 | | เขื่อนขุนด่านปราการชล (ภาพ : ททท.นครนายก) | |  | การได้ไปเที่ยวกับเพื่อนนั้นนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสุขของชั้น และเมื่อมีเวลาว่างเมื่อไหร่ฉันและเพื่อนๆ ก็จะนัดกันไปเที่ยวเสมอ ซึ่งในครั้งนี้ฉันและเพื่อนๆ ได้วางแผนไปเที่ยวที่ "จังหวัดนครนายก" หนึ่งจังหวัดใกล้กรุงเทพที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมายและหลากหลาย
การเดินทางจากกรุงเทพมาจังหวัดนครนายกนั้นใช้เวลาไม่นานมาก เพราะอยู่ห่างจากกรุงเทพมาเพียง 100 กิโลเมตรกว่าๆ ระหว่างการเดินทางฉันก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนๆ ในเรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดจังหวัดหวัดนครนายกว่ามีความเป็นมาอย่างไร
|
 | | หลวงพ่อปากแดง วัดพราหมณี | | | ฉันพอรู้มาอย่างคร่าวๆ ว่า จังหวัดนครนายกเคยเป็นเมืองมาตั้งเเต่สมัยทวารวดี โดยมีหลักฐานแนวกำแพงเนินดินและสันคูอยู่ที่ตำบลดงละคร แต่ก็มีหลักฐานปรากฏในสมัยอยุธยาเป็นเมืองหน้าด่านทางทิศตะวันออกในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2437 รัชกาลที่ 5 ทรงจัดลักษณะการปกครองโดยแบ่งเป็นมณฑล นครนายกได้เข้าไปอยู่ในเขตมณฑลปราจีนบุรีจนเมื่อปี พ.ศ. 2445 ทรงเลิกธรรมเนียมการมีเจ้าครองเมืองและให้มีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้น แทน ในช่วง พ.ศ. 2486 นครนายกได้โอนไปรวมกับจังหวัดปราจีนบุรีและสระบุรี หลังจากนั้นจึงแยกเป็นจังหวัดอิสระในปี พ.ศ.2489
|
 | | บรรยากาศตลาด วัดพราหมณี | | | เมื่อเดินทางมาถึงฉันกับเพื่อนๆ ขอเริ่มต้นการท่องเที่ยวครั้งนี้ ด้วยการไปแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลที่ วัดพราหมณี หรือ วัดหลวงพ่อปากแดง วัดดังของจังหวัด ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา ในเขตอำเภอเมือง วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดเก่าแก่วัดของจังหวัดนครนายก ที่สร้างขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ปัจจุบันมีอายุ 100 กว่าปีแล้ว มีพระประธานศักดิ์สิทธิ์เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิที่มีพระโอษฐ์แย้ม และที่ริมพระโอษฐ์มีสีแดงเห็นได้ชัดสะดุดตา ชาวบ้านจึงเรียกว่า "หลวงพ่อปากแดง" เป็นพระพุทธรูปที่ได้รับการเคารพนับถือเป็นอย่างมาก
และที่บริเวณวัดแห่งนี้ก็ยังมีตลาดขายสินค้าให้ได้จับจ่ายซื้อของ โดยส่วนมากจะเป็นผลไม้หลากชนิด อาทิ มะม่วง,มะไฟ,กล้วย ให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้มาหน้า มะปรางหวานและมะยงชิด ฉันเลยพลาดไม่ได้ลองลิ้มชิมรสผลไม้ขึ้นชื่อประจำจังหวัด หากใครที่ต้องการลองชิมแล้ว ฉันขอบอกว่าต้องมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
|
 | | พระพิฆเนศองค์ใหญ่ ณ อุทยานพระพิฆเนศ | | | หลักจากเดินซื้อของติดไม้ติดมือเสร็จแล้ว ฉันก็เดินทางมาเที่ยวต่อที่ อุทยานพระพิฆเนศ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา ในเขตอำเมืองเช่นกัน ที่อุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของรูปปั้นพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นรูปปั้นองค์พระพิฆเนศปางประทานพรและปางไสยาสน์ ซึ่งองค์พระพิฆเนศนั้นเทพเจ้าของศาสนาฮินดู ซึ่งมีผู้นับถืออย่างมากมาย นอกจากนี้ภายในอุทยานนอกยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมองค์พระพิฆเนศจำนวนถึง 108 ปางที่ครบสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ให้ผู้ที่ได้มาเยือนได้สักการะบูชาและขอพร
|
 | | วิวทิวทัศน์บนสันเขื่อน เขื่อนขุนด่านปราการชล | | | มาเยือนนครนายกทั้งที ฉันและเพื่อนๆ ก็ไม่พลาดที่จะขอไปชม เขื่อนขุนด่านปราการชล ที่ตั้งอยู่ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง โดยเป็นเขื่อนที่ถูกสร้างขึ้นด้วยคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในประเทศไทย เพื่อบรรเทาความทุกข์ในเรื่องการจัดสรรทรัพยากรน้ำของชาวนครนายก โครงสร้างของเขื่อนนั้นมีความสูง 93 เมตรและยาว 2593 เมตร อีกทั้งยังสามารถที่จะขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์บนสันเขื่อนได้อีกด้วย
ทัศนียภาพด้านบนนั้นนับได้ว่าสวยงามเป็นอย่างมาก โดยอีกด้านหนึ่งสามารถที่จะเห็นผืนน้ำทะเลสาบใหญ่ และอีกด้านหนึ่งก็สามารถชมวิวทิวศ์ของจังหวัดนครนายกได้อย่างกว้างไกล นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่หากมาจังหวัดนครนายกแล้วไม่ได้มาเยือน ก็เท่ากับว่ามาไม่ถึงจังหวัดแห่งนี้
|
 | | บรรยกาศภายใน โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า | | | โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่ฉันและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสไปเยือน โดยตั้งอยู่ที่ตำบลพรหมณี เขตอำเภอเมือง โรงเรียนแห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาของผู้ที่จะรับราชการเป็นทหารสัญญาบัตรแห่งกองทัพไทย ซึ่งพื้นที่ภายในนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่มากมาย ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ อาทิ พระพุทธฉาย,ศาลาวงกลมหรือศาลาลม,พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5,อาคารพิพิธภัณฑ์ รร.จปร. 100 ปี,ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน
|
 | | บรรยกาศและนิทรรศการ ภายใน อาคารพิพิธภัณฑ์ รร.จปร. 100 ปี | | | ฉันและเพื่อนๆ ได้เลือกไปเที่ยวที่ อาคารพิพิธภัณฑ์ รร.จปร. 100 ปี ซึ่งเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับกองทัพไทย รวมไปถีงจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เคยใช้เมื่อครั้งสงครามในอดีต และเครื่องแบบนายทหารให้ได้ชม อีกทั้งยังมีห้องชมสไลด์มัลติวิชั่นบรรยายเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของโรงเรียนแห่งนี้ด้วย
|
 | | ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน | | | และหากได้เข้ามาเยือนในรั้วของโรงเรียนแห่งนี้แล้ว ฉันก็ไม่ลืมชวนเพื่อนๆ แวะไปสักการะ ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน ซึ่งเป็นศาลศักสิทธิ์ที่ชาวจังหวัดนครนายกให้ความนับถือเป็นอย่างมาก โดยประวัติได้กล่าวไว้ว่า ท่านขุนด่านเป็นนายด่านจังหวัดนครนายกในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขณะนั้นไทยมีศึกติดพันกับพม่า ได้มีทหารเขมรเข้ามากวาดต้อนผู้คนและยึดเมืองนครนายก ท่านขุนด่านจึงได้รวบรวมกองกำลังและขับไล่เขมรออกไปจนสำเร็จ วีรกรรมครั้งนั้นจึงได้รับการสรรเสริญสืบต่อมาถึงปัจจุบัน
|
 | | น้ำตกสาริกา | | | หลังเสร็จจากตะลอนเที่ยวแล้ว ฉันและเพื่อนๆ ก็มองหาสถานที่สำหรับพักผ่อนให้หายเหนื่อย โดยฉันได้เลือกที่จะมาพักที่ น้ำตกสาริกา ที่ตำบลสาริกา อำเภอเมือง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งน้ำตกสาริกาแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ที่มีน้ำไหลลงมาจากหน้าผาเป็นทอดๆ รวมแล้วเก้าชั้น และมีแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้อีกด้วย อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบก็รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยร่มรื่น จึงเหมาะกับการมาพักผ่อนเติมพลัง ที่จังหวัดนครนายกไม่ได้มีน้ำตกสาริกาที่เดียวเท่านั้น ยังมีน้ำตกนางรอง,น้ําตกวังตะไคร้ ให้ได้เลือกไปเล่นน้ำและพักผ่อน
|
 | | กิจกรรม ล่องแก่งลำน้ำนครนายก (ภาพ : ททท.นครนายก) | | | และสำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวนั้น ฉันขอบอกว่า ที่จังหวัดนี้นับได้ว่ามีกิจกรรมมากมายให้ฉันและเพื่อนๆ ได้เลือกร่วมสนุก โดยเฉพาะกิจกรรมแนวผจญภัยที่เป็นไฉไลท์เด่นของจังหวัดนครนายก กิจกรรมเด่นๆ คงจะหนีไม่พ้นกิจกรรม ล่องแก่งลำน้ำนครนายก โดยการล่องแก่งนั้นจะมีจุดเริ่มต้นที่เชิงสะพานใกล้ๆ เขื่อนขุนด่านฯ เรื่อยมาตามลำน้ำนครนายกผ่านแก่งต่างๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สนุกสนานและน่าสนในการมาเที่ยวกับเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ขับรถเอทีวี (ATV) ชมธรรมชาติ ,บีบีกัน,เพ้นบอล ให้ได้เลือกร่วมสนุก
|
 | | กิจกรรม บีบีกัน | | | จากการตะลอนเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ ฉันรู้สึกประทับใจจังหวัดนครนายกเป็นอย่างมาก เพราะเป็นจังหวัดที่มีสถานทีท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่มากมาย และมีหลากหลายกิจกรรมให้ร่วมสนุกไม่มีเบื่อ อีกทั้งแต่ละสถานที่ก็อยู่ไม่ห่างไกลกันมาก ฉันจึงขอแนะนำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่เที่ยวใกล้กรุงฯ ที่จะทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อและประทับใจตลอดการท่องเที่ยว
**********************************************************************************
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก (รับผิดชอบพื้นที่ จ.นครนายก, ปราจีนบุรี, สระเก้ว) โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284
พิพิธภัณฑ์ รร.จปร. 100 ปี เปิดบริการทุกวันเวลา 8.30-16.00 ค่าเข้าชมคนละ 10 บาท
หากใครสนใจกิจกรรมล่องแก่งลำน้ำนครนายก,ขับรถเอทีวี (ATV) ชมธรรมชาติ ,บีบีกัน,เพ้นบอล ติดต่อได้ที่ "The FroRest" โทร.0-8181-2990-2
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [
