Man of Tai Chi
ย้อนไป ค.ศ. 1998, คีอานูรู้จักไทเกอร์เชิน เพราะการฝึกกังฟูเพื่อเข้าฉากต่อสู้ใน The Matrix และในช่วงนั้นเอง ที่คีอานูได้ทำความรู้จักกับ ไทชิ(หรือที่คนไทยรู้จักในนามไทเก็ก) ไทชิเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เน้นความสมดุลและสติ การเคลื่อนไหวเน้นที่ความลื่นไหลของร่างกาย มากกว่าการเกร็งกล้ามเนื้อส่วนใดเพื่อทำลายคู่ต่อสู้ คีอานู พบแรงบันดาลใจจากปรัชญาไทเก็ก ซึ่งมีความสมดุลจากพลังหยิน และ หยาง ปี 2005 คีอานูมาโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง Constantineในฮ่องกง ในขณะนั้น บริษัทสร้างภาพยนตร์ของเขาเอง(The Company Film) กำลังเริ่มต้น เมื่อได้พูดคุยกับ หยวนวู่ปิง ในฮ่องกง คีอานูก็มีความฝันที่จะสร้างหนังจีน โดยใช้สหายเก่าที่เขารู้จักดีเป็นนักแสดง โปรเจ็คแรก ใช้ชื่อว่า Kung Fu Man ซึ่งก็ประสบความสำเร็จพอประมาณ โปรเจ็คถัดมา จึงเป็นโอกาสแรกของคีอานู ที่จะกำกับภาพยนตร์ ในหนังที่โชว์ความสวยงามของมวยจีนที่ใช้ชื่อว่า Man of Tai Chi หนังเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ในปักกิ่ง แต่ยังไม่ฉายในฮ่องกง รายได้วันแรก เป็นอันดับ 5 ของอันดับบ๊อกซออฟฟิศจีน ฟังจากเสียงรีวิวของผู้ที่ชมแล้ว บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เวลาส่วนใหญ่ในหนังคือฉากต่อสู้ พล็อตก็เรียบง่าย การแสดงของไทเกอร์ ในฉากต่อสู้นั้นไม่มีที่ติ แต่ในฉากอื่นๆกลับไม่มีความน่าจดจำ ส่วนการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของคีอานู บ้างก็ปรบมือ บ้างก็บ่นด่า แองจีเอง โดยปกติ ก็ไม่ชอบดูหนังต่อสู้ แต่ในเมื่อ ที่รัก ทำงานนี้เป็นงานแรก ไหนยังทุ่มเทมาโปรโมทในจีนนานกว่าครึ่งเดือน ตะลอนทัวร์ในจีนถึง 8เมืองใหญ่ ออกทีวีจนหน้าชา เซ็นชื่อแทบนิ้วหงิก แองจีก็เห็นจะหลีกเลี่ยงมิได้ ที่จะต้องไปทำตาเยิ้มอยู่หน้าจอใหญ่ แม้ไม่ได้อานิสงค์อะไรเหมือนแฟนๆชาวจีน ก็ตามเถิด ยังไงก็ฝากไปชมกันด้วยนะคะ หนังเข้าวัน พฤหัสที่ 18 แน่นอนฮ่ะ
Create Date : 16 กรกฎาคม 2556
Last Update : 18 กรกฎาคม 2556 11:15:11 น.
Counter : 4628 Pageviews.
