Autumn Reeves Hit Parade ( Australia) - July 20, 2006 Writes :Claire Sutherland แปล : aNGy11 Keanu Reeves : วีรบุรุษแมทริกซ์ ,สัญลักษณ์ความแข็ง ,นักแสดงเกรดเอ , พี่เลี้ยงเด็ก ไม่ว่า คำนิยามข้างต้นจะดูไม่เข้ากันเช่นไร คีอานูก็ยอมรับว่า ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา หลังจากตระเวณวุ่นวายไปกับการโปรโมตหนังเรื่องล่าสุดชื่อ The Lake House ในหลายประเทศ คีอานู รีฟส์กำลังมีภาระกิจที่สำคัญไม้แพ้กัน ในขณะที่เจียดเวลาให้สัมภาษณ์ฉันอยู่ที่นี่ ในนิวยอร์ก นั่นคือ การดูแลลูกสาววัย 14 ปีของเพื่อนสนิทเป็นเวลา 10 วัน "เราสนุกกันมาก ผมพาหลานไปดูหนัง ไปกินข้าว เธอปิดเทอมหน้าร้อน แล้วก็เลยแวะมาหาเพื่อนที่นี่ ผมก็เลยต้องพาหลานกับเพื่อนหลานไปดูละครอีก โอ๊ย กิจกรรมเค้าเยอะแยะนะสาวๆเนี่ย นี่ก็ยังให้ผมนึก ว่าจะไปกินข้าวเย็นกันที่ไหนดี" ไม่น่าเชื่อว่า การเป็นไกด์พาลูกสาวเพื่อนเที่ยวในนิวยอร์กจะเป็นสิ่งที่"คนไม่ชอบออกสังคม"อย่างเขาทำได้ ตอนที่อยู่ที่ซิดนีย์ เพื่อถ่ายทำ เดอะแมทริกซ์ หลายปีก่อน พวกเราชาวออสซี ต่างรู้ดีว่า เราอาจพบคีอานูขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเมืองขณะว่างจากการถ่ายทำโดยลำพัง ไม่มีทั้งบอดีการ์ดและผู้ติดตามอารักขาความปลอดภัย "ผมว่า การไปไหนมาไหนคนเดียว จะมีคนสังเกตเห็นเราได้น้อยกว่าการยกกันไปเป็นขบวน เมื่อก่อนโน้น ผมก็เคยใช้บริการจากการ์ดเหมือนกัน มันก็ดีนะ มีคนคอยระวังให้ โดยเฉพาะช่วงเวลาออกงาน แต่ถ้าเป็นชีวิตปกติ ผมชอบไปไหนมาไหนเองมากกว่า ผมก็คนธรรมดาเหมือนคนอื่น" "วันนี้ ตอนกินข้าวเที่ยง มีตากล้องมาป้วนเปี้ยนอยู่สองสามคนที่นั่น แล้วก็ทำท่าแบบว่า ยังกะมีอะไรติดก้นพวกเขาอยู่อย่างงั้นล่ะ ตลกมะ คุณไปกินข้าว แต่ดันมีกล้องรอถ่าย ทำยังกะว่า ผมกำลังจะทำอะไรผิดสักอย่าง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำไงดี ก็เลยทำท่าบอกว่า "เฮ้ พรรคพวก ขออั๊วะกินข้าวให้เป็นสุขซะก่อนได้ไหม แล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกันนะ" แต่ว่า พวกเขาก็ไม่แคร์อยู่ดี ผมอยากเดินบนถนนได้เหมือนคนปกติจัง" คีอานูผู้ทำให้คำว่า Dude ! กลายเป็นวลีฮิตของอเมริกาถูกขนานนามว่า เจ้าชายปริศนาตลอดเวลาการทำงานที่ยาวนานกว่ายี่สิบปีของเขาในฮอลลีวูด และแม้ว่าจะเป็นดาราระดับ หัวแถว แต่เขาก็ไม่นิยมการปรากฏตัวบนพรมแดง ไม่ชอบรับสิ่งของที่มีผู้หยิบยื่นให้ ปฏิเสธการป้อยอเอาใจ ไม่เปิดเผยชีวิตรักให้ใครทราบ และแม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่เคยแต่งงาน แม้ข้อมูลที่รู้กันทั่วไปจะมีความน่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาการป่วยหนักของน้องสาว หรือการจากไปของเพื่อนหญิงคนสนิทจากอุบัติเหตุรถชน สิ่งเหล่านี้ดาราบางคน ใช้เป็นสื่อให้แฟนๆเข้าถึงและเห็นใจอันนำไปสู่การเป็นขวัญใจปวงชน แต่คีอานู รีฟส์ไม่ชอบพูดถึงมัน เขาสรุปง่ายๆเพียงว่า "ผมไม่ชอบเศร้าออกอากาศ" เมื่อไรก็ตามที่เขาไม่อยากตอบคำถาม เขาจะใช้วิธี ทำเหมือนร่วมมือเป็นอย่างดี ที่จะให้คำตอบ แต่เป็นคำตอบที่ไม่มีข้อมูลชัดเจนอะไรเลย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราถามเขาเมื่อหลายปีก่อน ว่าเขาได้บทของหนัง เดอะแมทริกซ์มาอ่านหรือยังเพื่อให้แฟนๆได้แน่ใจว่า หนังจะถ่ายทำแน่ๆ เขาก็บอกเพียงแต่ว่า "ยังครับ" เมื่อกดดันต่อไปจึงเพิ่มคำตอบอีกนิดว่า "มันก็ อาจเป็นไปได้ที่เค้าจะเริ่มทำกันไปบางส่วนแล้ว" ถามเขาว่า เขาสามารถจะพูดได้ไหมว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่คนบนโลกนี้ ที่เข้าใจเนื้อความอันสับสนของโลกจำลองเดอะแมทริกซ์ ซึ่งเป็นพล็อตของหนังอย่างแจ่มแจ้ง เขาก็หัวเราะแล้วตอบว่า "แม้ผมจะไม่ถึงกับเข้าใจมัน แต่ผมก็มองมันออกละน่า" เช่นเดียวกับ ปริศนาของเดอะแมทริกซ์ ก็คือ ความรักที่เกิดขึ้นที่ตู้จดหมายข้างบ้านริมทะเลสาบของหนังเรื่องใหม่The Lake House หนังโรแมนติคดรามาที่สร้างจากต้นฉบับเกาหลี เกี่ยวกับการนำคนสองคนที่อยู่คนละทิศทางมาพบรักกัน หลังจากการเขียนจดหมายโต้ตอบกัน ซึ่งเขาแสดงคู่กับ Sandra Bullock คีอานูกล่าวว่า เขายอมรับ ปาฏิหารย์ในหนังได้มากกว่าเพื่อนร่วมแสดงที่เอาแต่หาเหตุผลสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ "แซนดราไปค้นข้อมูลใหญ่เลย อาจเป็นเพราะบทเธอเป็นหมอด้วยมั้ง พอดีว่า บทของผมเค้ายอมรับเรื่องลี้ลับอยู่แล้ว ผมจึงทำใจเชื่อตามบทที่ผมเล่นไปซะเลย" "มันอาจจะแปลกๆ ถ้ามองหนังเรื่องนี้แบบนิยายทั่วๆไป แต่ถ้าดูแบบนิทาน การที่คนสองคนมารักกันโดยมีสิ่งที่อธิบายไม่ได้เป็นเครื่องชักนำ มันเป็นเสน่ห์ เราต่างสงสัยว่า ทำไมเราต้องมาพบกัน ทำไมเราถึงรักกัน ความรักมันก็เป็นแบบนี้ละครับ ผมว่า ความรักมันไม่มีเหตุผลอะไรมาอธิบายหรอก ถ้ามันจะเกิดมันก็เกิด" สองคนในหนังพบรักกันเพราะจดหมาย ซึ่ง รีฟส์บอกว่า เป็นสิ่งที่เขายังใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน "ผมชอบเขียน แล้วผมก็เลือกที่จะเขียนจดหมาย ผมว่า วินาทีที่คุณได้รับซองจดหมาย มันปลื้ม จนแบบว่า น่าเสียดายนะ ถ้าความรู้สึกนี้จะหายไปเพราะพวกเราเปลี่ยนวิถีชีวิต" "จดหมายมันเป็นของที่ไม่ง้อแบตเตอรี ไม่ต้องใส่ถ่าน คุณสามารถดมกลิ่นกระดาษ ดูลายมือแล้วนึกถึงคนที่เขาเขียนหาคุณ สัมผัสมัน อ่านมัน มันคือภาพจำลองของคนที่คุณคิดถึง คือสิ่งที่เขาสื่อสารหาคุณ" The Lake House ในแบบภาษาอังกฤษ สร้างภายใต้การดูแลของผู้กำกับอาร์เจนตินา Alejandro Agresti ผู้ดัดแปลงวิธีถ่ายทำได้อย่างกระชับและตรงจุด "ผู้กำกับคนนี้ไม่เหมือนคนอื่นที่ผมเคยพบ เขาไม่ได้ถ่ายในแบบ master, medium แล้ว close-ups เขารู้ว่า ฉากไหนใช้แบบไหน ไม่มีต้องถ่ายหลายแบบแล้วไปเลือกเอาที่หลัง ตอนแรกผมก็งงเหมือนกัน กลัวว่าเดี๋ยวทีหลังต้องมาถ่ายซ่อม แต่ว่า ไม่ต้องเลย เขารู้ว่าเขาทำอะไร มันเหมือนกับว่า เขามีหนังเรื่องนี้อยู่ในหัวหมดแล้ว แล้วก็แค่ทำให้เป็นไปตามนั้นแค่นั้นเอง" แซนดรากับคีอานูพบกันครั้งแรกใน Speed และเป็นเพื่อนกันตั้งแต่นั้น แม้แซนดราจะถูกชักชวนให้เล่นภาคสอง ในขณะที่คีอานูปฏิเสธ ถามเขาว่า แซนดราบ่นว่าเขาไม่เตือนเธอไม่ให้เล่น สปีดภาคสอง เขาหัวเราะอีกครั้งก่อนตอบว่า"มันไม่เกี่ยวหรอกว่า ผมจะพูดอะไร" แม้โปรดิวเซอร์หนังเรื่องนั้นจะเสนอเงินจำนวนมากให้คีอานู แต่นั่นก็ยังดึงเขาไปเล่นหนังเรื่องนั้นไม่ได้ เงินไม่ใช่คำตอบสำหรับเขา ดังที่รู้กันว่าคีอานูเคยแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งที่ได้จากหนังภาคต่อจำนวน 122 ล้านให้ฝ่ายเสื้อผ้าและสเปเชียลเอฟเฟ็ก หลังจากที่ซื้อมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ให้สตันท์แมน 12 คนไปแล้ว บทที่กำลังศึกษาอยู่ตอนนี้ มีชิ้นหนึ่งที่Keanuเขียนขึ้นเอง แต่เขายังไม่มีแผนที่จะเป็นโปรดิวเซอร์ตามอย่างแซนดรา ที่จริงแล้ว เขาบอกว่า หลักง่ายๆที่เขาใช้ประจำก็คือ "เล่นตามบท ทำงานกับผู้กำกับให้ราบรื่น แล้วก็อธิษฐานให้โชคดีเข้าไว้" My comment Sensitive Guy อธิบายเรื่องรักได้ลึกลับและจริงเป็นที่สุด เหตุผลมันสำคัญตรงไหนถ้าคนจะรักกันเนอะ   Create Date : 19 กันยายน 2549     Last Update : 19 กันยายน 2549 13:08:13 น. Counter : 2357 Pageviews.   17 comment Share Tweet

