Keanu @ Kimmel 8Oct2015 (คำออกตัว) ไม่ได้แปล คำต่อคำ นะจ๊ะ อยากให้ดูเองมากกว่า ตรงไหน แองจี เข้าใจผิด ก็คอมเมนท์ไว้ได้เลย (คลิกลิงค์ไปดูคลิปค่ะ) Keanu Reeves' Sex Scene with Eli Roth's Wife (ตัวอย่างKnock Knock) J: นั่นคือ คีอานูรีฟส์ ในKnock Knockภาพยนตร์ใหม่ ที่จะฉายวันศุกร์นี้ และผมไม่อยากสปอยล์อะไร จึงได้แต่ถามว่า คุณพอจะเล่าอะไรได้บ้างเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ K: ครับ Knock Knock เป็นเรื่องของแฟมิลีแมนที่อยู่บ้านคนเดียวขณะครอบครัวไปพักผ่อนที่อื่น เขา, ซึ่งเป็นสถาปนิก จึงสมัครใจที่จะทำงานของตัวเองที่ค้างอยู่ แล้วคืนนั้น ฝนก็ตก เขาได้ยินเสียงKnock Knockที่หน้าประตูบ้าน พอไปเปิด ก็พบสาวสวย2คนในชุดปาร์ตีที่มาขอความช่วยเหลือ....(กำลังเล่าค้างอยู่) J: (..พูดขัดขึ้นมา) พวกเธอ เปียกโชกเลยละสิ(น้ำเสียงรู้ทัน) K: ใช่..พวกเธอเปียก(..น้ำเสียงแก้ตัว) แต่ผมไม่ได้มองตรงนั้น ผมเป็นคนดี แฟมิลีแมน ซื่อสัตย์กับเมีย คุณเข้าใจมั้ย ผมไม่ได้คิดอะไร แค่อยากช่วยเหลือพวกเธอ รีบรับหนูน้อยพวกนี้เข้าบ้าน ผมไม่ได้คิดอย่างอื่น แค่อยากจะช่วยเหลือพวกเธอ เท่านั้นจริงๆ (จิมมีกับผู้ชม หัวเราะคิกคัก) J: คุณดูแลพวกเธอด้วย น่ารักจริงๆ K: ผมเอาเสื้อผ้าพวกเธอไปอบแห้งให้ด้วย (น้ำเสียงประชดนิดๆ) ...แล้วเรื่องมันเริ่มตรง พวกเธอยั่วยวนผม เธอต้องการผม เธอเข้าประชิดตัวผม ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ผมขัดขืน ผมปัดป้อง ผมปฏิเสธ แต่ คุณนึกออกไหม ผมสู้ไม่ไหวหรอก ผมก็เลยยอมแพ้ (....J: หัวเราะลั่น) แล้วคืนนั้นก็ผ่านไป ผมตื่นขึ้นมา สวมแหวนแต่งงาน นึกว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว ทุกอย่างโอเค แล้ว.......ก็ได้ยินเสียงวุ่นวายในครัว เมื่อเดินเข้าไป เห็นพวกเธอกำลังวุ่นวายในครัวของผม ยังกะพวกแรคคูนที่บุกเข้าบ้านเวลาคุณเผลอ ผมพยายามแก้ไขสถานการณ์โดยเสนอว่าจะพาพวกเธอกลับบ้าน แต่เธอไม่ยอมไป แล้วก็เริ่มทรมาณผม (...J: พวกเธอทำแบบนั้นเพื่อ ?) พวกเธอใช้ลูกไม้ เธอทำร้ายผม เพื่อต้องการให้ผมขอโทษ ให้ผมยอมรับผิดที่นอกใจเมีย (...J: ทั้งๆที่ คนเริ่มก่อเรืองคือพวกเธอ งั้นหรือ ?) ช่าย.. เธอว่าผมเป็นคนผิด ที่เป็นคนตอแหล ที่ทรยศครอบคัว พวกเธอจับผมมัดกับเก้าอี้ มัดกับเตียง แทงผม ทำร้ายผม และวิธีทรมาณอีกมากมาย (...J: หัวเราะลั่น) J: แล้วตอนถ่ายเซ็กส์ซีนกับพวกเธอ...(หัวเราะ) K: โอ้ว..เย่ส (ขยับตัวเตรียมพร้อมรับคำถามยากๆ) J: หนึ่งในนั้น เป็นภรรยาของผู้กำกับ Eli Roth แล้วคุณก็ต้องถ่ายเซ็กส์ซีนที่รุนแรงมากๆกับเธอ ผมสงสัยว่า นี่มันเป็นเรื่องสะดวกใจไหม หรือว่า นี่มันเรื่องธรรมดาในวงการ K:(..ซึ่งตอบว่า ใช่ ใช่ ใช่ มาหลายจังหวะ รีบบอกว่า) ไม่ใช่เรื่องปกติของผมเลยจิมมี (จิมมีปล่อยก๊าก คนทั้งห้องส่ง กรี๊ดและหัวเราะลั่น) ที่ผมต้องถ่ายฉากแบบนี้กับเมียของผู้กำกับ เป็นเรื่องแปลกมาก แต่ อิไลเป็นคนเขียนเรื่อง เป็นผู้กำกับ แล้วเขาก็เป็นคนกำหนดทุกสิ่งเอง เราต้องซ้อมฉาก ซ้อมกับทีมงาน มันเป็นฉากสำคัญ นักแสดงก็ต้องเชื่อใจกัน แล้ว ผมก็ไม่ใช่ไอ้หื่น ที่คอยจ้องเมียเค้า แล้วบอกว่า "เฮ้ อิไล เมียแกโคตรเซ็กซี่ เมื่อไรเราจะถ่ายฉากเซ็กส์กันสักที" อะไรแบบนั้น J: มันไม่เป็นแบบนั้นเหรอ เรื่องนี้จะมีภาคสอง แล้วคุณจะเปลี่ยนเป็นแบบนั้นไหมล่ะ K: โอ้ว คงไม่มีภาคต่อหรอก จบแค่นี้แหละ ทุกสิ่งก็ผ่านไป แล้ว พวกเราก็สนุกกับมัน J: มันแน่อยู่แล้ว (หัวเราะแบบได้ที) K: (รู้ตัว ว่าพูดผิดไป ตรงประโยคที่ว่า พวกเราก็สนุกกับมัน จึงยกมือปิดหน้าตัวเองที่กำลังหัวเราะ) J: งั้นหนังเรื่องนี้ ห้ามพาเมียไปดูสิ K: เฮ้ย ไม่ได้เลยนะ นี่มันหนังสยองขวัญ พาสุดที่รักของบ้านไปดูไม่ได้ J: เหมาะที่จะดูกับเพื่อนๆ ใช่ไหม อย่าพาผู้หญิงในบ้านไป K: ใช่ ใช่ หนังดี แต่ห้ามพาเมียไปดู