| ปั่นจักรยานที่บางกะเจ้า ปอดของกรุงเทพฯ | | | บางกะเจ้า หรือที่หลายคนมักเรียกว่า กระเพาะหมู คือพื้นที่บริเวณที่แม่น้ำเจ้าพระตีโค้งรอบจนเกือบเป็นเกาะ เป็นพื้นที่ที่รวมเอา 6 ตำบลของ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้แก่ ต.บางกะเจ้า ต.บางน้ำผึ้ง ต.บางกอบัว ต.บางกระสอบ ต.บางยอ และ ต.ทรงคนอง เพื่อจัดทำเป็นพื้นที่อนุรักษ์ตามมติ ครม.ในปี 2520 ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ยังคงความอุดมสมบูรณ์ตามแบบสวนเกษตรดั้งเดิมจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่อยู่คนละฝั่งแม่น้ำกับย่านใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ แต่มีสภาพพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ ในปี 2549 นิตย สารไทม์เอเชีย (Time Asia) ฉบับ Best of Asia 07ยกย่องให้บางกะเจ้าเป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย (The Best Urban Oasis) นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวและนักปั่นทั้งไทยและต่างชาติเองก็ยังรู้จักบางกะเจ้าว่ามีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการปั่นจักรยานเที่ยวเป็นอย่างมาก ในวันนี้เราจึงขอพาคนที่ยังไม่เคยไปเที่ยวที่บางกะเจ้ามาปั่นเที่ยวไปพร้อมกัน |
| นั่งกินอาหารสารพัดอย่างที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง | | | วันนี้เส้นทางปั่นของเราจะอยู่บริเวณทิศเหนือหรือด้านบนของกระเพาะหมู เป็นเส้นทางปั่นแบบไม่ใกล้ไม่ไกล เหมาะสำหรับคนชอบปั่นท่องเที่ยวแบบไม่เหนื่อยจนเกินไป ปั่นทั้งวันอยู่ที่ราวๆ 10 ก.ม. เท่านั้น ใครจะเอาจักรยานมาเองก็ได้ หรือถ้าอยากจะมาเช่าปั่นเที่ยวที่นี่ก็มีให้บริการเช่าทั้งในบริเวณตลาดบางน้ำผึ้งและที่วัดบางน้ำผึ้งใน และตามท่าเรือต่างๆ อยากจะแนะนำให้เริ่มต้นการปั่นท่องเที่ยวที่ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ก่อนเป็นที่แรก ด้วยหลายๆ เหตุผล หนึ่งคือตลาดน้ำบางน้ำผึ้งถือเป็นจุดศูนย์กลางของเส้นทางการปั่นของเราในวันนี้ที่สะดวกต่อการปั่นไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ สองคือ สำหรับคนที่ขับรถมาสามารถนำรถมาจอดได้ที่บริเวณที่จอดรถของตลาดน้ำ และสาม หากใครยังไม่ได้กินข้าวมา ควรแวะหาของกินที่นี่ที่มีสารพัดอย่างให้ท้องอิ่มเสียก่อนจะได้มีแรงปั่นจักรยานได้สนุกๆ |
| พระมหามณฑปเจดีย์ศรีนครเขื่อนขันธ์ ที่วัดบางน้ำผึ้งใน | | | และหากเดินเที่ยวหาของกินอิ่มท้องที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเรียบร้อยแล้ว จะแวะไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยที่ วัดบางน้ำผึ้งใน ที่อยู่ติดกับตลาดกันก่อนก็ได้เช่นกัน โดยที่นี่มี พระมหามณฑปเจดีย์ศรีนครเขื่อนขันธ์ อันงดงาม ด้านบนของมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลา อีกทั้งยังสามารถเข้าไปกราบพระพุทธรูปในอุโบสถก่อนก็ได้ |
