ๊ะ ข่าวบอกว่าวันอาทิตย์หน้านี้เรือก็จะส่งของมาจากอังกฤษแล้ว กระทรวงเวทมนต์จะดักจับพวกมันที่ท่าเรือ ถึงตอนนั้นเราก็รู้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง”

ดวงตาสีเขียวที่เงยหน้าขึ้นสบตาหญิงสาวมีแววกระตือรือร้นขึ้น “ถ้าหากว่าจับพวกค้ายาได้ เราก็พิสูจน์ได้ใช่ไหมว่าเดรโกไม่เกี่ยวข้อง” แล้วเขาก็ชะงัก “แต่...รอน...”

“ฉันจะคุยกับรอนเอง” จินนี่ยิ้มเอ็นดูท่าทางของอีกฝ่าย “ตอนนี้เรายังไม่รู้ ก็คงต้องยกประโยชน์ให้ผู้ต้องสงสัยไปก่อนว่าเขาบริสุทธิ์ใช่ไหมจ๊ะ”

แฮร์รี่ค่อยยิ้มออกมาได้ “ขอบใจมากนะ จินนี่” เขากอดเธอหลวม ๆ ซบหน้าลงกับผมสีแดงเหมือนผมของแม่ “ถ้าเธอไม่มาฉันคงเป็นบ้าไปแล้ว”

จินนี่ลูบผมสีดำยุ่งเหยิงนั้นอย่างเอ็นดูราวกับลูกศีรษะเด็กชาย “ฉันอยากเห็นหน้ามัลฟอยตอนนี้จริง ๆ ทำไมถึงทำให้เธอเชื่อถึงขนาดทะเลาะกับรอนได้”

แฮร์รี่ยิ้มก่อนจะพูดอู้อี้กับบ่าของหญิงสาวที่ตัวเล็กกว่ามาก

“ฉันก็อยากให้เธอเจอหมอนั่น ไว้จะพามาแนะนำนะ เธอต้องชอบเขามากกว่าเมื่อก่อนแน่ ๆ”

เสียงแกรกเบา ๆ ที่ประตูหน้า เสียงพูดงึมงำของเอลฟ์ดังมา “ก๊อกโกคงกลับมาแล้ว” แฮร์รี่พูด “ก็อกโก มาทำความสะอาดเศษกระจกนี่ที” เขาเรียกมันเสียงก้อง ก่อนจะหันมาถามหญิงสาว “ว่าแต่..เมื่อกี้เธอเข้ามาได้ยังไง”


“เมื่อกี้ฉันมัวแต่ห่วงเธอ เลยต้องใช้เจ้านี่” จินนี่ชูกุญแจสีทองดอกเล็กดอกหนึ่งให้ดู “กุญแจสำรองสำหรับทุกที่ เฟร็ดกับจอร์ชให้ฉันมา เอาติดตัวไว้ไม่คิดว่าจะได้ใช้เหมือนกัน”

แฮร์รี่ส่ายหน้า “ฉันว่ากลับไปฉันต้องไปตรวจร้านเกมกลวิเศษวิสลีย์เสียหน่อยแล้ว ท่าทางจะยึดของผิดกฎหมายได้เพียบ”

เสียงเดินกึกกักมาถึงห้องนั่งเล่น เขาหันไปพูดทั้งที่ยังกอดจินนี่ไว้หลวม ๆ “ไปตลาดนานจริงนะ ก๊อกโ...”

ถ้อยคำขาดหายไปกะทันหันเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่เจ้าเอลฟ์บ้านตัวเดียว

ใบหน้าขาวของเดรโก มัลฟอยซีดเผือดลงเล็กน้อย ผมสีทองชื้นเพราะละอองฝนที่เพิ่งซาไป แต่ดวงตาเรียวสีฟ้ากลับเบิกกว้างตกตะลึงไม่แพ้กันเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

แฮร์รี่รีบผละออกจากหญิงสาวในอ้อมแขน “เดรโก...เอ่อ…นี่…”

ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะพูดห้วน ๆ “ฉันเอาหมวกมาคืน” เขายื่นหมวกของแฮร์รี่ให้เจ้าเอลฟ์ที่ยืนอยู่ข้างแล้วรีบเดินผละออกไป “ขอโทษที่มาขัดจังหวะ” เสียงเย็น ๆ ลอยมา พร้อมกับเสียงปิดประตูโครม

