An interview with Keanu Reeves : handbag.com 22 april 2005 เอ่อ ต้องบอกก่อนว่า ตัดท่อนมานะ เพราะที่เป็นข้อมูลประวัตินั่น มันก็ซ้ำกันน่ะ เลยตัดท่อนๆมา ไม่ว่ากันนะจ๊ะ จากเด็กมีปัญหาในโรงเรียนมัธยม คีอานู รีฟส์ ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้เล่นฮอคกีที่ยอมดร็อปการเรียนไว้ และไปเล่นกีฬานี้ จนได้ฉายาว่า “เดอะ วอลล์” จากตำแหน่งผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม “ผมอยากเป็นผู้เล่นกีฬาฮอคกี ก่อนที่จะคิดเป็นนักแสดง เมื่อสมัยเด็กๆ ผมขี้อายมาก ไม่เคยมั่นใจเลย เว้นเมื่อตอนได้อยู่บนน้ำแข็ง” “เพราะผมมีปัญหาเรื่องการอ่าน (พี่เค้าเคยเป็น ดิสเล็กเซีย น่ะ) ก็เลยเรียนได้ไม่ดีนัก จริงๆนี่ผมก็ไม่จบไฮสคูลนะ สมัยนั้นก็ทำเรื่องอะไรไว้เยอะเหมือนกัน เป็นช่วงที่ลำบากน่าดูที่จะรู้สึกว่า เราจะเหมาะกับอะไร จนผมอายุ 15 ปี มันมีบางอย่างที่ทำให้ผมได้ลองงานแสดง แล้วก็ โดน เลยครับ เพราะมันรู้สึกเหมือนเล่นฮอคกีเลย ที่ว่า เราสามารถจะเป็นอะไรบางอย่างที่เราไม่ได้เป็น แล้วก็ยังมีเวลาว่าง ที่ทำอะไรๆได้ แต่จริงๆแล้วผมก็เอาไปงานปาร์ตีล่ะนะ” เขายิ้ม คีอานูเข้ามาแอลเอ และได้ร่วมงานในภาพยนตร์หลายเรื่อง หนึ่งในนั้น My own private Idaho 1992 ของ กัส แวน ซองท์ ที่เขาและเพื่อน ริเวอร์ ฟินิกซ์ ต้องแสดงเป็นเด็กขายบริการข้างถนน “ผมยังมองหนังเรื่องนั้นเสมอว่า มันเป้นงานที่ดีเรื่องนึงของผม” รีฟส์ยิ้ม “ มันเป็นงานที่ทำให้ผมได้สัมผัสแง่มุมด้านจิตวิทยา ที่ตัวผมเองก็ไม่เคยคิดจะทำกับตัวเอง แล้วก็ได้เรียนรู้มากเลยว่า ถ้าเราต้องการจะเป็นนักแสดงเนี่ย เราต้องทุ่มเท แล้วก็กล้าที่จะเผชิญกับความกลัว แล้วก็จ้องลงไปในวิณญาณของเรา” “สำหรับนักแสดง, ภาพยนตร์ก็คือ หนทาง ที่จะเอา ตัวตนออกไปจากชีวิต สำหรับผม ผมยอมให้งานของผม เอาความวิตกกังวลทั้งหมดออกไปจากใจ และวิธีแบบนั้น ผมก็ไม่ต้องมาตั้งคำถามเดิมๆกับตัวเอง ว่า ชีวิตผมต้องการอะไร” “การได้แสดง มันทำให้เราอิสระได้ก็จริง แต่โชคร้ายที่ มันก็ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป ทุกทีที่มีบางอย่างดึงผมกลับมา เมื่อถึงตอนนั้น เวลาที่ผมมีความสุข ก้คือเวลาที่ ได้เดินไปตามถนน ตอนดึกๆ นั่งกับตัวเองหลังอาหารเย็น นั่นจะป็นเวลาที่หัวผมว่าง แค่ได้นั่งสบายๆ สูบบุหรี่ แล้วก็มองไปนอกหน้าต่าง” โศกนาฏกรรมหลายอย่างที่คีอานูเผชิญมา ทำให้นักแสดงผู้นี้ค่อนข้างจะเก็บตัว อาการป่วยของน้องสาว เป็นแรงดลใจให้เขาบริจาคเงินก้อนใหญ่ให้องค์กรการกุศลหลายแห่ง “ชีวิต มันสอนเราหลายอย่าง ที่มีค่า แล้วก้ทำให้เรารู้ว่าไม่ควรปล่อยให้มันสูญเปล่า โดยการมานั่งถามว่าเราควรจะไปไหน หรือว่า ควรจะทำอะไร” เขาว่า “ ผมรู้สึกว่า ชีวิตผมมันก็เปิดเผยมากกว่าคนธรรมดา แล้วก็ไม่ลำบากนักเมื่อเทียบกับคนอื่น ผมว่า ผมมาถึงจุดนึงในชีวิตแล้ว ที่ๆผมพบความกระจ่าง แน่นอน และสงบสุขในใจผมนั่นน่ะ” “ผมไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังอยากจะใช้ชีวิตตัวเองไปเรื่อยๆ โดยหลีกเลี่ยงเรื่องบ้าบออะไรที่จะเข้ามา ช่วงเวลาสบายๆซักครั้งนึง” น่าเอ็นดู   Create Date : 13 พฤษภาคม 2548     Last Update : 16 ตุลาคม 2551 11:07:02 น. Counter : 1893 Pageviews.   5 comment Share Tweet