The 1st angy_11's comment : The Day The Earth Stood Still
ว่าจะเขียนถึง หลังดูหนังเรื่องนี้ซ้ำสักสามพันรอบ(...มัน..เว่อร์ อีกแร้วฮ่ะ) แต่แล้วก็คันปาก อดไม่ไหว หลังจากอ่านสิ่งที่ชาวบ้านพูดถึงเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ จนดิฉันบอบช้ำ ,..เหลือประมาณ แม้ยอดรายได้บนบ๊อกซ์ออฟฟิศทั้งในอเมริกาและหลายประเทศจะออกมาว่า The Day The Earth Stood Still ได้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งทันทีที่หนังออกฉายในทุกประเทศ แองจีก็รู้ว่าเป็นเพราะผลการตลาดที่ฟ็อกซ์สตูดิโอจงใจและส่งเสริมให้เป็นอย่างนี้ ด้วยการวางโรงฉายจำนวนมากและการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกรูปแบบ ซึ่งแปลง่ายๆว่า แม้หนังจะใช้ต้นทุนในการสร้างไม่มากนัก แต่ทุนที่ใช้ทำการตลาด,ไม่น้อยแน่ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้หนังเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างที่สุด เท่าที่จะทำได้ ซึ่งทำให้แม้แต่ผู้ไม่อยากดู ก็ยังจำใจดูด้วยแผนการตลาดดังกล่าว เสียงตอบรับ จึงมีหลายอย่าง แน่นอนว่าแองจีนั้นลำเอียงอยู่ข้างคุณรีฟส์เสมอ จึงอยากได้ยินแต่เสียงชมเชย ตามประสาปุถุชนธรรมดา แต่ในเมื่อทั้งแองจีและคีอานูอาศัยอยู่ในโลกจริงๆเหมือนกัน เราจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบกับคำต่อว่า,ติติง,หรือแม้แต่โกรธแค้นที่ภาพยนตร์ไม่ได้เป็นไปตามแนวทางซึ่งผู้ชมบางคนคาดหวัง ความคาดหวังสูงไม่ใช่ความผิด ที่จริงแล้วต้องนับว่ามีประโยชน์ไม่น้อยกับการนำคำต่อว่าเหล่านี้มารวบรวมไว้เพื่อทำงานให้ถูกใจผู้ชมมากขึ้นในครั้งต่อไป แองจีรู้ว่าคีอานูเป็นคนฉลาดที่โตแล้ว จึงวางใจว่าเขาต้องรู้จักนำเรื่องนี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน โดยทั่วไป, จี้ก็ไม่ห่วงอะไรเขามากนัก ที่เป็นห่วงก็คือโลกใบนี้ มากกว่า ดาวเคราะห์โลก เป็นบริวารลำดับที่สามของดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะจักรวาล ด้วยโลเกชันที่ได้รับพลังงานพอเหมาะ ที่นี่จึงเกิดสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ที่ได้อาศัยดาวเคราะห์โลกเป็นบ้าน การหมุนวนของพลังงานและแร่ธาตุมาจากการเกื้อกูลกันของหลายชีวิตในโลก พลังงานหมุนเวียนเป็นห่วงโซ่อาหารโดยมีมนุษยชาติเป็นหนึ่งในขบวนการนี้ แต่ด้วยปัญญาและวิวัฒนาการ เรากำลังเปลี่ยนสภาพของดาวเคราะห์โลกให้เป็นสวรรค์ที่ให้ใบผ่านเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่เป็นมนุษย์(รวย?) เราไม่เคยสนใจว่าเพื่อนร่วมโลกที่พูดภาษาคนไม่ได้(หรือแม้แต่มนุษย์ที่ยากจน)จะคิดอย่างไรคลาทู คือชื่อของสิ่งมีชีวิตนอกโลกตนหนึ่ง เขาไม่ใช่มนุษย์แต่มาที่นี่ด้วยเป้าหมายสำคัญ นั่นคือการเก็บดาวเคราะห์ดวงนี้ไว้ ให้พ้นอันตรายจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ ข้อมูลที่อารยธรรมไกลโพ้นนอกโลกรับรู้ มาจากการเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงบนพื้นผิวและบรรยากาศของโลก โดยการส่งเครื่องมือรูปทรงกลมมาเก็บตัวอย่างแร่ธาตุ,ดีเอ็นเอและเซลล์ของสิ่งมีชีวิตไปศึกษา ในด้านการเก็บข้อมูลวัฒนธรรมและสังคม