แฮร์รี่หายตกตะลึง “เดรโก...เดี๋ยว” เขาลุกขึ้นยืน คว้าเสื้อคลุมหันมาบอกหญิงสาว “จินนี่ ขอโทษนะ ฉันต้องออกไปก่อน”

“ไปเถอะๆ เร็วเข้า” จินนี่รุนหลังเขาออกไป

ชายหนุ่มทำท่าจะวิ่งตามคนตัวเล็กที่ออกไปแล้ว แต่เขาก็หยุดโผล่หน้ามาที่ประตูห้องนั่งเล่นอีกครั้ง ยิ้มให้น้องสาวของเพื่อนรัก “จินนี่ ขอบใจมากจริง ๆ สำหรับเรื่องวันนี้” เขาบอกแล้วออกวิ่งไปทันที

จินนี่มองตามร่างสูงที่วิ่งออกไปจากห้องพักโดยไม่เหลียวหลัง เธอยิ้มบาง ๆ

“ขอให้มัลฟอยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เถอะนะแฮร์รี่ บางที...เธอจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกต่อไป”


เมื่อแฮร์รี่วิ่งลงมาถึงชั้นล่าง เดรโกก็หายไปแล้ว เขากำลังคิดว่าจะตามอีกฝ่ายได้ที่ไหน

“บ้านหมอนั่น” แฮร์รี่ตัดสินใจ เขาออกวิ่งไปยังอพาร์ตเมนท์ของมัลฟอยทันที เมื่อมาถึงประตูหน้าห้องชายหนุ่มก็เคาะประตูรัว “เดรโก เปิดหน่อย เฮ้ เมื่อกี้นายเข้าใจผิดนะ”

ประตูเปิดออกแต่ร่างที่ยืนอยู่กลับกลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก

“พินซ์ เดรโกล่ะ” เขาถามทันที

พินซ์ทำหน้าประหลาดใจ “อ้าว ไม่ได้ไปหาแฮร์รี่เหรอ เดรกบอกว่าจะแวะเอาหมวกไปคืนแฮร์รี่ก่อนไปทำงานนี่นา”

“ไม่เป็นไร” แฮร์รี่ขยับจะก้าวกลับ “พินซ์กินข้าวแล้วเข้านอนซะนะ อย่าออกไปข้างนอกคนเดียวล่ะ” เขาหันกลับมาเตือนแล้วออกวิ่งลงบันไดไป

เขาไปตามหาเดรโกที่ร้านซึ่งฝ่ายนั้นทำงานอยู่ แต่ก็ได้รับคำตอบว่าคนที่เขาตามหานั้นโทรมาขอลาหยุดเมื่อกี้นี้เอง “พอจะรู้ไหมครับว่าเขาไปไหน” แฮร์รี่ถามหัวหน้าคนครัว

“ไม่รู้สินะ เฮ้ย พวกเอ็งรู้บ้างรึเปล่า” ประโยคหลังหันไปถามคนครัวที่กำลังเตรียมข้าวของบนโต๊ะ

“ไม่รู้” เสียงห้วน ๆ ตอบมาจากเจ้าโทนี่ที่กำลังมองแฮร์รี่ด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่ชายหนุ่มไม่สน เขาเดินออกมาแล้วตรงไปยังร้านหม้อใบใหญ่รั่ว แต่ก็ได้รับคำตอบเดียวกันจากบ็อบว่าเดรกไม่ได้ไปที่นั่น

หายไปไหนของเขานะ แฮร์รี่คิดพลางชะลอฝีเท้าเดินไปตามทางเดินในเมือง ท้องฟ้าเปิดแล้วหลังจากที่เมฆฝนพัดผ่านไป ชายหนุ่มสั่งเกตเห็นมันเมื่อเขาเดินเข้ามาในสวนสาธารณะใกล้อพาร์ตเมนท์ของเดรโก เขากะว่าจะไปดูที่บ้านหมอนั่นอีกครั้งเผื่อจะกลับมา

