Interview: The Power of One


Interview: The Power of One
Arena ( United Kingdom) - November 2003

คีอานู รีฟส์ กระแอมในคอ และขอโทษ เขาพักการสนทนาเพื่อหันไปรับแก้วเครื่องดื่มที่เพื่อนส่งให้ กล่าวขออภัย บอกขอบคุณชายคนนั้น และขอโทษผมอีกครั้ง เขาจิบเครื่องดื่มอึกใหญ่ ไอนิดหน่อย แล้วพูดเสียใจที่เสียมารยาท โอ้ สำหรับดาราใหญ่และร่ำรวยแบบเขา ผมว่าคีอานูมารยาทดีเกินไปแล้ว




ดูเพี้ยนๆไปนิด เวลาเราว่าใครสักคน มีมารยาทดีเกินไป ก็สำหรับสังคมเช่นนี้ มีมารยาทดีไว้ก่อนไม่เห็นจะเสียหาย แน่ละ และชายคนนี้ มีอาชีพนักแสดง เขาย่อมเสแสร้งเป็นคนดีได้ หากว่ามันเหมาะสมต่อสถานการณ์ และแน่นอน สำหรับคนที่ทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทาง ทั้งในการงาน และเรื่องอื่นเช่นคีอานู ผู้ซึ่งชอบบอกใครๆว่าเป็นผู้ชายธรรมดา แต่ผมว่า เขาน่ะ ชายธรรมดาที่มีเงินมาก และครองหัวใจหญิงค่อนโลกต่างหาก นั่นละ ธรรมดาแบบ คีอานู รีฟส์

งานรูปถ่ายที่คุณเป็นแบบให้นิตยสาร อรีนา โดยฝีมือ อแมนดา ดิ คาดิเนท มันเยี่ยมมากเลยนะ ดูดีกว่าหลายงานที่ผมเคยเห็นมาเลย ไม่รู้ว่า การที่มีตากล้อง เป็นอดีตคนรู้ใจ มันดีกว่าให้คนอื่นทำงานกับคุณหรือ

ก็ใช่นะ ผมทำงานกับอแมนดาสนุกมาก เธอเป็นช่างภาพมาเจ็ดปีแล้ว เริ่มเมื่อตอนผมอยู่ที่ญี่ปุ่นกับเธอเมื่อห้าปีที่แล้ว เธอบอกผมว่า “คุณให้ชั้นถ่ายรูปโพลารอยด์ให้นะ” แล้วหลังจากนั้น เธอก็เล่นมาเรื่อยล่ะครับ ชักเป็นมืออาชีพขึ้นทุกที แล้วก็บางที เราก็อยู่ในภาพด้วยกัน

ผมจำได้ว่า คุณบอกว่าไม่ชอบถูกถ่ายรูปนี่นา?

ยังไงนะ อ๋อ อันนั้น ผมหมายถึงเป็นนายแบบน่ะ ก็ ไงดีล่ะ คือบางที ถ้ามันเป็นวันที่เหมาะสมนะ แล้วตากล้องคุยรู้เรื่อง ผมก็สนุกดีหรอก แต่ว่าส่วนใหญ่ อ๊ะไม่ใช่ บางทีตะหาก ผมก็เหนื่อยจะแย่ ยังต้องมานั่งแต่งตัวแต่งหน้า มันก็...

ในรูปนี่ คุณขี่มอเตอร์ไซค์นี่ ?
.
ใช่ครับ มอเตอร์ไซค์ของอแมนดานะนั่น เธอซื้อมันมาจากเพื่อนผมอีกที ผมชอบ นอร์ตัน มันน่าจะเพราะว่า ผมเห็นรถแบบนี้ตั้งแต่ยังเด็ก รูปของชายคนหนึ่ง เค้ามีรถ ดันสทอลล สีเหลืองรู้สึกจะรุ่นปี 69 ผมมาหัดขี่รถตอนอายุ22 ตอนนั้นอยู่ที่ มิวนิค เยอรมัน แล้วสาวที่นั่นคนหนึ่งสอนผมขี่รถ แล้วพอผมกลับไป แอล เอ ก็เลยซื้อคันแรก ผมชอบแบบของนอร์ตัน และคุณเอ๋ย ขี่ครั้งแรก ผมงี้เหมือนได้คำรามออกมาเลย เวลาอยู่บนถนน เสียงรถ มอไซค์เนี่ย สุดยอด

แล้วประกอบมอเตอร์ไซค์ล่ะ เป็นรึเปล่า?

ยังไม่เป็นเลย ได้แค่ใช้ประแจนิดหน่อย ดูสายเบรคอะไรพรรค์นั้น แต่ว่า ผมอยากทำนะ สักวันน่าจะทำได้ ผมก็ออกทุนให้เพื่อนผมคนนึงทำอยู่ตอนนี้ ส่วนใหญ่เค้าก็ดูรถให้ผมนั่นแหละ เราเป้นเจ้าของร้านร่วมกัน ชื่อร้าน TT Cyclesใน LA. เค้าชื่อ Dean Colinson.เป็นคนอังกฤษ เค้าน่ะ พ่อมดมอเตอร์ไซค์เลยล่ะ

เออ กลับมาเรื่องวงดนตรีบ้าง มีวงใหม่นี่ เบคกีใช่ไหม

ใช่ครับ ไปฟังได้ในเว็บไซค์ //www.beckyband.com. เล่นกันมาเจ็ดเดือนแล้ว

แล้วมันต่างยังไงกับ ด็อกสตาร์?

เรามีนักร้องหญิง เพลงก็ยังไม่มาก ไม่รู้ดิ ผมไม่รู้อะไรมากนักหรอก เกี่ยวกับดนตรี ไม่มากพอจะบอกคุณว่ามันต่างกันยังไงหรอก.

แล้วคุณรู้สึกแตกต่างบ้างไหมเล่า เวลาเล่นกับเค้าน่ะ?

ก็รู้สึก เพลงมันเป็นร็อคมากกว่าเดิม ถ้าคุณฟังคุณก็จะรู้ มันก็คล้าย เอ้อ ไม่รู้ดิ มันเหมือนไรผมไม่แน่ใจ

เฮ้อ เอา เราถามผู้อ่านว่ามีใครอยากจะถามอะไรคุณ ก็มีคำถามหนึ่งเข้ามาว่า “ให้คุณเรียงลำดับวงเหล่านี้ ตามความยิ่งใหญ่ และให้เหตุผลว่า ทำไม The Specials, The Jam, The Clash, The Sex Pistols, The Ramones."

โอ มัย ก็อด นี่ผมมารายการร็อคโชว์หรือนี่ มันชื่อวงร็อคทั้งนั้นเลย เอาก็เอา อะไรก่อนดี The Ramones กับ The Sex Pistols นี่บี้กันมาเลย แต่ว่า แผ่นแรกของ Ramones นี่ปี 77,76?ตอนที่ Never Mind The Bollocks ออกขาย ใช่ปะ? (เขานิ่งไปหลายนาที บ่นงึมงำนิดหน่อย ) ผมว่า บอกคนอ่านไปว่า ผมว่า มันเป็นวงร็อคชั้นดีทุกวงเลยนะ แต่สำหรับตัวผม ผมให้ The Clash, The Ramones and The Sex Pistols,ส่วนนอกนั้นเอาไปเท่ากันหมดละกัน.

คุณว่า คุณจะเอาจริงทางด้านเป็นนักดนตรีไหม?

ไม่เลย เป็นนักดนตรีจริงจัง โอ้ ไม่หรอก พวกนักดนตรีที่แท้จริงมันต้อง Yo Yo Maหรือ Jaco Pastorius นั่นตะหาก.

วงของคุณก็เคยทัวร์รอบโลกนะ ไม่เหมือน วงของ รัสเซล โครว์ ใน 30 Odd Foot of Gruntsซะหน่อย...

แต่ รัสเซลเค้าเป็นนักดนตรีที่แท้จริงนะ เค้าทุ่มเทด้วย ไม่เชื่อคุณไปถามเขาได้ เขาเล่นในคลับที่ออสเตรเลียตั้งแต่เด็ก พลังเหลือเฟือ มาเทียบอะไรกับผม ผมมันแค่คนเล่นเบสส์ นิดๆหน่อยๆ.

คุณร้องเพลงเป็นไหม?

เป็นดิ ผมร้องเล่นๆประจำ.

เอา เรามาคุยเรื่องหนังก็ได้ มันค่อนข้างจะมีปฏิกริยาเชิงลบกับหนังภาคต่อของ แมทริกซ์นะ รีโหลดเดด น่ะ รู้สึกว่ามันจะไม่โดนใจหลายคนแบบภาคแรก คุณคาดว่ามันจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วไหม ?

ผมรู้ ว่ามันเป็นหนังที่เข้าใจยากกว่าธรรมดา แล้วก็มีเนื้อหาที่อัดแน่นมากที่สุด เท่าที่ผมเคยเห็นมา ทั้งในแง่ของคอนเซ็ปส์ ความวุ่นวายในการถ่ายทอดมันลงบนจอ มันก็รู้กันอยู่ ผมว่า แต่ก็จริงของคุณ หนังเรื่องนี้มีแนวทางของตัวเอง ความคิดสร้างสรรค์บางอย่างที่เราสร้างมา มันได้รับการตอบรับที่ไม่ดีนัก ตัวภาคแรกมันทำให้สร้างภาคต่อได้ยาก แต่ผมคิดว่า สองผู้กำกับมีความกล้าหาญที่จะแสดงมันออกมาในมุมมองของเขา เดอะ วัน ไม่ใช่แค่ เดอะ วัน มันคือ ทั้งหกต่างหาก ไม่ใช่แค่หนึ่ง ผมจำคำของ แอนดรูว์ วอชอสกีได้ เค้าพูดว่า” เราจะให้คนดูได้บทพูดเก๋ๆ ในหนังแอคชันสุดเท่” และผมคิดว่า มันโคดยากเลยนั่น แต่ยังไงนะ ผมก็ชอบ ที่เค้ากล้าปฏิวัติแม้กับหนังของเขาเอง

ตอนที่คุณอ่านบทภาคสอง คุณเข้าใจไหม?

ผมอ่านบททั้งสองภาคพร้อมกัน และผมก็ชอบภาคสองด้วย มันเมคเซ้นท์ โดยเฉพาะกับตอนส่งท้าย ทีเขาไม่เขียนว่า “ยังมีตอนต่อไป” แต่ใช้ว่า “รอชมบทสรุป” รวมทั้งการที่คุณรู้ว่า ยังมีนีโอกับฝันร้ายของเขา มีทรินิตี และนำคุณเข้าใกล้บทสรุปเข้าไปทุกที แล้วยังทำให้คิดว่า เรื่องมันจะพลิกไปแบบไหน มันทำให้คุณได้ใช้เวลาไตร่ตรองในเรื่องราวก่อนที่มันจะจบลง

เอ้อ เอา งั้น ไอ้สถาปนิกนั่น มันตัวอะไรล่ะคุณ?