| นักปั่นมากหน้าหลายตามาปั่นชมวิวที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ | | | จากวัดบางน้ำผึ้งใน เราจะปั่นแบบยาวๆ ไปกลับประมาณ 7 ก.ม.ไปท่องเที่ยวทางตอนเหนือของกระเพาะหมูกันก่อน โดยปั่นเข้าไปในซอยเพชรหึงษ์ 33 มุ่งหน้าไปที่ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติ มีพื้นที่ 148 ไร่ สวนแห่งนี้สร้างเสร็จในปี 2542 ภายในสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีเส้นทางให้ปั่นจักรยานหรือวิ่งออกกำลังได้ทั่วทั้งสวน อีกทั้งยังมีป้ายข้อมูลอธิบายเกี่ยวกับสัตว์และสิ่งมีชีวิตภายในสวน ไม่ว่าจะเป็นผีเสื้อชนิดต่างๆ และตัวเหี้ยที่หากินอยู่ในบริเวณสระน้ำ รวมถึงนกนานาชนิดด้วย |
| หอดูนกภายในสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ | | | ด้วยความที่พื้นที่ในกระเพาะหมูแห่งนี้มีลักษณะเป็นชุมชนเมืองผสมกับสวนผลไม้ ทั้งยังมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำ ดังนั้นจึงมีความหลากหลายของชนิดของนกที่หากินแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นนกกินพืช นกกินหนอน นกกินแมลง นกกินปลา เช่น นกตะขาบทุ่ง นกกะเต็นอกขาว นกตีทอง นกกินปลีอกเหลือง ฯลฯ พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง โดยภายในสวนฯ มี หอดูนก หอสูงสามชั้นอยู่ท่ามกลางแมกไม้ไว้ให้นักดูนกได้ขึ้นไปส่องดูนกชนิดต่างๆ แต่ถ้าอยากดูนกจริงๆ ต้องมาดูในช่วงเช้าตรู่ ดังนั้นนักท่องเที่ยวส่วนมากจึงขึ้นไปชมวิวหรือขึ้นไปถ่ายรูปจักรยานมุมสูงบนหอดูนกกันเสียมากกว่า |
| เส้นทางปั่นจักรยานอันร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ภายในสวนฯ | | | |
| ปลากัดหลากหลายสายพันธุ์มีให้ชมที่พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย | | | ปั่นวนเวียนชมบรรยากาศภายในสวนเรียบร้อยแล้ว ปั่นต่อไปไม่ไกลกันนัก เป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ที่เปิดให้ชมฟรีในวันเสาร์-อาทิตย์ และมีนักปั่นจำนวนมากมาเที่ยวชมตลอดทั้งวัน ที่นี่เราจะได้ชมปลากัดหลากหลายชนิดที่มีความสวยงามแตกต่างกันไปเกือบร้อยตัว ทั้งปลากัดหม้อ ปลากัดจีน ปลากัดป่า ปลากัดยักษ์ เป็นต้น โดยปลากัดได้ชื่อว่าเป็น นักสู้แห่งสายน้ำ ด้วยสัญชาติญาณนักสู้ในสายเลือด แม้จะมีอายุเพียงหนึ่งเดือนปลากัดตัวผู้ก็เริ่มกัดปลาตัวอื่นที่รุกรานพื้นที่ของตน และนอกจากนั้นก็ยังมีปลาน้ำจืดอื่นๆ อาทิ ปลาแรด ปลาตะเพียน ให้ชมกันด้วย |
| คนรักปลากัดต้องไม่พลาดชมที่นี่ | | | จากพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย เราปั่นไปชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณท่าเรือบางกะเจ้าหรือท่าเรือกำนันขาว ที่สามารถข้ามไปยังฝั่งกรุงเทพฯ ที่วัดคลองเตยนอกได้ มีนักปั่นเอาจักรยานข้ามมาที่ท่าเรือนี้เยอะอยู่เหมือนกัน แต่จะต้องลงเรือหางยาวลำเล็กมา |