“ว่าไงพ่อหนุ่ม” เสียงฟ่อ ๆ ทักดังมาจากด้านข้าง แฮร์รี่หันไปสบตากับดวงตาสีเหลืองกลมที่มองอยู่ เขาเดินเข้ามาในบริเวณสวนสัตว์โดยไม่รู้ตัว

“หวัดดีครับ พัฟเฟต” เขาขยับเปลี่ยนลิ้นเป็นภาษาฮาเซล ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้ากรงเจ้างูเหลือม

“หน้าตาเธอไม่ค่อยดีเลยนะ ไม่สบายหรือเปล่า” เจ้างูเลื้อยเข้ามาใกล้จนเกือบถึงลูกกรงที่กั้นอยู่

แฮร์รี่ทรุดลงนั่งย่อตัว “ก็มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยน่ะฮะ” เขาพูดแล้วก็ถอนใจ

“งั้นเหรอๆ” พัฟเฟตพยักหน้าหงึก ๆ ราวกับคนแก่กำลังเตรียมรับฟังปัญหาของลูกหลาน “แม่หนูผมยาวนั้นก็คงมีเรื่องไม่สบายใจเหมือนกันสินะ เพราะเขาทำหน้าเหมือนเธอเปี๊ยบเลย”

แฮร์รี่เงยหน้าขึ้น “เขามาที่นี่เหรอครับ”

“ช่าย” เจ้างูตอบรับ “แม่หนูนั่นมานั่งอยู่หน้ากรงฉัน ตรงที่เธอนั่งอยู่นี่เลย แล้วก็ทำหน้าแปลก ๆ เดี๋ยวก็หน้าบึ้งเหมือนโกรธใครก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็ทำท่าคิดจนคิ้วผูกโบได้แน่ะ แล้วยังทำตาเศร้า ๆ พิกลก่อนจะลุกออกไปด้วยนะ”

ดวงตาของแฮร์รี่วูบลง “งั้นเหรอฮะ” เขาถอนใจ “ผมเองแหละที่ทำให้เขาโกรธ”

“อ้าว ทำไมไม่ตามไปขอโทษเขาซะละ แม่หนูเพิ่งเดินออกไปเมื่อกี้ก่อนเธอมานิดเดียวเอง”

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นทันที “เขาเพิ่งออกไป, จริงเหรอครับ ไปทางไหน” เขาลุกขึ้นยืนแทบจะเข้าไปเกาะกรงถาม

“เดินไปทางริมแม่น้ำโน่นแน่ะ” เสียงแหบ ๆ ตอบพลางหันศีรษะไปทางซ้ายมือ

“ขอบคุณมากครับ” แฮร์รี่ยิ้มแล้วรีบวิ่งออกไป

“ทำให้แม่หนูเขาหายโกรธให้ได้นะพ่อหนุ่ม” เจ้างูส่งเสียงไล่หลังมา

แฮร์รี่วิ่งมาจนถึงทางเดินเรียบริมแม่น้ำ พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว ท้องฟ้ายามเย็นเปลี่ยนเป็นสีส้มอมแดง แล้วเขาก็เห็นแผ่นหลังของร่างบางที่กำลังเดินเอื่อย ๆ เอามือล้วงกระเป๋า ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปหา

“เดรโก” เขาเรียก

ศีรษะที่มีผมสีทองหันขวับมา เมื่อเห็นว่าคนที่เรียกเป็นใคร เจ้าตัวก็หันกลับพร้อมกับออกเดินลิ่ว ๆ หนี

แฮร์รี่ซึ่งขายาวกว่าก้าวตามร่างบางนั้นทัน “เดรโก เดี๋ยวก่อน” เขาดึงแขนอีกฝ่าย

คนตัวเล็กสะบัดแขนออกไม่ยอมมองหน้า “อย่ามายุ่งกับฉัน”

“เมื่อกี้นายเข้าใจผิดนะ” แฮร์รี่ไม่ยอมปล่อยมือ เขาจับแขนเรียวนั้นไว้แน่น “ฉัน กับจินนี่ไม่ได้...”