Keanu Reeves Scans His Occupation With Cole Smithey By Cole Smithey แปลโดย แองจี 1-1 Keanu Reeves ได้ชื่อว่าเป็นดาราค่าตัวแพงในธุรกิจของHollywoodทันทีที่ได้รับค่าตอบแทนจากMatrix sequels รายรับรวม จากส่วนแบ่ง 15 %ของ 206 ล้านดอลลาร์ที่หนังทำได้จากการเข้าฉายในอเมริกา กับ ส่วนแบ่งที่มาจากการขาย video game, DVDs และกำไรจากลิขสิทธิ์ที่นำมาฉายทาง TVอีกเป็นระยะๆ มีมูลค่าเป็นจำนวนไม่น้อย และทั้งหมดนั้น ทำให้บางคนถึงกับคาดเดาว่า ตัวเลขในบัญชีธนาคารของเขา คงจะไล่ตามหลังดาราใหญ่อย่าง Tom Cruise มาติดๆ และที่สำคัญก็คือ ชื่อของเขายังคงขายได้ในธุรกิจนี้อีกด้วย คีอานูเริ่มต้นอาชีพนี้ด้วยหนังหลายเรื่อง ในบทที่หลากหลาย อาทิเช่น"River’s Edge," "Bill & Ted’s Excellent Adventure," และ "My Own Private Idaho," และจนถึงปัจจุบัน เขาก็ยังคงความคิดที่จะไม่ยึดติดกับคาแรกเตอร์ใดเพียงอย่างเดียว อยู่ต่อไป ดังผลงานที่ทยอยออกมาให้ชมกันในปีนี้ที่มีลักษณะ แตกต่างกันสุดขั้ว "A Scanner Darkly"เป็นไซไฟโลกอนาคตประชดสังคม ส่วน"The Lake House."เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติก คีอานูมาร่วมงานCannes Film Festival กับ ผกก. "Scanner" Richard Linklater และเพื่อนร่วมงานRobert Downey Jr. เพื่อเปิดตัวหนังที่เล่าถึง สงครามต่อต้านยาเสพติดของอเมริกา เป็นเรื่องที่เล่าถึงโลกในอนาคตที่รัฐบาล ใช้วิธีการล้างสมองสมาชิกในสังคม ให้ยอมตกเป็นทาสการปกครอง จนทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องถูกตรวจตราและบันทึกไว้ จนอาจกล่าวได้ว่า เป็นโลกของความหวาดระแวงโดยแท้ หนังถูกถ่ายทอดด้วยเทคนิค Rotoscope animation ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ของLinklater แต่บทของคีอานู ซึ่งแสดงยาก ก็ถูกตีความโดยตัวเขาเอง จนสามารถถ่ายทอดชิ้นเล็กชิ้นน้อยของบุคคลที่มีบุคลิกภาพแตกแยก ได้อย่างแหลมคมและเสียดสี อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนักแสดงผู้นี้ CS:คุณชอบวิธีเหน็บแนมฝ่ายปกครองของPhilip K. Dickตรงไหน KR:ผมชอบthemeที่ ทั้งรัฐบาลและพวกนักธุรกิจ สมคบคิดกันสร้างสถานการ์ณที่ครอบงำคน เป็นมุมมองของพวกสัตว์ป่าที่ไล่ล่าสัตว์ที่เล็กกว่า เวลาที่เรารู้สึกว่า รัฐบาลไม่สน ว่าเราคิดยังไง มันก็เลยทำให้ ตัวละครที่ผมเล่น หาช่องว่าง ที่จะได้ประโยชน์ใส่ตัวในโลกแห่งความหวาดระแวง โดยการคิดว่า "เฮ้ จะไปสน มันทำไม อะไรจะเกิด ก็เกิด" ผมชอบแนวคิด ที่ว่า ชีวิตเรามันมีคนมาตรวจตรา มีคนจับผิดว่าเราทำอะไรอยู่ แล้วผมชอบที่ว่า ถึงแม้ว่าตัวละครที่ผมเล่นจะรู้ว่า เขาเองก็ต้องโดนจับตามองอยู่นี่ละ เขาก็ยังทำสิ่งที่เขาทำ เพราะว่า "ผมหวังว่า เจ้าสแกนเนอร์ มันจะเห็นทั้งที่ชัดและที่มืด เพราะผมก็คงไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า" คุณพอนึกออกมะ เขาเองยังท้าทายชีวิตเขาเหมือนกัน CS:เจ้าตัวละครชื่อ Bob Arctorที่คุณเล่น นี่มันเป็นใคร ในหนังเรื่องนี้ล่ะ KR:เขาก็เป็น ลูกแกะที่โดนบูชายัณไงล่ะ Bob Arctor น่ะ เป็น จนท.จับยาเสพติด นอกเครื่องแบบ ให้ สนง.ตำรวจของOrange County แต่เขาเองกลับติดยา ที่เรียกว่า Substance D ตอนขายยา เขาจะชื่อFred แล้วก็เวรกรรมซะจริงที่ ยามันทำลายสมองของเขา จนตัวเองมีสองบุคลิก คือตอนเป็นบ็อบ ก็ตามจับเฟรด ตอนเป็นเฟรด ก็หนีบ็อบ จะว่าไป เขาก็โดนปั่นหัวโดยคนอื่นนั่นแหละ จนกว่าจะพบจุดจบของทั้งสองบุคลิก ของตัวเอง CS:คุณนึกยังไง ถึงอยากเล่นบทนำในหนังแปลกๆแบบนี้เนี่ย KR:แปลกตรงไหนกัน นี่มันงานชิ้นเอกนะ "A Scanner Darkly" เหมาะที่สุดแล้วที่จะเป็นหนังของ Richard Linklater แล้วพวกนักแสดงอย่างพวกเรา ก็ถือว่า เป็นโอกาสที่เยี่ยมยอด CS:เทียบกับหนังที่มาร่วมงานในเทศกาลหนังเมืองคานส์ เรื่องอื่นๆแล้ว คุณว่า คุณกับ"A Scanner Darkly"มีดีกว่ายังไง KR:งานที่คานส์ เป็นงานประเพณีของคนทำหนัง มันมีงานทุกสไตล์ที่นี่ การที่ผมได้ทำงานที่สามารถมาโชว์ที่คานส์ได้ ผมถือว่า เป็นเกียรติของผม มันไม่รู้จะอธิบายยังไงที่ได้กระทบไหล่ศิลปินที่มาที่นี่ ทุกงานภาพยนตร์มันมีความงดงามของตัวเอง เพราะคุณจะได้รู้สึกว่า พวกเราเท่าเทียมกัน CS:ที่คุณเล่ามานี่ ฟังคล้ายมุมมองของคนยุโรปเลยนะ หรือเป็นเพราะว่า คุณมีเลือดอังกฤษ KR:เลือดอังกฤษของผม มันไม่ธรรมดาหรอกนะ แต่ผมชอบยุโรปมาก ไม่รู้ว่ามันมาได้ไงทางพันธุกรรม แต่ผมก็ชอบสิ่งที่ผมเป็นอยู่ CS:ความสำเร็จขั้นมโหฬารจาก หนังชุด"Matrix" ทำให้อาชีพคุณเปลี่ยนไปเลยไหม KR:มันทำให้ผมไปอยู่ในที่ ที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ มันก็ดีไปอย่างหนึ่งนะ เพราะว่า เท่ากับว่า มันทำให้ผมได้อยู่ในที่ ที่ไม่เคยหวังว่าจะอยู่ CS:คุณกำลังมีหนังเรื่อง "The Lake House" กับเพื่อนเก่า Sandra Bullock ด้วยนี่นา ทำไมถึงกลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้ง KR:จริงๆแล้ว คนที่คิดจะทำหนังเรื่องนี้ ติดต่อไปที่แซนดราก่อน แล้วเธอก็ตกลง ซึ่งก็เร็วมาก ต่อมา ผมก็ไปพบ ผู้กำกับสองสามครั้ง แล้วในครั้งที่สอง แกก็ถามผมว่า "แซนดราว่าไงมั่ง" ผมก็ถึงได้ "เหรอ แซนดีเล่นเหรอ" นั่นแหละ แล้วเราก็มาทำงานด้วยกัน CS:อะไรคือหลักปรัชญาในการทำงานในวงการแสดงของคุณ KR:สำหรับการแสดง ผมหวังที่สุดว่า หนังที่ผมเล่นมันจะดูสนุก แต่ต้องมีมุมมองที่ชวนคิดให้กับคนที่ได้ดู หรือว่า แม้แต่ตัวผมเองที่เป็นคนเล่น ให้ได้แง่คิดทางบวกที่เป็นประโยชน์กลับไปด้วย CS:คุณยังคงเล่นดนตรีไหม KR:ไม่ได้เล่นแล้วครับ วงที่ผมเล่นเขาจะไปทัวร์ แต่ผมวุ่นวายกับการแสดง ก็เลยต้องเลิก CS:คุณเคยสนใจจะกำกับหนังไหม KR:ไม่รู้สิเรื่องนั้น เคยคิดเล่นๆเหมือนกัน แต่มันน่าจะยากนะ แต่ก็น่าทำ ผมไม่สามารถตอบได้ว่า yes หรือ no สำหรับในตอนนี้ CS:แล้วคิดจะเล่นละครเวทีอีกไหม KR:ผมไม่ได้เล่นละครเวทีมาตั้งสิบปีแล้วนะ นึกอยากทำอยู่เหมือนกัน บางทีผมอาจไปหาละครเวทีสมัยใหม่เล่นบ้างก็ดีนะ ผมอยากแสดง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ได้ ระหว่าง ละครShakespeare หรือไม่ก็ พวกบทละครสมัยใหม่ CS:ในเวลาว่างคุณทำอะไร KR:ผมไปขี่รถมอเตอร์ไซค์ แล้วก็อ่านหนังสือ นี่เพิ่งจะอ่านของThomas Pynchonเรื่อง "Vineland."จบ มันช่างเป็นจังหวะดีจริงๆ ที่อ่านเล่มนี้ตอนถ่ายหนังเรื่องสแกนเนอร์พอดี เพราะมันพูดถึงเรื่องคนที่มีบุคลิกแบบเดียวกันเลย -การต่อสู้ของคนกับสังคม นิยายเรื่องนี้เขียนตอนปี1977,มันก็เลยเหมือนได้มองโลกขณะที่ Philip K. Dickเขียนเรื่องที่ผมเล่น แล้วหนังสือเล่มที่กำลังอ่านก็ของGraham Greene อย่างอื่นก็มี ผมเพิ่งอ่าน"The Quiet American" กับ "A Burnt-Out Case."ยังมี บางเรื่องของFitzgerald – "This Side of Paradise," "Tender Is The Night," แล้วก็ "The Pat Hobby Stories" – ทุกเรื่อง ดีๆทั้งนั้น CS:หนังสืออะไรที่คุณอ่านตอนยังเด็ก KR: "Brave New World"กับ "Animal Farm." แต่อ่าน"Huckleberry Finn" ไม่เคยจบ – ผมทนไม่ไหว แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ดีมากก็ตาม แต่ตอนนั้น ผมไม่ชอบมันเลย และที่ผมอ่านแน่นอนก็คือ "Romeo and Juliet." CS:คุณยังติดตาม Ice Hockey’s World Cup หรือเปล่า KR:ตามสิ สวีเดนได้แชมป์นะ ใช่ไหม? CS:คุณใช้ชีวิตเป็นยิปซีมาซะนาน จนป่านนี้แล้ว คิดจะหยุดอยู่กับที่รึยัง KR:เฮ้ ผมมีบ้านแล้วนะ สองสามปีที่ผ่านมานี่ผมพิจารณาหลายอย่างด้วยความสนใจกว่าเดิม แล้วหลังจาก หามาแสนนาน ผมก็หาบ้านที่ผมรักได้แล้ว (ใช้สำเนียงยิว พูดว่า) "อู เวลาแก่แล้วก็ต้องหาที่ลงเป็นธรรมดา" My comment อยากอยู่กับอิตานักข่าวนี่ตอนเค้าคุยกะพี่คีจัง ท่าทางจะสนุก เนอะ ว่ามะ ชอบตอนที่แกพูดถึง สถานภาพหลังเล่น เดอะแมทริกซ์จัง ฟังดูแล้ว มัน....