CooL Down :: จบแล้วค่ะ River Phoenix & Keanu Reeves : Interview (US), November 1991 แองจีอ่านประโยคสุดท้ายของ ริเวอร์ ฟินิกซ์ แล้วก็ หลอนๆ อยู่เหมือนกัน Keanu Reeves - ผมอยากเล่นเช็คสเปียร์กับริเวอร์สักครั้ง ผมว่าเราจะสนุกด้วยกัน อาจเป็นเรื่องA Midsummer Night's Dream ไม่ก็ Romeo and Juliet River Phoenix - งั้น...ให้เราเป็น Julietนะ ^ ^ ^ คุณริเวอร์เค้านึกยังไง้ !!! ถึงได้ พูดคำนี้ออกมา !!! ....หลายคนในสังคม เค้ายิ่งเม้าท์กันอยู่ ว่าทั้งคู่มีความผูกพันเกินมาตรฐาน !!! แล้วยิ่ง มี..ควัน..จากฉาก แคมป์ไฟ ในMy Own Private Idaho ที่ริเวอร์และคีอานูแสดงฉากนี้ด้วยบทพูด ที่...ชวนให้จินตนาการ...ดังนี้ Mike : I'd like to talk with you. I mean I'd like to, uh, really talk with you. I mean we're talking right now, but, you know, I don't know, I-I don't feel like I can be... I don't feel like I can be close to you. I mean we're close, you know, right now we're close, but, I mean, you know... Scott : How close, I mean... Mike : I don't know, whatever. Scott : What? Mike : What I mean to you? Scott : What do you mean to me? Mike, you're my best friend. Mike : I know, man, I know... I know... I know I'm your friend. We're good friends, and that's good to be, you know, good friends. That's a good thing. Scott : So... Mike : So I just... [pauses] Mike : That's okay. We're going to be friends. Scott : I only have sex with a guy for money. Mike : Yeah, I know, I mean... Scott : And two guys can't love each other. Mike : Yeah. Well, I-I don't know, I mean, I mean for me, I could love someone even if I, you know, wasn't paid for it. I love you, and... you don't pay me. Scott : Mike... Mike : I really wanna kiss you, man. [pauses] Mike : Well goodnight man. [pauses again] Mike : I love you, though. [pauses again] Mike : You know that. I do love you. เป็นฉากสารภาพรักที่หดหู่ยอดเยี่ยม จากเวที แองจีอวอร์ด แองจีเชื่อว่า ริเวอร์อาจจะยัง อิน บทอยู่บ้างก็เลยพูดไปแบบไม่คิดมาก แต่จะว่าไป บางครั้งสังคมก็จับผิดดารามากเกินไป หากเราคิดว่าในสมัยเช็คสเปียร์ ผู้แสดงละครทุกคนเป็นชาย การที่นักแสดงชายจะรับบทผู้หญิงก็ไม่ได้แปลว่า เขามีรสนิยมรักร่วมเพศเสมอไป ....................อย่างไรก็ตาม ตราบวันที่ให้สัมภาษณ์ในปี 1991 จนถึงปัจจุบัน ความฝันของทั้งคู่ ที่หวังจะทำงานละครบนเวทีด้วยกัน ...........ก็ไม่เคยเป็นจริง ริเวอร์ ฟินิกซ์ เสียชีวิตหน้าผับViper Roomของจอห์นนี เดปป์ ในคืนฮาโลวีน ปี 1993 เพราะหัวใจหยุดเต้น..เนื่องจากการใช้ยา ......หยุดอนาคตทั้งหมดของเขาลงที่ตรงนั้น - - - - - หลายคนรับไม่ได้กับสาเหตุการตายของฟินิกซ์ แองจีก็เคยคิดเช่นนั้น ............ ........... จนหลายปีผ่านไป จึงทำใจได้ - - - ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไร หรือทำอะไร - สิ่งที่เขาสร้างไว้ คือ งานศิลปะการแสดงที่ดีหลายชิ้น - แองจีจึงคิดว่า เท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะรักริเวอร์ และให้อภัย ที่เขาทำร้ายหัวใจเราด้วยการไม่ดูแลตนเอง - - R.I.P. River Phoenix God Bless You :: Crime Scene Phoenix Downs from Wikipedia.org :: วินาทีสุดท้ายของริเวอร์ ฟินิกซ์ หากต้องการอ่านเชิญคลิก On October 31, 1993, Phoenix died at the age of 23 from an accidental drug overdose of heroin and cocaine (speedball) outside the Viper Room, a Hollywood night club previously partly owned by actor Johnny Depp. An autopsy also revealed traces of cough syrup and cannabis in his blood. On the night of Phoenix's death, following a last minute refusal to perform music on stage, he was in the bathroom doing drugs with various friends and drug dealers.[7] It is reported that someone offered him some Persian Brown (a powerful form of methamphetamine mixed with opiates, which is then snorted) and soon after consuming the drug Phoenix became ill.[7] Red Hot Chili Peppers bassist Flea, was present at the time, as was John Frusciante.[citation needed] Johnny Depp and Flea were on stage playing music when they noticed Phoenix staggering out of the night club. Both Depp and Flea jumped off of the stage and followed Phoenix outside.[citation needed] Soon after leaving The Viper Room, River collapsed on the sidewalk and started going into seizures for a couple of minutes. His brother, Joaquin, was present at the scene, along with River's then-girlfriend actress Samantha Mathis, and dialed 911, unable to determine whether he was breathing or not. River had in fact already stopped breathing. He was rushed to the Cedars-Sinai Medical Center, but attempts to resuscitate him were unsuccessful. He was pronounced dead at 1:51 AM PST on the morning of October 31, 1993. Johnny Depp used to close The Viper Room every October 31 in memory of River's death. But since his step back from partial ownership in 2004 the club has abandoned this tradition, partly a reason for the demise of the Viper Room's popularity.[citation needed]. At the time of his death, Phoenix was filming the movie Dark Blood, which, although 90% completed, was never released, as Phoenix's death made it impossible for the filmmakers to film several key scenes. Prone to spells of worsening depression and compulsivity, River hinted in interviews at having been abused by the members of the oft-investigated cult to which he had belonged as a small child. Although the details of the alleged mistreatment remain unclear, it has been strongly suggested that the experience played a key role in his descent into substance abuse towards the end of his life (statistically, a common problem among those who have undergone certain forms of childhood abuse trauma).[citation needed] Prior to his death, River Phoenix's image—-one he bemoaned in interviews—-had been squeaky-clean, due in part to the public discussion of his various social, political, humanitarian and dietary interests not always popular in the '80s; as a result, his death was considered one of show-business's most shocking and tragic, and elicited a vast amount of coverage from the media at the time. Friends and family became silent for many years on the subject of their fallen loved-one, and mostly remain silent even to this day. In his 2004 interview book Who The Hell's In It, Peter Bogdanovich, one of the last directors to work with Phoenix, stresses that the actor did not make the impression of being heavily involved with drugs. Interestingly, Bogdanovich quotes actor Tony Curtis, who "said cryptically, but with considerable weight" on a TV talk-show, that it was "difficult to comprehend how much envy" there was in Hollywood. Shortly before his Halloween 1993 demise, River, whose extra-curricular activities had yet to be known publicly, stated that, "addiction is not just for bad people or scum-bags; it's a universal disease."[citation needed] Fans and film critics alike have often observed the uncanny parallels to his highly unusual life history --and moments seemingly prophetic of his death-- reflected in his motion pictures. แม้จะหายไปหนึ่ง แต่ยังเหลืออีกหนึ่ง คีอานู รีฟส์ ! คะ !....... เรารักคุณ...... อยู่ด้วยกันไปนานๆนะ   Create Date : 20 กรกฎาคม 2550     Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:34:37 น. Counter : 2291 Pageviews.   40 comment Share Tweet

River Phoenix & Keanu Reeves : Interview (US), November 1991 (Part II) By Gini Sikes and Paige Powell (กดลิงค์อ่านภาคแรก ตรงนี้) Gini Sikes -ตอนที่พวกคุณถ่ายฉากเซ็กส์แบบสามคนกับUdo ยากไหมคะ? River Phoenix - ผมไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลยตอนเราถ่ายฉากนั้น ผมได้แต่พูดว่า"เฮ้! คีอานู! นายรู้ไหมว่า แฟนๆร่วมห้าร้อยล้านของนายจะนึกยังไงกับฉากนี้" ซึ่งมันงี่เง่ามาก ผมพูดอะไรที่ทำให้เพื่อนเครียด แต่เขาเก่งครับ เขาผ่านมันมาได้ ผมโดนกัซด่าทั้งคืนเลยวันนั้น Keanu Reeves - กัซด่านายเรื่องนี้หรือ? River Phoenix -ใช่ เขาด่าเราแรงด้วย เพื่อน เราเกือบร้องไห้ เราเสียใจมาก เราแค่อยากทำให้เพื่อนรีแล็กซ์ นายรู้ใช่ไหม เรานึกว่ามันเป็นเรื่องขำๆ --เราไม่อยากให้นายเสียใจทีหลังถ้านายตัดสินใจทำอะไรลงไป Keanu Reeves - ขอบคุณมาก..น้องชาย River Phoenix -ตอนหลังคีอานูยังต้องถ่ายฉากโป๊กับแม่ไคราคนสวยด้วย ผมว่าฉากนั้นก็เพี้ยน เขามีโอกาสใกล้ชิดหญิงแต่อากาศหนาวยังกับน้ำแข็ง ตลอดห้าชั่วโมงนั่น ผมว่าเขาคงไม่ได้คิดเรื่องเซ็กส์เพราะมัวแต่หนาวแน่ๆเลย Gini Sikes -ฉากโป๊สามคนของพวกคุณกับอูโด คงง่ายกว่า เพราะคุณสองคนเป็นเพื่อนกันใช่ไหมคะ ไม่ทราบว่าคุณทั้งคู่พบกันได้ไง River Phoenix - ผมรู้จักคีอานูเพราะแฟนเก่าผม Martha Plimpton เล่นหนังกับเขาในParenthood หนังเรื่องนั้นเขาจูบแฟนผมหลายฉากนะ แล้วน้องชายผมJoaquin(as Leaf Phoenix in Credit Title)ก็เล่นเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น ทั้งมาร์ธาและวาควีน จึงรู้จักกับคีอานูก่อน หลังจากนั้นผมจึงพบเขาในกองถ่าย I Love You to Death และทันทีที่เราพบกัน ผมว่า ผมชอบหมอนี่มาก เขาเหมือนพี่ชายแต่ใกล้ชิดกว่า Paige Powell -คีอานูคะ, สก็อตต์เป็นเด็กรวยที่เกลือกกลั้วกับเรื่องแบบนี้เพื่อต่อต้านพ่อผู้ยิ่งใหญ่ราวเจ้าเมือง กัซใช้ตัวละครPrince Hal จากบทละครShakespeare เรื่องHenry IVเป็นแบบอย่าง ใช่หรือไม่คะ... Keanu Reeves - ก็มีส่วน, แต่ปริ๊นซ์ ฮัลของเช็คสเปียร์เปลี่ยนตัวเองไปเป็นพระราชาที่ดี เพื่อลดความขัดแย้งพระองค์ยอมทำทุกอย่าง แล้วทั้งขุนนางและราชวงศ์ทุกคนก็สบาย เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่มีใครอยากตายเพราะศักดิ์ศรี ประชาชนก็สงบสุข แต่ในไอดาโฮ สก็อตต์ไม่สนใจคนอื่น เขามีเป้าหมายของเขาเอง เขาทิ้งทุกคนเพื่อไปตามทางของเขา ดังนั้นผมว่า เขาไม่เหมือนเจ้าชายฮัล คือว่า เขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อใครเลย ในตอนท้ายเรื่อง พ่อเขาเองที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ ซึ่งนั่นอาจเพราะสภาพสังคมของเรื่องนี้ต่างไปจากสมัยเช็คสเปียร์ เรื่องนี้เป็นละครยุคปัจจุบัน Gini Sikes -คีอานู, คุณคิดยังไงกับฉากที่ไมค์และสก็อตต พูดจากันแบบเช็คสเปียร์ คุณรู้สึกว่าการเปลี่ยนจังหวะพูดของคุณทำให้ฉากนี้แปลกๆไหม Keanu Reeves -มันอยู่ในบทครับ กัซอยากแทรกสิ่งนี้ลงไป ดังนั้นมันก็เหมือนเกมของผม ผมไม่กังวล ผมว่าท้าทายและน่าสนใจ River Phoenix - ผมต่างหากที่กลัวว่ามันจะไม่เวิร์ค Keanu Reeves - สำหรับกัน งั้นหรือเพื่อน? River Phoenix - ไม่, สำหรับหนังทั้งหมด, เราว่า เราสองคนน่าจะเข้าใจชัดเจนก่อนว่าเราจะเล่นฉากนี้ยังไง นายเข้าใจมะ ไอ่พวกเช็คสเปียร์กับเรื่องริมถนนเนี่ย มันคนละเรื่องกันเลย มันเหมือนเราถ่ายหนังสี่สีอยู่ดีๆแล้วโดดไปถ่ายหนังขาว-ดำ เราว่า เรากับนายน่าจะพูดกันให้ชัวร์ก่อนจะได้ทำตามที่กัซวางแผนไว้ได้ดีกว่านี้ Keanu Reeves - เราไม่เคยสนใจเรื่องสไตล์แบบที่นายว่าว่ะ สงสัยนายจะศึกษาเรื่องกล้องมากกว่าเราแน่ๆ River Phoenix -ความรับผิดชอบของเรามากกว่านายนี่หว่า เรารับบทไมค์ เราต้องแบกความรับผิดชอบของผู้กำกับ--ผมกังวลตลอดว่าโรคนาร์โคเลปซีที่ไมค์เป็นจะบีบมุมมองของคนดูหนัง ผมไม่อยากให้คนดูคิดว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะไมค์เป็นโรคนี้ นี่ทำให้ผมเครียดกับบทมากไม่เว้นแม้แต่ตอนที่ผมไม่ได้เข้ากล้อง ผมระวังทุกอย่างให้ตัวเองเป็นไมค์อย่างสมบูรณ์แบบ Paige Powell -อย่างหนึ่งที่ทำให้ชั้นชอบงานของกัซมากคือความเข้าใจและเห็นใจ Mala Noche เป็นผลงานของเขาที่บีบหัวใจฉัน แล้วในMy Own Private Idaho, เขาเล่นเรื่องการโหยหาครอบครัวและบ้าน ชั้นสงสัยว่าแกนหลักอันนี้หรือเปล่า ที่ทำให้พวกคุณรับงานนี้ Keanu Reeves - สำหรับผมแล้ว ไม่ใช่ River Phoenix - แต่ผม ใช่ ผมโดนใจมากกับแก่นเรื่องการตามหาแม่และบ้าน ผมว่ามันช่าง...สัมผัสได้ เราทุกคนรู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่หากเกิดกับใครก็ตาม มันจำเป็นที่ต้องได้รับการตอบสนอง ผมว่ากัซรู้ดีเชียวล่ะ Paige Powell - พวกคุณทำงานกับกัซเป็นไงบ้าง ต้องไปนอนบ้านเขา อยู่กับเขาในกองถ่าย กัซตัวจริงเป็นคนยังไงคะ River Phoenix - กัซเป็นทุกอย่างที่เราอยากเป็น เขายอมรับทุกอย่างและกระตือรือร้นเหมือนเด็ก คุณนึกออกไหม เด็ก อะ แบบว่าชอบทำอะไรที่พวกแม่ๆห้าม แต่กัซกับพวกเราเข้าใจกัน เขาโอเพ่นมากๆ แล้วก็เข้าใจง่าย พวกเราทำงานกันเหมือนครอบครัว เป็นสหกร์ณที่ทุกคนมีสิทธิออกความเห็น Gini Sikes - แล้วคุณสองคนเป็นไงมั่ง River Phoenix - ก็ทุกเช้า ผู้ช่วยของกัซชื่อแม็ท ก็จะร้องเพลงโหยหวนปลุกพวกเรา ดึงหูทีละคนไปใส่รถแวน Keanu Reeves - เฮ้ย..ไม่จริง เราตื่นเช้าเตรียมพร้อมทุกวัน River Phoenix - เอ้า..เหรอ งั้นเขาดึงหูผมคนเดียวไปใส่รถแวน ผมตื่นยากมากตอนเช้าๆ Keanu Reeves - อันนี้ เรายืนยัน แต่ความจริงแล้วแมทก็ดึงหูเราเหมือนกัน เพราะเรามัวแต่ยืนโม้ว่ะ River Phoenix - เออ ใช่ คีอานูยืนรอข้างล่างพร้อมสคริปท์ในมือทุกเช้า ยืนโม้โน่นนี่รอผมที่หลับกลิ้งอยู่ข้างบนในชุดเก่า ปกติผมหลับในชุดเมื่อวานทุกคืน Paige Powell - กัซบอกพวกคุณก่อนใช่ไหมว่าเขาจะถ่ายฉากไหน River Phoenix - ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าเขาเลือกยังไงว่าจะถ่ายฉากไหน ตอนไหน อะไรของเขา Paige Powell - ก็แบบว่า ตอนที่คุณตื่นมาคุณรู้ใช่ไหมว่าเขาจะถ่ายฉากไหน Keanu Reeves -ส่วนใหญ่จะรู้นะ ผมว่าคงมีคนเตือนกัซว่า เขาควรบอกเพื่อนร่วมงานให้รู้ล่วงหน้าว่าเขาจะถ่ายอะไร แต่เรื่องเขาเลือกยังไง ผมว่าเขาคงมีสไตล์ส่วนตัวหรือไม่ก็เครื่องจักรกลอะไรสักอย่างที่เลือกให้มั้ง Paige Powell - หนังเริ่มเรื่องจาก Portland, ย้ายไป Idaho, แล้วข้ามไป Italy ตอนถ่ายทำคุณคิดไหมว่ามันจะไม่ต่อเนื่องกัน River Phoenix - ผมใช้ฉากแคมป์ไฟเป็นฉากสรุป เป็นฉากที่ผมกับคีอานูช่วยกันสร้าง เราคุยกันมากเกี่ยวกับตัวละครทั้งสอง พยายามลงลึกและค้นหาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในขณะที่หนังกำลังถ่ายฉากอื่นๆ เราสองคนปรึกษากันเรื่องฉากนี้แล้วก็ลองปรับบทเพราะเป็นฉากสุดท้ายในสหรัฐที่เราถ่ายทำ แล้วในที่สุด มันก็สำเร็จ ผมว่าเราทำทุกอย่างชัดเจนตอนที่ถ่ายทอดมันออกมาในหนัง Gini Sikes - นั่นมันฉากที่ไมค์สารภาพว่ารักสก็อตต River Phoenix - มันไม่ใช่แค่รักนะครับ มันเป็นความรู้สึกดีๆที่สะสมโดยเราไม่รู้ตัวว่ามาจากไหน การถ่ายทำเรื่องนี้ถ่ายเจาะเป็นฉาก เราแทบไม่รู้เลยว่ามันจะออกมายังไงหลังตัดต่อเสร็จ ดังนั้นตอนถ่ายฉากนี้ ทุกคำพูดแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการปล่อยออกจากใจสดๆ Paige Powell - ฉากแคมป์ไฟคล้ายฉากที่คุณถ่ายในStand By Me River Phoenix - เป็นฉากสารภาพเช่นกัน แล้วแน่นอนว่าผมมีฉากนี้ในRunning on Emptyด้วย ความจริงกัซไม่เคยดูหนังสองเรื่องนั้นของผม ดังนั้นสงสัยมันจะเป็นเรื่องบังเอิญ Paige Powell -ตอนชั้นไปเยี่ยมพวกคุณขณะอยู่ที่อิตาลี ชั้นสังเกตว่า คุณสองคนได้รับการต้อนรับดีมากจากทางโรงแรม มีคนขับรถลิมูซีนให้ พวกคุณเที่ยวกันไม่ต้องหลับต้องนอน แม้จะถ่ายหนังเหนื่อยๆเลยนะ River Phoenix - เอ๊า แน่นอน ก็เราน่ารัก เราเป็นบุคคลมหัศจรรย์ที่แสนดี โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับGeorge Bush และ Ronald Reagan Keanu Reeves - ทุกคนที่นั่นแสนดีครับ พวกเขาคือสุดยอดของสายงาน ในเมื่อมีโอกาสดีเช่นนี้ ผมขอฝากบอกขอบคุณทุกคนที่นั่นด้วย "ขอบคุณครับ" River Phoenix - (หัวเราะลั่น)โท่ด.. เพื่อน.. แต่นายขอบคุณได้ขำว่ะ Paige Powell - ค่ะ ชั้นก็ว่าขำแต่จริงใจดี ชั้นว่าคุณได้แสดงให้โลกรู้ว่าคุณแคร์ทุกคนที่ร่วมงานด้วย River Phoenix - ตรงนี้ขอหน่อย ผมอยากบอกว่า ผมรู้ว่าคนที่ทำงานข้างล่างลำบากยังไง ในเมื่อพระเจ้าให้โอกาสเราได้อยู่ข้างบน เราจะไม่ทำลายมัน เราจะขอบคุณและซาบซึ้งกับโชคดีที่ทำให้เราได้อยู่ตรงนี้ เราสองคนโชคดีมาก ได้ทำงานที่ชอบ ได้สร้างสรรค์แล้วยังได้เงินด้วย Keanu Reeves - ถูกแล้ว, น้องชาย ถูกแล้ว Gini Sikes - แล้วงานต่อไปของพวกคุณคืออะไร River Phoenix - ผมกำลังจะซื้อกล้อง 16 ม.ม. ผมยังไม่คิดจะเป็นคนทำหนัง แต่ผมอยากถ่ายหนังสั้น ผมชอบสารคดี ผมกำลังจะพาแฟนสาวของผมไปถ่ายสารคดีแถวๆภูเขาที่ผมกับน้องๆเคยอยู่และถ่ายทำหนังทีวี เมื่ออายุ12เรื่องSeven Brides for Seven Brothers Keanu Reeves - ช่วงเวลาดีๆของนายสินะ เราคิดแต่เรื่องเที่ยวว่ะ อยากไปปารีส เมืองแห่งความฝัน, ผมวางแผนจะอ่านหนังสือด้วยครับ แล้วก็ต้องเข้าคอร์สฝึกการออกเสียง Gini Sikes - จะเตรียมตัวเล่นเช็คสเปียร์อีกหรือไงคะ Keanu Reeves - อืมม ใครจะรู้ เนอะ ผมอยากเล่นเช็คสเปียร์กับริเวอร์สักครั้ง ผมว่าเราจะสนุกด้วยกัน อาจเป็นเรื่องA Midsummer Night's Dream ไม่ก็ Romeo and Juliet River Phoenix - งั้นให้เราเป็น Julietนะ (...บทความจบลงที่ประโยคที่ ริเวอร์อยากเป็นจูเลียต !!! so, พรุ่งนี้ แองจีจะอัพอีกบล็อกหนึ่งชื่อ CooL Down.........) ---------------------------> ::Credit :: Story>>>Gini Sikes and Paige Powell ::"Hurt my image? Who am I? A politican? No, I'm an actor."::River Phoenix / Keanu Reeves :: Interview (US), November 1991 Photo>>>Bruce Weber Thai Editor and Blog Publishing>>>aNgy_11 --------------------------->   Create Date : 19 กรกฎาคม 2550     Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:35:31 น. Counter : 1836 Pageviews.   37 comment Share Tweet

River Phoenix & Keanu Reeves : Interview (US), November 1991 (Part I) By Gini Sikes and Paige Powell ใน My Own Private Idaho ริเวอร์ ฟินิกซ์ และ คีอานู รีฟส์ แสดงเป็นโสเภณีชายริมทาง แม้ทั้งคู่จะทำผิดกฏหมาย แต่หากคุณได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะรู้สึกว่าพวกเขาคือเหยื่อมากกว่าอาชญากร ฟินิกซ์แสดงเป็น"ไมค์"เด็กหนุ่มผู้ป่วยเป็นโรคnarcoleptic โรคที่ผู้ป่วยมีอาการวูบหลับเมื่ออยู่ในสถานการ์ณตึงเครียด ไมค์ขายเซ็กส์เลี้ยงชีพและพยายามตามหาแม่ บนถนนสายเดียวกัน รีฟส์ แสดงเป็น"สก็อตต์" ทายาทเศรษฐีผู้ขายบริการเพื่อต่อต้านความยิ่งใหญ่ของบิดา กัซ แวง ซอง ผู้เขียนบทและกำกับกล่าวว่า "ไอดาโฮเป็นเรื่องราวของ เด็กร่ำรวยที่หนีจากสังคมชั้นสูง กับเด็กขาดความอบอุ่นคนหนึ่งจากข้างถนน ผมเห็นลักษณะสูงส่งเหน็บหนาวของคีอานู และลักษณะไร้ค่าอ้างว้างของริเวอร์ ทั้งสองคนแสดงเรื่องนี้ได้ง่ายๆ ด้วยการเล่ามุมของตนออกมา" ง่ายยิ่งกว่านั้น คือการที่สองดารานำเพิ่งร่วมงานกันหมาดๆ ในหนังนอกกระแสเรื่องI Love You to Death ของLawrence Kasdan ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่โด่งดังในกระแสหลักเป็นเวลานาน ฟินิกส์ประสบความสำเร็จตั้งแต่เยาว์วัยใน Stand By Me และ Indiana Jones and the Last Crusade ส่วน รีฟส์ มีความสำเร็จของBill and Ted adventures และPoint Breakอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ดี ทั้งคู่เชี่ยวชาญกับบท คนแปลกแยกของสังคม อาทิเช่น รีฟส์ กับลักษณะคล้าย Holden Caulfield ในหนังเรื่องRiver's Edge ซึ่งทำให้เขาเป็นที่กล่าวถึงอย่างไม่มีใครกล้าปฏิเสธ และ ฟินิกส์ ในบท ลูกชายผู้ต้องหาในRunning on Empty ก็ส่งให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ เรานัดทั้งคู่รับประทานอาหารเย็นที่ร้านSuite 55 ในโรงแรมChâteau Marmont รีฟส์มาถึงเป็นคนแรกในสภาพหัวกระเซิงเพราะหนีปาปารัสซี เขาเล่าว่า "ผมกำลังจอดมอเตอร์ไซค์ถามพี่ รปภ.ว่าทำไมต้องมีการ์ดยืนเยอะขนาดนี้ จะมีหนังมาถ่ายที่นี่รึไง แล้ว ทันใดนั้นเอง พวกนั้นก็ตะโกนว่า "เฮ้ย.. นั่น... คีอานูนี่หว่า เฮ้ย.. พวกเรา เร้วววว.." โอ้โห..คุณเอ๋ย..ผมเผ่นแทบไม่ทัน บ้าชะมัดเลย" เขายิงฟันยิ้ม ก่อนหันไปตั้งใจขูด พามีซานชีส ใส่จานพาสตาที่ยกมาเสิร์ฟ ในขณะที่คีอานูยังสงสัยว่าเขาควรใช้ด้านไหนของgraterขูดชีส ฟินิกซ์ก็ปรากฏกายขึ้นตรงนั้น และทันทีที่พวกเขาพบกันฟินิกซ์ก็ชวนรีฟส์เข้าไปขอกระเทียมเพิ่มในครัว สองสามนาทีถัดมา ทั้งคู่ขอย้ายโต๊ะสัมภาษณ์และจานอาหารไปที่ระเบียง ริเวอร์ ฟินิกซ์จุดบุหรี่คาเมลสูบ ก่อนเลิกคิ้วถามพวกเราว่า "คุณไม่ว่าอะไร ใช่มะ" เขาถอนใจ ก่อนพูดต่อว่า "ผมรู้ละน่ะ..ว่า ผมควรเลิก" ทั้งริเวอร์ ฟินิกส์และคีอานู รีฟส์ ยังอยู่ในช่วงว่าง ทั้งสองหวังจะได้ร่วมงานกันอีกครั้งในละครเวทีเช็คสเปียร์ --เมื่อเปรียบเทียบนักแสดงทั้งสองแบบตัวต่อตัว----ฟินิกซ์ ชายหนุ่มผิวขาว ผมสีบลอนด์ กับ รีฟส์ ชายหนุ่มผมเข้ม ผิวสีแทน--ทั้งคู่เหมือนฟิลม์เนกาตีฟของฝั่งตรงข้าม คล้ายคนเดียวที่แตกต่างกัน ตลอดเวลาที่คุยกับเรา พวกเขาเย้าแหย่กันตลอดเวลา หากมีใครขัดจังหวะอีกฝ่าย ก็เพียงเพื่อทำให้ความคิดของเพื่อนชัดเจนขึ้น Gini Sikes - คีอานูคะ คุณเคยบอกว่า คุณรับบทในหนังMy Own Private Idahoก่อน แล้วคุณหวังว่า ริเวอร์จะรับเล่นเรื่องนี้ด้วย Keanu Reeves -ไม่ใช่ครับ ส่วนใหญ่เราคิดด้วยกัน River Phoenix - ตอนนั้นเขาโกหก... เรื่องจริงคือ เราสองคนได้รับการติดต่อเรื่องไอดาโฮ ขณะกำลังถ่าย I Love You to Death แล้วตอนที่กำลังขับรถไปคลับแห่งหนึ่ง บนถนนSanta Monica เราก็คุยถึงไอเดียของเรื่องนี้ ผมตื่นเต้น เขาก็ตื่นเต้น มันดูคล้ายฝันร้าย--ฝันที่จะไม่มีวันเป็นจริงถ้าไม่มีใครทำ เราจึงบังคับตัวเองให้รับมัน ผมว่า "โอเค เราจะทำ ถ้านายทำ, ถ้านายไม่เล่น เราก็ไม่เล่น" เขาฟังผมแล้วยื่นมือให้ เราจับมือแล้วสัญญากัน นี่ล่ะเบื้องหลังที่แท้จริง Paige Powell -ริเวอร์, คุณนึกยังไงถึงรับบทคนที่ทรมานจากโรคนาร์โคเลปซี ตอนที่ชั้นเห็นคุณชักกระตุกในหนังเรื่องนี้ ชั้นงงมากแล้วต่อมา ชั้นก็รู้สึกกลัว คุณรู้ไหมคะว่า โรคนี้เกิดจากอะไร แล้วคุณรู้ได้ไงว่าอาการมันจะเป็นแบบนั้น River Phoenix -ทุกอย่างที่ผมแสดง ผมไม่เคยเห็นหรอก ผมฟังจากกัซ(ผกก.)ทั้งหมด เขาเห็นโรคนี้จากเจคเพื่อนเขา เขาพาผมไปพบเจคที่พอร์ตแลนด์ด้วย แต่ผมก็ไม่มีโอกาสเห็นของจริง เพราะเจคไม่เกิดอาการในช่วงนั้นเลย ผมรู้ว่าพวกนักวิทยาศาสตร์สุขภาพมีทฤษฎีหลายอย่างว่าโรคนี้เกิดจากอะไร แต่ผมไม่รู้หรอก ตอนถ่ายทำผมก็แสดงไปตามอาการที่กัซเล่าให้ผมฟังนั่นแหละ Keanu Reeves - นายว่า จะมีใครดูหนังเรา แล้วเป็นโรคนี้ มะ แบบว่า เด็กที่อาจเป็นอยู่ก่อนแล้ว พ่อแม่เค้าจะได้คอยระวังลูกหลานหรืออะไรแบบนั้น River Phoenix -ไม่ขนาดนั้นมั้ง เราหวังว่า คนดูจะไม่ตกใจเวลาเห็นใครเป็นแบบนี้ก็พอ Keanu Reeves - คนดูไม่ต้องใส่แว่นพิเศษเพื่อเข้าใจโรคที่นายแสดงไว้ ใช่ ปะ River Phoenix -มันก็เหมือนปรากฏการณ์สุริยุปราคา นั่นล่ะเพื่อน ถ้านายไม่ดูใกล้นัก นายจะเข้าใจมัน Paige Powell -ระหว่างวิจัยบท พวกคุณสองคนไปขลุกกับเด็กข้างถนนในPortland รึเปล่า? River Phoenix - ตลอดเลยล่ะ Keanu Reeves - ใช่ ไม่ไปได้ไง Gini Sikes - แล้วเวลาที่คุณหาข้อมูลจากเด็กเหล่านี้ คุณทำให้พวกเขาเสียใจ บ้างหรือเปล่า River Phoenix -ผมว่าพวกเขาน่าจะดีใจที่ได้บอกเรื่องราวของตัวเอง Keanu Reeves -ไม่เชิงนะ ผมไม่คิดว่า เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม ทุกอย่างในเรื่องนี้กว้างกว่านั้น ไม่ว่าคุณจะรวย-จน หรือพูดด้วยภาษาอะไร ผมคิดว่าเรื่องนี้สามารถเกิดกับใครก็ได้ที่เป็นคนอ่อนไหว... Paige Powell - แล้วความอ่อนไหวนี้ยั่งยืนไหม? Keanu Reeves - ยั่งยืน สิครับ, อะไรที่คุณทำหรือพูดไปแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผมแค่อยากบอกทุกคนว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องเกิดเฉพาะกับเด็กขายตัวในพอร์ตแลนด์ River Phoenix - ใช่ครับ ไม่ว่าพวกเด็กๆพอร์ตแลนด์จะคิดแบบไหน แต่ความรับผิดชอบของเราสองคนมีมากกว่านั้น เราต้องเปิดทุกโอกาสและทิศทางที่จะทำให้ผู้ชมเข้าใจสิ่งที่เราอยากบอก เราลองตั้งคำถามแล้วหาคำตอบ มันจำเป็นที่ต้องเข้าใจบทของเราก่อนจะเล่นมันออกมา Gini Sikes - ช่วยเล่าเรื่องตอนพวกคุณวิจัยชีวิตเด็กขายตัวให้ฟังบ้างสิคะ River Phoenix - ผมได้ข้อมูลส่วนใหญ่จาก Scott กับ Gary ทั้งสองคนเป็นเพื่อนของกัซ และทำงานในถนนนั้นอยู่แล้ว แกรีเพิ่งประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียชีวิตเมื่อเร็วๆนี้ ขอพระเจ้าโปรดดูแลเขาด้วย ส่วนวิธีวิจัยบทของเราก็คือเราไม่ได้บอกพวกเขาว่าเราเป็นใคร Gini Sikes -พวกนั้นไม่รู้ว่า คุณสองคนเป็นนักแสดงที่ไปหาข้อมูล!! River Phoenix -ไม่เลย เราไปที่นั่นตามคาแรกเตอร์ของเราเลยล่ะ ไม่ได้ไปนั่งถามโน่นถามนี่ เราสองคนทำตัวกลมกลืนกับพวกเขา ผมว่า เขาอาจสงสัยนิดหน่อยแต่ไม่มากนัก ความจริงพวกเขาเครียดนะ ต่างคนต่างต้องดูแลกัน ป้องกันการถูกแทงข้างหลัง อะไรแบบนั้น Gini Sikes -งั้นพวกคุณก็ไม่ต้องจัดฉาก River Phoenix - ก็มีบ้าง เพราะเด็กบางคนมาที่บ้านกัซแล้วพบเราที่นั่น พอถึงตรงนั้นมันก็ต้องโกหกกันบ้าง แต่ผมก็รับรู้เรื่องที่เกิดบนถนนจริงๆมาพอสมควร มันมีผลกับผมมาก ปัญหาหลักของเราสองคนก็คือ เราอยากแสดงให้เหมือนจริงที่สุด เพราะกัซเคยพูดว่า ถ้าเราทำไม่ได้เขาจะใช้เด็กพอร์ตแลนด์เล่นแทน ผมกับคีอานูจึงเครียดมาก เราอยากทำงานให้ดี จึงต้องพยายามให้มากที่สุด Gini Sikes - คุณสองคนโด่งดังมากในหมู่วัยรุ่น เด็กบางคนมีคุณเป็นไอดอล คีอานูคะ การที่คุณรับบทผู้ชายขายตัวแบบนี้ ทางค่ายหรือว่า ผู้จัดการ หรือเอเย่นต์ ไม่ว่าอะไรหรือ เขาไม่บอกหรือว่า มันจะทำลายภาพพจน์ ของคุณ Keanu Reeves -อะไรนะ ทำลายภาพพจน์ผมงั้นหรือ......... ผมเป็นใครเนี่ย นักการเมืองรึไง ---(หัวเราะเบาๆ) นี่ คุณครับ !.......ผมเป็นนักแสดง ผมไม่เคยคิดเรื่องภาพพจน์ สิ่งที่แย่คือตารางการถ่ายทำมากกว่า ตอนเปิดกล้องผมเพิ่งเสร็จจาก Point Break ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไออยู่เลย แล้วพอถึงวันที่ต้องถ่ายไอดาโฮ ผมจึงกังวลนิดหน่อย เกรงจะทำไม่ได้ ผมท้อแท้มากๆ ผมคงกลัว ........แต่ริเวอร์กับกัซช่วยผมไว้ พวกเขาว่า เอาน่า มาลองทำหนังร้ายๆกัน -- ริเวอร์ เราไม่รู้ขั้นตอนของนาย นะ,เพื่อน--แต่สำหรับเรา ต้องทำหลายอย่างเลยล่ะ กว่าจะเล่นเป็นหมอนั่นได้-- ทั้งคุยกับคนจริง ทั้งจินตนาการดู แล้วยังต้องฟังกัซเล่าสิ่งที่เขาคิด ไม่รวมเชคสเปียร์ที่กัซบอกให้อ่าน มันสับสนไปหมด บางทีก็เหมือนมีหลายเรื่องมาก บางทีก็เหมือนไม่มีอะไรเลย, นายเข้าใจไหม ไปให้ไกลที่สุดที่จะทำได้ จริงไหมเพื่อน Gini Sikes - ชั้นเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของ Robert Downey, Jr. จากหนัง Less Than Zero เขาบอกว่า เขากลัวที่สุด ที่คนดูบางคนนึกว่าเขาเป็นตัวละครตัวนั้นจนรบกวนเขา เคยมีใครนึกว่าคุณขายตัวแบบในหนังเรื่องนี้ไหม River Phoenix - ช่างแมร่ง มันดิ ผมพูดได้แค่นั้น คุณฟังทันไหม ช่-า-ง แ-ม่-งง Keanu Reeves -ฮะ..ฮ่า ชัดเลย,เพื่อน Gini Sikes - ค่ะ แปลว่า คุณไม่เคยได้พบเรื่องแย่ๆ..แบบนี้ River Phoenix -ไม่ใช่ ผมพบเรื่องเอี้ยๆ นี่ประจำ แต่ผม-ช่าง-แม่-มัน Paige Powell - คุณว่า บทหนังเรื่องนี้ในอีกสิบปีข้างหน้าจะมีคนรับเล่นไหมคะ River Phoenix -คงพวกดาราหนังโป๊มั้ง อาจเป็นกลุ่มของศิลปินในเครือ Warholของคุณก็ได้ Paige Powell - อย่างเช่น Joe Dallesandro? River Phoenix -ก็อาจจะราวๆนั้น Gini Sikes -นักแสดงคนหนึ่งที่แสดงในหนังเรื่องนี้ก็มาจากวอร์ฮอล์นะ Udo Kier จาก Dracula and Frankensteinไง ซึ่งมันทำให้งานสัมภาษณ์ของชั้นยากจังเลยค่ะ Keanu Reeves -ยากยังไง มันก็งานของคุณ Gini Sikes -ตอนที่พวกคุณถ่ายฉากเซ็กส์แบบสามคนกับUdo ยากไหมคะ? ---------End of Part One------------------> ::Credit :: Story>>>Gini Sikes and Paige Powell ::"Hurt my image? Who am I? A politican? No, I'm an actor."::River Phoenix / Keanu Reeves :: Interview (US), November 1991 Photo>>>Bruce Weber Thai Editor and Blog Publishing>>>aNgy_11 ---------To Be Continue------------------>ThisClick   Create Date : 17 กรกฎาคม 2550     Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:37:44 น. Counter : 3137 Pageviews.   64 comment Share Tweet

WarM UP ::: ก่อนคุณอ่าน River Phoenix & Keanu Reeves : Interview (US), November 1991 เรียนท่านผู้อ่านบล็อก keanuthailand แองจีจัดเทศกาลพิเศษ ตั้งแต่ จันทร์ที่ 16 ถึงวันอังคารที่ 24 กรกฎาคม ด้วยการพาท่าน ย้อนเวลากลับไปในปี 1991 เพื่อร่วมในบรรยากาศอบอุ่นจากมิตรภาพ ของสองนักแสดง River Phoenix และ Keanu Reeves ขณะภาพยนตร์เรื่อง My Own Private Idaho ของ Gus Van Sant ออกเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกา(29 September 1991) และกลายเป็น Talk of the Town ในประเด็นหลากหลาย ทั้งเรื่องการเลี้ยงดูลูก รักร่วมเพศ หรือการค้าประเวณี ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งให้ ริเวอร์ ฟินิกซ์และ กัซแวงซองได้รับรางวัล Best Male Lead และ Best Screenplayของ Independent Spirit Award1992 รวมทั้งกวาดรางวัลในเทศกาลหนังอินดี้อีกหลายชิ้น Gini Sikes +++++++Paige Powell ผู้สัมภาษณ์นักแสดงทั้งสองคน เป็นสองคอลัมนิสต์หญิง *หนึ่งคือ Gini Sikes คอลัมนิสต์หัวอิสระที่นิยมทำเรื่องราว subculture ของกลุ่มคนในสังคม (อาจพอเทียบได้กับคุณอรสม สุทธิสาคร ของบ้านเรา) *อีกหนึ่งคือ Paige Powell สาวคนสนิทของศิลปิน(อินดี้ตลอดกาล) Andy Warhol ผู้หลงรักงานทุกชิ้นของกัซแวงซอง เรียกได้ว่า นิตยสารInterview เรียกใช้ไม่ผิดคนเลยทีเดียว เพราะการสนทนานั้น หากนำผู้ไม่คุ้นเคยกับงานแนวนี้ไปถามศิลปิน แทนที่จะได้ข้อมูล, ความไม่เข้าใจที่มาจากคนละfield ก็จะทำให้ไม่ได้อะไรกลับมาเลย นอกจากความไม่พอใจของทั้งสองฝ่าย แองจีอ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้หลายครั้ง กว่าจะแปลเป็นไทยแล้วเผยแพร่ลงบล็อก ด้วยเหตุที่มีข้อมูลเบื้องหลังมาก ศัพท์ยาก ข้อความยาว แมื่อเรียบเรียงเสร็จ แองจีภูมิใจมาก จนลงทุน "สร้างให้สมศักดิ์ศรี" ด้วยการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาบล็อกให้ match กันตลอดทั้ง theme, background, banner ภาพทุกชิ้นสร้างเพื่อบทความชิ้นนี้โดยเฉพาะ และจะใช้เป็นช่วงเวลาสั้นๆเพียงเจ็ดวันนี้เท่านั้น หลังวันอังคารที่ 24 กรกฎาฯ ข้าพเจ้าก็คงเปลี่ยนสีและแบ็คกราวน์ชิ้นใหม่ ทิ้งไว้แต่ความทรงจำเท่านั้น หลายคนอาจคิดว่า aNgy_11 ทำอะไร "เว่อร์" เกี่ยวกับการนี้ ข้าพเจ้าก็คิดว่า การเสียเวลานึกคิดและตัดแต่งสิ่งเหล่านี้ลงบล็อก เข้าลักษณะ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" อยู่บ้าง แต่บังเอิญว่า ข้าพเจ้ามีความสุข ทั้งเวลาเลือกพริก เลือกกระเทียม ลงแรงโขลกไม้ตีพริกลงครก และมีความสุขแม้จะเห็น น้ำพริกรสดีของตนเอง .....ค่อยๆละลายหายไปกับแม่น้ำสายกว้างของ //www.bloggang.COM ด้วยความหวังว่า อาจมีผู้อ่านสักคน รับรู้ความประทับใจ ที่แองจีมีให้ความผูกพันของ ริเวอร์ ฟินิกซ์ กับคีอานู รีฟส์ อย่างไรก็ดี ทุกสิ่งที่ท่านเห็น พร้อมรับข้อเสนอแนะและติชมเสมอ อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อที่เปิดกว้าง ข้าพเจ้ามีพื้นที่ให้ทุกท่านแสดงความเห็นได้ตามอัธยาศัย พรุ่งนี้......Clickเข้ามาอ่านนะคะ   Create Date : 16 กรกฎาคม 2550     Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:38:25 น. Counter : 1452 Pageviews.   42 comment Share Tweet

Keanu's not looking back::In Touch เมื่ออายุขึ้น 41 คีอานู รีฟส์ ยังมีอารมณ์ขันให้ตัวเอง "ผมว่าจะสั่ง เฟอรารี่มาปลอบขวัญตัวเองสักคัน" เขาล้อตัวเองเล่น "ไอ่วิกฤตวัยกลางคนน่ะ ผมเจอมาหมดแล้ว" เคล็ดลับของการดูแก่น้อยกว่าคนวัยเดียวกันของเขาคือ การรับประทานอาหารให้ถูกหลัก พักผ่อนให้พอ และการวิ่งออกกำลังกาย ทั้งหมดทำให้วัยที่เพิ่มขึ้นไม่เป้นปัญหากับเขา "ผมได้แต่รอว่า ชีวิตผมจะมีอะไรสนุกๆเข้ามาอีก" คีอานูกล่าว aNgy Thinks : -จี้ว่า อิพี่คีเนี่ย มันเป็นนักกลบเกลื่อนตัวฉกาจ -ความจริง คีอานู กลัวแก่ค่ะ เพราะเขามันนักกิจกรรม ไม่ว่าจะ riding drinking running cruising or fishing(a girl) คุณพี่คีใช้พลังงานเปลืองตลอด กว่าจะยอมรับว่าไม่มีใครหนีความแก่ไปได้ วิกฤตวัยกลางคน ก็หลอนคุณคีอานูอยู่ห้าสัปดาห์เต็มๆ พี่คีบอกว่า มันไม่ใช่อาการประสาทหลอนอะไรแบบนั้น แต่เขารู้ตัวว่า บางสิ่งมันเปลี่ยนไป อย่างเช่น เคยเล่นฮอคกีได้คล่องแคล่ว หัวเข่ามันกลับไม่สปริงได้ดีเช่นเดิม หรือว่าเคยนอนหลับรวดเดียวเช้า ก็กลายเป็นตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่หลับ -แองจีฟังอาการของคีอานู แล้วรู้ว่า มันเป็นความกังวลธรรมดา ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่พี่คีคงกลุ้มนิดหน่อย เห็นยอมรับในงานแถลงข่าวหนังสแกนเนอร์ฯที่คานส์ว่า ช่วงนั้นถึงขั้นต้องไปบำบัดจิต หุหุ -อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของแองจี คีอานู รีฟส์ ยังดูดีกว่าคนวัยเดียวกัน ที่สำคัญ ยังหล่อและเท่ห์กว่าหนุ่มที่อายุน้อยกว่าด้วยซ้ำ   Create Date : 22 มิถุนายน 2550     Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:24:26 น. Counter : 1131 Pageviews.   45 comment Share Tweet

• ไร้ระเบียบ
• ข่าว
• บทความ
• งาน
• คลิป
• ไม่เกี่ยวกับเขา

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com