Just another way to make a movie



คีอานู รีฟส์อยู่ในฮอลลีวูดมานานกว่ายี่สิบห้าปี เขารู้ดีว่าภาพยนตร์คืออะไร

คีอานูผ่านมาแล้วทุกรูปแบบ ไม่ว่าความโด่งดังที่สุด หรือไม่มีใครมองที่สุด
แสดงมาแล้วทุกอย่าง ทั้งในหนังที่ทุนสร้างสูงสุดหรือต่ำสุด
เป็นมาแล้วทุกบท ทั้งฮีโรและตัวร้าย หรือแม้แต่ตัวประกอบในหนังที่ไม่มีใครรู้จักเลย เขาก็ทำมาแล้วทั้งสิ้น

จุดหักเหครั้งสำคัญในความคิดของเขา เกิดขึ้นประมาณปี 2004เมื่อคีอานูอายุครบ 40
เขากำลังเหนื่อยกับงานยุคหลังThe Matrix
ในตารางคิว มีทั้งหนังทุนสูงของสตูดิโออย่าง ConstantineและThe Lake House
แล้วยังมีบทในภาพยนตร์อินดี้อย่างThumbsucker และA Scanner Darkly

ในช่วงวิกฤตวัยกลางคนนั้น คีอานู"sick"กับบางอย่างในวงจรการสร้างหนังเดิมๆ
เขาเริ่มคิดถึงสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ แล้วเอนเอียงไปทางIndie

คำตอบที่สะท้อนความคิดนั้นออกมาอย่างชัดเจน ปรากฎในบทสัมภาษณ์ของ สำนักข่าวCollider ที่คุยกับเขาในงานT I F F 2010

'Frosty' ถามคีอานูว่า เกิดอะไรขึ้นในฮอลลีวูด เอ-ลิสต์อย่างเขาจึงต้องลงทุนสร้างหนังเพื่อแสดงเองเช่นนี้
Keanuตอบว่า เป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว ที่เขาพยายามสร้างสิ่งที่เป็นของตัวเองอย่างจริงจัง
Henry's Crimeเป็นผลงานแรก ที่เริ่มมาจากไอเดียของเขาและหุ้นส่วน พวกเขาสร้างมันจากความคิดเริ่มต้น จนเป็นบทและกลายเป็นภาพยนตร์โดยใช้ทุนของตัวเองทุกอย่าง ไม่มีทุนของสตูดิโอเลย ซึ่งทำให้Henry's Crimeเป็น"หนังอิสระ"อย่างแท้จริงและเปิดกว้างสำหรับสายหนังทุกค่ายที่จะเข้ามาคุยเรื่องการขอเป็นตัวแทนฉายในประเทศต่างๆ

ทั้งหมดนี้คีอานูย้ำว่าเขายังไม่หลุดออกจากวงจรของฮอลลีวูด(หมายความว่า เขายังมีหนังทุนใหญ่ ที่รอคิวสร้างอยู่ จากสตูดิโอ) แต่การทำหนังอินดีเองนั้น เป็นสิ่งแวดล้อมใหม่ที่ต่างไปจากเดิม และทำให้เขาได้เรียนรู้มากขึ้น

แน่นอนว่าเขารู้ดีกับคำว่า"ทุนสร้างที่จำกัด"นั้นแปลว่าเงินทุกเหรียญเป็นสิ่งมีค่า เขาคิดว่าการวางแผนงานอย่างรัดกุมและเขียนบทให้ทีมงานทุกคนเข้าใจ จะทำให้งบไม่บานปลายและคุมรายจ่ายได้ดีขึ้น แม้หนังเล็กๆจะไม่สามารถถ่ายฟุตเตทจำนวนมาก แล้วเอาไปตัดทิ้งได้เหมือนหนังทุนใหญ่ แต่คีอานูเน้นว่า ถ้ารู้อยู่แล้วว่าต้องการอะไร ก็ซ้อมก่อนถ่ายไว้จนแน่นอน จากนั้น ก็ทำงานตามกำหนด ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องเสียฟิล์มไปกับการถ่ายทำหลายเทค

บทสรุปของHenry's Crime นั้นยังไม่ชัดเจนเพราะยังไม่ออกฉายอย่างจริงจังในอเมริกา แต่เสียงตอบรับทางบวกของผู้ชมในงานT I F F 2010 ก็ทำให้คีอานูมีแรงฮึดที่จะมุ่งหน้าต่อไปในงานหนังอินดี้

ทันทีที่กลับจากโตรอนโต เขาก็มาถ่ายทำ Generation Umที่เริ่มต้นค้างไว้ในนิวยอร์ค

ด้วยความที่เป็นหนังทุนต่ำ กองถ่ายของGeneration Umจึงทำงานอย่างเรียบง่าย ไม่มีเทรลเลอร์ส่วนตัวให้นักแสดงนำ ไม่มีบอดีการ์ดคุมพื้นที่ให้ปราศจากฝูงชน กองถ่ายใช้คนไม่มาก บางคนทำงานซ้อนตำแหน่งโดยไม่เกี่ยงค่าจ้าง ซึ่งรวมถึงดารานำอย่างคีอานูด้วย