Me and my motors: Keanu Reeves BY NICK RUFFORD OF THE SUNDAY TIMES Last of the wild ones รีฟส์ มีชื่อแรกเป็นภาษาฮาวาย ที่แปลว่า"สายลมเย็นเหนือเทือกเขา" นักแสดงอายุ 40 ปี ผู้นี้เกิดที่ เบรุต แต่ไปใช้ชีวิตวัยรุ่นในแคนาดา และ ฝากฝีมือไว้ในภาพยนตร์สุดฮิต อย่าง Speed, The matrix, My own private Idaho รวมถึงการร่วมเล่นเบสสในวงร็อกที่เปิดแสดงมาแล้วหลายครั้ง เดี๋ยวนี้ดาราฮอลลีวูดหลายคนอ่อนน้อมมากขึ้น, แต่หลายคนก็ยังไม่เป็นแบบนั้น แม้คอลิน ฟาร์เรลจะดื่มเหล้าแทนน้ำ รัสเซล โครว์จะสบถเป็นไฟ, แต่ไม่มีใครที่จะทำให้เราคิดถึง เจมส์ ดีนได้มากเท่าชายคนนี้(เจมส์ ดีนคือนักแสดงในอดีตผู้เป็นภาพลักษณ์ของวิณญาณเสรี ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รถเก๋งยี่ห้อพอร์ชในปี 1955) คีอานู รีฟส์ อายุครบ 40 เมื่อปีที่แล้ว แต่ราวกับว่าเขาไม่แก่ลงสักนิด เขาไม่สนใจความสะดวกสบายแบบฮอลลีวูด ที่พยายามปกป้องทรัพย์สินล้ำค่าในความเป็นดาราและดำรงชีวิตในแบบดั้งเดิมที่แน่นอนกว่าความเป็นฮอลลีวูด นั่นคือชีวิตบนความอันตราย คีอานูรอดตายอย่างหวุดหวิดมาแล้วสองครั้ง ในอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์ และหนึ่งในสองครั้งนั้น แพทย์ต้องผ่าตัดม้ามให้เขาเพื่อรักษาชีวิต ทำให้ผู้บริหารสตูดิโอเกิดความวิตกกังวลว่าเขาจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรแบบเดียวกับเจมส์ ดีน จึงบังคับให้รีฟส์เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ โปรดิวเซอร์บางคนถึงกับเขียนสัญญาห้ามเขาขี่มอเตอร์ไซค์ขณะเปิดกล้องถ่ายหนัง แต่ก็เหมือนการท้าทายอะไรเช่นนั้น รถยนต์ที่คีอานูซื้อคือรถพอร์ช "มันเป็นรถที่คล้ายมอเตอร์ไซค์ที่สุดแล้วล่ะครับ ถ้าผมจำเป็นที่จะต้องใช้ สี่ล้อ อะนะ" เขาบอก ความอิสระที่ไม่ถูกกำหนดโดยแบบแผนสังคมใดๆ และความไม่เสแสร้งของเขาคือสิ่งที่ผมสังเกตุเห็นเมื่อพบเขาที่ลอนดอน ในงานแจกรางวัลงานหนึ่ง คืนนั้นเขาแต่งกายด้วยชุดดินเนอร์สุดหรูผูกไทสีน้ำตาลดำที่เข้ากับสีตาคู่นั้น แต่เขากลับดูเนือยๆในความเป็นทางการทั้งปวงที่รายล้อมอยู่รอบๆ แม้ผู้จัดการประชาสัมพันธ์ของรีฟส์จะเดินวนเวียนอยู่แถวนั้นเพื่อคอยเร่งให้เราใช้เวลาเร็วขึ้น แต่กลับเป็นว่า รีฟส์มีความสุขเสียเหลือเกินในการสนทนาเกี่ยวกับ รถ และมอเตอร์ไซค์ "รถพอร์ชของผมนะ ชื่อ ‘เสลด’ (แปลว่า เลื่อนหิมะจ้ะ) เพราะว่า มันเกาะถนนดีเยี่ยม มันเป็นรุ่น C4 (คาเรรา 4) ผมชอบขับรถคันนี้ โดยเฉพาะตอนเอาไปซื้อของในตู้เย็นจำพวกนม หรืออะไรอื่นๆ ตอนผมอยู่ลอส แอนเจลิส เส้นทางที่ชอบขับที่สุดก็คือ จากมัลโฮแลนด์ไดรฟ์ (ทางหลวง) ลงไปที่ ซันเซท บูเลอวาร์ด แล้วไปจบลงที่ชายหาด ตื่นเต้นดีชมัดเลย" และถึงแม้จะโดนเล่นงานมาหนัก เขาก็ยังรักที่จะขี่รถมอเตอร์ไซค์ "ผมเรียกรถของผมคันนึงว่า กัสซิสโมโต มันฟังเหมือน ควอสิโมโด (Quasimodo ..