แหม ไม่หลงชื่อเสียงเงินทองซะเลยแต่ก็ให้คุณค่าไม่ดูถูกดีด้วย เอ๊ะ รึเราคิดไปเองหว่า จะว่าไป คุณคีอานู แกก็แทงกั๊กเสมอมาอยู่แล้วไม่ว่าจะถามอะไร เฮ้อ หลงมันต่อไปแองจี ฮ่าาา   Create Date : 14 กันยายน 2549     Last Update : 14 กันยายน 2549 11:04:44 น. Counter : 1310 Pageviews.   21 comment Share Tweet

Cleo Singapore : Sandra & Keanu นิตยสารคลีโอ ที่สิงคโปร์ ลงบทความของสองดาราบ้านริมทะเลสาบ น่ารักกุ๊กกิ๊กซะไม่มี แต่ว่า ส่วนใหญ่ ยัยแซนดราจะเป็นคนตอบ เพราะว่า นายคี แกไม่ค่อยจะอยาก"เอื้อนเอ่ยวจี"กับนักข่าวอยู่แล้ว เฮ้อ ! ฉะนั้น ! เราจะแปลเฉพาะคำถามที่คุณพี่สุดหล่อตอบ ใครเป็นแฟนแซนดรา ไปหาอ่านเอาเองนะยะ หมายเหตุ ส่วนใหญ่ไอ้ที่อยู่ในวงเล็บ(..) คืออารมณ์ อิแองจี คนแปลนะจ๊ะ ------ คลีโอสิงคโปร์ลงทุนบินนานนน 35 ชั่วโมงเพียงเพื่อคุยกับสองดาราจาก เดอะเลคเฮ้าส์ เพียง 45 นาที และเราขอยืนยันว่าความลำบากทั้งมวลเมื่อแลกกับการได้เห็นคีอานูอายจนแก้มแดงสักครั้งก็คุ้มค่ากับอาการ เจ็ทแล็กแล้ววววว Q : เราเริ่มคุยเรื่องเบาๆก่อนดีกว่านะ , คีอานู คุณชอบให้ผู้หญิงของคุณใส่อะไร K : อะไรก็ได้ที่ทำให้เธอมีความสุข ไม่ว่าสไตล์ของเธอจะเป็นแบบไหน ไม่ว่าอะไรที่เธอต้องการ และเมื่อเราได้พบกัน แล้ว.. S : แล้วในที่สุด เธอก็ต้องถอดมันออก(เพื่อ..กะคุณ)อยู่ดี ใช่ไหมล่ะ ฮี่ๆ คีอานูเค้ามีรสนิยมดีเรื่องเสื้อผ้าค่ะ Q : คุณหมายถึงรสนิยมสำหรับผู้หญิงของเขา หรือสำหรับตัวเขาเอง S : ทั้งคู่นั่นแหละค่ะ K : ไม่จริงหรอก S : จริงๆนะ K : ไม่ ผมไม่ได้เรื่อง S : คุณอย่ามาโม้น่า เขาไม่ได้เป็นพวกบ้าเทรนด์นะคะ แต่เขารู้ล่ะว่าเขาใส่อะไรแล้วหล่อ K : ผมต้องชอบเสื้อผ้าดีๆ มันแน่อยู่แล้ว S : และรองเท้าดีๆด้วย (ยัยแซนดี มันแว้งขบกัด ป๋าคีของฉานเรื่อยวุ้ย) K : อ๋อ แน่นอน รองเท้าดีๆ ....นี่คุณทำผมหน้าแดงรึยังเนี่ย ( ฮ่า.....แดงแล้วค่ะ คุณนักข่าวเขาช่วยสังเกต) Q : คุณก็สวยทุกชุดเหมือนกันนะ แซนดรา S : ชั้นเกลียดจะตายเวลาไปช็อปเสื้อผ้า ชั้นว่าให้ชั้นไปเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งห้องน้ำยังสนุกกว่า ชั้นอยากให้มีคนเอาชุดที่ออกใหม่ ทั้งห้องเสื้อไปให้ชั้นเลือกที่บ้านเลย น่าจะดีกว่า เนอะ K : เดี๋ยวก่อน คุณเพิ่งบ่นเรื่องช็อป แล้วคุณก็บอกว่า คุณอยากเลือกเสื้อผ้า นี่มันก็แสดงว่า คุณก็อยากไปช็อปเสื้อผ้านั่นแหละ ก็คุณชอบเปลี่ยนชุดนู้นชุดนี้บ่อยไป S : ไม่บ่อยซะหน่อยย่ะ K : คุณก็แค่ขี้เกียจขับรถและหาที่จอดเท่านั้นละน่า Q:คำถามไหน ที่คุณอยากให้นักข่าวถาม แต่พวกเขาไม่ถาม? S: ไม่รู้ดิ ชั้นรู้แต่คำถามที่ชั้นไม่อยากให้เค้าถาม มันก็เป็นเรื่องเดิมนั่นล่ะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้แสดงคู่กับคีอานูเลย K:งั้นเชียว มันคืออะไรน่ะ S:มันก็คือ "จูบกับคีอานูเป็นยังไงมั่ง" มันช่าง.. อะไรวะ ทำไมไม่มีใครไปถามคีว่า จูบแซนดราเป็นไงมั่ง น่าจะให้เกียรติกันบ้างนะยะ ไม่ว่าพวกเขาจะมาจาก BBC หรือ CNN มันก็เป็นเหมือนกันหมด พอชั้นย้อนถามนะ เค้าก็แก้ตัวว่า "บก.