ในกองของGeneration Um นอกจากคีอานูจะเป็นคาแรกเตอร์หลักที่เป็นหัวใจของเรื่อง เขายังช่วยวางมุมกล้อง ช่วยเมคอัพ(ตัวเอง) ช่วยประหยัดงบกองถ่าย ด้วยการรับประทานเพียงแค่ กาแฟกับคัพเค้ก (ในบอร์ดคลับคีอานู เม้าท์กันว่า คีอานูกำลังอยู่ในแผน 3C diet นั่นคือCoffee Cupcake and Cigarettes)







สำหรับแองจี แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่คีอานูเบนเข็มทิศมาทางอินดี้ ทำให้แองจีลำบากขึ้น ที่จะเข้าถึงผลงานของเขา แต่ถ้าเขาสะดวกใจที่จะไปทางนั้น ลำบากแค่ไหน แองจีก็คงต้องตามเขาไป (อารมณ์ประมาณ คุณหนูหนีออกจากบ้านไปกัดก้อนเกลือกินกับพระเอกในดวงใจ)

ก็ขนาด พี่คียังทนได้กับการนั่งพักบน ลังน้ำแข็ง แทนที่จะเป็นเทรลเลอร์ส่วนตัวหรูๆ
การที่แองจีต้องทนรอดูหนังอินดี มันจะลำบากสักแค่ไหนกันเชียว จริงไหมคะ





Credit :
keanu-reeves-interview-henrys-crime @www.collider.com

More Pict
Keanu on Gen Um's set by Just Jared
Keanu on Gen Um's set by Acc Sexiness




 

Create Date : 28 กันยายน 2553    
Last Update : 28 กันยายน 2553 16:45:12 น.
Counter : 1406 Pageviews.  

Keanu Reeves on COWBOY BEBOP, 47 RONIN, PASSENGERS, GENERATION UM, and Other Developing Projects



by Steve 'Frosty' Weintraub
Posted:September 14th, 2010 at 7:33 pm


Collider: ผมได้ข่าวมาพักนึงแล้วว่า คุณจะเล่นเรื่องCowboy Bebop, มีอะไรคืบหน้าไหมครับ
Reeves: ผมก็รออยู่เหมือนกัน เขาเอาสคริปท์ไปแก้เพราะรอบแรกใช้งบแพงไป ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย คงเปิดกล้องได้เร็วขึ้นถ้าหั่นงบลงมาเหลือแค่ห้าสิบล้าน

Collider:แล้ว 47 Roninล่ะ?
Reeves:เรายังหวังว่าจะได้สร้าง47 Ronin

Collider:Carl Rinschยังทำ(47 Ronin)อยู่รึเปล่าล่ะ
Reeves:ทำสิครับ

Collider:มันยังไงกันแน่นะ ทีมงานทำงานช้า หรือว่ามีรถด่วนขบวนอื่นมาตัดหน้า(หมายถึง47 Ronin)
Reeves:ผมเรียกโปรเจ็คนี้ว่า รถด่วนขบวนอืด มากกว่า คือว่า ทีมก็ยังทำงานกันอยู่ทุกวัน ทั้งเรื่องบท เรื่องเทคนิค แถมยังหาโลเกชันกันแล้วด้วย จริงๆมันพร้อมจะถ่ายทำแล้วนะ เหลือแค่รอสัณญาณปล่อยรถ

Collider:แล้วโปรเจ็คPassengersล่ะ ?
Reeves:Passengersก็กลายเป็นยานอวกาศที่รอวันปล่อยขึ้นฟ้าเหมือนกัน

Collider:แต่คุณกำลังถ่ายทำGeneration Um ใช่ไหม เป็นยังไงบ้างครับ ?
Reeves:เพิ่งเริ่มไปสองวัน แต่ทุกอย่างก็ดีมาก

Collider:รู้สึกว่าไม่ค่อยให้ข่าวอะไรออกมาเลยนะ พอจะเล่าให้ฟังได้ไหม
Reeves:ได้ครับ Generation Umแสดง24ชั่วโมงของนายจอห์นให้คุณชม ทั้งเรื่องคุณจะเห็นเขามีอะไรๆกับนางทางโทรศัพท์สองคน จอห์นมีอาชีพเป็นคนขับรถ แล้วต่อมาเขาไปขโมยกล้องวิดิโอมาหนึ่งตัว แล้วจากนั้น เขาก็ใช้กล้องตัวนั้นบันทึกภาพกิจวัตรของตัวเองกับสองสาวในอพาร์ทเม้นท์ มันเหมือนได้เข้าไปดูชีวิตของพวกเขาสามคนน่ะ

Collider:แล้วหลังจบงานนี้แล้ว คุณจะทำอะไรอีก คุณได้ลิ้มรสการเป็นโปรดิวเซอร์ในHenry’s Crimeแล้ว ต่อไปคุณจะทำอะไรอีก

Keanu at Henry's Crime Debute in Toronto

Reeves:ผมไม่ว่างแน่ ตอนนี้คุยกับคนเขียนบทชื่อMark Hymanในโปรเจ็คชื่อIt’s Not Me It’s You เป็นแนวโรแมนติค-คอเมดี อีกเรื่อง คนเขียนบทคือKristen Gore เป็นโปรเจ็คชื่อPsyched พูดถึงคนโรคจิตสองคนที่ตกหลุมรักกัน ทั้งสองเรื่องเป็นผลงานของบริษัทที่ผมหุ้นกับStephen Hamelชื่อบริษัทว่าCompany Films ในเมื่อลงทุนตั้งบริษัทเองแล้ว ผมก็มีงานทำตลอด ไม่เคยว่างเลย




anGy's...