ใครช่วยบอกแองจีหน่อยเหอะ ว่าอีคำนี้ มันหมายถึง อะหยัง เก๊าะ) เพราะว่า มันใหญ่แล้วก็หนักมาก แล้วผมก็ยังมีฮาร์เลย์ เดวิดสัน เหมือนคันที่ขี่ในภาพยนตร์เรื่อง The prince of Pennsylvania" "ผมเคยขี่ผ่านป่าไม้ใกล้พิทสเบิร์กตอนกลางคืนโดยปิดไฟหน้า บางทีก็ซ้อนท้ายเพื่อนไปด้วยคนหรือสองคน แล้วเราก็คอยคุยกันว่า ใครเห็นอะไรบ้าง เจ๋งจริงๆเลยครับ" อย่างไรก็ดี ไม่มีคันไหนถูกใจเขาเท่าที่มีอยู่ทุกวันนี้ "เป็นรถมอเตอร์ไซค์อังกฤษ 850 cc ปี 1974 ยี่ห้อ นอร์ตัน รุ่นคอมมานโด ที่งามหยดเลยล่ะครับ"คีอานูบอก"มีหลายอย่าง ในยุคของ มอ’ไซค์อังกฤษ ที่สุดยอดจนผมอธิบายไม่ถูกเลยล่ะ" ความต้องการขี่มอเตอร์ไซค์ของคีอานู ไม่ได้ถูกกระทบกระเทือนแม้แต่น้อยจากเหตุร้ายที่เคยพบ เขายังคงใช้มันเดินทางไกลไม่ว่าในทะเลทราย หรือชายฝั่งที่รายล้อมด้วยหินผาในเส้นทางระหว่างลอส แอนเจลิสกับซานฟรานซิสโก แล้วคีอานูก็ชื้อ นอร์ตันอีกคัน คราวนี้เป็นรุ่นคอมมานโด 1972 คอมแบท ขณะที่กำลังถ่าย ฮาร์ดบอล ในปี 2001 รีฟส์สังเกตเห็นรถคันนี้ขณะกำลังเดินเล่นในร้านขายอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ในชิคาโก พร้อมผู้เชี่ยวชาญในเครื่องจักรอังกฤษแขนงนี้ มาร์แชล ฮากี เจ้าของร้านบอกเราว่า"พวกลูกค้าดาราของเราชอบความเป็นส่วนตัว เวลาอยู่บนมอเตอร์ไซค์พวกเขาก็แค่ใส่หมวกกันน็อค แล้วก็แจ็คเก็ตหนังเท่านั้นก็ไม่มีใครจำพวกเขาได้ แต่ที่แย่หน่อยก็คือเราปิดข่าวซุบซิบไม่ได้หรอก หลังจากคอลัมน์นึงเขียนไปว่าคีอานูซื้อนอร์ตันที่นี่เขาก็ไม่มีทางจะหลบพ้นพวกสาวๆร้อก” การที่ รีฟส์ จะรักรถอังกฤษนั้นเข้าใจได้ไม่ยากแม่ของเขาเป็นสาวอังกฤษ รวมทั้งตำนานของสารพัดดาราที่ขี่รถเหล่านี้ ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อไทรอัมพ์เช่นมาร์ลอน แบรนโดหรือBMW ของสตีฟ แมคควีนและ ริชาร์ด เกียร์ ใน An officer and a gentleman และแม้จะเป็นที่ยอมรับกันว่าสตีฟ แมคควีน เล่นบทขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามรั้วผาดโผนเอง แต่แมคควีน ก็คงไม่ขี่รถในชีวิตจริงได้ระห่ำเท่ารีฟส์ เขายอมรับว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ครั้งแรกในปี 1988 ทำซี่โครงหักไปหลายซี่ และม้ามฉีก (แผลเป็นยาวที่หน้าท้อง ที่เราเห็นกันเป็นประจำไงจ๊ะ) ส่วนอุบัติเหตุครั้งที่สองในปี 1996ก็ทำให้ข้อเท้าแตกและมีของที่ระลึกเป็น แผลเป็นบนหน้าแข้ง อย่างไรก็ดีอุบัติเหตุเหล่านั้นทำให้เขาเพิ่มความระวังขึ้นบ้างแล้วในตอนนี้ "ร่างกายผม มันเละหมดแล้ว" เขาว่างั้น ถ้าใครสักคนจะเกิดมาซ่า นั่นต้องเป็นรีฟส์ ทั้งจากเลือดแม่บุปผาชนและการเจริญเติบโตแบบไร้หลักแหล่ง ที่เริ่มจาก เบรุต ไปออสเตรเลีย นิวยอร์ค และใช้เวลาช่วงวัยรุ่นในโตรอนโต ที่ซึ่งเขามีงานอดิเรกเป็นการประกอบรถ โก-คาร์ทแล้วตั้งชื่อเจ๋งๆให้มันอย่างเช่นไฟร์บอล 500, คีอานูมีพ่อเลี้ยงมาแล้วสามคนโดยที่พ่อสายเลือดฮาวายตัวจริง ทิ้งเขาไปตั้งแต่ยังเล็ก ยังไงๆก็ถนอมสังขารไว้บ้างนะคะพี่ หนูเป็นห่วง   Create Date : 04 พฤษภาคม 2548     Last Update : 25 เมษายน 2551 13:24:51 น. Counter : 5651 Pageviews.   5 comment Share Tweet

I HATE YOU พบบทกลอนนี้จาก CK Lounge wrote by Elmindreda และมีบางอารมณ์สะดุดใจ จึงอดไม่ได้ ที่จะลอกมาเผยแพร่เอาดื้อๆ แล้วก็ลองเปลี่ยนเป็นไทยดู I HATE YOU The clinical case of denial... ******* "I always wanted to meet you," I spoke to you through my teeth, "Because I wanted to tell you: I hate you, Keanu Reeves." You blinked, and it seemed that my words Have caught you all by surprise. In a few moments you asked me: "You hate me? Care to tell why?" I nodded, "Yes, I will tell you. I'll tell you in great detail, And maybe you'll realize then - You're the source of my greatest pain. You've entered into my life Without an invitation. You provoked many feelings in me, And they became an obsession. Now I don't sleep, I don't eat, I'm thinking of you day and night, You possessed my dreams and illusions, I can't get you out of my mind. So I fervently wished I could meet you," I spoke, my eyes filled with tears, "So I could finally tell you: I hate you, Keanu Reeves." You smiled at me ever so gently, Looking at me from above, And you whispered into my ear, "This 'hate' of yours is called 'love'." “ฉันอยากพบคุณมาตลอดเวลา” ฉันกระซิบถ้อยคำนั้นออกมา “เพื่อจะได้บอกคุณว่า” “ฉันเกลียดคุณ คีอานู รีฟส์” คุณกระพริบตา ดูเหมือนว่า ถ้อยคำเหล่านั้น จะทำให้คุณแปลกใจ และในทันใดนั้น คุณว่า “คุณเกลียดผมหรือ ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ทำไม “ ฉันรับคำ “แน่นอน ฉันจะบอกคุณทุกอย่าง ให้คุณได้รู้ไว้ ว่าคุณเป็นต้นเหตุ ของความเจ็บปวดทั้งปวงของฉัน” “คุณเข้ามาในชีวิต โดยที่ฉัน ไม่ได้เชื้อเชิญ ฉันไม่รู้ตัวว่า คูณจะทำให้ฉันเป็นอย่างนี้ ฉันมีความรู้สึกมากมายที่เกี่ยวกับตัวคุณ และสิ่งนั้น มันคอยหลอกหลอน และครอบงำฉัน” “จนถึงบัดนี้ ฉันไม่กิน ฉันไม่นอน เฝ้าคิดถึงแต่คุณ ทั้งวันทั้งคืน คุณเข้ามา แม้แต่ในความฝัน และในจินตนาการทั้งปวง ฉันขจัดคุณไปไม่ได้สักเสี้ยวนาที” “ฉันจึงขอแค่สักครั้งให้มีวันนี้ ได้พบหน้าคุณ” ฉันพูดทั้งน้ำตา “เพื่อจะบอกคุณจริงๆ สักครั้งว่า ฉันเกลียดคุณ , คีอานู รีฟส์” คุณยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ก้มมองตาฉัน จากเบื้องบนอย่างนั้น และกระซิบข้างหูว่า “ แม่หนูน้อย ความเกลียด ของเธอ มันเรียกว่า รัก” ... ... ... ... หวานๆ ขมๆ ดีเนาะ ใครจะช่วยแปลเป็นกลอนให้มันดีกว่านี้ ลองดูนะ   Create Date : 01 พฤษภาคม 2548     Last Update : 25 เมษายน 2551 12:59:52 น. Counter : 1147 Pageviews.   4 comment Share Tweet

ผู้ชายธรรมดา Keanu " I am a normal guy" Hello magazine [UK] 11/04/2005 พระเอกขวํญใจฮอลลีวูด “ คีอานู รีฟส์ “ ในเรื่องราวที่เราสนใจในตัวเขา เกี่ยวกับความสมบูรณ์แบบ “ผมไม่คิดว่า ผมเป็น คนที่ทำอะไรสมบูรณ์แบบจนไม่มีที่ตินะ” เขาเริ่มบทสนทนา พร้อมกับขยับตัวเล็กน้อยด้วยทีท่าอันไม่ตั้งใจ “ บางคน หมกมุ่นกับเรื่องแบบนี้ ทั้งที่บางที คนพวกนั้นน่ะ ไม่เคยเช็ดโต๊ะที่ตัวเองทำเลอะซะด้วยซ้ำ แต่สำหรับผมไม่หรอกครับ ไม่มากมายขนาดนั้น ผมแค่ลองทำมากเท่าที่ผมทำได้ บางที มันก็แค่ว่า “ เขาปัดมือทั้งสองเข้าหากันคล้ายๆปัดฝุ่น และพิงหลังลงที่พนักเก้าอี้ “คุณก็แค่...ปล่อยมันไป” คีอานู รีฟส์ ขึ้นชื่อในด้านการทำตัวสบายๆ ใครๆก็สามารถจะพบปะเขาได้ตามท้องถนนทั่วไป ซึ่งค่อนข้างจะเป็นเรื่องแปลกที่ดาราค่าตัวขนาดเขาจะเป็นเช่นนี้ และเป็นที่รู้กันว่า ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เขาจะหลบเลี่ยงการตอบคำถามที่เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว และปฏิกิริยาการตอบคำถามเหล่านั้นของเขา มักนำไปสู่ความประหลาดใจเสมอ เพราะมันไม่ใช่การตอบคำถามตามความจริงตรงๆ แต่เป็นลักษณะเฉพาะตัวที่ มักตอบ วกวน ไปได้อย่างไม่ต้องตระเตรียมเสมอ ภาพก้มหน้าอาย หลบคำถามของเขา คือภาพเด็ด บนเวที ในขณะที่เมื่ออยู่ในก๊วนเพื่อนฝูง คีอานูนั้นแสนจะอบอุ่นและเป็นกันเอง แต่สำหรับเพื่อนร่วมงาน ล้วนพูดตรงกันได้เป็นคำสองคำ คือ ไม่ลึกลับ( 'mysterious') ก็ ปริศนา( 'enigmatic.') “ ผมเนี่ยนะ....ปริศนา ? “ เขาระเบิดเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยออกมาดังลั่น “ ผมไม่ลึกลับตรงไหนเลย มีชีวิตธรรมดาจะตาย ไม่ได้โด่งดังอะไร แค่อยากมีชีวิตส่วนตัวธรรมดา ได้อยู่กับเพื่อนๆก็แค่นั้น นี่ถ้าเพื่อนร่วมงาน ของผม เค้าบอกคุณว่า ผมเป็นปริศนาอะไรนะ ...อืม..นั่นก็แปลว่า พวกเขาก็เป็นปริศนาสำหรับผมเหมือนกัน , เราต่างเป็นปริศนาสำหรับ คนที่ไม่รู้จักเรา ไมใช่หรือ” (ถึงแม้ว่า ข่าวลือการหมั้นกับนักแสดงสาว ออทัมน แมคอินทอช ที่ไม่รู้ว่ามีแหล่งข่าวจากไหน และ สาวผมบลอนด์ คู่เดทปารีส ของคีอานู จะยังสร้างความสับสนอยู่ต่อไป แต่เขาก็ยังยืนยันว่า เขาไม่ลึกลับตรงไหนแม้แต่น้อย เป็นที่รู้กันดีว่าหัวข้อเหล่านี้ไม่เคยได้รับคำตอบนั่นคือ ชื่อคู่เดทของเขา, การเสียชีวิตของเพื่อนรัก ริเวอร์ ฟินิกซ์ , การสูญเสียลูกสาวและอดีตคนรัก เจน ซีมส์ และที่ ออกอาการ ฉุนขาดทุกครั้ง คือเมื่อนักข่าวถามถึงอาการของน้องสาวสุดที่รัก คิม รีฟส์ คนที่ใครๆก็รู้ว่า คีอานูรักยิ่งนัก น้องสาวคนที่ทำให้พระเอกร้อยล้าน ขอลากองถ่าย แมทริกซ์ บินข้ามโลกมาเฝ้าอาการของเธอ ในยามลำบากของการต่อสู้โรคร้าย ) เรื่องครอบครัว “ มีบางสิ่งที่ผมได้จากแม่ แม่ผมออกจากบ้านตั้งแต่ยังสาว และวิธีที่เธอดูแลผมกับน้อง น่าสนใจมาก เธอจะสนับสนุน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราเลือก พ่อผมก็ไม่เบาเหมือนกัน” เขาเผยรอยยิ้มเล็กน้อยเมื่อถึงตรงนี้ “ พ่อผมเขามีทางของเขาเอง เราจะทำอะไรได้ ? มันก็ ราวๆนี้และครับ สองด้านของครอบครัวผม ผมว่า นี่เป็นส่วนนึงที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ “ เกี่ยวกับบ้านของเขา “ บ้านผมอยู่ใน แอล เอ ครับ ตอนที่ย้ายเข้าบ้านนั่น ผมกำลังว่างๆจากตารางงานพอดี แล้วก็มาถึงการถ่าย คอนสแทนทิน ที่พอดีมีโลเกชันในเมืองนั้นพอดี ผมก็เลยว่าย้ายไปพักโรงแรมดีกว่า เพราะมีหนังอีกหลายเรื่องถ่ายบริเวณที่ผมต้องใช้เดินทางไปมาระหว่าง บ้านกับกองถ่าย มันสะดวกกว่ากันครับ “ “หลังจากจบงาน ผมชอบอยู่บ้าน การได้กลับไปอยู่บ้านตัวเองตอนเย็นๆนี่ดีมากจริงๆครับ ผมกำลังหัดทำอาหารอยู่ ถึงแม้ตอนนี้ มันจะเป็นแค่แซนด์วิชก็เหอะ “ “สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับบ้านผมก็คือ ครัว ครับ เพื่อนๆผมชอบจะทำอาหารกันที่นั่น (แอะ...เพื่อนหญิงคนไหน เพ่) พวกเขาเข้าครัว ผมล้างชาม แล้วเราก็ลองชิมฝีมือเรา เปิดไวน์บอร์โดว์ดื่มกัน ยอดเยี่ยมจริงๆ” เกี่ยวกับ ความโรมานซ์ “ผมไม่ใช่พวกรักสันโดษที่ชอบอยู่คนเดียวอะไรแบบนั้น แล้วก็ไม่ใช่พวกชอบเก็บตัวด้วย ส่วนเรื่องโรแมนซ์คืออะไรนั่นหรือ ...อืม...เดี๋ยวนะ สิ่งที่ผมนึกออกตอนนี้ก็คือ มันน่ารักมากเลยที่จะได้ใช้เวลาตอนเช้ากับใครสักคนบนเตียง แล้วก็อาเท้าเขี่ยกันเล่นใต้ผ้าห่ม อะไรแบบนั้น มองตากัน ใช้เวลา พูดคุย หัวเราะกันบนเตียง ช่าย เวลาแบบนั้นละ ยอดเยี่ยมจริงๆ” คีอานูยิ้มให้เรา และในวินาทีนั้น เราเห็น แว่บนึงของเขา ชายหนุ่มเงียบขรึมผู้แสนอบอุ่น เบื้องหลังใบหน้าหล่อเหลาราวงานศิลปะชิ้นเอก คัด และตัดจาก Hollywood Hearthrob and leading man KEANU REEVES The enimatic actor tells why he doesn't see himself as a man of mystery thanks to Sandy and Margarete for the transcription เปลี่ยนเป็นภาษาไทย และ ใส่ไข่ โดย แองจี อีเลเวน   Create Date : 27 เมษายน 2548     Last Update : 10 มกราคม 2549 9:07:09 น. Counter : 1482 Pageviews.   13 comment Share Tweet