เค้าใช้ให้ถามนี่" Q:ช่าย แก้ตัวเนอะ ขี้ขลาดนี่หว่า K:ผมรู้ว่า ผมอยากให้ถามผมเรื่องงานศิลปะ ไม่ก็เรื่องหนังที่ผมถ่ายเสร็จ S:แต่ไม่มีใครสน ใช่มะ มันขายไม่ได้หรอก คำถามพรรค์นั้น Q:ดีใจจังที่พวกคุณรู้นะ S : แล้วพวกคุณล่ะ รู้ไหม ว่าอะไรที่มันงดงาม แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยให้พวกคุณขายหนังสือได้ก็ตาม นั่นคือ มันดีที่สุดที่ได้เห็นคีอานูแสดง ได้รู้ว่าผู้กำกับบอกพวกเรายังไง ทำงานแบบไหน การที่ทุกคนที่มาจากต่างทิศทางแล้วมารวมกันเป็นหนึ่งงาน อย่างราบรื่น เราทำฉากแต่ละฉากจากความว่างเปล่า ทุกๆฉาก ชั้นจะประสาทเอามากๆ บางครั้งชั้นก้จะจมอยู่กับอารมณ์นั้นๆ แล้วเหมือนชั้นจะรู้ว่า คีอานูก็เหมือนกัน ชั้นมองเขาแล้วทันใดนั้นเอง ฉากนั้นก็จบ เราก็ต้องขึ้นซีนใหม่ ชั้นอยากให้คนอ่านนิตยสาร เค้าได้รู้สึกแบบนั้นบ้างจัง มันดูหลอนๆแต่ว่าเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม K : ผมว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอันหนึ่งของผมก็คือเวลาที่ผมได้ยินคำสั้งว่า "Action !" S : ช่าย น้อยคนจะเข้าใจนะ Q : เดี๋ยวนี้นักแสดงจะไปเล่นละครเวทีกันมากขึ้นนะ ไม่ว่า Nicole Kidman Julia Roberts และอีกหลายคน มันเป็นเพราะว่า เวลาได้มีประวัติว่าเคยแสดงบนเวทีนี่ มันเพิ่มเครดิตให้พวกคุณรึเปล่า S : ชั้นว่า ในธุรกิจภาพยนตร์เดี๋ยวนี้ ถ้าคุณได้แสดงบนเวทีมาบ้าง มันก็ดูมีเครดิตดีเหมือนกันนะ แต่ชั้นไม่รู้หรอก ดูแล้วมันก็เป็นศิลปะการแสดงเหมือนๆกันนั่นแหละ แล้วชั้นว่า ชั้นโชคดีที่ได้แสดงทุกอย่างหมดแล้ว จากการแสดงภาพยนตร์อีกทีนึง ไม่ว่าจะเป็น บนเวที โรงละครเพลง ละครทีวี รึว่าโฮมวิดิโอ ( ว่าแล้ว ยัยแซนดรา ก็หัวเราะลั่น) K : เอางั้นเลยนะ S : จริงๆแล้ว มันก็ทำให้ ชั้นหวั่นไหวเหมือนกันล่ะ เวลามีคนมาบอกว่า ถ้าได้เล่นบนเวทีสักครั้ง ชั้นจะแสดงได้ดีขึ้น มันจะเป็นแบบนั้นได้ไง K : ที่คุณถามเราว่า เวทีช่วยเพิ่มเครดิตให้นักแสดงหรือไม่นั่น มันอาจจริงเมื่อแปดปีที่แล้วนะ แต่ผมว่า ตอนนี้ การไปแสดงบนเวทีมันไม่ได้เป็นเพราะว่า ต้องการเครดิตอะไรหรอก มันแค่ อะไรบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับการแสดงมากกว่า เป็นการแสดงแบบดั้งเดิมน่ะ เพราะว่า บนเวที นักแสดงเป็นคนกำหนด แต่ถ้าเป็นภาพยนตร์ มันขึ้นกับผู้กำกับว่าเขาอยากได้แบบไหน เวทีเป็นที่ของนักแสดงนะคุณ เพียงแต่ว่า เดี๋ยวนี้เวทีมันเยอะ นักแสดงก็เลยมีทางเลือกกันมากขึ้น อย่าว่างั้นงี้เลย โลกใบนี้มันกว้างนะ ละครเวทีเปิดแสดงในเมืองใหญ่ทั่วโลกมากมาย ขนาดโรงหนังต่างชาติก็ยังมาฉายในอเมริกามากขึ้น มันก็เลยทำให้นักแสดงมีทางเลือกมากขึ้นด้วย ผมว่ามันเป็นเวลาที่ดีนะ ใช่เลย Q : แล้วอะไรทำให้ได้มาเล่น The Lake House ด้วยกันอีกครั้ง K : พูดไปก็ยังกะเรื่องโรมานซ์ มันเหมือนในหนังเรื่องนี้นั่นแหละครับ คนสองคนที่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เจตนา แต่ว่าต่างคนก็ต่างหาบางอย่างให้ชีวิตตัวเอง แล้วเราก็มาพบกัน S : ทันทีที่ผู้กำกับบอกชั้นว่า "เราได้คีอานูแล้ว" ชั้นงี้ "โอ มายก็อด" เลย มันน่ากลัวนะที่จะแสดงหนังเกี่ยวกับความรักและความเจ็บปวดของชีวิต อะไรแบบนั้น แม้ว่ามันจะเป็นงานก็เถิด และแน่นอนว่าในงานยากๆแบบนี้ คุณต้องอยากที่จะทำร่วมกับคนที่คุณสบายใจที่สุด เราต้องทั้งสบายใจแต่ก็ต้องตื่นเต้นไปด้วยพร้อมๆกัน เข้าใจไหมคะ เป็นคนที่คุณวางใจได้แน่นอนว่าเขาจะช่วยคุณเสมอ และชั้นรู้สึกแบบนั้นกับคีอานู ชั้นคุยกับเขาได้ตลอดเวลา มองเขาได้ทั้งวัน ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเขาหล่อหรือหน้าตาดี แต่มันเพราะชั้นเชื่อใจเขาได้เสมอ Q : ฉากไหนที่คุณชอบที่สุดในหนัง K : ผมชอบฉากเต้นรำ ผมชอบวิธีที่เราเข้าหากัน