J: ผู้หญิงบ้านผมเยอะด้วยสิ ถ้าเธอร้องจะตามไปทำไงดีล่ะ K: ล็อคประตูไว้เลย อย่าปล่อยพวกเธอตามมา J: คุณชอบขี่มอเตอร์ไซค์ใช่มั้ย K: ใช่ครับ มอเตอร์ไซค์คือพาหนะหลักของผม เพราะเราอยู่ในลอสแอนเจลิส ใช้พวกนี้คล่องตัวกว่ามาก J: ผมเห็นด้วยว่า การใช้ มอเตอร์ไซค์ เหมาะกับแอลเอมาก แต่ผมก็เพิ่งฉุกคิดตอนที่มีเพื่อนคนนึงถามผมว่า ทำไมเจ้ารถพวกนี้เสียงดังจังเลย K: เอิ่ม (ทำท่าคิด) J: ก็เพราะพวกมันฆ่าเราได้ไง ตอนที่มันมาถึงต้องมีเสียงดัง เราจะได้หลบทัน คุณว่าจริงมั้ย K: (ทำหน้าเจื่อนๆ) มันก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก (คลิกลิงค์ไปดูคลิปค่ะ) Keanu Reeves Co-Founded a Motorcycle Company J: คุณใช้รถใหญ่ๆพวกนี้เหมือนกันใช่มั้ย ได้ข่าวว่าคุณมีบริษัททำรถเองแล้วนี่ ใช่มั้ย K: ครับ บริษัทผมชื่อ ARCH motorcycle (...หน้าม้าในห้องส่งกรี๊ดให้กำลังใจ) J: ARCH motorcycle ทำไมชื่อนี้ล่ะ เป็นชื่อลูกสาวเพื่อน หรือว่าได้มาจากอะไร K: เอิ่ม มันเริ่มจาก ผมไปรู้จัก การ์ด โฮลลิงเกอร์ นักผลิตมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ของแอลเอ เราสร้างรถต้นแบบ แล้วผมก็ชวนเขาทำธุรกิจ จากนั้นก็พยายามหาชื่อ เพราะภายใต้ชื่อมันคือสตอรี เราพยายามคิดคิดคิด แล้ววันหนึ่ง ตอนผมนั่งในรถ ผมก็ได้คำว่า ARCH ซึ่งมันใช่ มันคือการเชื่อมโยง เป็นสถาปัตยกรรม เป็นการเดินทาง (จิมมี แทรกเข้ามาเรื่อยๆว่า เรอะ เรอะ?? ผู้ชมก็เริ่มหัวเราะคิกคัก) คุณกับรถจะสัมพันธ์กัน ภายใต้คำว่าARCH (..เล่นjokeกันไปอีกพักหนึ่ง) J: คุณลืมไปเรื่องหนึ่งนะ กับการใช้ความโค้งแสนสวยของARCH K: โค้งอะไรครับ J: โค้งเหลืองๆของแมคโดนัล ไง โลโกคุณสีเหลืองทองด้วยหรือเปล่า K: ไม่ ไม่ (เริ่มคิดว่า อิจิมมีนี่พาบริษัทสุดเท่ กุ พัง แล้ว) ผมคิดถึงแต่คำว่า อาร์ชเอเนมี อาร์ชเนเมสิท J: อาร์ชบิชอป(ตำแหน่งนักบวชศาสนาคริสต์) ด้วยมั้ย ? K: ใช่ อาร์ชบิชอป (ขำและกลุ้มใจสุดๆกับจิมมี) J: เอาเหอะ เอาเหอะ ผมก็ยังชอบนะ ที่ได้ยินที่มาของบริษัท จากคุณ K: โอเค ผมขอให้ทุกคนลืมเรื่องทั้งหมดไป แล้วจำแต่คำว่าARCH motorcycle (คลิกลิงค์ไปดูคลิปค่ะ) Keanu Reeves Talks Speed 2 and Cruises J: ผมขอพุดถึง หนังสั้นที่เราถ่ายกันไปเมื่อกลางวันหน่อยได้ไหม K: ได้เลย จิมมี คุณสุดยอดมาก เราถ่ายทำโดยไม่ต้องซ้อมเลย คุณเก่งมากจริงๆ (คลิกลิงค์ไปดูคลิปค่ะ) "A Reasonable Speed" with Jimmy Kimmel and Keanu Reeves J: และได้ข่าวว่าคุณเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น ซึ่งผมได้ข่าวแบบนี้บ่อยมาก คุณชอบไปประเทศนี้จัง K: ใช่ ผมไปบ่อย ครั้งแรกตอน Point Break & Speed (...หน้าม้าในห้องส่งกรีดร้องให้กำลังใจ)(นานมาก) (จนจิมมี ขอให้เงียบ แล้วบอกคีอานูว่า ในห้องส่งนี่คนญี่ปุ่นหมดเลย) (คีอานูจึงรับมุขด้วยการกล่าวทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น) (คีอานูร่ายยาวเรื่องหนังของเขาที่ไปเปิดตัวที่นั่น สลับกับปรบมือของกองเชียร์) J: พูดถึงหนังเรื่องSpeedแล้ว ผมอยากรู้ว่า ทำไมคุณไม่เล่นภาคต่อของมัน K: ภาคต่อมันเป็นเรือ แล้วผมอ่านสคริปท์แล้วผมไม่เห็นด้วย ผมรักทุกคนในกองถ่าย ทั้งแซนดราและแจนเดอบองค์ แต่ผมไม่เห็นด้วย ที่จะใช้ชื่อเรื่องว่า "ความเร็ว" แต่พาหนะในเรื่องมันไม่เร็ว ตอนเป็นรถบัสผมก็ว่ามันตลกแล้วนะ แต่นี่เป็น เรือสำราญ มันยิ่งโคตรช้ากว่ารถเมล์อีก ผมก็เลย ไม่ไหวอะ ไม่เล่นดีกว่า J: คุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับการล่องเรือสำราญหรือเปล่า เคยไปเที่ยวแบบนี้บ้างไหม K: ไม่เคยเลย แล้วคุณล่ะ J: ผมเคย2ครั้ง K: เป็นไงบ้างล่ะ J: หนแรกเลิศเลยนะ แต่ครั้งที่2ไม่ไหวอะ K: (รู้สึกได้ที ที่จะเอาคืน) ครั้งที่2มีอะไรเกิดขึ้นรึจิมมี J: คุณรู้ไหม ไปเที่ยวล่องเรือสัปดาห์หนึ่ง เนี่ย คุณจะเจอกับผู้คนเดิมๆที่เดินอยู่ในเรือลำเดียวกับเรา แล้วในครั้งนั้น ผมพบคู่สามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ที่เมียเค้าสวยมาก แต่เจ้าคนที่เป็นสามี มันไม่เหมาะกับเธอเลย ทั้งแก่และขี้เมา แล้วผมได้เห็นแต่ภาพนี้ตลอดเวลา เพราะคนดูแลทัวร์มันจัดให้ผมนั่งกินอาหารใกล้ๆกับพวกเขาทุกมื้อ ...