อะ เวร แล้ว ดิยานอวกาศของช้าน ดีเลย์ อีกแล้ว


สำหรับ Generation Um สองสาวคอลล์เกิร์ล แสดงโดย
Bojana Novakovic

and
Adelaide Clemens



More Info
Gen Um on IMDB

Credit
Colider.Com
Expand Interview KR on Collider




 

Create Date : 21 กันยายน 2553    
Last Update : 22 กันยายน 2553 12:48:05 น.
Counter : 1121 Pageviews.  

Why Keanu loves Henry's Crime



Keanuเริ่มทำงานกับStephen Hamel ประมาณปี2005 ความคิดเกี่ยวกับการปล้นธนาคารของสตีเฟนทำให้คีอานูสนใจ ทั้งคู่นำจุดนี้ไปคุยกับSacha Gervasi หลังจากนั้นก็ช่วยกันเขียนบทจนออกมาเป็น Henry's Crime

Keanuเล่าว่า เขาอยากเห็น Henry's Crime ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ จึงต่อสู้กับอุปสรรคมากมายจนมีวันนี้ เขาชอบมันเพราะแนวคิดที่พูดถึงชายคนหนึ่ง ซึ่งติดอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น แล้วชีวิตเปลี่ยนไปหลังออกจากคุกแม้ไม่ได้ทำผิด เพราะเกิดแนวคิดที่จะปล้นธนาคารแห่งนั้นจริงๆ

"พล็อตเรื่องสุดประหลาด" คีอานูอธิบายแรงดลใจที่เขามีต่อเรื่อง "คือว่า, มันมีอุโมงค์ลับที่เข้าไปในธนาคารได้ แต่ปากทางนั้นอยู่ที่หลังโรงละคร และทางเดียวที่จะเข้าถึงได้ ก็คือ เฮนรีต้องเล่นเป็นLopakhin ตัวละครในThe Cherry Orchard ผมว่านี่เป็นสคริปท์ที่ยอดเยี่ยม แปลกและท้าทาย ผมชอบมันมาก"

เนื้อเรื่องที่กล่าวมานั้น เขาเองก็มีส่วนช่วยซาช่าสร้างออกมาด้วย เริ่มจากการพูดคุยแล้วก็เสริมกันคนละนิดละหน่อย ตัดทิ้งบ้าง สร้างใหม่บ้าง กว่าจะสำเร็จออกมาเป็นบทภาพยนตร์ ก็ใช้เวลายาวนานเป็นปี

หลังจากได้ตัวบท คอนเน็กชันของเพื่อนนำคีอานูไปพบMalcolm Venville ผู้กำกับชาวอังกฤษที่ลอนดอน แม้จะพบกันครั้งแรก มัลคอล์มก็ทำให้คีอานูประทับใจจนเลือกเขามากำกับงานนี้ ทั้งที่ผู้กำกับชาวอังกฤษยังไม่มีผลงานโด่งดังจากเรื่องใดเลย
คีอานูเผยว่า มัลคอล์มพูดถึงแรงดึงดูดที่ก่อให้เกิดเรื่องได้อย่างชัดเจน ราวกับเข้าไปนั่งในใจตัวละครทุกตัว



"มัลคอล์มพูดถึงสคริปท์อย่างเร้าอารมณ์มาก ผมช่วยเขียนมากับมือยังตื่นเต้นตามเขาเลย ผมใช้เวลาอีกหลายอาทิตย์คุยกับเขาถึงพื้นฐานของเรื่อง คุยจนเข้าใจกับทุกตัวละครที่ต้องมีที่มา-ที่ไป เขาสามารถเป็นตัวละครทั้งหมดอย่างรู้จริงและเข้าถึง มัลคอล์มมีวิณญาณให้พวกนี้เคลื่อนไหว เขารู้ว่าทุกคนติดอยู่ในกับดัก"

เมื่อพูดถึง"กับดัก" คีอานูคิดว่าตัวเองยังไม่ติดกับ ไม่ว่าจะโดยแนวคิด สถานภาพดารา หรือว่าภาพพจน์ที่สังคมมองเขา สิ่งที่คีอานูต้องการในตอนนี้ มีเพียงการทำงานกับผู้คนหลากหลาย ในงานที่มีความสร้างสรรค์ เขาเผลอหลุดปากถึงDavid Cronenberg ซึ่งตัวเองกำลังเพียรพยายามขอร่วมงานด้วย "ได้ยินไหมเดวิด จ้างผมสักทีสิ" คีอานูกล่าวทีเล่น ทีจริง

ความต้องการจะกลายร่างจากนักแสดงเป็นผู้สร้างงานของคีอานู ปรากฎให้เห็นชัดใน Henry's Crime นอกจากช่วยเขียนบท หาทุนสร้าง เลือกผู้กำกับ หรือแสดงนำเอง เขายังช่วยงานขายหนังให้กับบริษัทผู้จัดจำหน่ายด้วย เรียกว่าทุมเทตลอดหัวจรดเท้าเลยทีเดียว

"ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้ผมรักหนังเรื่องนี้ คือผมชอบวิธีที่เฮนรีเปลี่ยนชีวิตตัวเอง วิธีที่เขาทำให้คนรอบตัวเปลี่ยน เขาทำให้พวกนั้นเต้นตามเขา ด้วยแผนการปล้นแบงค์"

"ผมรักที่เนื้อเรื่องมันเหมือนชีวิตจริงมากๆ ไม่ใช่ในแง่ของการปล้นธนาคารนะครับ แต่ในแง่ที่เกี่ยวกับความคิดที่ว่า การกระทำของตัวเราจะมีผลกับคนรอบข้างเสมอ ไม่ว่าจะเพื่อนหรือครอบครัว เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง สิ่งที่คนอื่นทำก็จะเปลี่ยนเราด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับที่คุณจะเห็นในหนัง ทันทีที่เฮนรีตัดสินใจจะปล้นธนาคาร ชีวิตของคนรอบตัวเขาก็เปลี่ยนไปพร้อมกัน"

ไม่ว่าจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าอย่างไร คีอานูก็พร้อมแล้วที่จะยอมรับมัน



"พออายุถึงสี่สิบ ขอบเขตที่เคยกั้นผมไว้ก็เลือนหายไป ผมไม่รู้ว่านี่เป็นผลมาจากความเข้าใจหรือการยอมรับความจริง หรือเป็นผลจากสารเคมีในสมอง แต่ว่ามันไม่ยากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ที่จะไหลเลื่อนไปกับสังคม คือว่า ก่อนหน้านี้ผมอาจจะกลัวที่จะสูญเสียบางสิ่งซึ่งเป็นความลี้ลับ, แต่ไม่หรอก, ทุกอย่างยังอยู่ตรงนั้น และดีไม่ดี ผมว่ามันมีมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป"


Source

TIFF: Keanu Reeves grapples with the absurd in Henry's Crime
My Passion

แองจีอ่านบทความนี้ในห้องน้ำ, เมื่อเช้า,
อ่านจบแล้วคันมือมาก อยากเขียน(สงสัยโรคจิต)
มันมา"คลิก"เอาตรงที่พี่คีพูดว่า
เราไม่ได้อยู่คนเดียว ไม่ว่าเราทำหรือไม่ทำอะไรก็ตาม จะเกิดเอ็ฟเฟ็คกับคนรอบตัวเรา

นั่นทำให้ แองจี"คลิก" ตรงที่ว่า
ตัวเองก็ใช้ชีวิตครึ่งหลับครึ่งตื่น อยากทำแต่ไม่อยากทำอยู่แบบนั้นมาแล้วทั้งชีวิต (และยังคิดไม่ออกสักทีว่า จะปล้นแบงค์ไหน)

ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งของบทความนี้
คือตอนที่เขาพูดถึงตัวเองที่ผ่อนคลายกับสังคมมากขึ้น

พี่คี โตขึ้นแล้ว จริงจริงด้วย







 

Create Date : 16 กันยายน 2553    
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2557 15:06:02 น.
Counter : 1385 Pageviews.  

Did he have any friends growing up?





แองจีคิดว่า
คนที่อ่านบทความเกี่ยวกับKeanu Reevesมากที่สุด คือ Anakin Mcfly (เว็บมาสเตอร์ของWhoaIsNotMe) ทันทีที่มีคำถามเกี่ยวกับเพื่อนวัยเด็กของคีอานู ว่า Did he have any friends growing up?
อนาคินก็ยกบทความด้านล่างนี้ ขึ้นมาแปะได้ทันใด






"ผมเปลี่ยนที่เรียนสี่ครั้ง ในเวลาห้าปี" คีอานูย้อนความหลังช่วงวัยรุ่น "มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต้องโดนขุดออกจากย่านที่เราคุ้นเคยดี, ต้องตัดใจจากเพื่อนเก่า, ทำความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมใหม่ แล้วยังต้องเริ่มทุกอย่างใหม่หมด ทั้งการแนะนำตัวกับคนอื่น การมองหาคนที่จะคุยกันรู้เรื่อง และผมต้องทนทุกอย่างเหล่านั้น เพราะมันคือทางเดินของชีวิต"

ในขณะนี้ คีอานูพร้อมแล้วที่จะมองกลับไปด้วยสายตาของคนที่เปี่ยมด้วยปัญญา "การย้ายโรงเรียนบ่อยๆมันไม่หนักหนาอะไรนักหรอก ถ้ามองจากตรงนี้" "แต่ตอนนั้นผมเป็นวัยรุ่น การกลายเป็นจุดสนใจของสังคมใหม่แล้วต้องแสดงตัวตนออกไป เป็นเรื่องยาก แม้จะไม่ร้ายแรงถึงขั้นสร้างแผลเป็นในชีวิต แต่มันก็ไม่ง่ายเลย"

เช่นเดียวกับวัยรุ่นทั่วไป เขามีปัญหากับการปรับตัว "ผมเป็นคนโดดเดี่ยวในโรงเรียน ไม่ค่อยถูกชะตากับเพื่อนๆในห้อง"