S : แน่นอน ชั้นด้วย เพราะฉากนั้นไม่มีใครบอกว่า เราควรเล่นยังไงเลยนะ พวกเขาแค่เปิดเพลง เดินกล้องแล้วก็เงียบกันไปหมดทั้งกองเลย เราแทบลืมไปว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยเลยล่ะ K : (หันไปบอกแซนดรา) ผมอยากบอกว่า ผมแทบไม่ต้องแสดงอะไรเลยนะ ตอนที่อยู่ในฉากนั้นน่ะ แล้วผมชอบทุกอย่างที่มันออกมาให้กล้องจับภาพด้วย ตอนที่คุณเอื้อมมือมาแตะต้นคอผมนั่น ผมแทบ แบบว่า "โอ ให้ตายเหอะ ไปที่บ้านกันดีไหม" S : เออ ใช่ มันเป็นช่วงเวลาที่แปลกมาก มันเหมือนว่า คุณกำลังงงๆว่า จะไปต่อหรือว่าจะหยุดไว้ตรงนี้ดี ซึ่งมันแปลกมากๆ ชั้นไม่เคยได้ทำอะไรแบบนี้ในหนังที่ถ่ายกันแบบอเมริกันเลยนะ เป็นช่วงเวลาสุขสงบ ที่นิ่งนาน นานมากเลยนะในความคิดชั้นน่ะ K : แล้วผมว่า ตอนที่เราแลกจูบกัน มันไม่ใช่ใครเริ่มจูบนั้นก่อน ผมจำได้ว่า เรานั่งปรึกษากันก่อนเข้าฉาก แบบว่า "เออ ตกลงผมจูบคุณก่อน หรือคุณจูบผมก่อนกันแน่" S : จริงแล้ว คุณมีจูบอัตโนมัติต่างหากย่ะ ส่วนชั้นน่ะกังวลนิดหน่อย เหมือนว่า " เค้าจะให้เราจูบกันอีกนานไหมเนี่ย แล้วมือชั้นจะบังแสงรึเปล่าเนี่ย" (จริงๆแล้วหล่อนหวังหลายๆเทค มากกว่ามั้ง นังแซนดรา ....แง่ม....อิจฉาว้อยยย) K : คุณคิดมากไปเองมากกว่า เวลาที่คุณคิดถึงองค์ประกอบต่างๆมากไป มันจะเลื่อนลอยนะ คุณก็เห็นนี่ว่า เมื่อถึงเวลา เราก็จะเป็นไปตามธรรมชาติได้เอง ผมอยากบอกคุณว่า ในอ้อมแขนของคุณ ผมสบายใจที่สุด (................................................................อ๊ากสสสสสสส แองจี เกียด ชายเจ้าชู้.........กรี๊ดดดดด........................)   Create Date : 24 กรกฎาคม 2549     Last Update : 26 กรกฎาคม 2549 12:47:24 น. Counter : 1224 Pageviews.   10 comment Share Tweet

Keanu กับ ผู้กำกับของเขา Alejandro Agresti "ผมพบเขาครั้งแรกที่โรงแรมเบเวอร์ลี ลิลไชร์ ก่อนหน้านี้ ผมแทบไม่รู้จักเขาเลยครับ นอกจากหนังValentin และการพบกันครั้งนั้น ผมว่าเขาไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเรื่องที่เขาสะสมหนังสือรัสเซีย สร้างสเตอริโอ ทำแอมป์ฯเองด้วยนะ แล้วเขายังเขียนหนังสือมาแล้ว 4 เล่ม กำกับหนัง 18 เรื่อง นี่มันศิลปินขนานแท้แล้ว เพราะงั้น เมื่อคุยกัน ได้ดูอุปกรณ์ถ่ายทำของเขา ผมก็ตกลงทันทีที่จะทำงานด้วย แทบรอไม่ไหวเลยล่ะ ทุกอย่างที่ผมเห็นมันยอดเยี่ยมจริงๆ" "แต่พอถึงเวลาได้ทำงานกันจริงๆ มันก็ไม่ง่ายนะครับ มันต้องรอ รอแรงดลใจของอเล็กจานโดรนั่นแหละ รอว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมาโลกซะที เขาใช้ผมให้ไปศึกษาหนังของAntonioni และพยายามทำให้ได้อารมณ์แบบนั้น มันทั้งซับซ้อนทั้งเป็นธรรมชาติ แต่ว่าเขาต้องการให้นักแสดงของเขาดูเป็นคนจริงๆให้มากที่สุด ก็เลยเข้าทางผมพอดี ผมก็ชอบเล่นแบบนั้นเหมือนกัน ทำงานกับเฟรมของอเล็กจานโดรสนุกครับ ต้องเดาใจว่าเขาจะอยากได้แบบไหน" "แต่บางครั้ง เราก็ต้องเถียงผู้กำกับเหมือนกันนะ อย่างตอนเริ่มถ่ายใหม่ๆ ตอนนั้นเป็นฉากของผม แล้วเขาก็บอกว่า "วางกล้อง" เสร็จแล้วก็ แบบว่า "ฉากต่อไป" ผมก็งง "อะไรนะครับ ผู้กำกับ ฉากต่อไป แล้วไม่ต้องถ่าย coverage รึ ไม่ต้องมีอะไรแล้วรึ" เขาบอกว่า "ไม่ ไม่ต้อง ผมรู้หรอกน่า" แล้วหลังจากนั้นสองสามอาทิตย์ พวกสตูดิโอก็โทรมา แล้วก็จนได้ พวกนั้นถามว่า ไหนล่ะcoverage ผมก็กะว่า "เอาแล้วไหมล่ะ" แต่ว่า อเล็กจานโดรน่ะ เขาตอบไปว่า ไอ้coverage อะไรนั่นน่ะไม่ต้องใช้หรอก เพราะตัวเขาอยู่นี่แล้ว นั่งกำกับอยู่ที่นี่ เขารู้ทุกอย่างที่ต้องการจนแทบจะตัดต่อตรงพื้นบ้านก็ยังได้ จะเอา coverage ไปทำอะไร มันช่างประทับใจจัง ดูเหมือนเขาคือศิลปินที่สตูดิโอจะมาวุ่นวายไม่ได้ และจนถึงตอนนี้ ผมรู้แล้วว่าอเล็กจานโดรเขารู้ทุกอย่างที่เขาต้องการจริงๆ" ว่าแต่ว่า ผกก. เค้าผัดข้าวอร่อยมะ เพ่ ฮี่ๆ   Create Date : 21 กรกฎาคม 2549     Last Update : 21 กรกฎาคม 2549 14:44:46 น. Counter : 1102 Pageviews.   12 comment Share Tweet