สถาปนิกน่ะหรือ ผมว่า มันเป็นโปรแกรมที่อยู่คู่กับระบบที่สร้างเดอะ แมทริกซ์ สร้างโลกที่มีคนนอนในถ้วยพวกนั้น และสร้างโลกเสมือนขึ้นมา ในภาคแรก สมิทพูดว่า แมทริกซ์รุ่นแรกสร้างให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แต่กลับเป็นว่ามันคือหายนะครั้งยิ่งใหญ่ ก็เลยต้องสร้างแบบใหม่ให้เข้ากับจิตใจมนุษย์ งั้น บางที สถาปนิกก็คือพระเจ้า ละมัง และตอนนี้ ผมว่า มันเป็นสิ่งที่คนเราชอบที่จะคิดแบบนั้น คนมักอยากจะเชื่อว่ามีระบบที่ควบคุมทุกอย่างอยู่ เพราะคนทุกคนต่างก็พบเรื่องลำบากทั้งนั้น ซึ่งนี่ล่ะ ทำให้มันน่าสนใจ และเป็นภาคต่อที่คุณอยากรู้ อะไรคือคำตอบของคำถาม?

แบบไหนนะ เอา ว่าต่อ ภาคสองนี่ ฉากปืนมันน้อยลงนะ แต่ที่ดูหนังตัวอย่างภาคสาม ก็มีมากขึ้นเป็นเพราะโศกนาฏกรรมที่โคลัมไบน์รึเปล่า ถึงตัดฉากใช้ปืนออกไป?

ไม่ มันไม่เกี่ยวเลย ผมว่า มันเป็นเรื่องบังเอิญซะมากกว่าที่จะว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน แต่ว่าในภาคสามมีปืนมากขึ้นน่ะ ใช่ครับ

ตอนที่ อะรีนา สัมภาษณ์ Ewan McGregor เร็วๆนี้ เขาบ่นว่า การถ่ายฉาก CGI บน กรีนสกรีน นี่นรกมากเลย คุณคิดแบบนั้นหรือเปล่าตอนถ่ายเรื่องนี้?

ก็ไม่เชิง เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้มันมาพร้อมกับฉากเหล่านี้ แต่ว่าในฉาก ก็มีการแสดงกับคนด้วยเสมอ ฮิวโก วิฟวิง กับผม ต่อสู้กันเป็นวันๆหน้า ซีจีไอ มันก็เลยไม่ลำบากนัก เพราะไงก็ยังเป็นการเล่นกับคนจริง แต่ว่าก็มีบ้าง ที่มันใช้เทคนิคล้วนๆเหมือนกัน อย่างเช่นตอนที่ถ่ายใบหน้าเพื่อเอาไปสร้างตัวละครในฉากยากๆ แต่มันน่าสนใจ เพราะว่า มันเป็นสิ่งใหม่ในงานแขนงนี้ มันทำให้เวลาคุณเข้าฉาก แล้วรู้สึกว่า โอ้ นี่มันช่างใหม่ล่าสุด ยังไม่มีใครทำแบบนี้มาก่อน นั่นละ สุดยอด เราได้ต่อสู้หน้ากล้องไฮเทคของโซนี ห้าตัว โดยมีเครื่องบันทึกขนาดเก้าหรือสิบ เทอราไบต์รอเก็บทุกความเคลื่อนไหว แสงจากหลอดไฟอีกเป็นตัน แล้วยังมีสุดยอดฝีมือ แบบ จอห์น เกต้า คอยกำกับใบหน้าคุณอยู่อีกเนี่ยนะ เค้าจะคอย “โอเค คุณกำลังบินนะ เอาละ จับภาพใบหน้า” คุณก็ต้องเคลื่อนที่โดยที่ทำเหมือนว่าตัวคุณกำลังนิ่งเพราะเคลื่อนที่เร็วอย่างยิ่ง และเนื่องจาก ผมรักหนังเรื่องนี้มาก ผมทำได้ทุกอย่างล่ะ และแม้ว่า มันไม่สนุกนักในการเล่นกับ เครื่องมือพวกนี้เหมือนเล่นกับคนจริงนะ มันก็จำเป็น ดังนั้นสำหรับผม นี่เป็นเรื่องสำคัญ หากว่าผมต้องทำหน้ายังไงเวลาที่ลงไปอุ้มทรินิตีตอนฉากที่เธอหล่นลงไปนั่น มันต้องทำหน้าให้เป็นยังไง แม้จะเป็นไม่กี่วินาทีที่ไม่มีใครเห็น แม้ผมต้องเก็กหน้าร้อยรอบเพื่อมัน ผมก็ทำได้ ผมแคร์ แคร์ทุกอย่างในหนังเรื่องนี้

พวกเราที่ อะรีนา คุยกันเสมอเลยนะ เราอยากรู้ว่า ลอวเรนท์ ฟิชเบิร์น เป็นคนที่พูดช้าที่สุดในโลกรึเปล่า?

อะไรนะ หมายถึงตอนเค้าเล่นเป็น มอร์เฟียส หรือในชีวิตจริง?

ก็ ตอนเค้าเป็นมอรืเฟียสนั่นแหละ เขาชอบพูดแบบนี้เวลาอยู่ในหนัง “วันน นี้

ผมเรียกว่า พูดเนิบๆ แต่คนส่วนใหญ่ว่ามันช้าไปใช่ไหม

แล้วตอนเค้าสั่งกาแฟนี่ กาแฟมันไม่เย็นซะก่อนเค้าพูดจบ?

ฮ่า ฮ่า ใช่ เค้าชอบแบบนั้นล่ะ

มีคำถามจากดาราคนอื่นฝากถึงคุณ ลอรี เพ็ตตี นางเอกของคุณใน Point Break ฝากถามว่า “คีอานู คุณจะมาเยี่ยมชั้นบ้างไหม”
ได้เลยจ้ะ.

คุณพบเธอครั้งสุดท้ายเมื่อไร?

จริงๆแล้วก็ เมื่อสี่เดือนที่แล้วเอง ที่บ้าน ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น

คุณยังติดต่อกับเพื่อนร่วมงานเก่าๆบ้างไหม?

บางทีล่ะครับ ถ้าเค้าอยากเป็นเพื่อนผม และผมอยากเป็นเพื่อนเขา.

อันนี้มาจากRichard Herringผมจะใบ้ให้นิดนึง เค้าตลกมาก เค้าให้ถามคุณว่า “ผมกำลังคิดถึงเลขอะไรอยู่”?

สาม รึเป่า.

ไม่ใช่ ลองอีกทีสิ มันก็มาจากงานคุณนั่นแหละ

เดอะ วัน สิ!

ม่ายช่าย ไม่ถูก อะ บิล แอนด์ เท็ด...

69, dude!

ใช่เลย งั้นตกลง บิลกับเท็ด จะมีภาคสามหรือเปล่า ผมไปอ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ว่า อเล็กซ วินเทอร์กำลังเขียนบทอยู่?

คุณรู้ปะ ผมคิดจะเล่นเหมือนกัน ตอนเราสี่สิบ เพราะว่าตัวละครสองคนนั่นในอายุสี่สิบ คงตลกเป็นบ้า ผมคุยกับอเล็กซ์ประจำ แต่ว่า เราไม่มีทุนสร้างเองหรอก ดังนั้นมันก็ไม่ได้ขึ้นกับเรา เราแค่เป็นส่วนหนึ่งของงาน แต่ว่า คงสนุกนะ ที่จะได้เห็นพวกเขา ทั้งแก่และอ้วน และยังร้องเพลงในเล้านท์ของโรงแรม

คุณรู้สึกยังไง ที่จะสี่สิบแล้ว?

ผมไม่รู้ดิ นี่ก็ สามสิบเก้าแล้ว วัยเยาว์จบลงที่สามสิบเก้า มันมาถึงจนได้ คุณรู้ล่ะเมื่อเวลาที่มันมาถึง หรือเวลาที่ลุกไปฉี่ครั้งแรกตอนเช้า

คุณเองก็เพิ่งซื้อบ้านนี่ หลังจากนอนโรงแรมมาตลอด?

ซื้อแล้ว ใช่ ผมเริ่มแก่แล้วนะ แล้วมันก็เป็นเวลาที่ควรซื้อซะทีได้แล้ว นี่เพิ่งซื้อเตียง เช่าเฟอร์นิเจอร์ ต้องมาเริ่มเรียนรู้เรื่องบ้านเอาตอนนี้

และ ผมอยากรู้จัง มันจะเป็นไง ถ้าคุณทำ Kill Bill?

ผมชอบ Uma Thurman ในฉากต่อสู้มาก ผมว่า เธอโคดเท่เลย ฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม มันเป็นหนังที่แน่มาก และในฐานะคนดู มันน่าชื่นชมมากสำหรับหนังแบบนี้ มันยกระดับขึ้นมาเลย.

ฉากต่อสู้ของ อูมา กับลูกน้อง ลูซี ลิว ทำให้นึกถึงฉากสู้สมิธร้อยตัวของคุณนะ

ใช่ แต่เค้ามีสไตล์ของตัวเองนะ ลักษณะเลือดกระฉูดของเรื่องนี้มีลักษณะเด่นมาก การสังหารหมู่ก็ด้วย ผมว่า มันตัดต่อได้เนียนมาก มันมีความตึงเครียดที่ได้จังหวะ มันดูเหมือนนิยายภาพ คุณรู้ไหม มันดูทั้งจริงจังและทั้งน่ากลัว

ก็จริง แต่ดูนิยายภาพโหดๆสองชั่วโมง มันจะไหวหรือ

จริง อย่างฉาก ที่ลูกสาวคู่แค้นอูมากลับจากโรงเรียน และพบแม่กำลังจะถูกฆ่านั่น ร้ายมาก มีการต่อสู้ที่ทั้งรุนแรงและธรรมดา ไร้เดียงสาและสูญเสีย ทำได้ดีมาก หนังมันสนุก แต่ผมไม่เข้าใจมันเท่าไร ไม่รู้ว่าเขาอยากจะสื่ออะไรผมมันพวกชอบโรแมนทิค ไม่ได้หมายความว่า ผมอยากให้จบแบบแฮปปีเอนดิงนะ ผมแค่อยากได้พลังใจอะไรสักอย่าง หลังดูหนังจบ จะได้เอาไว้สู้กับโชคร้ายในชีวิตจริง ก็แค่นั้นเอง






 

Create Date : 04 สิงหาคม 2548    
Last Update : 16 ตุลาคม 2551 12:46:43 น.
Counter : 1289 Pageviews.  