“ I don’t have a celebrity chart “ “ I don’t have a celebrity chart “ Flair ( Belgium) Feb 24,2005 หลังจากทำให้เราหลงรักจาก Something Gotta Give คีอานูกลับไปโชว์ dark side ในหนังไซไฟ นักปราบผี คอนสแทนทิน ผู้ช่วยโลกจากการบุกรุกของปีศาจ Q คุณได้รับการติดต่อให้พิจารณา “คอนสแทนทิน”ขณะที่กำลังถ่าย The Matrix A ช่ายครับ มันราวๆปีนึง หลังจาก แมทริกซ แรกล่ะครับ บทเขียนดีมาก แล้ว คาแรกเตอร ก็น่าสนใจ ผมชอบ บุคลิกหลงตัวเองและความขี้ประชดของเค้า ถึงแม้ในส่วนลึกแล้ว เค้าจะเป็นคนที่ใจกว้างมากก็ตาม Q และ คอนสแทนทิน สูบบุหรี่ หนักมากนี่ A แน่นอนครับ บางวัน มันก็ทำผม แย่เหมือนกัน ...( pretty hard for me นี่จะบอกว่า ชอบหรือไม่ชอบคะพี่) Q คุณสูบบุหรี่ไปกี่แพคกันล่ะ ตอนถ่ายหนังเรื่องนี้น่ะ A มันก็ขึ้นกับฉากล่ะครับ น่าจะราวๆ วันละแพ็คละมัง ผมว่า Q แล้วคุณเลิกบุหรี่รึยัง หลังจากเสร็จงานนี้อะ Aยังเลยครับ.... มันก็บางครั้งล่ะนะ ที่ผมว่าจะหยุด แต่พอ มัน แบบว่า เอาน่า แค่อีกสักมวน แบบนั้นล่ะฮะ Q คุณเคยบอกในงานแถลงข่าวนี่ ว่า คอนสแทนทิน คล้ายกับตัวจริงคุณมาก A ก็ เค้ามีด้านเหมือนผมนะ คืออารมณ์ขันร้ายๆในโชคชะตาตัวเองอะ ถึงแม้เค้าจะมีอนาคต รออยู่ในนรกก็เหอะ เค้าไม่กลัวที่จะต้องจัดการกับปีศาจ ผมชอบไอ้ความโกรธที่สะสมในตัวเค้า เค้าเกลียดสิ่งที่เกิดกับตัวเอง มันทำให้ผมนึกถึงชีวิตวัยรุ่นของผมเองในโรงรียนมัธยม Q ในหนังนั่น คอนสแทนทินพูดว่า พระเจ้ามีแผนสำหรับเราทุกคน คุณคิดว่า มันเป็นงั้นไหม Aบางที ผมก็อ่านคอลัมน์ดูดวงตอนเช้าเหมือนกัน แล้วตอนที่ ดวงมันบอกว่าจะเป็นยังงั้นยังงี้ ผมก็อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่ ชีวิตมันก็มี ทั้งเวลาดี เวลาแย่ ล่ะนะ แล้วพอดีผมก็ไม่เคยหาเหตุผลอะไรหรอก ว่าเพราะอะไรมันถึงเกิดเรืองนั้นขึ้น Q แล้วเรื่องเวทมนต์ลึกลับล่ะ คุณคิดว่าไง A อึมมมมมมมมมม......ผมเชื่อเรื่องผีนะ ผมเคยเห็นผี Q หา???? Aผมเห็นผีครั้งแรกตอนอายุ 5 ขวบล่ะ แล้วมาเจออีกที ตอนกินข้าวกับเพื่อนที่ ออสติน เท็กซัส เราสองคนรู้สึกได้เลย มันเหมือนกับตอนที่ผมเป็นเด็กเลยนะ ตัวแรกนั่น ผมนั่งอยู่บนเตียงข้างๆน้องสาวผมที่กำลังหลับ แล้วเรามีพี่เลี้ยงอยู่ด้วยนะ ตอนนั้นน่ะ แล้วอยู่ดีๆ ก็มี ร่างที่มีผ้าคลุมโผล่มา ไม่มีขาหรือตัวนะ มันเคลื่อนไปมาสักพักก็หายไป Qแล้วคุณกลัวรึเปล่า Aม่าย อะ แต่พี่เลี้ยงผมดิ หน้าตายังกะโดนระเบิด โอ๊ย ผมเจอเยอะนี่ คนเห็นผีน่ะ Q ชีวิตคุณตอนนี้เป็นไง สวยงามดีไหม A โอ้ แน่นอนดิ คุณไม่คิดงั้นหรือ? Q เอ้อ..เอางี้ดีกว่า คุณเคยขี่มอเตอร์ไซค์ที่ ซอยมัลโฮแลนด์ โดยไม่ใส่หมวกกันน็อค (อย่าเลียนแบบนะคะเด็กๆ) A ก็ ผมทำตอนตำรวจไม่อยู่น่ะ ใครๆก็ไปทั้งนั้น แต่มันเสี่ยงโดนตำรวจจับนะ ผมไม่ได้บอกว่าผมจะไม่โดนจับเพราะเป็นดารานะ Q แม้ว่าตอนนี้ คุณจะมี เพาเวอร์ ในฮอลลีวูดงั้นหรือ Aเฮ้ คุณเรียกว่า เพาเวอร์เลยหรือ ผมไม่เห็นคิดงั้น คนที่ วอร์เนอร์ บราเธอร์ ชอบผมก็แค่นั้น แล้วงาน คอนสแทนทินก็ติดต่อเข้ามา