ถ้าคุณสงสัยว่าเขาผ่านมันมาได้อย่างไร ? คำตอบคือเขาไม่ใส่ใจมัน "ผมไปโรงเรียน แต่ใจไม่อยู่ในห้องเรียน" กีฬาและดนตรีคือของโปรดของเขา "ตลอดวัน ผมคิดเรื่องไปเล่นบาสหรือฮอคกีแล้วเปิดเพลงของBeatles ผมชอบฟังเพลงของRandy Newmanตอนที่กินแครกเกอร์กับทูนา" ดังนั้นเมื่อผลการเรียนไม่สวย แต่ด้านกีฬาประสบความสำเร็จถึงขนาดได้รับเลือกเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าของทีมเยาวชน การเบนเข็มเข้าสู่อาชีพนักกีฬา จึงเป็นทางออกของเขา

คีอานูลาออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ16 โดยหวังว่าจะได้เป็นนักฮอคกี แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาเริ่มคิดเรื่องการเป็นนักแสดง "ผมก็เสียใจเหมือนกันที่ไม่จบไฮสคูล แต่จะทำไงได้ ชีวิตต้องเดินต่อไป" ในช่วงของการแสวงหา เขาสมัครเรียนคอร์สสั้นๆหลายอย่าง "บางทีก็เป็นแบบเรียนคืนเดียวจบ บางทีก็เข้าคอร์สเรียนหนึ่งสัปดาห์" แน่นอนว่ามีบางคอร์สที่เขาเรียนไม่ครบเช่นกัน

แต่ในที่สุด คีอานูก็มีโชคกับการแสดง หลังเข้าทดสอบบทหลายครั้ง เขาได้รับเลือกให้แสดงละครโทรทัศน์ของแคนาดาเรื่อง Hanging In และตามมาด้วยบทสมทบกับดาราดาวรุ่งRob LoweและPatrick Swayzeใน Youngblood ปี1986 ก่อนจะสร้างชื่อด้วยบทนักเรียนไฮสกูลหัวขบถใน The River's Edge ลูกชายที่ต่อต้านพ่อในThe Prince of Pennsylvania วัยรุ่นที่เดินทางข้ามเวลาไปนำนักปราชญ์มาช่วยการสอบในBill and Ted's Excellent Adventure และยังมีบทในภาพยนตร์อีกมากมายที่รอให้เขาตัดสินใจ

คีอานูเล่าว่าความสำเร็จเหล่านี้ เกิดจากความพยายามของตัวเอง ไม่ได้มาจากแมวมอง "แม่บอกว่า ถ้าไม่ไปโรงเรียนก็ต้องหางานทำ แม่จะดีใจมาก ที่ผมไม่ใช่คนว่างงาน" คีอานูเล่าด้วยรอยยิ้ม

ยามที่ว่างเว้นจากงานแสดง คีอานูชอบอยู่บ้านที่ลอสแองเจลิส นอนอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ หรือนิทานหักมุมของรัสเซีย นอกเหนือจากนั้นคือการควบมอเตอร์ไซค์และหัดเล่นเบสส์กีตาร์ "ผมมันกิ๊กก๊อก" เขาหัวเราะร่วน "ไม่ได้รู้เลยว่าจังหวะคืออะไร ผมแค่ชอบฟังเสียงเบสส์ที่ตัวเองดีด ...บางที....มันอาจเป็นการบำบัดทางจิตของผม ละ มั้ง"


คัดและดัดแปลงจาก
Keanu Reeves: Growing Up on the Move
Choices Magazine (US), September 1988
by James A. Baggett




จากบทความข้างต้น
คำตอบที่อธิบายเรื่องที่เขาไม่มีเพื่อนซึ่งเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก คือปัญหาของการที่ครอบครัวต้องเดินทางบ่อย

จากปี 1964-1971 เด็กชายคีอานูที่อายุไม่ถึง7ปี ต้องย้ายบ้านไปสี่ประเทศ จากเบรุสไปเมลเบิร์น, นิวยอร์ค และโตรอนโต แล้วเริ่มเข้าๆออกๆโรงเรียนสี่ครั้ง ในรอบห้าปี จนกระทั่งรู้ว่าตัวเองไม่เหมือนเด็กทั่วไปที่สามารถจบไฮสคูลได้ จึงก้าวออกสู่สังคมของการหางานทำ เมื่ออายุเพียง 16ปี

การเปลี่ยนสังคมบ่อย ฝึกให้คีอานูรู้จักการอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็ก เขามีความอิสระที่จะอยู่ลำพังโดยไม่เหงา ไม่พึ่งพิงผู้อื่น อาจเป็นเพราะการย้ายที่อยู่หลายครั้ง ทำให้เขารู้ว่าการพรากจากคนที่รักนั้นเป็นทุกข์ จึงหันเข้าหาหนังสือ เพลง และกีฬาซึ่งเขาพาติดตัวไปได้ทุกที่

แต่หลังจากการปักหลักยาวนานในฮอลลีวูด คีอานูก็มีเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันในวงการแสดง ทั้งจอช ริชแมน, อเล็กซ์ วินทอร์, สตีเฟน ฮาเมล และโรเบิต เมลเฮ้าส์ แม้เพื่อนๆจะไม่มีรัศมีความโด่งดังเท่า คีอานูก็ยังคลุกคลีกับคนรู้ใจเหล่านี้เสมอ นั่นแสดงว่า เขาไม่ใช่คนที่ขาดทักษะในการมีเพื่อน เพียงแต่เขาเลือกที่จะคบคนที่พูดคุยแล้วสบายใจ มากกว่าคนที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์