ใบหน้านวลเรียวเงยขึ้นทันที ดวงตาสีฟ้าวาวโรจน์ “ไม่เกี่ยวกับฉันนี่พอตเตอร์ นายกับยัยวิสลีย์นั่นจะทำอะไรมันก็เรื่องของพวกนาย” เขาว่าพลางพยายามดึงแขนออกจากมือของอีกฝ่าย “ปล่อยเดี๋ยวนี้” เสียงเริ่มดังขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

“ไม่ปล่อย” แฮร์รี่พูดเสียงดังไม่แพ้กัน “นายกำลังเข้าใจผิดและฉันต้องอธิบาย”

“ฉันไม่ได้เข้าใจผิด”

“งั้นนายโกรธทำไมล่ะ”

คราวนี้เสียงที่ตอบกลับเกือบจะตวาด “ฉันไม่ได้โกรธเว้ย” ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาเพราะแรงโมโหหรืออะไรก็ไม่รู้

“ถ้าไม่โกรธนายก็อย่าหนีแล้วก็ฟัง” ชายหนุ่มจับบ่าคนตัวเล็กกว่าไว้ให้หันมาเผชิญหน้า “ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับจินนี่ เมื่อกี้เธอแค่ปลอบใจฉันเท่านั้น” เขาจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้า “แล้วฉันก็ไม่อยากแย่งภรรยาใครด้วย”

ใบหน้าซึ่งกำลังโกรธเกรี้ยวชะงักเล็กน้อย “ภรรยา?” คำถามงุนงง

แฮร์รี่ยิ้ม “แล้วก็ว่าที่คุณแม่ด้วยนะ จินนี่เขาแต่งงานกับคุณหอประจำกระทรวงเวทมนต์นิวยอร์กมาตั้งเกือบปีแล้ว”

ดูเหมือนคนตรงหน้าเขาจะสงบขึ้น แต่ทิฐิก็ทำให้เจ้าตัวสะบัดไหล่ออกจากการเกาะกุมพร้อมกับหันหลังให้ พลางพูดเสียงห้วน “แล้วนายมาบอกฉันทำไม ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันสักหน่อย”

แฮร์รี่มองคนปากแข็งที่ยืนเกาะรั้วกั้นแม่น้ำ “อ้าว ก็เห็นนายเข้าใจผิดนี่ แล้ว...นายจะหายโกรธฉันรึยัง”

“ฉันไม่ได้โกรธ” เสียงพูดสะบัดนั้นบอกว่าประโยคที่ออกมาไม่จริงเลย

“อืม” แฮร์รี่พยักหน้า “ไม่ได้โกรธงั้นก็หันมาหน่อยสิ กลับบ้านนายกันดีกว่า”

“ไม่” คนตัวเล็กปฏิเสธชัดเจน “ฉันกลับของฉันเองได้ นายไปซะ”

แฮร์รี่ถอนใจก่อนจะก้าวเข้าไปแล้วอุ้มเจ้าตัวเล็กขี้งอนขึ้นพาดบ่าพาเดินออกมาดื้อ ๆ

“เฮ้ย นายทำอะไรของนายน่ะ!” คนถูกอุ้มโวยวายแล้วก็พยายามดิ้น แต่คนตัวใหญ่กว่าจับขาไว้แน่น “ก็พานายกลับบ้านไง”

“ฉันบอกแล้วว่าฉันกลับเองได้ ปล่อยนะเว้ยพอตเตอร์” มือเล็กพยายามจะชกแต่เมื่อถูกพาดไว้แบบนั้นจึงทำได้เพียงทุบหลังคนอุ้มดังพลั่ก

“โอ้ย อย่าทุบสิ” แฮร์รี่อุทาน “เดี๋ยวฉันเผลอปล่อยนายตกลงมาไม่รู้นะ” เขาว่าแล้วก็แกล้งปล่อยมือส่งผลให้ร่างบางทำท่าจะร่วงหลุดลงมาจนต้องเกาะคออีกฝ่ายไว้แน่น “เฮ้ย แก ไอ้บ้าพอตเตอร์” เสียงโวยวายดังขึ้นจนคนที่เดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะพากันหันมามอง

“เราแค่งอนกันน่ะครับ” แฮร์รี่บอกเสียงดัง “ผมกำลังง้อเขาอยู่” คนที่มองก็เลยพากันแอบยิ้มเป็นแถว ๆ