Keanu Reeves - Hawaiian Punk

Keanu Reeves - Hawaiian Punk

Details ( United States) - February 1, 1989

นักแสดงวัย 24 ปี คีอานู รีฟส์ ผ่านงานแสดงมาหลายชิ้น ก่อนที่ผมจะนัดสัมภาษณ์เขาวันนี้ ตั้งแต่บทวัยรุ่นเก็บกดใน River's Edge และ Permanent Record,ลูกชายที่ต้องการเป็นตัวของตัวเองใน The Prince of Pennsylvania และผลงานอันโด่งดังจากการ์ตูน Bill and Ted's Excellent Adventure, เช่นเดียวกับที่ เมื่อยามอยู่ในชีวิตจริง เราก็ พบเสน่ห์ตามธรรมชาติของเขาอย่างสม่ำเสมอ จนแฟนๆหลายคนที่ได้พบ มักหาเหตุมอบของขวัญให้เขาเพื่อหาโอกาสกอดสักทีหรือถ่ายรูปสักครั้ง



เรานัดทานอาหารเย็นที่ Musso & Frank Grill ในฮอลลีวูด แต่เมื่อไปถึง ผมพบว่า คีอานู ยืนรออย่างอดทนอยู่แล้วที่ลานจอดรถ เคียงข้าง มอเตอร์ไซค์ซูซูกิ สีแดงคันใหม่ ไม่ใช่แบบวัยรุ่นป่วนเมืองแบบที่ผมคิด แต่กลับเป็นชายหนุ่มร่างสูงผู้ดูเป็นตัวของตัวเอง และหลังการแนะนำตัวผ่านไป เขาปัดเส้นผมสีน้ำตาลทีลงมาปรกบังตาให้เข้าที่ เชคแฮนด์ แล้วกล่าวว่า “ผมเข้าไปดูในร้านแล้ว แต่ว่า เราคงต้องไปหาที่อื่นกินแล้วล่ะ ร้านเค้าเลิกเสิรฟดินเนอร์แล้ว” เขาสะบัดหัวแสดงความผิดหวังเล็กน้อยไปทางนั้น ก่อนเราทั้งสองจะออกจากลานจอดรถ เพื่อไปหาสถานที่ใหม่แทน

เรามุ่งไปทางตะวันตกของ Hollywood Boulevard มองหาที่เหมาะๆ เหล่าดวงดาวดาราบน Walk of Fame เปล่งประกายล้อแสงไฟ กลุ่มทัวริสต์บนถนนสอดส่ายสายตามองหาเหล่านักแสดง เพื่อกดชัตเตอร์ถ่ายรูป คีอานูดูเหมือนจะตื่นตัวมากกว่าเดิมเมื่อเราเข้ามายังเส้นทางนี้ เขามองไปรอบๆก่อนกล่าวว่า “ผมชอบถนนเส้นนี้จริงๆ ให้ตายดิ” เมื่อมาถึงหัวมุมถนนมุมหนึ่ง สองสาวที่ผ่านมาสังเกตเห็นเขา ทั้งคู่ตื่นเต้นชี้ชวนกันดูนักแสดงผู้นี้ แต่ดูเหมือนว่า คีอานูจะไม่รู้สึกผิดปกติอะไร

ในที่สุด เราก็ได้ที่เหมาะๆ ที่บาร์แห่งหนึ่ง คีอานูคุยอย่างสนุกสนานถึงเรื่องความหลงไหล รถมอเตอร์ไซค์ของเขา ,สาวๆ ,การหัดเล่นดนตรีที่เพิ่งเริ่ม และหลากหลายดนตรี ที่เขาชอบฟังและเล่น

นักแสดงผู้ที่ผ่านชีวิตมาหลายประเทศ เริ่มการแสดงเมื่ออายุ 16 “ที่แรก มันอยู่ที่ โทรอนโท ชื่อ โฮมเมดเธียเตอร์” เขาเล่ายิ้มๆ และเสริมอายๆว่า “ผมมันพวกที่ต้องดร็อปเรียนไว้ตั้งแต่มัธยมเพราะมีปัญหาน่ะ เค้าเรียกอะไรนะ ออโตไดแดกทิค รึเปล่า” เขาปัดมือเหมือนมีผู้ชมกำลังฟังอยู่ด้านหน้า แล้วเริ่มเล่นล้อตัวเอง “ใช่ ผมกำลังอ่านหนังสืออยู่ห้าเล่ม ที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร ไม่รู้จะเล่าว่าอะไร แต่ก็ได้ชื่อว่า อ่านมาแล้วน่ะ” เขาเริ่มหัวเราะขำๆ

เมื่อผมเอ่ยชมว่า เขากำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในงานแสดง(งานชิ้นต่อไป คือ Dangerous Liaisons ร่วมกับนักแสดงชั้นนำอย่าง John Malkovich, Glenn Close, Michelle Pfeiffer). คีอานู ดูเหมือนจะถอนหายใจ ปัดผมบนใบหน้าอีกครั้ง ก่อนจะบอกว่าทำไมเขาจึงคิดว่าการประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องใหญ่ของเขา “ ชื่อเสียงความสำเร็จนั้นมันเป็นแค่นามธรรม มันดีมากก็จริง ที่จะมีเสียงตอบรับจากงานที่ทำ แต่ว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ผมค้นหาหรืออยากได้มากๆ แบบนั้น ไม่ได้เคยเอามาคิดเป้นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิตผมนะ” เขาทำท่าล้อเลียนตัวเองอีกครั้ง โดยแสร้งว่าเป็นนักแสดงที่กำลังอยู่บนโต๊ะแถลงข่าว “ ไหนวันนี้ใครอยากสัมภาษณ์ผมบ้าง มาจากฉบับไหนกันครับ จาก ยูเอส หรือ พีเพิลรึเปล่าคุณน่ะ? หรือวารสารชีวิตสัตว์ก็ได้? อ้อ ใช่ครับ ผมเพิ่งไปผ่าตัดมา บางที ผมอาจเป็นแบบให้นิตยสารการแพทย์ก็ได้ หรือว่า นักแสดงขณะผ่าตัดเลยดีมั้ง” เขาพ่นลมหายใจแบบเซ็งๆ “ผมหมายความว่า นี่คุณ งานผมมันคืออะไรกันแน่” เขาผายมือออก และทำสัญลักษณ์ขอเวลานอกกับผม จนผมอดหัวเราะไม่ได้ “ ผมก็แค่ได้แสดงหนังที่มีคนดู และดันเป็นเรื่องเกี่ยวกับบางอย่าง แล้วก็ดันมีคนชอบ แล้ว” เขาพูดด้วยเสียงล้อเลียนหนังโฆษณาที่กล่าวถึงตัวเอง “ ผมคือ คีอานู พังค์วัยรุ่นคนใหม่ในหนังสุดจ๊าบ อย่าลืมไปชมกันนะคร๊าบ” เขายักไหล่ “ผมว่า ป่านนี้ใครๆก็คงคิดว่าผมคืออะไรกันอยู่แล้ว ไม่ว่าตัวจริงผมจะเป็นไงก็ตาม”

เขากอดหมวกกันน็อคไว้แน่น ขณะรอคำถามต่อไป เอาล่ะ ผมถาม คุณดูอ่อนไหวมากๆ คุณเคยใช้ชีวิตตามบทที่ได้รับมอบหมายรึเปล่า ? เขามองหน้าผมเหมือนจะถามว่า ผมถามอะไรดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือ “แน่นอนสิ” เขาตอบเสียงเบาลง เหมือนเซ็งเต็มที "ในบางครั้ง มันช่วยไม่ได้ที่จะต้องไปลองดูว่าตัวละครตัวนั้นเค้ามีสิ่งแวดล้อมยังไง ถ้าไม่งั้น การแสดงที่ได้ มันก็ออกมาได้ไม่เนียน คุณเข้าใจไหม หรือคุณคิดว่ามันไม่จำเป็น ถ้างั้นก็ลองมาเป็นนักแสดง แล้วก็ลองทำแบบของคุณดูแล้วกัน ผมว่ามันได้สิ่งที่ต่างจากที่ผมทำแน่” เขาดูไม่สบายใจนิดๆ แต่ยังตั้งใจจะพูดต่อว่า "เสียงของนักแสดงก็สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหนัง มันต้องสมจริง และรู้สึกได้ถึงบทบาทที่กำลังเป็น ยกเว้นแต่ตอนเล่นหนังตลกล่ะนะ ภาพยนตร์มันเป็นอีกโลกหนึ่งของคนดูในขณะนั้น คุณต้องทำให้มันสมบูรณ์แบบ เพราะงั้น มันต้องต่างไปจากตัวตนจริงๆของคุณ นั่นมันถึงจะเรียกว่า การแสดง”


เสียงของเขาเริ่มแผ่วลง และดูเหมือนเริ่มไม่ค่อยอยากคุยต่อ ผมจึงเปลี่ยนกลับมาที่เรื่องมอเตอร์ไซค์ นั่นละ ตาคู่นั้นถึงกลับมามีประกายอีกครั้ง “ผมเคยมีแฟนสาวคนหนึ่ง” “เธอน่ะสุดยอดเหลือเชื่อจริงๆเลยเวลาที่ผมพาเธอซ้อนท้าย มอ ไซค์ เพราะว่า เธอไม่กลัวอะไรเลย คืนหนึ่ง ราวๆ เที่ยงคืนครึ่ง ตอนนั้นผมก็โคดซิ่งอยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่กลัว กลับบอกให้เร่งขึ้นอีก เราก็เลยไปซิ่งบนฟรีเวย์กันเลย แล้วคุณรู้ไหม สุดยอดเลย เธอกอดผมซะแน่นเชียวนะ ผมเธอก็ยาว แล้วที่สำคัญ หน้าอกนะคุณเอ๋ย มหึมาเลยเชียว เราขี่โดยไม่สวมหมวก ไม่เปิดไฟ แล้วความเร็วก็ ร้อยสามสิบไมล์ต่อชั่วโมงได้ล่ะ บนถนนฟรีเวย์ห้าเลน ไม่มีใครสักคนในตอนนั้น พระจันทร์เต็มดวงแขวนบนฟ้าที่ไม่มีเมฆหน้าไหนมาบัง” เขาถอนหายใจอย่างแสนสุข “ผมว่า ยังไงซะ ผมเคยมีช่วงเวลาที่สุขที่สุดบนมอเตอร์ไซค์มาแล้ว”


อยากลองแบบ อกแบนๆ บ้างไหมคะ คิกๆ




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 16 ตุลาคม 2551 12:41:55 น.
Counter : 1851 Pageviews.  

Interview with Constantine actor, Keanu Reeves


Interview with Constantine actor, Keanu Reeves
By: stacilayne
Updated: 02-14-2005



Q: คุณรู้จักการ์ตูนเรื่องHellraiserขนาดไหน และคิดยังไง กับการดัดแปลงเรื่องนี้ จาก แบบอังกฤษ เป็น อเมริกาคะ?

KR: ผมไม่รู้จักเรื่องนี้มาก่อนอ่านบทเลยครับ ตอนที่ได้อ่านบทครั้งแรก มันก็ถูกดัดแปลงมาแล้ว ดังนั้น ผมต้องบอกว่า ผมไม่ทราบเลย แต่เมื่อผมได้ลองศึกษาดู ก็เห็นแบบที่คุณบอก แต่ผมว่า ความสำคัญของเรื่อง คือกลิ่นอายของมัน และเราทุกคนก็ทำงานหนักเพื่อสิ่งนี้ เพื่อบอกคุณให้ได้ถึงความเป็น คอนสแทนทิน เขาเป็นคนเหลี่ยมจัด ทนทายาด เบื่อโลก ขี้ประชด อยากตาย ไม่ศรัทธาคนอื่น สนใจแต่ตัวเอง แต่ก็ใจอ่อน.และผมว่า เราทำสำเร็จ และคิดว่า แฟนๆการ์ตูนเรื่องนี้ คงไม่ผิดหวังครับ.