เมื่อเร็วๆนี้ มีกรณีที่สังคมเข้าใจว่า คีอานูกำลังอยู่ในห้วงทุกข์สาหัส เพราะเห็นภาพเขานั่งเคี้ยวแซนวิชเพียงลำพังบนม้านั่งข้างถนน
แฟนๆที่เป็นห่วงระดมกำลังส่งข้อความให้กำลังใจบนเว็บไซท์ขอให้คีอานูแฮปปี บ้างก็บริจาคเงินเข้ากองทุนต่อต้านมะเร็งในนามของคีอานูเพื่อยืนยันว่ายังสนับสนุนเขา บางคนก็นำภาพไปตัดต่อล้อเลียนอย่างขำขัน ที่เห็นคนมีตังค์นั่งเศร้า

แองจีเห็นเคสนี้แล้ว ก็ ทั้งปลงและสงสารที่พฤติกรรมสามัญของคีอานู ต้องกลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดไปอย่างนั้น



แม้จะไม่ได้นั่งในใจคีอานูตลอดทั้งวัน แต่แองจีเชื่อมั่นว่าเขาเป็นคนมีสุขภาพจิตดีเหมือนคนทั่วไป เพียงแต่เขารู้สึกสบายในยามที่อยู่คนเดียวจนสามารถทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางหรือรับประทานอาหาร คีอานูชอบอยู่คนเดียว ซึ่งไม่ได้แปลว่าเขาเหงาหรือเศร้า หรือเบื่อหรืออยากตาย,อะไรแบบนั้น

เราอาจจะconnectกันได้ตรงนี้
ตรงที่ชอบอยู่คนเดียว อ่านหนังสือ คิดสร้างงาน ดูหนัง ฟังเพลง
แล้วก็แอบสังเกตชาวบ้าน เพื่อเอามาทดสอบทฤษฎีที่เราตั้งคำถามต่อสังคม



เพราะฉะนั้น อย่าไปห่วงเขาเลยค่ะ
คีอานูนั้นมีเพื่อนรู้ใจไว้รื่นเริงในยามที่เขาอยากสนุก
มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิท ที่วางใจได้เสมอ

นอกเหนือจากนั้น
เขายังมี"เพื่อนใจไกลตัว"อย่างแองจีและสาวๆอีกนับล้านคนบนโลก ส่งแรงใจสนับสนุน
ยังไงซะ คนดีก็มีพระ(นาง)คุ้มครองเสมอ ละ ....เชื่อ อิชั้น เถิ้ดด






Credit : //www.whoaisnotme.net/articles/1988_09xx_kea.htm


Thanks :
Thread atwww.imdb.com
Web ofAnakin_McFly
Line & Emo fromwww.yenta4.com







 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 20 กรกฎาคม 2553 12:38:42 น.
Counter : 1233 Pageviews.  

"Acting is My Life": Keanu Reeves



หากอยากรู้ว่า คีอานู รีฟส์ห่างหายไปจากจอเงินนานแค่ไหน ก็ให้วัดดูจากความยาวของเส้นผมและหนวดเคราของเขา



Q :คุณใช้เวลานานแค่ไหน เพื่อพักผ่อนและลืมพฤติกรรมของตัวละครที่ตัวเองเคยเล่น
A :การแสดงคือชีวิตของผม และมันอยู่กับผมเสมอ ตอนที่ไม่ได้อยู่หน้ากล้อง ผมทำงานหลังกล้อง ทั้งอ่านบทและเตรียมงานสร้าง

Q :แล้วยากไหมที่จะรักษาความเป็นส่วนตัว
A :ใครๆก็ไม่อยากให้เรื่องของตัวเองถูกนินทาหรือพูดถึงไปทั่วหรอก แม้เราจะทำงานแบบนี้ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องโชคร้ายอย่างนั้น และไม่ว่าเรื่องนี้เกิดกับใคร คนนั้นก็ต้องหงุดหงิดเสมอล่ะ

Q :โตรอนโตเปลี่ยนไปมากไหม รู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาเยือนถิ่นที่ตัวเองเติบโตขึ้นมา
A :รู้สึกดีมากครับ กลับมากี่ครั้งก็ดีใจทุกครั้ง ที่นี่เปลี่ยนไปมากจากวันที่ผมจากไป งานหนังโตรอนโตก็ขยายใหญ่ขึ้นมาก ผมมีความทรงจำดีๆมากมายที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ได้ทำงานที่ชอบและเป็นส่วนหนึ่งของมัน

Q :ช่วยพูดถึงความเปลี่ยนแปลงในฮอลลีวูด ตั้งแต่แรกเข้าวงการจนถึงปัจจุบัน
A :เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว สตูดิโอก็เหมือนคาราวานยิปซี ทุกอย่างดูคล้ายร็อคคอนเสิร์ท แม้ตอนเปิดกล้องพวกเราจะมีภาระกิจ แต่ก็เหมือนขวดเบียร์ที่ปิดฝาอยู่ แล้วทันทีที่ถ่ายทำเสร็จ ทุกคนก็โล่งใจ ดึงเบียร์จากช่องแช่แข็ง แล้วก็เล่นกัน คุยกัน เราต่างคนต่างมาแล้วก็แลกเปลี่ยนกันจนเสร็จงาน แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เคร่งครัดขึ้น เป็นงานเป็นการมากขึ้น แม้ทุกคนจะยังดื่มเบียร์ และผมยังสนุกกับงาน แต่มันก็ไม่เหมือนเดิม