แล้วคิดดูสิ มันคือการต้องยอมรับในสิ่งที่เราไม่อยากจะยอมรับตลอดเวลา K: (สีหน้าเข้าใจสุดๆ ) ผมรู้เลยว่า นี่มัน....... J: นั่นคือประสบการ์ณสุดห่วยบนเรือของผม   Create Date : 09 ตุลาคม 2558     Last Update : 9 ตุลาคม 2558 12:12:21 น. Counter : 6147 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ถ้าคุณได้มีโอกาส เหมือนอย่างเธอ...ราเชลโจนส์ อันเนื่องมาจากการทำ เพจแฟนคีอานูในไทย https://www.facebook.com/KeanuReevesThailandFans แองจีรู้สึกว่า แฟนๆที่เป็นผู้หญิงส่วนหนึ่ง อยากมีประสบการณ์ วันไนท์สแตนด์ กับเขา (คือมีบางคนฝันไกลถึงการเป็นคู่ชีวิต แต่จี้ว่า คืนเดียวก็ยังยาก สำหรับ สาวไทย อะนะ) ดังที่รู้กันว่า ข้อดีของการเป็นมนุษย์ คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น ดังนั้น เคสเดียวที่เราสามารถจะนำมาถกประเด็นได้ ก็คือเคสของ ราเชลโจนส์ ก่อนจะวิเคราะห์วิจารณ์ ขอเชิญท่านรับข้อมูลเสียก่อน ข้อความนี้ มาจาก Daily Mail (UK), วันที่ December 20, 2001 หัวเรื่องชื่อ KEANU REEVES KISSED ME AND I THOUGHT 'THIS CAN'T BE REAL' โดย Becky Morris and Christine Challand ราเชลโจนส์ มาจากครอบครัวชั้นกลางในเบอร์มิงแฮม คุณแม่ทำงานในธุรกิจก่อสร้าง คุณพ่อเป็นพนักงานบริษัท เธอเป็นลูกสาวคนโตที่มีน้องอีก3คน เรียนจบไฮสคูลคาทอลิค ด้วยเกรดสวยหรู แล้วเข้าเรียนต่อด้านสื่อสารมวลชนที่the London College of Printing ราเชลมาทำงานในซิดนีย์ 2ปี และในเดือนสุดท้ายก่อนเธอจะได้กลับบ้านนั่นเอง ที่เธอพบ คีอานู รีฟส์ *********************** ตอนที่เธอพบเขา เธอกำลัง ลำบากด้านการเงิน เพราะรายการวิทยุที่ทำอยู่ ถูกถอดออกจากผัง ราเชลใช้ชีวิตอย่างกระเหม็ดกระแหม่ด้วยเงินเก็บ เย็นวันนั้น เพื่อนเธอชวนไปเข้าผับหรูที่เปิดรับเฉพาะสมาชิก แน่นอนว่าเธอไม่ใช่สมาชิก แต่ที่เข้าได้ เพราะ เจ้าของผับ อนุญาตให้สาวสวยเข้าไปดื่มกินได้ เพื่อ...(คงไม่ต้องบอกนะคะ)....และ เธอพบคีอานูที่นั่น ขณะนั้นเป็นเดือนธันวาคม ปี2001 ราเชลอายุ26 คีอานู37(เพิ่งจะฝัง เจนซีมส์(..แม่ของลูกเขา)ไป8เดือน) และ เราจะฟังเธอแบบคำต่อคำ ในช่วงต่อไปนี้ "เพื่อนๆถามฉันว่า เป็นไง ที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบคีอานูนอนอยู่ข้างๆ ฉันสารภาพเลยว่า มันเหลือเชื่อมาก แต่นั่นก็เป็นเรื่องจริงที่น่าตื่นเต้น...และแน่นอน ตอนนี้ฉันก็ยังคิดถึงเขา" "แต่ความจริงก็คือความจริง เรื่องของเรามันก็แค่ความสุขชั่วคราว คนแบบฉัน ไม่มีวันจะทนชีวิตแบบนั้นได้หรอก" "ถ้าเพียงแต่เขาจะเป็นคนธรรมดา ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ของเรายังมีหวัง ฉันรู้ดีว่าเราต่างรู้ ว่าอีกฝ่ายมีค่า แต่นี่ เขาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง โลกแบบที่คนอย่างฉันไม่มีสิทธิ์จะเข้าถึง" "การที่ได้กลับบ้านตัวเองในช่วงคริตสมาส ทำให้ฉันรู้สึกดีมากเลย ชีวิตดาราไม่ได้น่าอิจฉาอย่างที่ใครๆคิด แม้คีอานูจะหาเงินได้มาก และชอบวงการนั้น แต่ฉันรู้แล้วว่า การมีชื่อเสียงโด่งดังมันเป็นทุกขลาภ ทุกคนอยากมารุมทึ้ง เพื่อเอาข่าวไปขายแลกเงิน ไม่อาจไว้ใจใครได้เลย แม้แต่คนที่เคยเป็นเพื่อน" "ดูแค่เรื่องของฉัน พอฉันคบกับเขา เพื่อนที่เคยสนิท กลับเอาเรื่องของฉันไปขายให้นักข่าว ไม่เข้าใจว่าคนที่เคยดีต่อกันยังเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ แล้วฉันยังได้รับเชิญไปงานปาร์ตีหรูๆมากมายที่นั่น ทั้งๆที่พวกนั้นไม่เคยรู้มาก่อนว่าฉันเป็นใครด้วยซ้ำ" "บทเรียนของฉันคือ แม้ดาราจะแสนดีและน่าเข้าหาแค่ไหน ฉันก็จะไม่พลาดอีกแล้ว ชีวิตคู่ของเราไม่มีทางมีความสุขหรอก" "คืนที่เราพบกัน ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองจะอยากออกไปเที่ยวข้างนอก แต่เพื่อนมาหลอกล่อ ฉันใส่แค่ยีนส์เก่าๆ ไม่มีเวลาแม้แต่จะเป่าผมให้แห้งหรือแต่งหน้า แล้วพออยู่ในนั้น อยู่ดีๆ เขาก็เดินเข้ามาแล้วทักว่า "ไฮ, ผมชื่อคีอานู" ...