พวกเขาใช้สปายในร่างมนุษย์ที่ปะปนอยู่กับเราเป็นผู้ตีค่าข้อมูลแล้วรายงานกลับไป หลังการเก็บข้อมูลอันยาวนาน พวกเขาเห็นว่าสภาพทางภูมิศาสตร์ของดาวเคราะห์โลกมาถึงจุดวิกฤตแล้ว และด้วยข้อมูลทางวัฒนธรรมและสังคมที่ได้รับจากสปายที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ พวกเขาตัดสินใจว่า การหยุดวิวัฒนาการของมนุษย์คือทางออกที่ง่ายที่สุดที่จะเก็บดาวเคราะห์ดวงนี้ไว้ จึงส่งคลาทูมาทำงานนี้โดยมีหุ่นยนต์กอร์ตเป็นผู้คุ้มกัน หลังจากภาพยนตร์ออกฉาย เสียงวิพากย์,วิจารณ์หลายอย่างก็ปรากฏให้เห็น และช่างเหมาะเจาะเหลือเกินที่ความเห็นของ Mr.Wu สปายต่างดาวในร่างมนุษย์ชาวจีน สรุปให้คลาทูฟังว่า "พวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบทำลาย" เรามักทำลายสิ่งที่เราไม่ชอบแล้วเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้เป็นแบบที่เราอยากได้ เช่นเดียวกับที่หลายคนทำ เมื่อดูหนังเรื่องนี้ "-หนังอะไรไม่รุ ไร้ชั้นเชิง ดูแล้วหลับ ไม่หักมุม ไม่สะเทือนขวัญ ไม่เร้าใจ ไม่ตื่นเต้น เสียดายสตางค์เป็นที่สุด-" ไม่ผิดหรอกค่ะ ถ้าจะคิดอย่างนั้น เพราะทุกครั้งที่เราเสียเงิน เราก็คาดหวังอะไรสักอย่าง สำหรับการดูหนังก็ต้องเป็นความบันเทิง ในเมื่อสิ่งที่ได้รับไม่ตรงกับความคาดหวัง ก็ต้องบ่น,ต้องว่าต้องประนาม เป็นธรรมชาติของมนุษย์ตามที่Mr.Wuพูดไว้ทุกประการ เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และไม่ชอบสิ่งใดก็ตามด้วยเหตุผลด้านอารมณ์เป็นหลักสำหรับแองจี ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีความดีเพราะเป็นผลงานของคีอานู รีฟส์เพียงอย่างเดียว ความดีของมันคือข้อความสั้นๆในหนังเรื่องนี้ นั่นคือ ดาวเคราะห์ที่มีสภาพเหมาะสม สำหรับการมีสิ่งมีชีวิตหลากหลาย มีเพียงหยิบมือเดียวในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ ทำไมเราจึงทำลายมันด้วยความโลภของเรา หากโลกนี้ตาย พวกเราทุกคนก็ตายกันทั้งหมด หากเรารู้ว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาและอารยธรรม เราต้องเปลี่ยนแนวคิดที่ต้องการครอบครองทรัพยากร เป็นการพยายามอนุรักษ์ และเพิ่มความกรุณาต่อเพื่อนร่วมทุกข์(เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย) ไม่ว่า เขาจะเป็นเพื่อนหรือศัตรู เป็นสัตว์เลี้ยงหรือแม้แต่สัตว์ร้าย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย คลาทู...ขอร้อง
Create Date : 22 ธันวาคม 2551
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 12:16:20 น.
Counter : 929 Pageviews.
Permanent Record : 1988
การเสียชีวิตอย่างกระทันหันของนักเรียนมัธยมปีสุดท้าย เดวิด ซินแคลร์(Alan Boyce)ผู้มีทุกอย่างเพียบพร้อม ทั้งครอบครัวอบอุ่น ผลการเรียนดีเลิศ พรสวรรค์ด้านดนตรี แฟนสาวคนสวย และเพื่อนฝูงที่ให้การยอมรับ ได้ทำให้ชีวิตของเพื่อนสนิทที่สุดของเขาแตกร้าวไปด้วย คริสโตเฟอร์ ทาวเซนด์(Keanu Reeves)ซึ่งประกาศตัวกับใครๆเสมอว่า ไม่มีใครสนิทกับเดวิดเท่าเขา เริ่มมีอาการซึมเศร้าหลังการเสียชีวิตของเพื่อน ภูมิหลังของคริสนั้นแตกต่างจากเดวิดอย่างสิ้นเชิง แม่ของเขาตายจากไปตั้งแต่วัยเด็ก คริสไม่ตั้งใจเรียน