Q: นักแสดงคนอื่นๆ บอกว่าคุณเก็บข้อมูลและศึกษาเรื่องลึกลับมกมายเลย ลองเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ?

KR: พวกเขาบอกอะไรคุณหรือครับ เวลาผมรับงานผมจะจดความคิดของผมลงไปในกระดาษเมื่ออ่านบท แล้วก็คิดเกี่ยวกับตัวละครที่ผมกำลังจะเป็น ผมไม่สามารถจะบอกอะไรได้ทั้งหมดหรอก หนังมันควรจะบอกผู้ชมได้ด้วยตัวมันเองมากกว่า และนั่นก็จะทำให้รู้ว่าผมทำงานดีรึเปล่า เรื่องสำคัญหลักๆของหนังก็คือ ตัวเอกที่ต้องผ่านสถานการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับพรสวรรค์หรือคำสาป ที่เขาได้รับมาเมื่อยังเด็ก เรื่องที่คอนสแทนทินจะเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตและชะตาของเขา และทำให้เรื่องคลี่คลายลงไปในตอนจบ

Q: บทของคุณสูบุหรี่จัดมากเลยนะ ตัวจริงคุณเป็นขนาดนั้นรึเปล่า?

KR: มากเชียวล่ะ มันจำเป็นกับบทนี้ เขาสูบจัด ก็เพื่อทำให้เขาสงบ ผม ก็สูบของผม

Q: คุณเลือกรับบทยังไง บทเด่นก็มี บทสมทบก็มีนะ ในผลงานที่ผ่านมา คุณให้ความสนใจอย่างไร?

KR: ผมโชคดีที่มีโอกาสแบบนั้นนะครับ และแน่นอนนี่เป็นเรื่องที่สำคัญครับ สำหรับผมได้ทำงานหลากหลายดีกว่า การเล่นเป็นฮีโร่นี่ก็ไม่สนุกนักหรอก ผมอยากลองทำงานในแบบอื่นๆบ้าง แล้วก็พยายามทำแบบนั้นมาตลอดเลยนะ จะเป็นแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆนั่นละ สนุกดีที่มีบทแปลกๆบ้าง

Q:หนังเรื่องนี้ เกี่ยวกับความศรัทธาในศาสนามากนะ น่าจะมากกว่าเรื่องอื่นที่คุณเคยทำ ไม่ทราบว่า มันทำให้ความคิดด้านนี้ของคุณเป็นไงบ้าง?

KR: กับคอนสแทนทิน สัญลักษณ์ที่ปรากฎในนั้น จะอ้างอิงกับศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิค ทั้งหมด ทั้งสวรรค์นรก เทวดาและซาตาน แต่ผมหวังว่า คอนเซ็ปส์ของมันจะสามารถ อ้างอิงไปได้ถึงทุกคน ที่เป็นมนุษย์ นี่เป็นเรื่องของชายที่พยายามทำบางสิ่ง อย่างไรก็ตาม ผมเคยได้บทเกี่ยวกับศาสนามาแล้ว เช่นเรื่องของเจ้าชายสิทธารถะ นั่นก็เช่นกัน ท่านหาคุณค่าของชีวิต ผมว่าพวกเราที่อยู่ในแถบตะวันตก มีความเชื่อเกี่ยวกับผู้ค้นหา ผู้มาโปรด วีรบุรุษ และปีศาจ เราพบมันบ่อยๆซึ่งก็เป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง และมันยังเป็นสิ่งที่เข้าถึงทุกคนได้ง่าย การเล่านิทานหรือเทพนิยายจะเป็นแบบนี้ มันสนุกและน่าสนใจ นั่นทำให้เรื่องเหล่านี้เข้าถึงได้ ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร

Q: สรุปได้ดีมากค่ะ คุณได้อะไรบ้างจากการแสดง?

KR: ผมชอบอาชีพนี้มาก ตอนอายุ 15 ผมถามแม่ว่า ผมเป็นนักแสดงดีไหม และเธอว่า อะไรก็ได้ที่ลูกอยากทำ สามสัปดาห์ต่อมา ผมก็ไปอยู่ในโรงเรียนการแสดงซะแล้ว ผมเคยได้ยิน แอนโทนี ฮอพกินส์พูดว่า ให้เรียนจากการลองทำ เหมือนกับการวาดรูป ผมว่านะ รักที่จะทำ และฝึกฝนไปเรื่อยๆ ยิ่งทำมากก้ยิ่งดีขึ้น สำหรับผม นี่คือความรัก วันดีๆในกองถ่ายที่ผ่านมาบอกผมแบบนั้น ผมรักอาชีพนี้และหวังว่า มันจะเป็นเช่นนี้ต่อไป

Q: คุณมีเรื่องเด็ดตอนท้ายๆของหนังคอนสแทนทินนี่ เมื่อตัวละครของคุณพร้อมจะยอมรับผิด คุณคิดว่าการสำนึกผิดนี่ จำเป็นกับจอห์นไหม?

KR: การสำนึกผิด ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นและเห็นเด่นชัดตอนท้ายเรื่อง เมื่อจอห์นเรียกลูซิเฟอร์ การยอมสละตัวเองและสำนึก ทำให้เขาได้โอกาสไปสวรรค์ มันหักมุมเมื่อคุณดูและทายไปต่างๆ เขาทำได้ดีในเรื่องนี้ และพระเจ้าเบื้องบนก็รู้ทุกสิ่ง

Q: คุณวิจัยบทของคุณแค่ไหน ถึงจะรู้สึกว่าเข้าใจอย่างจริงจัง?

KR: ผมชอบบทของจอห์นจริงๆ แต่จะว่าไป นี่เป็นงานของหลายฝ่าย รวมทั้งแผนกออกแบบเสื้อผ้าด้วย เราลองดูหลายๆแบบ ผมออกความคิดเรื่องแจ็กเก็ตกับรองเท้า ดีว่ามันใช้ได้ เวลาที่ได้อยู่ในเสื้อผ้าพวกนั้นมันจะสะท้อนตัวคอนสแทนทินออกมา มันทำให้ผมเปลี่ยนเป็นจอห์น เข้าใจถึงแก่นของเขา อย่างเป็นธรรมชาติ แล้วผมก็พูดด้วยเสียงที่ต่ำกว่าเดิม ปรึกษากับผู้กำกับ พยายามเช็คกับอารมณ์ในการ์ตูน ก็ราวๆใกล้เปิดกล้อง ผมว่ามันก็เริ่มใช่ พอดีว่าฉากแรกเป็นฉากปราบผี นั่นช่วยได้มากเลย ตอนก้าวขึ้นไปบนเตียงในฉากนั้น ผมคิดว่า ใช่เลย นี่ล่ะ คอนสแทนทิน

Q: เล่าเรื่องฉากจูบกับ ราเชล ไวซ์ที่สร้างแรงกดดันแสนเซ็กซีหน่อยสิ?

KR: สนุกมากเลย คุณจะเห็น คู่นี้ที่จะทำแต่ไม่ทำในหนังนั่นตลอด เพราะผมว่า เวลากับสถานที่ มันไม่เหมาะน่ะ เป็นส่วนที่ดีส่วนหนึ่งของเรื่องนะ คล้ายๆฉากที่เห็นรถชนผู้ชายเม็กซิโกคนนั้นแล้วเขาไม่ตายเพราะถือหอกแห่งชะตาไว้เลย มันหักมุม เวลาคุณคิดว่าจะเห็นบางสิ่งแต่ไม่เห็น จริงๆแล้วสองคนนั่นเค้าก็อยากจูบกันนะ แต่มันทำไม่ได้ คุณจะเห็นตอนฉากจบ ที่ต่างพูดว่า จะติดต่อหากันไงครับ.

Q: หลังจาก เดอะ แมทริกซ์ คุณว่านี่มันจะเป้นหนังภาคต่อ หรือว่าแฟรนไชส์ฟิล์มอีกเรื่องไหมคะ?

KR: ผมไม่ได้เซ็นสัญญาไว้สำหรับเรื่องนั้น แต่เราก็รักหนังเรื่องนี้ มันก็มีคุยกันบ้าง ว่าจะทำต่อหรือไม่ ให้พ่อฮีโร่คนนี้ไปโมรอคโค ดีไหม หรืออื่นๆ แต่ว่า เรื่องนี้ขึ้นกับคนดูมากกว่า มันอยู่ที่สตูดิโอว่าจะอยากลงทุนสร้างต่อไหม ถ้าเป็นทีมเดิมที่ทำกันมา ผมก็พร้อมจะร่วมงานด้วย ไตรภาคหรือ? ทำไมทำแค่สามล่ะ เราทำไปจนถึงลูกของคอนสแทนทินเลยดีมั้ง เราไม่รู้อะไรหรอกคุณ จนกว่าจะฉายหนังเรื่องนี้ไปสองอาทิตย์ และเราก็ยังไม่รู้ว่าคราวหน้า ฟรานซิสยังคิดจะกำกับมันอีกหรือเปล่าด้วย

Q: อะไรเปลี่ยนใจให้คุณยอมทำงานกับผู้กำกับมิวสิควิดิโอ?

KR: นั่นเป็นเรื่องโง่ๆที่ผมเคยพูดล่ะนะ ตอนแรกที่อ่านบท ผมว่ามันต้องเล่าเรื่องให้แรง เมื่อก่อน ผมมีอคติกับผู้กำกับวิดิโอค่อนข้างมาก แต่ว่า เมื่อผมเจอกับของจริง เมื่อเห็น ความจริงจังของฟรานซิส ความกระตือรือร้นและพลังในงานเก่าๆของเขา ผมเชื่อว่า เขาจะถ่ายทอดคอนสแทนทินออกมาได้ ผมคุยกับเขาถึงคอนเซ็ปส์ของหนัง ประมาณสองชั่วโมง ก็คิดว่า เขาใช่เลยและผมพร้อมจะทำงานกับผู้กำกับคนนี้

Q: บทนี้เข้าตาคุณมาก จนยอมเสียเวลาปีหนึ่งสำหรับหนังเรื่องนี้?

KR: ผมได้สคริปเมื่อตอนอยู่ในซิดนีย์ ถ่ายแมทริกซ์ และผมชอบมาก ตอนแรกยังนึกว่าจะใช้เวลาถ่ายถึงหนึ่งปีครึ่งด้วยซ้ำไป จริงๆแล้ว มันน่าเปลี่ยนไปเล่นหนังแบบอื่นดูก่อน แต่ว่าผมตอบตกลงกับเขาไปแล้ว แต่ผมว่า บทนี้มันก้ไม่เหมือนนีโอเสียทีเดียวนะ ผมว่า คอนสแทนทินเป็นคนที่เฉพาะเจาะจงเช่นกัน ไม่ซ้ำเดิมหรอก บทดี ไอเดีย และคาแรกเตอร์ไม่ซ้ำใครเลย .

Q: จริงหรือเปล่า ที่คุณเล่นปิงปอง ตอนระหว่าง เทคส์?

KR: หนเดียวเอง ฟรานซิส ลอว์เรนส์ ให้โต๊ะปิงปองที่มีคอนสแทนทินเขียนอยู่บนนั้นกับผมครับ แล้วผมได้ยินไซมอนพูดว่า ฟรานซิสเล่นเก่งมาก ผมก็เลยต้องลองของซะหน่อย แล้วก็จริงแฮะ เขาเล่นปิงปองเก่งมาก นั่นเป็นเรื่องสนุกในกองถ่ายอย่างนึง ทำให้ทำงานกันลื่น ทั้งนักแสดงและผู้ร่วมงานที่ได้รู้สึกดีๆต่อกัน ผมว่ามันจำเป็นและดีมากสำหรับการทำสิ่งใดๆด้วยกัน.

Q: คุณได้ข้อมูลทางจิตวิณญาณเพื่อเข้าถึงตัวละครตัวนี้หรือไม่?

KR: ผมมีโอกาสที่ดีมากในการร่วมงานกับ ฟรานซิส และ คุณโกลด์สแมน คำว่าจิตวิณญาณนี่ผมว่า ไม่เข้ากับ คอนสแทนทินเท่าไร เขามีความเป็นคนธรรมดามากกว่า ทั้งเลือดเนื้อของเขาเลย อย่างบรรทัดที่ว่า “ ผมคิดว่า พวกเราทุกคนต่างมีแผนที่ถูกวางให้เดินไว้แล้ว ผมต้องตายสองครั้งเพื่อที่จะรู้ถึงสิ่งนี้ เหมือนในคัมภีร์ พระเจ้ามีงานของท่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่มีทางรู้ บางคนชอบ บางคนก็ไม่” นี่เป็นส่วนสำคัญของคาแรกเตอร์นี้ และจะเป็นบทสรุปของภาพยนตร์ เป็นสมดุล เป็นเรื่องจริงที่เขาไม่เข้าใจนัก เขาฆ่าตัวตาย ตกนรกและก็ได้กลับมา โดยที่เขาไม่รู้ว่าทำไม

Q: คุณคิดว่า การแสดงเป็นสิ่งที่จะทำให้โลกดีขึ้น จริงหรือ?

KR: (หัวเราะ) ใช่ครับ นั่นละศิลปะของผม ทำให้ผมมีความสุขกับงานและชีวิต ผมชอบที่จะคิดถึงมันในแบบนั้น เพราะผมรักงานศิลปะ ไปดูหนังสักเรื่องนี่มันได้ทั้งความสนุก และอย่างอื่นๆ ผมไม่สนด้วยว่าตัวเองต้องเล่นเป็นตัวร้าย หรือบทด้านที่ไม่ดีของภาพยนตร์ อย่างเรื่อง เดอะ กิฟท์ เพราะมันก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง ที่เกี่ยวกับความเศร้าและวิธีรับมือกับมัน ผมไม่อยากไปเสียเวลาสองชั่วโมงในโรงหนังดูไอ้งั่งสักตัวหรอก อยากจะอาใจเด็กๆกันหรือ ขอบคุณ ผมรู้ว่า พวกเรามันก็แค่นั้นล่ะ แต่ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น นอกจากมันจะน่าทึ่งสุดๆ อย่างพวก อานิเมะ แต่บางที ตอนจบมันก็เพี้ยนๆไปเหมือนกันนะ แต่ถ้ามันไม่มีส่วนที่ทำให้คิดทางบวกได้เลยนี่ มันก็ไม่น่าสนใจสำหรับผม แล้วผมก้ไม่ทำแน่

Q: คุณได้ออกแรงอื่นๆอีกไหม
อย่างเรื่องแสดงฉากสตันท์เอง?

KR: ตอนที่คอนสแทนทิน ถูกปีศาจชกและกระเด็นไปข้างหลัง นั่นน่ะผมเล่นเอง สตันท์แมนของผมแนะนำผมหลายอย่างเลย อย่างตอนลงอย่าเกร็งอะไรงี้ ตอนถูกดึง ผมงี้เกือบหลุดเฟรม ดีนะที่เขาบอกผมให้ระวังไว้ก่อน ยังมีงานใช้ลวดสลิงอีกหลายฉากในถนน เป็นงานปกติของหนัง แต่สนุกเป็นบ้าเลย ได้ต่อยตีกันซึ่งมันไม่ใช่ต่อยกันจริงๆนะ แค่การแสดง ส่วนหนึ่งของงาน ราเชลก็เจอหนักเหมือนกัน ถ่ายกันหลายครั้งมาก เธอต้องแช่น้ำทั้งวัน ผมก็คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอ



Q: อะไรที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณตอนเด็ก ที่ทำให้อยากออกจากกล่องและคิดมาเป็นนักแสดง?

KR: ตอนที่เรียนเกรดสอง ผมพบสิ่งนี้ ปกติ เด็กจะได้พบกับตำรวจหรือนักดับเพลิงแล้วเกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นแบบนั้นใช่ไหม แต่ไม่รู้ทำไม มีนักแสดงสองคนกับครูมาที่ห้องเรียนของเรา แสดงให้เราดู ผมจำได้ว่า มองเขาแล้วก็คิดว่า ผมอยากได้ทำแบบนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย และพอดีว่า พ่อเลี้ยงผมเป็นผู้กำกับ ผมก็ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ แถมยังเคยเป็นทีมงานด้วย ผมเคยเอาโซดาไปให้ ลิเลียน กิช ตอนที่ สตาร์วอร์กำลังจะออกฉาย เธอยังบอกผมว่า “หนังฉายวันนี้นะ” แล้วตอนนั้น ผมเคยอ่านหนังสือของ ดี ดับบลิว กริฟฟิธ ตอนอายุ 14 ก็เลยตอบว่า “ผมรู้คุณจะบอกอะไร และเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” มันก็ราวๆนี้ ผมไปโรงหนังโรงละครกับพ่อเลี้ยงประจำ น่าจะเป็นสิ่งนั้นละ

Q: แสดงว่าตอนเด็กๆคุณดูหนังบ่อยสิ?

KR: ใช่ บางทีก็ที่โรงเรียน ตอนผมเข้าเรียนปีแรก เมืองโทรอนโทจัดงาน ฟิลม์ เฟสติวัล ปีนั้นคือปี1983 ผมจดชื่อหนังทุกเรื่องที่ผมไปดู แล้วหลังจากมานับดูตอนปลายปี ผมดูไปทั้งหมด 73 เรื่อง มีโรงหนังดีๆเยอะในโทรอนโท ผมจำคืนดีๆในฤดูร้อนได้ ขี่จักรยานไปโรงหนัง จอดรถ เข้าไปดู ไม่ต้องคิดอะไร สนุกมาก ดูหนังพร้อมกับกินปอปคอร์น.

Q: คุณกับ เกวิน เป็นนักดนตรีทั้งคู่ ได้คุยกันบ้างไหม และเล่นฉากต่อสู้กับเกวินเป็นไงบ้าง?

KR: ฉากต่อยกับเกวิน สนุกมาก มันส์ชมัด ผมชอบเกวินเขาสนุกมาก เขาเป็นคนที่คุณควรเกลียด แต่ก็เกลียดไม่ลง แถมยังเป็นสุภาพบุรุษอีกต่างหาก ผมชอบจังที่คอนสแทนทินมันเกลียดเขาจนแทบทนไม่ได้ ตลกมาก งานเพลงเขาใกล้เสร็จแล้ว เราคุยกันนิดหน่อยเรื่องนั้น.

Q: วงด็อกสตาร์ยังอยู่ไหม?

KR: ไม่ (เสียงผู้ชมคราง) จริงหรือ? พวกคุณเสียดายขนาดนั้นเชียว ! (หัวเราะ) มันมีเพลงดีๆใช้ได้เหมือนกันนะ แต่ว่าตอนหลังผมก็มาเล่นกับวง เบคกี เยี่ยมเหมือนกัน เล่นอยู่ปีหนึ่ง แต่ว่าเขาจะออกทัวร์กัน ผมเลยโดนเป่าออกมา ตอนนี้เลยไม่ได้เล่นที่ไหนแล้ว

Q: แล้วงานต่อไปคือ?

KR: รุ้สึกว่า ผมจะได้ร่วมงานกับ แซนดรา บุลล็อก ใน สปีด3 อย่าขำดิ ไม่แน่เราอาจสร้างก็ได้นะ แล้วตั้งชื่อหนังว่า สเปด (sped) ดีมั้ง ไม่ๆ หนังเรื่องนี้ชื่อ เดอะ เลค เฮาส์ เป็นอีกแนวนึง โรแมนทิคครับคราวนี้.

Q: คุณว่า คอนสแทนทินเหมือนแมทริกซ์ไหม?

KR: ผมไม่ค่อยสนใจนักนะ เรื่องการต่อสู้ของวีรบุรุษ เทพนิยาย มันก็มักคล้ายกันบ้างล่ะ แต่ถ้าถามอย่างนี้ ผมว่า ผมไม่สนใจสักเท่าไรว่ามันจะเหมือนหรือเปล่า

Q: ฉันถามคุณเรื่องศาสนาได้ไหม?

KR: อย่าดีกว่า ผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว และก็ค่อนข้างต้องระวัง คุยกันเรื่องเลือดเนื้ออะไรงี้ดีกว่า.

Q: คุณคิดว่า ตัวคอนสแทนทินได้รับความสำเร็จเฉกเช่นเดียวกับที่ตัวคุณเองได้รับในฐานะนักแสดงรึเปล่า?

KR: ผมว่ามันก็ไม่ต่างกัน คงคล้ายๆกัน ความสำเร็จที่ผมได้มา ก็มาจากสิ่งที่ผมเคยทำ มันเกี่ยวกันแน่ๆ ผมได้ทำคอนสแทนทิน ก็เพราะ วอร์เนอร์จ้างผม และผมไม่รู้ว่าเขาจะใช้ผมหรือเปล่าถ้าผมไม่เคยมีชื่อเสียงมาก่อนจากงานชิ้นก่อนหน้านี้ พวกเขาสนับสนุนผมมามากแล้ว แง่มุมของชื่อเสียงดารานี่ ผมถือว่าเป็นผลพลอยได้ ของงานที่ทำ คิดว่างั้นนะครับ

Q: ถ้าคุณใส่ชุดดำปุ๊บ คนก็คิดถึงเดอะ แมทริกซ์ทันที ไม่ใช่หรืคะ?

KR: งั้นหรือ? ไม่มั้งผมว่า ผมว่าหนังมันชัดเจนในตัวเอง หวังว่าเค้าจะไม่คิดว่าผมใส่โค้ทสีดำอยู่ ควรจะดูว่าผมโดนต่อยรึเปล่ามากกว่า ผมอยากให้ไปสนุกกับตัวละคร และผมว่าผมทำงานนี้ให้คุณสนใจในตัวคอนสแทนทินมากกว่า ไอ้เรื่องเสื้อผ้าสีเดียวกันนี่มันไม่น่าจะทำให้หลุดคอนเซ็ปส์ขนาดนั้น คนดูน่าจะสนุกกับหนังมากกว่าจะคิดอย่างอื่น

Q: ได้ข่าวว่าผิดหวังกับเกม NHL ?

KR: เป็นเกมที่ดี แต่ก็เป็นเกมที่แปลก นี่ละฮอคกี ผมก็ยังเล่นอยู่นะ เราก็คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่ปีที่แล้ว หวังว่าปีนี้พวกเขาจะผ่านไปได้

Q: คุณเล่นในลีกด้วย?

KR: เคยเล่นครับ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว.

Q: คาแรกเตอร์ของคุณ ต่อต้านพระเจ้า เพราะเขาไม่ได้สิ่งที่หวัง คุณว่านี่เป็นเหตุผลของลัทธิต่อต้านหรือไม่?

KR: ไม่นะ เขาน่ะเด็กของพระเจ้าต่างหาก แต่เขาแค่ไม่เข้าใจ ชีวิตของเขาอยู่ในความดูแลของพระองค์ ถ้าคุณว่านี่เป็นตัวละครต่อต้านในลัทธิต่อต้าน ผมก็ไม่รู้จะพูดไง ส่วนหนึ่งของการเดินทางคือการเชื่อมต่อกับพระองค์ บางทีคงต้องรอให้หนังฉายก่อน คุณจะเข้าใจ

Q: การรอดูหนังที่ตัดเสร็จครั้งแรกหลังจากถ่ายทำเสร็จนี่เป็นไงบ้าง มีอะไรเซอร์ไพรส์ไหม?

KR: ผมน่ะอยากดูเร็วๆ แต่ต้องรอให้ผู้กำกับตัดให้เสร็จก่อน เขาบอกให้ผมใจเย็นๆ ทุกคนทำงานหนัก มีฉากถ่ายซ่อมด้วย ในความคิดผม ฟรานซิสทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว เมื่อก่อนมีหนังบางเรื่องที่ผมดูฉบับตัดครั้งแรกแล้วต้องโทรไปขอพบผู้กำกับ เป็นครั้งเดียวในรอบ 7 ปี รู้สึกจะเป็นเรื่อง ยังบลัด ผมเล่นเป็นตัวละครหนึ่ง แล้วก็ไปรอดูตัวเองในหนัง แต่กลับไม่มี ผู้กำกับเขาตัดมันออกไปเลย.

Q: แล้วตอนนี้ มีเพาเวอร์พอที่จะมีอิทธิพลในการตัดหนังครั้งสุดท้ายรึยัง?

KR: ยังเลย แต่พวกเขาแกล้งทำเป็นฟังผมมากขึ้น เมื่อก่อน เข้าไปในห้องเขายังไม่ให้ผมเข้าเลย มันขึ้นกับว่าผมมีส่วนแค่ไหนด้วยนะ อย่าง ทัมบ์ซัคเกอร์นี่ผมก็เล่นบทเล็กๆ เขาก็ไม่ได้มาถามอะไรผมมาก ถ้าผมได้บทนำ มันก็ดีขึ้นหน่อย เขาก็จะฟังผมบ้าง มันเรียกว่าความสัมพันธ์ไง

Q: มีโอกาสเห็นคุณเล่นรายการทีวีปีนี้บ้างไหม อย่าง Entourage?

KR: แบบ Survivor Hollywoodน่ะหรือ? ไม่หรอก.

Q: อะไรทำให้คุณอยากร่วมงานกับ Alejandro Agresti, ผู้กำกับ Il Mare?

KR: ผมเพิ่งดูหนังเรื่องหนึ่งใน สิบแปดเรื่องของเขา, Valentin.ผมชอบการทำงานของเขามาก ทั้งตัวหนัง และทางเลือกของตัวละคร เขาน่าสนใจ เขาสะสมหนังสือที่พิมพ์ครั้งแรก มีเครื่องเสียงที่สร้างจากท่อและของโฮมเมด ความสนใจเกี่ยวกับหนังของเขาก็ยอด และสามารถทำให้ผมคล้อยตามได้ ผมมั่นใจ ว่าจะได้งานโรแมนทิคที่ดีกับการทำงานนี้ แทบรอไม่ไหวเลย เขาเจ๋งมากฉลาดมากด้วย (อิล แมร์ จะออกฉายปี 2006)



by Staci Layne Wilson





งานตามคำขอของ Nop นะจ๊ะ อันนี้เอาใจเป็นพิเศษ เพราะมีบางข้อเราก็ไม่เคยอ่าน เห็นคำถามแล้วมันเขี้ยว อยากรู้ว่าพี่แกจะตอบอะไร เวลาอ่านคำตอบของคีอานูนี่มัน สนุกถึงใจดี เพราะพี่แกไม่เฟคแถมชอบกวนประสาทนิดๆ เป็นเสน่ห์ไปซะนี่ คนหน้าตาดี ทำอะไรก้น่ารักเนาะ แต่ว่า เราเริ่มเบื่อจะแปลเกี่ยวกะจอหน คอนสแทนทินแล้วล่ะ หาอะไรมาเล่นดีว้า คิด คิด คิด




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 4 มีนาคม 2553 12:33:47 น.
Counter : 1195 Pageviews.  

Keanu alone at home


Keanu alone at home
Joy Celebrity ( Germany) - February 2005


บนจอภาพยนตร์ พระเอกคอนสแทนทิน จับปีศาจส่งลงนรก แต่ในชีวิตปกติ คีอานู รีฟส์เป็นคนที่น่าจะพาไปสวรรค์ด้วยมากกว่า ไม่เชื่อถามสาวๆหลายคนดูได้ ในเมื่อเขาพูดว่า ชอบมองมือผู้หญิง พร้อมจะโรแมนทิคบนเตียง และ ยังอยากเข้าคอร์ส เรียนทำอาหารอีกด้วย...



Joy Celebrity ( Germany) - February 2005
บนจอภาพยนตร์ พระเอกคอนสแทนทิน จับปีศาจส่งลงนรก แต่ในชีวิตปกติ คีอานู รีฟส์เป็นคนที่น่าจะพาไปสวรรค์ด้วยมากกว่า ไม่เชื่อถามสาวๆหลายคนดูได้ ในเมื่อเขาพูดว่า ชอบมองมือผู้หญิง พร้อมจะโรแมนทิคบนเตียง และ ยังอยากเข้าคอร์ส เรียนทำอาหารอีกด้วย...

ดาราผู้ไม่อยู่ในระเบียบฮอลลีวูด แต่งตัวตามปกติ ในการปรากฏกายเพื่อสนทนากับเรา ไม่มีเสื้อผ้าหรูหราเช่นคนอื่น เพียงเสื้อยืดสีดำ สูทสีเข้ม ยีนส์ และรองเท้าคู่เดิม เพียงง่ายๆเท่านี้ ก็ฉายแววเสน่ห์ของชายร่างสูงอย่างเขาออกมาจนล้น

ดาราจอมสันโดษ ผู้เลี่ยงงานปาร์ตีธุรกิจ ไปโผล่เฉพาะงานเปิดตัวหนังของตนเองเท่านั้น ลูกครึ่งฮาวายแสนลึกลับ ยิ้มยาก แต่มีอารมณ์ขันร้ายๆ ประชดไปทั่วในบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมา นั่งอยู่หน้าเราแล้ว

Celebrity: ในฮอลลีวูด คุณจะได้บทที่ เป็นคนแปลก ประหลาด ลึกลับ แล้วก็สันโดษอยู่เรื่อย คุณคิดว่าทำไมจึงได้รับแต่งาน ที่มีบุคลิกแบบนี้?

Keanu Reeves: ผมไม่รู้สิ นึกสาเหตุไม่ออกหรอก ผมไม่เคยยึดว่า ภาพลักษณ์ของผมคืออะไร ก็แค่ จริงๆแล้วผมไม่แคร์หรอก ว่าจะโดนจับให้เป็นอะไร ผมเป็นแค่นักแสดง

Celebrity: แล้วคุณมองตนเองอย่างไร?

Keanu Reeves: ผมเป็นชนชั้นกลาง เด็กผิวขาวจากครอบครัวกลางๆ โตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อ มีแม่ที่เพี้ยนมากๆ และก็น้องสาวหน้าตาดีสองคน. (ดู๊ มันตอบซะมั่ง อึ้งไปเลยดิคนถาม อิๆ สมน้ำหน้า )
Celebrity: จริงหรือที่ว่า คุณไม่มีใบประกาศนียบัตรมัธยมด้วยซ้ำไป?

Keanu Reeves: ใช่ ผมดร็อปเรียน เรียนไม่จบ.

Celebrity: เคยคิดจะกลับไปทำให้สำเร็จไหม?

Keanu Reeves: ไม่ล่ะ ขอบคุณ ผมสี่สิบแล้วนะ ไม่อยากไปเรียนมัธยมอีกแน่ (หัวเราะ) ถ้าผมอยากเรียนรู้อะไร มีอีกตั้งหลายวิธีที่ทำได้.

Celebrity: วิธีไหนบ้าง?

Keanu Reeves : ก็เช่นการอ่านหรือคุยกับผู้ชำนาญงานนั้นไง ผมไม่จำเป็นต้องใช้ใบประกาศนียบัตรไปทำอะไรนี่ ผมได้รับการรับรองจากงานของผม อย่าง เดอะแมทริกซ์ ผมทำงานตั้งสามปีเชียวนะ กว่าจะเสร็จ (หัวเราะ) ดังนั้น ไม่ต้องไปโรงเรียนหรอก นอกจากว่า ผมจะอยากเรียนภาษาอื่น หรือว่าหัดทำกับข้าว นี่ก็คิดอยู่ ผมน่าจะไปเทคคอร์สทำอาหารสักทีนะ ? (หัวเราะ)

Celebrity: เมื่อก่อน คุณอาศัยนอนโรงแรมอยู่หลายปี ตอนนี้ซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว.

Keanu Reeves: .ใช่ สุดยอด ประสบการณที่ยอดเยี่ยม ความรู้สึกที่ดีมาก คือการได้กลับถึงบ้านตอนเย็น

Celebrity: พอจะเล่าคร่าวๆได้ไหม.

Keanu Reeves: ครับ บ้านผมเป็นบ้านสมัยใหม่ อยู่บนทำเลสุดยอดของ ลอสแอนเจลิส มีสองห้องนอน และมหัศจรรย์มาก

Celebrity: คุณอยู่ที่นั่นคนเดียว?

Keanu Reeves: ใช่ ช่วงแรกที่ย้ายไปมันก็ไม่คุ้นเอาเลย ไม่มีใครช่วย ผมละถามตัวเองว่าจะดูแลตัวเองได้ไง ผมจะอยู่แบบไหน อาหารมันจะมาได้ยังไง (หัวเราะ) ผมเคยซะที่ไหนแบบนี้ (ปกติ จะเอาอะไรก็ยกหูโทรศัพท์เรียกรูมเซอร์วิสอย่างเดียวละสิ) พอดีว่า งานคอนสแทนทินเข้ามาซะก่อน ผมก็เลยรีบย้ายไปนอนโรงแรมเหมือนเดิม อย่างรวดเร็วเลย เพราะถ้าขืนอยู่บ้านล่ะ ผมเสร็จแน่ ต้องคอยโทรตามคนทำงานที่ไม่รู้จะมารึเปล่า รอไปเถอะ รอ รอ แล้วก็รอเรื่อยไป

Celebrity: ที่เห็นมา เวลาคุณปรากฏตัว พวกผู้หญิงนีกรี๊ดกันสนั่น แต่นั่นเป็นเรื่องที่เกิดน้อยมาก เพราะคุณไม่ค่อยออกงาน และตอนนี้คุณก็ยังไม่มีใคร (งานสัมภาษณ์ชิ้นนี้นี่ก่อนพี่คีแกจะพบยายลินน์นะจ๊ะ) ทำอย่างไรผู้หญิงจึงจะชนะใจคุณ และคุณรักสิ่งไหนในตัวผู้หญิง?

Keanu Reeves: ผู้หญิงต่างหากเป็นคนเลือกผม แต่ก็ ถ้าถามผม ผมว่ามันก็ พูดยากนะ บางทีมันแค่เรื่องเล็กๆที่น่าสนใจ อย่างท่าทางที่เธอเคลื่อนไหวมือของเธอ หรือการพูดเพราะๆจากริมฝีปาก หรือว่าแค่เธอจำผมกับแม่ผมได้ (หัวเราะ) ไม่หรอก อย่าเชื่อนะผมตอบเล่นๆ

Celebrity: คุณคิดยังไงกับเรื่องปาฏิหาริย์แห่งรัก เทพนิยายของเนื้อคู่ ที่ฮอลลีวูดชอบบอกเรา?

Keanu Reeves: คุณก็เรียกมันว่า โฆษณาชวนเชื่อแบบรักโรแมนทิคสิ เมื่อคุณโตขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น คุณก็จะรู้ได้เองเหมือนนิทานคริสมาตนั่นล่ะ ทั้งๆที่คุณรู้ว่าตุ๊กตาทารกพระเยซูไม่ใช่ของจริง แต่คุณก็มีความสุขกับของขวัญ ใช่ไหม คุณต้องลองที่จะเปิดมัน เป็นการเสี่ยงทายที่มีความสุข

Celebrity: อะไร โรแมนทิคสำหรับคุณ? (แหม ชอบถามกันจั๊ง คำถามนี้)
Keanu Reeves: เรื่องง่ายๆ รรมดาๆของชีวิตก็พอ นอนเล่นตอนเช้าด้วยกัน เอาเท้าเขี่ยกันเล่น คุย และมองหน้ากัน หัวเราะด้วยกัน แค่อยู่ด้วยกันบนเตียงตอนเช้า ก้แสนวิเศษแล้วสำหรับผม (โอ้ เซ็กซี่ โคดๆ แล้วก่อนเช้านี่ทำไรกันคะพี่ อูวววว )
Celebrity:คุณทำอย่างไรเวลาพบเพื่อนใหม่ ในฐานะซุเปอร์สตาร์?

Keanu Reeves: Hallo (หัวเราะ)

Celebrity: ดาราคนอื่นบอกว่าคุณรับมือกับความสำเร็จของคุณไม่ได้ เพราะชีวิตและตัวคุณเปลี่ยนไปมาก

Keanu Reeves: ผมไม่เห็นจะเคยรู้สึกอย่างนั้น นอกการทำงาน ผมใช้ชีวิตธรรมดา ไปไหนก็ไม่ค่อยมีใครจำได้ ผมเป็นคนง่ายๆที่มีความเป็นส่วนตัวมาก ไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นเลย เพื่อนผมมักจะคิดว่าผมทำอะไรน้อยไปสำหรับความสำเร็จที่ใหญ่ขนาดนั้น พวกเค้าก็แค่ว่า คีอานูผู้น่าสงสารที่ .. อะไรแบบนี้

Celebrity: คุณสนุกกับอะไร เวลาไม่ทำงาน?

Keanu Reeves: มอเตอร์ไซค์ผมสิ ร็อคคอนเสิร์ทก็ใช่ ออกไปหาอะไรกินตอนเย็นก็เยี่ยม เที่ยวไปเรื่อยๆพร้อมดื่มไวน์กับเพื่อนๆ

Celebrity: จริงหรือไม่ที่คุณให้ รถฮาร์เลย์ กับสตันท์แมนหลายคน

Keanu Reeves: ใช่ ตอนถ่าย แมทริกซ์ สาม ฉากต่อสู้ที่โคดยากนั่น ล่อไปหกสัปดาห์ พวกเขา ทั้งโดนมัดโดนแขวนหมุนควงกันเจ็ดแปดรอบถ่ายฉากนี้ ผมก็แค่อยากจะบอกขอบคุณ ไอ้วันที่รถบรรทุกพามอเตอร์ไซค์พวกนั้นมานะ เป็นวันที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

Celebrity: งานคอนสแทนทินของคุณเป็นไง?

Keanu Reeves: จอห์น คอนสแทนทิน หาทางออกจากการต้องตกนรก และแอลเอก็เป็นสถานที่ที่มีทั้งเทพและปีศาจ เรื่องของคนที่พยายามดิ้นเฮือกสุดท้าย หาทางให้กับตัวเอง เป็นเรื่องลึกลับหม่นมืดที่สร้างอย่างขำๆ

Celebrity: อ๋อ เรื่องวีรบุรุษ นักสืบ มาจากการ์ตูน "hellblazer." ใช่ไหม ปกติคุณอ่านการ์ตูนรึเปล่า?

Keanu Reeves:ตอนนี้ไม่เท่าไร แต่เมื่อผมยังเด็ก ผมชอบ "X-men" แล้วก็ มากกว่านั้นก็ "Spider-man". ผมคือ สไปเดอร์แมน!

Celebrity: ทำงานคู่กับ Rachel Weisz เป็นไง?

Keanu Reeves: ดีมาก เธอฉลาด แล้วเราก็สนุกด้วยกัน

Celebrity: อะไรทำให้คุณสนใจบทนี้ ?

Keanu Reeves: ผมสนใจ ความโกรธของจอห์น ผมชอบวิธีที่เขาจัดการกับความโหดร้ายของโลกนี้ด้วยอารมณ์ขันลึกๆ บทเขียนมาดี ตอนอ่านคำพูดของบท ผมก็หลงมันเลย “พระเจ้ามีแผนสำหรับเราทุกคน ผมต้องตายตั้งสองครั้งถึงจะคิดออก”


หุๆ หนูน่ะตายเพราะพี่มาหลายรอบแล้วค่ะ ยังไม่เข็ดเลย




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 16 ตุลาคม 2551 12:39:54 น.
Counter : 2188 Pageviews.  

The Transcendental / More-Than-Sensual

The Transcendental / More-Than-Sensual
InStyle ( Germany) - July 2003


ภาพจากงานเปิดตัว แมทริกซ์ รีโหลดเดด 2003



ดาราสุดหล่อ แสนเท่ห์ คีอานู รีฟส์ ผู้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จากโลกหุ่นยนต์ใน เดอะ แมทริกซ์ มีชีวิตจริงแสนจะติดดิน เขาว่าปิ้งบาร์บีคิวกับครอบครัวสนุกกว่าไปปาร์ตีในฮอลลีวูด

ชีวิตส่วนตัวอันแสนลึกลับ ยิ่งขุดคุ้ย ก็ยิ่งหาไม่พบ คีอานูเหมือนความลับที่น่าสนใจ แม้กระทั่งในการสนทนาครั้งนี้ เราก็แทบไม่รู้อะไรเพิ่มขึ้นเลย มีเพียงรอยยิ้มที่ส่งกลับคืนมาหลังคำถาม แต่ว่า เขาคิดอะไร ใครจะรู้ และสิ่งนี้เป็นเสน่ห์ของเขา สาวๆหลายคนชอบความเศร้าในดวงตาคู่นั้น ทั้งๆที่บนจอภาพยนตร์บุคลิกเหล่านี้จะต่างไปโดยสิ้นเชิง เขาจะเปี่ยมพลังและดึงดูดใจ ในบทของแอคชันฮีโร โทมัส แอนเดอร์สันแห่ง เดอะ แมทริกซ์ รีโหลดเดด


Q ชีวิตส่วนตัวของคุณนี่ค่อนข้างจะมีเรื่องสับสนอยู่เรื่อยนะ ไม่มีใครแน่ใจในเรื่องของคุณได้สักราย มันแย่นักหรือไง คุณถึงต้องปกปิดมันนัก
K ผมต่างหากที่เป็นฝ่ายงงแล้วก็ประหลาดใจ เวลาอ่านเริ่องของตัวเองบนหน้าหนังสือพวกนั้น บางเรื่องนี่บ้าเกินกว่าที่จะคิดถึงเลย

Q ไหนว่ามาสิ อะไรบ้าง
K เช่น ข่าวที่ว่า ผมแก้ผ้าเล่นน้ำกับ ชารอน สโตนในสระที่ แอล เอเป็นต้น ผมละอยากให้มันจริงนักเชียว แล้วยังเรื่องที่มีคนเอาม้ามของผมไปประมูลขายทางอินเตอร์เน็ตอีก นี่ยังมีใครคิดว่าเรื่องนั้นจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ม้ามผมน่ะยังอยู่ในตัวผมแน่ๆ


Q ยังมีเรื่องที่มีคนคิดว่า คุณเป็นเกย์ หรือ ขี้ยา อีกล่ะ คงเพราะคุณหายไปจากจอนานเกินไปรึเปล่า
K ผมไม่สนหรอกว่าใครจะคิดว่าผมแป็นเกย์หรือขี้ยาอย่างที่คุณว่า

Q เพราะคุณไม่ค่อยออกงาน ไม่มีใครเห็นคุณในงานเปิดตัวหนังเรื่องอื่นเลย ทำไมล่ะ
K เพราะผมรู้สึกแย่เวลาถูกถ่ายรูป มันทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย

Qเป็นเพราะไม่รู้จะพาใครไปด้วยรึเปล่า ใครๆต่างคิดว่าคุณเป็นคนโสดแบบถาวรไปแล้ว
K ก็ผมมัวแต่ทำงานมากไปละมัง สาวๆก็เลยเข้าถึงยาก


Q ทั้งๆที่ มีสาวๆรอคุณไม่น้อยนี่นะ
K ใช่ ผมตัวลอยประจำเวลามีหญิงมาหลงเนี่ย แต่ไม่ได้คิดมากอะไรหรอก ผมรู้ดีว่า ฮอลลีวูดคืออะไร ผมก็แค่สินค้าตัวหนึ่งเท่านั้น


Q คุณเคยคิดจะแต่งงานบ้างไหม มีครอบครัวแบบคนอื่น?
K นั่นต้องยอดเยี่ยมแน่ๆ ผมอยากมีบ้านและครอบครัวจัง อย่างไรก็ตาม ผมว่า มันคงมาถึงสักวัน