ผมสนใจ แล้วงานก็เดิน ก็แค่นั้น Q ความสำเร็จของปรากฏการณ แมทริกซ ล่ะ คุณมีความกดดันจากความคาดหวังของแฟนๆบ้างไหม Aนั่นเป็นสิ่งที่ โพรดิวเซอร์หวังน่ะ แต่สำหรับผมเอง กระแสตอบรับเป็นเรื่องรองลงไป ภาพยนตร์เป็นสิ่งที่พาคุณไปจากโลกแห่งความจริง ถ้าหนังทำมาดี ดูสนุก แล้วมันทำให้คุณได้แง่คิดบางอย่าง นั่นต่างหากที่ผมสนใจในภาพยนตร์สักเรื่องนึง Q 11 ปีจาก “สปีด” คุณกำลังจะกลับมาร่วมงานอีกครั้งกับ แซนดรา บุลลอก A ใช่ฮะ หนังเรื่อง อิล แมร์ กำกับโดย ผู้กำกับอาร์เจนตินา อเลจานโดร อเกรซี ผมกำลังหางานทำกับแซนดราอยู่เลย เราติดต่อกันตลอดมาอยู่แล้ว และผมก็คิดว่า เราจะสร้างคู่ที่น่ารักขึ้นมา Q รู้สึกคุณจะภักดีกับดาราหญิงที่เคยร่วมงานกันมาทั้งนั้นเลยนะ A ครับ ใช่ ผมทำงานหลายครั้งกับ แชลิส เธรอน ราเชล ไวซ... Q มันเป็นเพราะ คุณไม่ยอมจูบกับดาราคนอื่นรึเปล่า A เฮ้ย ไม่นะ (ปฏิเสธเสียง โน ยาวมากก) ไม่ใช่ยังงั้น (ยิ้ม) คือผม ไม่ใช่คนตัดสินใจน่ะ แซนดรา อยู่ในโพรเจ็คนี้มาก่อนผม ผมไม่ได้มีสิทธิเลือกว่าจะเล่นกับใคร Q คุณ ยังคิดวิจารณ์การทำงานของตัวเองอยู่รึเปล่า Aบางที ผมก็ตื่นกลางดึก มาคิดเรื่องการแสดงบางฉากให้ดีกว่าเดิมเหมือนกัน ผมพยายามเรียนรู้จากความผิดพลาดครับ Q คุณค่อนข้างปกป้องชีวิตส่วนตัวเป็นพิเศษนะ A ผมไม่คิดว่า เป็นพิเศษนะ ก็แค่ พยายามจะดำรงชีวิตผมน่ะ ( I just try to live my life) Q คุณปฏิเสธว่า คุณไม่ใช่ดาราใหญ่ A ผมไม่ใช่ (เน้น) ดาราใหญ่แน่นอน Q ทั้งๆที่ แมทริกซ ประสบความสำเร็จขนาดนั้นอะนะ A ช่ายยยย แต่ ผมไม่แบกหนังทั้งเรื่องไว้บนบ่าหรอก ผมก็ไม่รู้จะทำไงกะความสำเร็จนั้นเหมือนกัน มันแสนดีที่จะเป็นส่วนนึงของหนัง แต่ นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ผมเลือกทำงานนี้ สิ่งที่ผมสนใจ คือโอกาสที่จะแสดงหนังที่ดีต่อไปต่างหาก นี่มันงานผมนะ สิ่งที่ผมรักจะทำน่ะ .............. ข้อมูลแถม คีอานู รีฟส์ มีความสัมพันธืดีกับนักแสดงหญิงที่ร่วมงานกับเขาตลอดมา ไม่ว่า แชลิส แซนดรา ราเชล หรือแม้แต่ ทิลดา สวินตัน ( แกเบรียล ในคอนสแทนทิน และ ธัมป ซัคเกอร) ความสำเร็จถล่มทลายของแมทริกซ น่าจะเปลี่ยนนักแสดงบางคนได้ แต่ไม่ใช่ คีอานู เขายังคงติดดิน และถ่อมตัวเหมือนเคยไม่เปลี่ยนไปเลย แม้วัยจะเพิ่มขึ้น และฉลาดตอบคำถามขึ้นก็ตาม ชีวิตส่วนตัวก็ยังเป็นของส่วนตัวของเขาอยู่อย่างนั้น คุณเป็นแฟน ราเชล ไวซ์ รึเปล่า อ่านนี่ซะ “ ชั้นพยายามจะจูบเขาตั้ง 3 ทีแน่ะ ในฉากนะ” (หัวเราะ) “ไม่สำเร็จอะ เค้าพวกรักสันโดษ (loner) เราจะทำไงได้ล่ะ”   Create Date : 22 เมษายน 2548     Last Update : 10 มกราคม 2549 9:03:10 น. Counter : 1338 Pageviews.   8 comment Share Tweet

• ไร้ระเบียบ
• ข่าว
• บทความ
• งาน
• คลิป
• ไม่เกี่ยวกับเขา

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com