Q :แล้วในด้านของตัวภาพยนตร์เอง มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
A :เดี๋ยวนี้หรือครับ สำหรับตัวภาพยนตร์เอง มันต้องมีข้อมูลมากขึ้นจึงจะมีโอกาสสร้าง คุณต้องบอกได้ว่ามันจะถ่ายที่ไหน ใครจะซื้อไปฉาย ใครจะจัดจำหน่าย แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายของคนดูที่เพิ่มขึ้นด้วย บางงานต้องหยุดไปในขณะที่มีงานใหม่เพิ่มขึ้น ทุกอย่างเปลี่ยนไปในรายละเอียด ตอนนี้เราจะเห็นโปรดักชันระดับกลางและหนังอินดีมากขึ้น แต่ทุกเรื่องต้องตอบโจทย์เดียวกันได้ นั่นคือ "ใครคือกลุ่มเป้าหมายของคุณ" สตูดิโอใหญ่ๆสร้างบริษัทย่อยๆเพื่อดูแลกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ พวกเขาไม่ยอมพลาดเรื่องเงินทองหรอกครับ อย่างที่ผมเล่นThe Lake House ทุนสร้างก็แค่40ล้านเอง

Q :คุณจำจุดเริ่มต้นที่คุณมาฮอลลีวูดได้ไหม ?
A :ผมไปที่นั้นตอนอายุยี่สิบ ช่วงแรกยังไม่มีงาน จนกระทั่งได้เล่นหนังกับDennis Hopper และจากจุดนั้นผมก็พัฒนาตัวเองให้เป็นนักแสดงที่เป็นมืออาชีพ

Q :แล้วคุณก็ทำสำเร็จ ถึงวันนี้ คุณมีสิทธิจะเลือกทำเฉพาะงานที่คุณชอบ
A :(หัวเราะ) มันดูเป็นแบบนั้นหรือครับ

Q :แล้วถ้าให้สิทธิจะเลือกงานเก่ามาทำภาคต่อ คุณจะเลือกเรื่องไหน
A :ผมอยากทำ"Constantine" คุณว่าดีไหม

Q :คุณชอบงานสไตล์ไหนมากกว่า ระหว่างบล็อกบัสเตอร์ กับหนังอินดี
A :ผมชอบทั้งสองแบบ อยากให้มีสลับกัน จะได้มีโอกาสที่กว้างขึ้น ได้เรียนรู้สิ่งที่ยังไม่รู้ สำหรับเนื้อเรื่อง ผมเลือกเฉพาะสิ่งที่ผมปิ๊ง แม้บางทีมันจะเป็นหนังบู๊ แต่ได้ออกแรงวิ่งบ้างเตะบ้างก็สนุกดี ผมหวังว่างานจะทำให้ผมตื่นตัวอยู่เสมอ จะได้ทำให้คนดูหนังมีความสุข

Credit

from Club Keanu
and LaPrensa.hn

Found by Marg and Translated by yashodhara
They are the CK member

THANKs




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 12:41:09 น.
Counter : 1204 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

angy_11
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




ปุกาด

ข้อความในบล็อก เป็น คหสต ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็น ความจริง*บางส่วน*+การปรุงแต่ง, จึงไม่อนุญาตให้ใช้อ้างอิงในแง่อื่นๆนอกจากเพื่อความบันเทิงที่อาจจะยกระดับจิตใจ

เนื่องจาก บล็อกเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 จึงอาจมี *ความผิดพลาดจากเรื่องจริง* หลายส่วน หากพาดพิงท่านใด กรุณาติดต่อให้แก้ไขด้วย

ไฟล์ภาพ หลายชิ้น จะไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่จ่ายเงินค่าแขวนภาพในเว็บโฮสท์ ขออภัยในความไม่สะดวก
***
เดิมแบ่งหมวดหมู่บล็อกเป็น5กรุ๊ป
ปัจจุบัน บล็อกใหม่ จะอยู่ที่
กรุ๊ป **ข่าว** เท่านั้น
*********
แองจี้เป็น
หนึ่ง-ใน-แอดฯ
ของเพจเฟสบุค
v
v

แต่ส่วนใหญ่ งานในเพจ จะเป็นความสามารถและความขยัน ของ แอดมินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเธอจะเรียกตัวเอง ว่า "แอดมน" ขอบคุณที่อ่าน ค่ะ
LastBlogs


2023

22:09:66 :Swiz Pizza
23:08:66 :theHat
20:08:66 :HBD 59
21:06:66 :JW4 in 3 mth
07:03:66 :KR AMA 2023
27:02:66 :KwNeverS2theMachines

2022

01:09:65 :HBD58
06:07:65 :KR&TheKid

2021

12:12:64 :Tools=M.Resurrections
23:11:64 :EsqNov2021
09:11:64 :HAGAKURE
16:09:64 :HowCome
02:09:64 :HBD*57
18:6:64 :HairExtention
23:4:64 :JW4 Preparing
2020
26:8:63 :WhatIf...HBD
22:4:63 :SocialDist
6:2:63 :92nd Oscar
8:1:63 :ถ้ารัก อย่าล้ำเส้น