Q เวลาปกตินี่ คุณพักที่โรงแรมชาร์โตว์ เมอมงต์ที่แอลเอประจำเลย ทำไม
K ชีวิตผมมันร่อนเร่ไง จริงๆแล้ว บ้านในใจผมอยู่ที่โทรอนโท สาเหตุที่ผมอยู่โรงแรมหรือ บอกตรงๆเลยนะ ผมชอบบริการรูมเซอร์วิสไง

Qอะไรบ้างที่คุณคิดถึงเสมอ
K ฮอคกี ชอบเล่นมาก แล้วก็ มอเตอร์ไซค์แปดคันของผม

Q คุณขับรถเร็วมากเลยนะ เกิดอุบัติเหตุไปตั้งหลายครั้ง ไอ้ครั้งปี 1988 ก็เกือบตาย นี่เทพผู้พิทักษ์ของคุณไม่เหนื่อยแย่รึ
K ใช่ ผมขับรถเร็ว โดนยึดใบขับขี่ประจำ ว่าแต่เรื่องเทพผู้พิทักษ์ ผมค่อนข้างเชื่อนะ ผมมีหลายเรื่องให้เชื่อในเรื่องนี้เหมือนกัน บางเหตุการณ์ทำให้ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้

Q อะไรบ้างล่ะ
K ก็ ครั้งหนึ่งที่นิวยอร์ค ผมพบกับหมอดูรายหนึ่ง เธอบอกเรื่องของผมได้แม่นมาก เรื่องนั้นมันไม่มีทางที่ใครจะรู้ได้นะ เธอพูดถูกทั้งชื่อ สถานที่ และเหตุการณ์ มันยากที่จะเชื่อแต่ต้องยอมรับ บางทีบางคนคงมีบางสิ่งเหนือคนอื่น แต่เนื่องจากมันพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ยาก บางคนก็ไม่เชื่อ

Q คุณคิดว่า วัยเด็กของคุณมีความสุขไหม
K ตอนเด็ก ผมมีเรื่องที่ไม่ธรรมดา เกิดที่เบรุต แต่ไปโตที่ อเมริกาและออสเตรเลีย แล้ววันหนึ่ง ก็ย้ายไปโทรอนโท ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นที่นั่น ชีวิตผมแวดล้อมไปด้วยศิลปิน แม่เป็นแดนเซอร์ แล้วเธอยังเย็บเสื้อผ้าให้ดาราร็อคอย่าง อลิส คูเปอร์ ส่วนพ่อเลี้ยงก็เป็นผู้กำกับละครเวที นั่นทำให้ผมพบโลกการแสดงตั้งแต่ยังเล็กๆ ชีวิตส่วนใหญ่ก็สนุกสนานอยู่กับแม่และน้อง ทำบาร์บีคิวกินกัน สนุกมากเลย

Q แล้วอะไรคือสิ่งที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต
K คือการตัดสินใจมาเสี่ยงโชคในฮอลลีวูดตอนอายุ 19 ด้วยการออกจากบ้านที่โทรอนโทโดยรถวอลโว และตอนนี้ซื้อบ้านให้น้องสาวผมได้ น่าภูมิใจและมีความสุขมาก

Q คุณเคยบอกว่าคุณเคยเสพยาใช่ไหม
K ผมไม่เคยบอกว่านั่นเป็นเรื่องดีนะ ฮอลลีวูดมันเต็มไปด้วยเรื่องเย้ายวนมากมาย ผมก็ลองไปหลายเรื่อง แต่เรื่องยานี่ ผมไม่ชอบ


Q แล้วคุณชอบอะไรล่ะ
K ผมชอบเล่นกีฬา หลายอย่างเลย นอกจากฮอคกี ก็มี เบสบอล ขี่ม้า ยังมีเล่นดนตรี เล่นเบสส์กับวงด็อกสตาร์ แล้วก็อ่านบทละครเช็คสเปียร์เป็นประจำ


been translated from German>English>Thai so it may incorrect in some words from original column
.




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 16 ตุลาคม 2551 12:37:26 น.
Counter : 3338 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

angy_11
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




ปุกาด

ข้อความในบล็อก เป็น คหสต ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็น ความจริง*บางส่วน*+การปรุงแต่ง, จึงไม่อนุญาตให้ใช้อ้างอิงในแง่อื่นๆนอกจากเพื่อความบันเทิงที่อาจจะยกระดับจิตใจ

เนื่องจาก บล็อกเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 จึงอาจมี *ความผิดพลาดจากเรื่องจริง* หลายส่วน หากพาดพิงท่านใด กรุณาติดต่อให้แก้ไขด้วย

ไฟล์ภาพ หลายชิ้น จะไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่จ่ายเงินค่าแขวนภาพในเว็บโฮสท์ ขออภัยในความไม่สะดวก
***
เดิมแบ่งหมวดหมู่บล็อกเป็น5กรุ๊ป
ปัจจุบัน บล็อกใหม่ จะอยู่ที่
กรุ๊ป **ข่าว** เท่านั้น
*********
แองจี้เป็น
หนึ่ง-ใน-แอดฯ
ของเพจเฟสบุค
v
v

แต่ส่วนใหญ่ งานในเพจ จะเป็นความสามารถและความขยัน ของ แอดมินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเธอจะเรียกตัวเอง ว่า "แอดมน" ขอบคุณที่อ่าน ค่ะ
LastBlogs


2023

22:09:66 :Swiz Pizza
23:08:66 :theHat
20:08:66 :HBD 59
21:06:66 :JW4 in 3 mth
07:03:66 :KR AMA 2023
27:02:66 :KwNeverS2theMachines

2022

01:09:65 :HBD58
06:07:65 :KR&TheKid

2021

12:12:64 :Tools=M.Resurrections
23:11:64 :EsqNov2021
09:11:64 :HAGAKURE
16:09:64 :HowCome
02:09:64 :HBD*57
18:6:64 :HairExtention
23:4:64 :JW4 Preparing
2020
26:8:63 :WhatIf...HBD
22:4:63 :SocialDist
6:2:63 :92nd Oscar
8:1:63 :ถ้ารัก อย่าล้ำเส้น

2019
5:11:62 :KeaLexandra
14:10:62 :Dad'sFuneral
12:09:62 :Japan Adv
01:09:62 :HBD*55*
24:07:62 :NicestGuy
03:06:62 :Meme in ABMM
16:05:62 :#AskJohnWick
12:05:62 :JW3's coming
16:04:62 :ยาวไป ยาวไป
16:03:62 :Sandwich

2018

19:12:61 :FakeKeanu
02:09:61 :HBD*54
14:08:61:DestinationWedding
20:07:61 :MySiberiaReview
18:04:61 :จีมา-ปริก-

2017

01:09:60 :HBD 53
22:08:60 :ADC'sBook
09:08:60 :ToTheBone
15:06:60 :JRain
01:06:60 :KRphenomenon
26:05:60 :JW3 will do
26:04:60 :K hates S.media
21:02:60 :C=Wick
08:02:60 :หัวใจน่ากอด

2016

27:12:59 :HNY 2017
02:09:59 :HBD 52
31:08:59 :SwedishD
10:08:59 :Replicas#1
11:07:59 :Rally Car
12:05:59 :M Figaro
31:03:59 :To the Bone
23:03:59 :TWT@tokyo
28:01:59 :ฉงฉานครีนู
26:01:59 :Exposed

2015

04:05:58 :my KnKn
18:11:58 :10/10KnKn
12:11:58 :moreJW2
05:11:58 :JW2 shooting
09:10:58 :@Kimmel 8Oct
30:09:58 :Mrs.Wick
17:09:58 :The-R-Files
07:09:58 :Cinder-K-ella
01:09:58 :HBD- 51
21:08:58 :ARCH - VF
13:08:58 :How Pick
05:08:58 :indie KR
31:07:58 :KRGT-1
15:07:58 :Where's K
28:06:58 :mystery woman
17:06:58 :K miss theP
29:05:58 :TLB 4 Nepal
28:05:58 :No หนวด
18:05:58 :KnKn stills
13:05:58 :K NewLook
09:05:58 :Hide his face
24:04:58 :The New K
20:04:58 :K is funny
12:02:58 :Gauguin Event
06:02:58 :The Neon Demon
26:01:58 :Travelling Actor

2014

17:12:57 :I'm going to start a family again
08:12:57 :Passenger Update !
24:11:57 :I have no time for Amore
31:10:57 :#IMDbAskKeanu
30:10:57 :Welcome back
22:10:57 :JW on KM Live
20:10:57 :JW the best act mov
16:10:57 :Rddt AMA KR#1
14:10:57 :NYC JohnWick
09:10:57 :Miami airport
29:09:57 :ทำไมถึงไม่แต่ง งาน
24:09:57 :2วัน2รอบ !
23:09:57 :STACEY
22:09:57 :obsessive fan
01:09:57 :HBD 50
19:08:57 :J.Rain T.V. Series
14:08:57 :R.day of JW
08:08:57 :K@LAX
01:08:57 :K & Israel PM
16:07:57 :KR bachelorette party
07:07:57 : Clean shaven
24:06:57 :TheWholeTruth
9:06:57 :SandyAward
6:06:57 :GuyChAward
25:05:57 :ARCH on the road
12:05:57 :ปิดกล้องKnockๆ
04:05:57 :K in Chile
15:04:57 :1stPict KnkKnk
08:04:57 :KnockKnock
02:04:57 :K on eBay
20:03:57 :PostponePassenger
06:03:57 :Indi Spirit Awards
25:02:57 :Passenger'll be do
11:02:57 :German gay
31:01:57 :K @ Uru
25:01:57 :more JW
17:01:57 :1st look JW
4:01:57 :Kai Diaster

2013
29:12:56 :X'mas Keanu
26:12:56 :Kai & Keanu
24:12:56 :My 47R review
13:12:56 :cutie K
11:12:56 :47R aud rate
20:11:56 :47R Pr Con
13:11:56 :47R intview
31:10:56 :Bhind 47R
29:10:56 :J.Wick
21:10:56 :KR Reddit AMA
14:10:56 :Apple Store
12:10:56 :47Ronin more
30:09:56 :Nicest guy ever
25:09:56 :Fantastic fest
21:09:56 :John Wick
11:09:56 :@TIFF
10:09:56 :@Toronto
09:09:56 :Fat with Muscle
02:09:56 :HBD 49
30:08:56 :Exercise is Good
28:08:56 :Cute Clip
06:08:56 :47โรนิน ตัวอย่าง
05:08:56 :สาวลึก ลับ
24:07:56 : รายได้ MOTC
17:07:56 :บทความในสิงคโปร์
16:07:56 :18 กค นี้ MOTC ในไทย
10:07:56 :LongLong dragon
09:07:56 :หนังสั้น17mins w VW
20:06:56 :Kid&K on MOTCpromo
11:06:56 :Arch Motorcycle
22:05:56 :MOTC Cannes
10:05:56 :GenUm LA
22:04:56 :Trailer of MoTC
11:04:56 :Delay of MoTC
22:03:56 :Suicide in Cinema
07:03:56 :@ฺBJ CloudAtlas
06:02:56 :FB page
06:02:56 :K's Home
22:01:56 :MOTC releaseDate
11:01:56 :K's back 2 BJ

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angy_11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.