อาศัยอยู่ในบ้านเพียงคนเดียวเพราะพ่อไปทำงานต่างรัฐ สิ่งที่เชื่อมเดวิดและคริสไว้ด้วยกันคือดนตรี ทั้งสองมีความฝันจะสร้างวงร็อกอันยิ่งใหญ่ มีเดวิดเป็นผู้แต่งทำนอง และคริสเป็นผู้เขียนเนื้อร้อง คืนวันเกิดเหตุ คริสจัดปาร์ตีขึ้นที่บ้าน เขาชวนเพื่อนทั้งชั้นเรียนมาสังสรรค์รวมทั้งเดวิดด้วย ในขณะที่ปาร์ตีกำลังเข้มข้น คริสเห็นเดวิดเดินออกจากบริเวณงานไปทางหน้าผา เขาจึงเดินตามไปเพื่อหวังจะแอบตะโกนกระเซ้าเย้าแหย่เพื่อน แต่กลับต้องเป็นพยานคนแรก ที่พบว่าเดวิดตกจากผาหินสูงหลายสิบเมตรลงไปในทะเล การสูญเสียเดวิดไปต่อหน้าต่อตา ทำให้คริสเกิดอาการช็อคและโศกเศร้า คริส พยายามปรับใจและทำงานที่เพื่อนทำค้างไว้ก่อนเสียชีวิต นั่นทำให้เขาพบความจริงว่า เพื่อนคนสนิทที่สุดของเขาไม่ได้จากไปเพราะอุบัติเหตุ เดวิดจงใจกระโดดจากหน้าผาในคืนนั้นเพื่อฆ่าตัวตาย การฆ่าตัวตายของเดวิดเปลี่ยนสถานภาพของเขาจากเหยื่อของความโหดร้ายไปเป็นไอ้งั่ง เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เคยนับถือเริ่มพูดถึงเขาว่าเป็นคนขี้แพ้ งานรำลึกถึงเดวิดที่คริสเป็นตัวตั้งตัวตีถูกระงับ เพราะผู้อำนวยการไม่ต้องการฮีโร่ที่ทำอะไรโง่ๆ พ่อแม่ของเดวิดรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นจากความรู้สึกเศร้า อาจารย์ที่ปรึกษาก็โทษตัวเองที่ไม่เฉลียวใจ ในวันที่เห็นเดวิดแสดงอาการสับสนหลังได้รับข่าวดีว่าได้ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำ เพื่อนหญิงเสียใจที่เชื่อมั่นเกินไปว่าเดวิดดูแลตนเองได้ จึงไม่เคยถามความในใจเขา และสำหรับคริสโตเฟอร์ ทาวเซนด์ เขารู้สึกว่าการฆ่าตัวตายของเดวิดคือความรับผิดชอบของเขา คริสทำความผิดพลาด เพราะไม่เคยรู้สักนิดว่าเพื่อนจะคิดสั้นอย่างนั้น เขาร่ำไห้อย่างบ้าคลั่งบนอกพ่อของเดวิดแล้วตะโกนว่า "ผมน่าจะรู้...ผมน่าจะรู้...ผมเป็นเพื่อนสนิทของเขา..." ความเห็นของแองจี ในวันปกติหากเราพบใครสักคนกำลังฆ่าตัวตาย เราย่อมเรียกหาใครให้ช่วยเหลือเขา หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปโดยสงบ เราก็นำเรื่องตื่นเต้นไปล้อเล่นพร้อมสันนิษฐานไปร้อยแปดว่าเขาผู้นั้นจิตตกหรือพ่ายแพ้อะไรสักอย่าง แล้วก็หลงลืมมันไป โดยไม่สนใจว่าคนผู้นั้นจะพยายามทำอย่างเดิมซ้ำหรือไม่ แต่ในทางกลับกัน หากเขาคนนั้นคือคนที่เราผูกพันรักใคร่ การจากไปของเขาจะไม่จบเท่านั้น รอยแผลของความไม่เข้าใจและความรู้สึกผิดจะทำร้ายทุกคนที่เขาเคยผูกพันอยู่แสนนาน อาจมีความรู้สึกอื่นกลบเกลื่อนไปบ้าง แต่ยามใดที่เราอยู่คนเดียว คำถามเดิมที่เข้ามาในความฝัน ก็คือ ถ้าเรามีโอกาสสักนิดล่ะ ? ถ้าวันนั้นเราเฉลียวใจสักนิดนึง ? เราจะเปลี่ยนวินาทีนั้นได้ไหม ? หนังเรื่องนี้ แองจีดูแล้วน้ำตาไหล ตัวละครชื่อเดวิดเป็นลักษณะของคนเก่งที่โดดเดี่ยว เขากดดันจากความคาดหวังของคนรอบข้างจนไม่กล้าทำร้ายใคร จึงเลือกทางออกด้วยการดึงปลั๊กตนเอง เขาคิดง่ายๆว่าทุกคนคงลืมเรื่องนี้ไปในไม่ช้าแล้วเดินหน้าต่อไป ดังนั้นการจากไปของเขาจึงเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด น่าเสียดายที่เขาคิดถูกเพียงบางส่วน แม้ทุกคนยังต้องดำเนินชีวิตต่อไป