เดรโกหน้าแดงก่ำแต่ก็พูดเสียงเบาลง “คนมองแล้ว นายปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”

แฮร์รี่จ้องหน้าคนพูด “งั้นนายบอกก่อนสิว่านายไม่โกรธฉันแล้ว”

ดวงตาสีฟ้ายังหงุดหงิดแต่ความอายมีมากกว่าเจ้าตัวเลยฝืนพูด

“โอเค ฉันไม่โกรธนายแล้ว พอตเตอร์ ปล่อยฉันลง”

ชายหนุ่มแอบยิ้มก่อนจะกอดร่างบางในอ้อมแขนไว้แน่น “ไม่ปล่อย...”

“อะไรของนายอีกฮะ พอตเตอร์” เสียงคนถูกกอดโวยวาย

ดวงตาสีเขียวส่อแววสนุกเมื่อได้แกล้ง “จนกว่านายจะเรียกฉันว่า แฮร์รี่”

ใบหน้าสวยงอง้ำ “เรื่องอะไรฉันต้องเรียกชื่อนาย พอตเตอร์”

“งั้น” แฮร์รี่ทำท่าจะยื่นหน้าเข้าไปหาแก้มใสของอีกฝ่าย

“เฮ้ย อย่านะ” คนหน้างอพยายามหลบหลีกพลางทำหน้าเหยเก

“จะเรียกรึเปล่า” สีหน้าคนถือไพ่เหนือกว่าคาดคั้นกลาย ๆ

ริมฝีปากบางเม้มแน่น ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาแผ่ว “ก็ได้ แฮร์รี่ เรียกแล้ว ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”

ชายหนุ่มยอมปล่อยอีกฝ่ายโดยดี เมื่อลงถึงพื้นกำปั้นเล็ก ๆ ก็สวนเข้าที่ท้องคนชอบแกล้งอย่างจัง

แฮร์รี่จุกจนเอามือกุมท้อง “เดรโก หมัดนายหนักนะเนี่ย”

ใบหน้าคนชกแดงก่ำยังฉุนไม่หาย “แค่นี้ยังน้อยไป ‘แฮร์รี่’ ” เขาพูดแล้วหันกลับเดินลิ่วไปตามทางเดิน

แฮร์รี่มองตามหลังอีกฝ่ายแล้วยิ้ม “เดรโก” เขาเรียกพลางเดินตาม “ฉันกินข้าวบ้านนายนะ”

“เรื่องอะไร”

“น่า หิวข้าวจะแย่แล้ว”

“ไม่เอา”

ทั้งสองเดินเคียงกันไป แฮร์รี่ได้แต่หวังในใจว่า วันอาทิตย์หน้าผลการลอบจับคงจะไม่มีคนตัวเล็กที่เดินอยู่ข้างเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย





Create Date : 02 มกราคม 2548
Last Update : 5 มกราคม 2548 17:29:08 น.
Counter : 906 Pageviews.

5 comments
  
โอ้ย ๆ เริ่มน่ารัก..

รุกให้มากกว่านี้อีก. พอตเตอร์
โดย: โซระ IP: 118.173.218.149 วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:15:41:56 น.
  
ไม่เอาแฮร์รี่ต้องคู่กับจินนี่ โช เฮอไมโอนี่และลูน่าเท่านั้นเว้ย
โดย: nat IP: 61.91.205.226 วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:16:06:52 น.
  
มัลฟอยเป็นหัวหน้าแก๊งค์ค้ายา 555
โดย: cream IP: 112.143.30.57 วันที่: 30 สิงหาคม 2552 เวลา:15:54:47 น.
  
น่ารักมากๆค่า
อ่า คนที่บอกว่า แฮร์รี่ต้องคู่กับตัวละครหญิงอ่าคะ
นี่มันฟิคYนะคะ กรุณาเข้าใจใหม่^^++
โดย: เมย์ IP: 183.89.50.106 วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:28:09 น.
  
แหใดรหึงละเซ่
ตอนท้ายน่ากอะ ^^
โดย: เชอร์ลอก โฮมส์ IP: 124.122.51.153 วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:46:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]