ชั้นนี่มึนไปเลย ตอบเขาไปว่าไงรู้ไหม ฉันบอกว่า "ค่ะ ฉันชื่อราเชล และฉันกำลังจะไปห้องน้ำ" พูดจบฉันนี่ อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่เขากลับหัวเราะ ฉันพยายามจะคุยกับเขาแบบห่างๆ โดยที่ดึงเพื่อนๆเข้าสู่หัวข้อสนทนาด้วย แต่คีอานูเป็นคนที่ตรงประเด็นมากเลยนะ เขาจีบฉันอย่างตั้งใจมากๆเลย" "ฉันรู้ว่าเขาคือใคร ฉันรู้สึกได้ว่าเรามีเคมีตรงกัน ฉันรู้ว่านี่คือโอกาสทอง และอาจเป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะได้มีอะไรกับเขา" "เราคุยกันจนประมาณ ตี3 เขาก็ถามฉันว่าจะย้ายที่ไหม ฉันก็เลยเศนอให้เขาไปกินเบียร์ที่ห้องฉัน ซึ่งมันอาจจะรกนิดนึง เพราะฉันกำลังเก้บของกลับอังกฤษ แต่เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร จากนั้นเขาก็จูบฉัน, ฉันนี่แบบ โอ้พระเจ้า เรื่องนี้มันคือปาฏิหารย์ จูบของเขามันวิเศษ ฉันบรรยายไม่ถูก มันอ่อนหวานนุ่มนวล ฉันอยากนอน ฉันไม่ไหวแล้ว โรงแรมของเขาก็ดูจะไกลไป พอคีอานูถามว่า เขาไปค้างห้องฉันได้ไหม มันก็เลยไปจบที่เตียงของฉัน" "ฉันลืมตาขึ้นมาตอน 11โมงเช้า ยังนึกว่าตัวเองฝันไป จนเห็นปอยผมของเขาที่นอนอยู่ข้างๆ....และเขายังไม่ตื่น เขายังไม่ไปไหน ยังนอนอยู่ที่นี่ และไม่อยากเชื่อว่าพอเขาตื่นขึ้นมาก็ไม่มีทีท่าที่แปลกแยกเลย ทำราวกับนอนอยู่ที่บ้านตัวเอง ฉันมีความสุข แต่ก็แอบเป็นทุกข์ว่าเรื่องนี้มันจะไปต่อยังไง เมื่อพวกเพื่อนๆรู้ว่าฉันนอนเตียงเดียวกับดารา" "ฉันจะพูดอย่างตรงๆว่า เมื่อคืนเราไม่ได้ทำอะไร ต่างคนต่างนอนกันจริงๆ แต่เมื่อถึงตอนเช้า เราต่างต้องการที่จะทำมัน และนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีมาก เราทั้งคู่มีความสุข จากนั้นเขาพาฉันไปกินมื้อกลางวัน โดยให้ฉันเป็นคนเลือกร้าน ฉันจึงเลือกร้านอิตาเลียนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก แล้วเราก็คุยกันอย่างสนุก" "เขาอ่านหนังสือเยอะ ฉลาด สนใจตัวฉันและครอบครัว ฉันว่าเขาชอบที่ชีวิตฉันต่างจากเขา แถมยังหัวเราะ เมื่อฉันบอกว่าเคยดูหนังของเขาแค่เรื่องเดียวคือ Speed และฉันคิดว่านั่นเป็นหนังไร้สาระด้วย" "ฉันว่าเขาถูกใจที่ฉันดูติดดิน และไม่ตัดสินผู้คนจากภายนอก" "เพื่อนๆที่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้น บอกว่าฉันกำลังหาเรื่องใส่ตัว แต่ฉันคิดว่า พวกนางอิจฉาฉันมากกว่า" "เรื่องตลกสุดๆ คือตอนที่คีอานู เอากุณแจรถ ออดี ให้ฉันแล้วบอกว่า ฉันจะขับไปไหนก็ได้ ฉันเลยพาเพื่อนซิ่งซะทั่วเลย ปกติแล้วชีวิตฉันมีแต่เดินกับขึ้นรถเมล์เท่านั้นล่ะ ไม่มีทางได้จับรถหรูๆแบบนั้นหรอก" "แต่อย่าคิดว่า ฉันคบกับเขาเพราะเขารวยนะ เขาไม่เคยให้ของมีค่ากับฉัน และฉันไม่เคยขออะไรจากเขา เขารู้ดีว่าฉันลำบากเรื่องเงิน แต่เขาก็รู้ดีว่าฉันจะไม่พอใจทันที ถ้าเขาจะหยิบยื่นเงินของเขาให้ฉัน" "ฉันไม่มี แม้แต่รูปถ่ายคู่กับเขา เพื่อนมาฝากขอลายเซ็นต์,ฉันก็ไม่ขอให้ ฉันไม่ต้องการเป็นอีสาวนักขุดทองที่คอยปอกลอกคนรวย ไม่เคยคิดไปถึงขั้นที่ว่าจะได้แต่งงานกัน" "และถึงแม้ว่าอยู่กับคีอานูจะมีความสุข แต่ฉันไม่เคยทิ้งกลุ่มเพื่อน ฉันเลื่อนนัดคีอานูหลายครั้งเพื่อไปเมาท์กับพวกเธอ มีอยู่วันหนึ่งที่พวกเราว่ายน้ำกันเพลิน จนฉันไปพบคีอานูสายไปหนึ่งชั่วโมง แต่เขาไม่ว่าอะไรฉันเลย แค่บ่นว่าไปดูหนังไม่ทัน แล้วก็หัวเราะ เราคุยกันเยอะ ทั้งเรื่องหนังและหนังสือ แต่ฉันไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวเขา" "จนวันหนึ่ง ฉันเห็นข่าวเก่าๆพวกนั้น ฉันไม่รู้มาก่อนว่าเขาเคยผ่านเรื่องเลวร้าย แฟนเขาเพิ่งตายไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไหนยังลูกสาวที่ตายเมื่อ2ปีที่แล้วอีก แต่เขาไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย ! และฉันก็ไม่เคยรู้มาก่อน ! เรา2คนไม่เคยพูดเรื่องแฟนเก่า ดังนั้น ฉันจึงไม่รู้ว่า อแมนดา เดอคาดิเนท คือผู้หญิงของเขา และเธอกำลังจะมาซิดนีย์ ! " "สวรรค์ของฉัน เริ่มพัง มันแย่มาก ที่เห็นข่าวเรื่อง อแมนดา และแย่ยิ่งกว่านั้นคือพวกนักข่าวเขียนว่า เมื่อคนรักตัวจริงของคีอานูมา ราเชลโจนส์จะเป็นแค่ของเล่นที่เขาเดินผ่านไป ชั้นรู้เลยว่าข่าวพวกนี้ส่งมาจากคนที่ฉันเคยเรียกว่าเพื่อน" "คีอานูไม่ชอบใจกับหัวข่าวพวกนั้น และแม้ชั้นคิดว่า เขาเชื่อว่าฉันไม่ใช่คนที่ส่งข่าวนี้ไปให้นักข่าว แต่มันก็ทำให้ความสัมพันธ์ของเรามีรอยร้าว เรื่องมันยิ่งแย่ลงไปอีก เมื่อมีภาพเรา ตีพิมพ์ บน นสพ.แทบลอยด์ ฉันต้องโทรทางไกลไปแก้ตัวกับแม่ ถึงแม้ครอบครัวจะรู้ว่าฉันกำลังคบคีอานู แต่พวกเขาไม่คิดว่ามันจะเป็นข่าวอื้อฉาวอย่างที่ลงในหนังสือพิมพ์นั่น" "ที่ฉันสงสัยอีกอย่าง ก็คือ คีอานูคิดอะไรในใจอยู่หรือไม่ ที่เขามาจีบฉัน ชั้นระแวงว่า เขาอยากให้อแมนดาหึงหรือไง ถึงได้ลากฉันเข้ามาพัวพันจนเกิดข่าวพวกนี้" "ฉันเริ่มไม่มีความสุข ทำอะไรก็มีแต่คนคอยจ้อง แค่พาหมาไปเดินเล่นยังมีคนมาถ่ายรูป แม้กระทั่งวันหนึ่งที่ฉันไปยืนเหยียดแขนขาที่ระเบียง ยังมีคนมาถ่ายรูปแล้วไปเขียนข่าวว่าฉันกับเขาเมคเลิฟกันที่ระเบียง นี่มันอะไรกัน" "ถ้าอยู่กันสองต่อสอง เราก็เหมือนคู่รักธรรมดา แต่ถ้าให้คนอื่นมอง เราทั้งสองต่างกันอย่างมาก ฉันว่า คีอานูอิจฉาชีวิตอิสระของฉัน" "เราชอบคุยกันเรื่องเชคสเปียร์ บางทีก็เรื่องของนักเขียนอื่น Thomas Mann บ้าง Dostoevsky บ้าง เขาชอบอ่านและเขียนกลอน แล้วเขาก็ชอบดูหนัง โดยเฉพาะพวกหนังที่ไม่ค่อยดังทั้งหลาย เราอยู่ด้วยกันเมื่อไรก็เล่นกันอย่างสนุก ฉันชอบแอบซุ่มโจมตีเขาด้วยกังฟู ไม่ก็ เลียนแบบท่าทางเขา, ซึ่งเขาก็ชอบมาก เราอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่เสียงหัวเราะ" "แล้วในที่สุด เราก็ต้องจากกัน วีซาของฉันหมดอายุ คีอานูบอกว่าเราจะติดต่อกัน บอกว่าฉันทำให้เขามีความสุข เราจากกันด้วยดี" "ฉันกลับมาหาครอบครัวที่เห็นใจฉัน บ้านและอังกฤษอาจไม่สนุกเหมือนซิดนีย์ แต่ที่นี่ฉันสบายใจมากกว่า" "สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุด คือ ฉันไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคีอานูมันคืออะไร ฉันมีความหมายแค่ไหนสำหรับเขา และอีกเรื่องหนึ่งก็คือฉันรับมือกับการเป็นเป้าของพวกสื่อไม่ได้" "สำหรับเขา ฉันว่าเรื่องนี้เขาจงใจทำเพื่อให้เกิดผลอะไรสักอย่างกับอแมนดา ฉันรู้มาว่าเธอจะไปซิดนียืช่วงคริตสมาส ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ฉันก็แค่คิดว่า ขอให้ฉันและเธออย่าได้มีโอกาสได้เจอกันก็พอ" ******************* อ่านจบแล้ว คิดว่าไง บ้างคะ ลองนึกภาพว่า ถ้าคุณคือเธอ คุณจะทำอย่างไร สำหรับแองจี เดี๊ยนว่า นางคนนี้ เป็นคนประเภทหลงตัวเองอย่าง เอกอุ นางอาจมี คสบ บางประการที่คุณรีฟส์ ถูกใจ แต่คุณรีฟส์ทำถูกแล้วที่หยุดแค่ตรงนั้น คีอานู ยังไงก็ยังเป็นคีอานู การปกปิดตัวตน ยังคงเป็นลักษณะพื้นฐานของเขา ถ้าเขาไม่มั่นใจ เขาจะไม่พูดเรื่องของตัวเอง พอดีกับแม่คนนี้ เธอก็เป็นคนไม่สนใจใคร แล้วยังภูมิใจด้วยนะว่าตัวเองเป็นแบบนี้ คีอานูก็เลยให้ใจเธอเพียงเท่านั้น ซึ่งเมื่อเวลาผ่านมา เขาก็คงเห็นแล้วว่าที่เธอได้ไป ก็มากเกินพอ เพราะเธอนำเรื่องของเขาไปหาเงินได้ แต่กลับมาอ้างว่า การถูกสาธารณชนจับตา เป็นเรื่องที่เธอไม่ชอบ ตรรกะของนาง แปลก จนไม่อาจให้อภัย