แต่ความเศร้าและคำถามต่อเหตุการณ์นั้นไม่เคยจบสิ้น และทำให้ความเชื่อมั่นว่าเรารู้จักใครสักคนดีแล้วนั้น กลายเป็นสิ่งลวงตาที่ไม่มีความจริงสักนิด คล้ายกับว่า เราไม่มีทางรู้ใจใครได้จริงๆเลยสักคน Your friends may lie The truth can come from strangers If I knew why We wouldn't be in this danger เมื่อยามที่เราพบว่าความจริงมาจากคนแปลกหน้ามากกว่าเพื่อนรัก และความสัมพันธ์ที่ประคับประคองมาตกแตกไปอย่างไม่น่าเชื่อ เราคงฝากความหวังไว้ได้แค่ การอธิษฐานกับดาวสักดวงหนึ่ง (ซาวด์แทรกชื่อ Wishing on another lucky Star เพราะมากๆ ค่ะ) another lucky star2.mp3 - Dogstar (แต่เพลงเสียงดังฮ่ะ ถ้าจะฟังกดปุ่มplay เพื่อดาวน์โหลดก่อนนะคะ)Your friends may lie The truth can come from strangers If I knew why We wouldn't be in this danger Leaning out the window of my car And wishing on another lucky star Life is long It is not made to measure You will go on The same in pain and pleasure Wondering how we ever got this far By wishing on another lucky star Life goes on As sure as the sky Has come and gone In the blink of an eye You leave your home on the wings of an lie "You will never die". The world grows cold A heart gets torn and tattered The one you hold It can be dropped and shattered Leaning out the window of my car And wishing on another lucky star Life goes on As sure as the sky Has come and gone In the blink of an eye You leave your home on the wings of an lie "Theres a car outside....."
สำหรับท่านที่รับชม ได้ PERMANENT RECORD ออกอากาศ ตามวันและเวลา ต่อไปนี้ 04-ส.ค.2551 04:00 04-ส.ค.2551 14:00 06-ส.ค.2551 10:00 08-ส.ค.2551 07:30 Credit *Song Title: Wishing On Another Lucky Star Artist: J D Souther *//www.keanuvision.com/lot/archives/000388.html *//www.imdb.com/title/tt0095853/ *//drool.club-keanu.com/index.php
Create Date : 05 สิงหาคม 2551
Last Update : 2 ตุลาคม 2551 15:09:49 น.
Counter : 1090 Pageviews.
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [? ]
ปุกาด ข้อความในบล็อก เป็น คหสต ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็น ความจริง*บางส่วน*+การปรุงแต่ง, จึงไม่อนุญาตให้ใช้อ้างอิงในแง่อื่นๆนอกจากเพื่อความบันเทิงที่อาจจะยกระดับจิตใจ เนื่องจาก บล็อกเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 จึงอาจมี *ความผิดพลาดจากเรื่องจริง* หลายส่วน หากพาดพิงท่านใด กรุณาติดต่อให้แก้ไขด้วย ไฟล์ภาพ หลายชิ้น จะไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่จ่ายเงินค่าแขวนภาพในเว็บโฮสท์ ขออภัยในความไม่สะดวก *** เดิมแบ่งหมวดหมู่บล็อกเป็น5กรุ๊ป ปัจจุบัน บล็อกใหม่ จะอยู่ที่ กรุ๊ป **ข่าว** เท่านั้น ********* แองจี้เป็น หนึ่ง-ใน-แอดฯ ของเพจเฟสบุค v v แต่ส่วนใหญ่ งานในเพจ จะเป็นความสามารถและความขยัน ของ แอดมินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเธอจะเรียกตัวเอง ว่า "แอดมน" ขอบคุณที่อ่าน ค่ะ