Entertainment Tonight:Speed Test: Keanu Vs Sandra 12:June:06 Transcript by Jena แจน คาร์ล (J) พิธีกร รายการบันเทิงทางทีวีที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก นั่งเล่นเกมทายใจกับสองดารานำของหนังรักซัมเมอร์นี้ คีอานู รีฟส์ (K)และแซนดรา บุลล็อก (S) J:ทำไมเว้นช่วงตั้ง 12 ปีละคะ K:เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดมังครับ J:งั้นนี่คือ ช่วงที่ดีที่สุดที่จะได้ชม คีอานูและแซนดราเล่นหนังคู่กันอีกครั้งใน "The Lake House." ทั้งคู่บอกว่า ยังคงเป็นเพื่อนกัน แต่เราอยากรู้ว่าพวกเขาจะรู้จักอีกฝ่ายดีแค่ไหนนะคะ เรามาลองดูดีกว่า เริ่มด้วยแซนดรา คุณต้องตอบคำถามเกี่ยวกับคีอานูนะคะ คุณรู้ไหมว่า คีอานูชอบใช้จดหมายหรือ อีเมล์มากกว่ากัน S:เค้าหรือคะ? จดหมายแน่นอน K:(ทำเสียงว่า เธอตอบถูก)ปิ๊งป่อง J:รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าแตะ S:ผ้าใบค่ะ K:ปิ๊ง+++ J:ซูชิ หรือ บาร์บีคิว S:ชั้นว่า ซูชินะ เห็นมะ นี่ชั้นไม่ได้มองคุณเลยนะ คี J:(แจน มองหน้าแซนดราเป็นเชิงถามว่า "คุณแน่ใจนะ" คีอานู ทำหน้าเหมือนว่าเธอตอบผิด) K:(ทำเสียงว่าเธอผิดแล้ว)แป่ววว S:หา!!!ทำไม? คุณชอบบาบีคิวมากกว่าเรอะ พูดจริงรึเปล่ายะ K:ผมเลือก กินบารบีคิวก่อนซูชิทุกทีนะ เอา ทายต่อๆ S:(แซนดราจ้องหน้าคีอานูแบบไม่อยากเชื่อ ) อย่ามามั่วนะ เมื่อกลางวันนี้คุณกินอะไรมา ฮึ ! K:เออ...เมื่อกลางวันนี้น่ะ ซูชิ S:เห็นมะ !! J:สาวผมบลอนด์หรือผมสีเข้ม S:ชั้นคงพูดได้ว่า ส่วนใหญที่เห็นน่ะ ผมบลอนด์ K:ผมไม่มีทางรู้คำตอบที่ถูกต้องของคำถามนี้แน่ J:เพลงBroadway showtunes หรือ country western K:(ป้องปากแล้วกระซิบแซนดราว่า) บรอดเวย์ S:คันทรี เวสเทิร์นค่ะ K:(เบิกตากว้างแล้วกระซิบแซนดราอีกรอบ ) บรอดเวย์จ้า S:คุณชอบ คันทรีเวสเทิร์น K:(ยังคงทำท่าเดิม) ผมบอกคุณว่า ผมชอบบรอดเวย์นะ เฮ้ !! S:(มองคีอานูด้วยสายตาขี้เล่นแล้วสั่งเสียงเข้มงวด) ชั้นตอบไปแล้ว คุณต้องชอบ ตามที่ชั้นบอกสิยะ K:(ส่งเสียงดัง) โอเค!!!!! คันทรีเวสเทิรน J:เอาล่ะ คราวนี้ ตาคุณนะ คีอานู เธอชอบให้เรียกว่าแซนดรา หรือ แซนดี K:มันขึ้นกับว่า ใครเป็นคนเรียก S:(แซนดราพยักหน้า แปลว่าถูกต้อง) J:ถูกหรือคะ S:ค่ะ J:รถกระบะ หรือมอเตอร์ไซค์ K:ผมว่า น่าจะมอเตอร์ไซค์ S:แป่วว J:เบียร์ หรือ ไวน์ K:ขึ้นกับว่าเธอดื่มช่วงไหนของวันนั่นล่ะ J:จริงหรือคะ S:จริงที่สุดเลยค่ะ J:ทำอาหารเอง หรือว่าสั่งจากร้าน K:น่าจะ น่าจะ ทำเอง S:ใช่ ชั้นชอบทำกับข้าว K:เธอคือ Betty Crocker ของแท้ J:ชั้นไม่เห็นแววBetty Crocker ในตัวแซนดราเลยนะ S:เออ ครัวชั้นรกมากค่ะ เลยไม่ยอมให้รายการทีวีไปถ่าย J:เธอชอบอยู่ริมทะเลหรือทะเลสาบ K:ผมต้องบอกว่าทะเลสาบ แน่อยู่แล้ว S:แน่นอน J:ยอดเยี่ยมซะจริงทั้งคู่ อย่าลืมไปดู The Lake House ในเมืองไทยวันที่ 10 สิงหาคมนี้นะคะ ลองไปดูคลิปจริงๆก็กดเข้าหน้านี้ETbyYahooแล้วกดเข้า button ทางซ้ายที่ชื่อ "Speed"test นะจ๊ะ   Create Date : 20 กรกฎาคม 2549     Last Update : 24 กรกฎาคม 2549 11:48:43 น. Counter : 1324 Pageviews.   5 comment Share Tweet

• ไร้ระเบียบ
• ข่าว
• บทความ
• งาน
• คลิป
• ไม่เกี่ยวกับเขา

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com