ข่าวชิ้นนี้ ให้แง่มุมอีกด้าน ของโศกนาฎกรรม ลูกตาย+เมียตาย ของคีอานู มันแสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้ปิดประตูใจสำหรับการมีคู่ การจากไปของ เจนซีมส์ ไม่ได้ทำให้เขาหยุดจีบผู้หญิง กลัวเหลือเกินว่า บล็อกนี้จะทำให้ความนิยมในตัวพี่คี ตกต่ำ แต่ การยอมรับสิ่งที่เป็นจริง จะทำให้เรารักกันโดยไม่มีภาพลวงตา จริงมั้ย คะ รักเขาเพราะสิ่งที่เขาเป็น อย่ารัก เพราะคุณวาดภาพไว้ แล้วอยากให้เขาเป็น ภาพคีอานูไปกดกริ่งและนั่งคอยราเชล ที่กำลังแต่งตัว เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง (ทำไมนางไม่ให้เขามารอในบ้าน ทำไมนางไม่แต่งตัวให้เสร็จทันเวลานัด) ใช้พาหนะ 2ล้อ และ การเดทแบบติดดิน Credit KEANU REEVES KISSED ME AND I THOUGHT 'THIS CAN'T BE REAL'   Create Date : 17 กันยายน 2558     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2558 15:28:45 น. Counter : 4051 Pageviews.   5 comment Share Tweet

Inside Keanu Reeves’s Custom-Motorcyle Shop บุกรังมอเตอร์ไซค์ของเจ้าชายสายลม By Krista Smith ดัดแปลงเป็นไทย โดย angy_11 ฉันรักคีอานูมาตลอด ผลงานของเขา ยืนยงมา3ทศวรรษ ตั้งแต่ My Own Private Idaho, Much Ado About Nothing, Bill & Ted’s Excellent Adventure มาถึง The Matrix และ John Wick เขาแตกต่าง งดงาม และโดดเด่น เหมือนยูนิคอร์นในฝูงม้า เขาคือของแท้ ศิลปินที่ทำเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองรัก รวมไปถึงเรื่องของรถมอเตอร์ไซค์ ที่มีแรงบันดาลใจมาจากการฟังเสียงพวกมันคำรามบนถนนของโตรอนโต สถานที่ซึ่งเขาเติบโตขึ้น จนมาถึงจุดนี้ จุดที่กลายเป็นผู้ขายมอเตอร์ไซค์ตามสั่ง ที่มีราคาขั้นต่ำ อย่างน้อย 78,000ดอลลาร์ เช้าวันที่เรานัดกัน ฉันเดินทางไปที่สตูดิโอของเขาและหุ้นส่วน Gard Hollinger ตั้งอยู่ที่ เมืองHawthorne ซึ่งอยู่ทางใต้ของแอลเอ คีอานูเพิ่งกลับมาสดๆร้อนๆจากญี่ปุ่น เพราะไปร่วมงานอีเวนท์ Suzuka 8 Hours motorcycle endurance race เรื่องเดียวที่ทำให้ฉันหงุดหงิดในเช้านั้น คือฉันเพิ่งรู้ว่า มอเตอร์ไซค์ของเขาไม่มีเบาะหลัง ซึ่งแปลว่า ฉันหมดโอกาสที่จะอ้อน ให้เขาพาฉันนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ ซิ่งสักครั้ง "ผมดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชาวอเมริกันมอเตอร์ไซค์ในแอลเอ" "เหตุที่เราเลือก คำว่าARCH เป็นโลโกเพราะความหมายและรูปลักษณ์ของมัน ARCHคือส่วนโค้ง ที่เราจะเห็นบนซุ้มประตูหรือสะพาน มันเป็นทั้ง ทางออกและทางเข้า เป็นการเดินทาง เป็นความเชื่อมโยง หมายถึงผู้ขับขี่ หมายถึงตัวรถ มันทำให้ทุกดวงตามองมาที่เรา" "ผมหัดขี่รถ ตอนอายุ 22 เรียนกับคุณผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผมพบที่มิวนิค ขณะไปถ่ายหนัง พอกลับมาแอลเอ ผมก็หาซื้อรถรุ่นนั้นเลย ซึ่งก็คือ Norton Commando ตอนนั้นผมยังไม่ได้ลงหลักปักฐานตรงไหน ปีๆหนึ่งย้ายที่ทำงานตามโลเกชันของกองถ่ายภาพยนตร์ ผมก็อาศัยพวกร้านมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในเมืองนั้นๆ ไปซื้อแล้วก็มาซ่อมใช้ ใช้เสร็จ พอจะเปลี่ยนงานหรือย้ายเมือง ผมก็ไปขายคืน ก็เลยได้ลองใช้รถมาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ" "มอเตอร์ไซค์ มีความน่ามองอยู่หลายจุด ผมไม่ได้ลุ่มหลง ผมสนใจ และคิดว่าพวกมันดึงดูดสายตา ทุกเส้นสายที่เกิดเป็นพวกมันล้วนน่ามอง และผมมักจะพบองค์ประกอบที่สวยงามในรถทุกคันเสมอ" "บริษัทของผม สร้างรถตามความต้องการของลูกค้า ไลน์การผลิตของเราไม่ได้ทำแบบอุตสาหกรรม แต่เราทำงานตามสั่ง ดังนั้น รถของคุณจะเป็นของคุณคนเดียว ไม่ว่าส่วนประกอบ สีสัน ความสูงของที่นั่ง ระดับของที่วางเท้า ความยาวของแฮนด์ ลวดลายบนส่วนต่างๆ เราจะคุยกับคุณก่อน เราผลิตรถคันนี้เพื่อคุณคนเดียวเท่านั้น" "ไม่เพียงแค่ลักษณะภายนอก