2019
5:11:62 :KeaLexandra
14:10:62 :Dad'sFuneral
12:09:62 :Japan Adv
01:09:62 :HBD*55*
24:07:62 :NicestGuy
03:06:62 :Meme in ABMM
16:05:62 :#AskJohnWick
12:05:62 :JW3's coming
16:04:62 :ยาวไป ยาวไป
16:03:62 :Sandwich

2018

19:12:61 :FakeKeanu
02:09:61 :HBD*54
14:08:61:DestinationWedding
20:07:61 :MySiberiaReview
18:04:61 :จีมา-ปริก-

2017

01:09:60 :HBD 53
22:08:60 :ADC'sBook
09:08:60 :ToTheBone
15:06:60 :JRain
01:06:60 :KRphenomenon
26:05:60 :JW3 will do
26:04:60 :K hates S.media
21:02:60 :C=Wick
08:02:60 :หัวใจน่ากอด

2016

27:12:59 :HNY 2017
02:09:59 :HBD 52
31:08:59 :SwedishD
10:08:59 :Replicas#1
11:07:59 :Rally Car
12:05:59 :M Figaro
31:03:59 :To the Bone
23:03:59 :TWT@tokyo
28:01:59 :ฉงฉานครีนู
26:01:59 :Exposed

2015

04:05:58 :my KnKn
18:11:58 :10/10KnKn
12:11:58 :moreJW2
05:11:58 :JW2 shooting
09:10:58 :@Kimmel 8Oct
30:09:58 :Mrs.Wick
17:09:58 :The-R-Files
07:09:58 :Cinder-K-ella
01:09:58 :HBD- 51
21:08:58 :ARCH - VF
13:08:58 :How Pick
05:08:58 :indie KR
31:07:58 :KRGT-1
15:07:58 :Where's K
28:06:58 :mystery woman
17:06:58 :K miss theP
29:05:58 :TLB 4 Nepal
28:05:58 :No หนวด
18:05:58 :KnKn stills
13:05:58 :K NewLook
09:05:58 :Hide his face
24:04:58 :The New K
20:04:58 :K is funny
12:02:58 :Gauguin Event
06:02:58 :The Neon Demon
26:01:58 :Travelling Actor

2014

17:12:57 :I'm going to start a family again
08:12:57 :Passenger Update !
24:11:57 :I have no time for Amore
31:10:57 :#IMDbAskKeanu
30:10:57 :Welcome back
22:10:57 :JW on KM Live
20:10:57 :JW the best act mov
16:10:57 :Rddt AMA KR#1
14:10:57 :NYC JohnWick
09:10:57 :Miami airport
29:09:57 :ทำไมถึงไม่แต่ง งาน
24:09:57 :2วัน2รอบ !
23:09:57 :STACEY
22:09:57 :obsessive fan
01:09:57 :HBD 50
19:08:57 :J.Rain T.V. Series
14:08:57 :R.day of JW
08:08:57 :K@LAX
01:08:57 :K & Israel PM
16:07:57 :KR bachelorette party
07:07:57 : Clean shaven
24:06:57 :TheWholeTruth
9:06:57 :SandyAward
6:06:57 :GuyChAward
25:05:57 :ARCH on the road
12:05:57 :ปิดกล้องKnockๆ
04:05:57 :K in Chile
15:04:57 :1stPict KnkKnk
08:04:57 :KnockKnock
02:04:57 :K on eBay
20:03:57 :PostponePassenger
06:03:57 :Indi Spirit Awards
25:02:57 :Passenger'll be do
11:02:57 :German gay
31:01:57 :K @ Uru
25:01:57 :more JW
17:01:57 :1st look JW
4:01:57 :Kai Diaster

2013
29:12:56 :X'mas Keanu
26:12:56 :Kai & Keanu
24:12:56 :My 47R review
13:12:56 :cutie K
11:12:56 :47R aud rate
20:11:56 :47R Pr Con
13:11:56 :47R intview
31:10:56 :Bhind 47R
29:10:56 :J.Wick
21:10:56 :KR Reddit AMA
14:10:56 :Apple Store
12:10:56 :47Ronin more
30:09:56 :Nicest guy ever
25:09:56 :Fantastic fest
21:09:56 :John Wick
11:09:56 :@TIFF
10:09:56 :@Toronto
09:09:56 :Fat with Muscle
02:09:56 :HBD 49
30:08:56 :Exercise is Good
28:08:56 :Cute Clip
06:08:56 :47โรนิน ตัวอย่าง
05:08:56 :สาวลึก ลับ
24:07:56 : รายได้ MOTC
17:07:56 :บทความในสิงคโปร์
16:07:56 :18 กค นี้ MOTC ในไทย
10:07:56 :LongLong dragon
09:07:56 :หนังสั้น17mins w VW
20:06:56 :Kid&K on MOTCpromo
11:06:56 :Arch Motorcycle
22:05:56 :MOTC Cannes
10:05:56 :GenUm LA
22:04:56 :Trailer of MoTC
11:04:56 :Delay of MoTC
22:03:56 :Suicide in Cinema
07:03:56 :@ฺBJ CloudAtlas
06:02:56 :FB page
06:02:56 :K's Home
22:01:56 :MOTC releaseDate
11:01:56 :K's back 2 BJ

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angy_11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.