ความสบายในการขับขี่ก็ต้องพิจารณาด้วย ก็จริงอยู่ที่อุตสาหกรรมนี้ มีรถให้คุณเลือกใช้มากมาย แต่บางที รถบางรุ่นก็เหมาะกับแค่บางสถานที่ เราจึงผลิตรุ่นนี้ขึ้นมารองรับความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าในแต่ละวันคุณจะไปที่ใด คุณพารถของเราไปได้ทุกที่เลย  อย่างภาคภูมิด้วย เพราะมันเหมาะกับทุกโอกาส และนี่คือเหตุผลที่เราทำถังน้ำมันขนาดใหญ่ ที่จุได้ถึง5แกลลอน คุณใช้รถได้ทั้งวัน อย่างไม่ต้องพะวงอะไรเลย" สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมต้องเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ รีฟส์ตอบว่า "อยู่บนอานมอเตอร์ไซค์ ใจของผมสงบ สมองทำงานอย่างปรอดโปร่ง เพราะเวลาที่รถเคลื่อนที่ ก็เหมือนชีวิตที่เคลื่อนไป เราได้สัมผัสกับสายลม บรรยากาศ มันเป็นความสุข ความสุขทั้งทางกาย ทางใจ ทางอารมณ์ เป็นความสุขที่ไม่เหมือนอย่างอื่น" Credit :Vanityfair   Create Date : 21 สิงหาคม 2558     Last Update : 21 สิงหาคม 2558 15:21:09 น. Counter : 2550 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ความอินดี้ ของ คีอานูรีฟส์ จะว่าเดี๊ยนเข้าใจKeanu ก็บางเรื่อง แต่ไอ้ที่ไม่เข้าใจ เนี่ย หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเลือกงาน คือ แกเป็นคนช่างเลือก อันนี้ เราไม่แปลกใจ แต่ทำไมชอบเลือกงาน ที่มันมีสิทธิ์จะแป้ก อันนี้สิ เรา โค่ต ตะ ระ แปลกใจ ที่เดี๊ยน บ่น บ่น อยู่นี่ เพราะ เกิดความกังวลอย่างรุนแรง ว่า จะ ไม่ได้ดู Knock Knock ในโรงหนัง ซ้ำรอยกับครั้ง Generation Um, Henry's Crime Private Lives of Pippa Lee, A Scanner Darkly และ Hard Ball ใช่ค่ะ คุณคีอานูเป็นนักแสดงที่มีผลงานเยอะมาก ซึ่งไม่ได้เข้าโรง หรือมีฉาย แค่ในวงจำกัด แล้วคุณว่า เขา แคร์ มั้ยยย ?????? อาจจะดูเหมือนไม่แคร์ แต่ แองจี ว่า แกก็ กังวลเล็กๆ อะนะ คือแกไม่ได้แคร์ในแง่ ความฮิต ดัง ยอดขายถล่มทลาย แต่ก็จะสนใจว่า คนดูชอบงานที่ทำไหม มันมีอะไรให้พูดถึงไหม (คือ พวกเราGetในสิ่งที่ เขาอยากจะบอกหรือเปล่า) คีอานูกล่าวกับ The Telegraph (UK) ซึ่งตีพิมพ์เมื่อ, April 3, 2015 ว่า การปฏิเสธ ไม่เล่น หนังเรื่อง Speed ภาค2 ทำให้เขาถูกสั่งแบนจาก สตูดิโอ Fox เป็นเวลานนานนับ10ปี กว่าจะถึง ปี 2008 ที่ฟ็อกซ์ให้โอกาสแก้ตัวใน The Day the Earth Stood Still ซึ่งการแก้ตัวในครั้งนั้น Foxก็ได้กำไรไม่คุ้มการลงทุน จึงเป็นเหตุให้ เราไม่เห็นชื่อเขาทำงานร่วมกับ Fox อีก (สงสัยคราวนี้จะโดนอีกสัก10ปี)(ฮ่า ฮ่า เดี๊ยนล้อเล่น) กลับมาว่ากันถึงเรื่อง เลือกงาน ในตอนนั้น คีอานูปฏิเสธFOX ซึ่งเสนอค่าตัวถึง 12ล้าน ในการแสดงนำในSpeed 2 เพื่อไปรับเงินก้อนเล็กจากละครเวที Hamlet ที่โรงละครวินิเป็ค ในแคนาดา เพราะไม่อยากเป็น พระเอกแอคชันฮีโร โหล โหล แต่เมื่ออายุใกล้ 50 และควรจะเลือกเล่นบทดรามา ที่ซูมใบหน้าโคลสอัพ (จะได้ไม่ต้องออกแรงเยอะ) เขากลับเลือกเล่นบทบู๊แอคชัน ใน John Wick ซึ่งต้องเสียเวลาไปฝึกทักษะการต่อสู้มากมาย และ มิ วาย จะ เลือกเล่นภาคต่อของหนังเรื่องนี้ด้วย !!!! เหตุผล ของKeanu ที่ไม่เล่นหนังเรื่องSpeed 2 คือ เรือไม่สามารถเร่งความเร็ว และ สาเหตุ ที่อยากเป็น จอห์น วิค เพราะ ... "ผม อิน กะ พี่จอห์น, เขาเศร้า เศร้าอย่างแรงจนสามารถทำอะไรก็ได้ นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่มากกว่า การล้างแค้น คนอื่นอาจไปมองประเด็น หมาตาย รถหาย แต่ผมว่าไม่ใช่ นี่มันคือการเรียกสติและความภูมิใจของตัวเองคืนมา" โอเค ค่ะ เดี๊ยนคิดออกแล้ว ไอ้ที่แกเลือกเล่นหนังอินดี จนลืมคิดไปว่า หนังเรื่องนั้นมันจะได้ฉายในโรงรึเปล่า ก็เพราะ การจะแสดงเรื่องใดๆนั้น มีเหตุผล"ส่วนตัว" เป็นเรื่องหลัก ... มันคงเป็น วิถีทางของคุณรีฟส์ ... แล้วเราจะทำไรได้ล่ะคะ นอกจาก คอยควักตังค์ สนับสนุนผลงานเค้า แล้วก็ลุ้นตัวโก่ง ให้ชาวบ้านเข้าใจ คุณคีอานู เหมือนที่พวกเราเข้าใจ ขอเวลา เดี๊ยนทำใจ แพร๊พพ Credit : อยากอ่านบทความเต็ม(ภาษาEnglish) เชิญที่ 'I felt like I was fighting for my life' Thank You ::: Anakin Mcfly:::for your constant work in collecting all articles     Create Date : 05 สิงหาคม 2558     Last Update : 22 มิถุนายน 2566 13:26:31 น. Counter : 3549 Pageviews.   4 comment Share Tweet

Keanu and the KRGT-1 คุณคิดอย่างไร เมื่อรู้ข่าว ดาราชายสุดฮอต มาขายมอเตอร์ไซค์ (ใครสักคนตอบ) อ๋อ ขายความเท่ ละสิ เผื่อไอ้พวกหน้าโง่คิดว่าขี่มอเตอร์ไซค์รุ่นนั้นแล้วจะฮ็อตแบบเขาไงล่ะ เขาไม่ได้เป็นแค่พรีเซนเตอร์สินค้านะ เป็นผู้ผลิตยี่ห้อของตัวเองมาขายเลยล่ะ (ใครสักคน) ..คนนั้น ควรจะ อึ้ง และ ทึ่ง ในความจริงนี้นะ ขนาดดิฉัน ยัง ทึ่งเลย เดี๊ยน นี่ จะตัดกระโปรง ใส่เอง สักชุด ยัง ขี้เกี๊ยจจ ขี้เกียจ แต่ คีอานู ทำ ! เขาลงแรงสร้างบริษัทมอเตอร์ไซค์ ดีไชด์รูปร่าง ผลิตชิ้นส่วน ทดสอบทางวิศวกรรม ประกอบ และทดลองรถเดโม กว่าจะเกิดสายการผลิตที่จะนำเสนอออกขายได้จริง ก็หมดเวลาและทุนไปมากมาย เขาทำไปเพื่ออะไร ? ถ้าใครสักคน (คนนั้น) ตอบว่า เพื่อเงิน เดี๊ยนคง หัวเราะลั่น ! ใครที่คิดว่า ชีวิตมนุษย์เกิดมาเพื่อหาเงินเพียงอย่างเดียว แปลว่าเขายังมีเงินไม่มากพอที่จะคิดว่า ชีวิตมีไว้ทำอะไร ที่พูดนี่ไม่ได้แปลว่า เดี๊ยนรวย นะคะ เดี๊ยนเพียงแต่ เจ๊งหุ้นบ่อย เท่านั้นเอง ! (อีจี้ นี่ท่าจะบ้า คุณคงคิดแบบนั้น และ เดี๊ยนจะตอบว่า...นี่คุณยังสงสัย ?..555+) อะ เดี๊ยนจะเลิกกวนทรีน แล้วพูดอะไรที่ฟังดูมีเหตุผลขึ้นมาอีกนิด เงินไม่ใช่ทุกสิ่งของมนุษย์ เพราะเงินเป็นเพียง เครื่องมือทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้การแลกเปลี่ยนความพอใจ ในการเป็นอยู่ของมนุษย์ ง่ายขึ้น คุณคงเคยได้ยินคำว่า เงินเฟ้อ ใช่ไหมคะ,ประมาณนั้นแหละฮ่ะ เปลี่ยนเงินเป็นทรัพย์ ทรัพย์เปลี่ยนเป็นความสุข ตอนนี้ คีอานูกำลังเปลี่ยนเงินสดของตัวเองเป็นความสุข ไม่ใช่ความสุขของตัวเอง แต่เป็นความสุขของใครก็ตาม ที่เป็นเจ้าของ KRGT-1 เดี๊ยนเชื่อเอาจริงๆจังๆ ว่าไอ้มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ยี่ห้อนี้ มัน เริ่ศ ! เชื่อทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยกล้าขี่บิ๊กไบค์ (...ให้ซ้อนท้ายยังไม่กล้าเลย ..เว้น ! ซ้อนท้ายคุณรีฟส์ อันนั้นยอม .....ตายเป็นตาย !) ที่เชื่อเพราะเดี๊ยนรู้จักคุณรีฟส์ดี รู้ว่า เขาขี่รถมานาน เขาย่อมรู้ว่า อะไรที่สำคัญเวลาคุณอยู่กับมันเพียง"ลำพัง"บนถนน เขาย่อมรู้ว่าในเวลาคับขัน เจ้าเพื่อนยากของคุณควรมีสมรรถนะอย่างไร ในเวลาพักผ่อน มันควรจะนุ่มนวลอย่างไร (นี่ เดี๊ยนยังแอบคิดไปว่า ถ้าโลกเราเจริญถึงขนาดผลิตหุ่นยนต์ได้ คุณรีฟส์น่าออกแบบเมียจักรกล ได้ดีไม่แพ้มอตะไซค์ คิคิ) ดังนั้น ถ้าคุณเป็นสิงห์นักบิด ที่มองหาเครื่องยนต์รู้ใจ ซื้อ KRGT-1 เถิดค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน (ปิดการขายเอาดื้อๆงี้ล่ะ) คลิกไปอ่านรายละเอียดเลยฮ่ะ ARCH ::::: KRGT-1 ตอนนี้เจ้าของบริษัท มาทำตลาดอยู่แถวๆโตเกียว เผื่อจะจองพร้อมลายเซ็นต์ จะได้ตีตั๋วจองเครื่องบินไปคุยกันให้มั่นใจ ************************ ข่าวปะชาสำพัน สำหรับ คนเสพติด เครียนูว์ เดี๊ยนไปร่วมกะเพื่อนทำเพจ KeanuThaifan ในเฟสบุค แร้ว นะ ฮร้าา https://www.facebook.com/KeanuReevesThailandFans ************************   Create Date : 31 กรกฎาคม 2558     Last Update : 13 ธันวาคม 2564 15:55:27 น. Counter : 4052 Pageviews.   3 comment Share Tweet

• ไร้ระเบียบ
• ข่าว
• บทความ
• งาน
• คลิป
• ไม่เกี่ยวกับเขา

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com