| เรือข้ามฟากระหว่างฝั่งกรุงเทพฯ (คลองเตย) มาที่บางกะเจ้า | | | มองจากฝั่งบางกะเจ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปเห็นจะเห็นโกดังและเรือขนถ่ายสินค้าลำใหญ่จอดเรียงราย มองเห็นตึกสูงในย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ อย่างย่านคลองเตย พระราม 3 และสาทรอยู่ลิบๆ เมืองอยู่ใกล้เท่านี้เองแต่บรรยากาศของสองฝั่งแม่น้ำกลับแตกต่างกันอย่างชัดเจน ได้เที่ยวกันไปหลายที่ คราวนี้ปั่นย้อนกลับมาทางตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอีกครั้ง ใครจะแวะกินน้ำกินขนมหรือจะกินมื้อใหญ่เลยก็ไม่ว่ากัน เพราะเรายังต้องออกแรงปั่นระยะสั้นๆ กันต่ออีกนิดหนึ่งทางฝั่งตะวันออกของกระเพาะหมู โดยปั่นออกทางด้านหลังตลาดน้ำบางน้ำผึ้งออกสู่ถนนบัวผึ้งพัฒนา แล้วเดินหน้าปั่นต่อไปในเส้นทางปูนลัดเลาะเข้าสู่สวนของชาวบ้านอันร่มรื่น เหมาะแก่การปั่นในช่วงบ่ายที่แดดร้อนๆ เป็นอย่างยิ่ง |
| สภาพเส้นทางปั่นจักรยานบนทางปูน | | | เส้นทางปูนนั้นพาดผ่านท้องร่องสวนและบ้านเรือนของผู้คนในแถบนั้น ดังนั้นอาจจะมีรถมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านวิ่งสวนมาบ้างก็ขอให้หลบชิดริมทางและปั่นอย่างระมัดระวัง อีกอย่างหนึ่งคือไม่ค่อยมีป้ายบอกทาง บางครั้งต้องคอยถามชาวบ้านหรือลองปั่นเข้าไปดูให้รู้ จุดมุ่งหมายของเราในเส้นทางนี้ก็คือไปไหว้พระที่วัดบางน้ำผึ้งนอกซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแวะชมธรรมชาติและสิ่งที่น่าสนใจบนเส้นทางปูน โดยระหว่างทางเราได้ผ่าน บ้านธูปสมุนไพร ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ประยุกต์เอาสมุนไพรที่หาง่ายๆ รอบตัวมาทำเป็นส่วนผสมของธูปไล่ยุง ไม่ว่าจะเป็น ตะไคร้ มะกรูด ขมิ้นชัน เปลือกส้ม หรือ มะนาว ถ้ามาเป็นหมู่คณะสามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อเข้าชมและทดลองทำได้ แต่หากเป็นแขกขาจรก็สามารถแวะเข้าไปชมได้ในวันเสาร์อาทิตย์ |
| โรงแรมบางกอก ทรี เฮ้าส์ | | | นอกจากนั้นเรายังปั่นผ่านโรงแรมบางกอก ทรี เฮาส์ โรงแรมที่สร้างขึ้นในแนวคิดที่ต้องการให้กลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด ใช้พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์มาปั่นไฟ ภายในห้องออกแบบให้ประหยัดพลังงาน มีห้องพักให้เลือกแบบบ้านพักและแบบ Open Air กางมุ้งนอนกลางแจ้ง ซึ่งน่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวต่างชาติมากทีเดียว นักปั่นสามารถเข้ามาพักสั่งน้ำดื่มหรือสั่งขนมกินเบาๆ ในโรงแรมได้ และเดินเข้าไปชมบรรยากาศริมแม่น้ำบริเวณท่าเรือของโรงแรมได้ด้วย |
| ไปไหว้พระที่วัดบางน้ำผึ้งนอก | | | จากโรงแรมไปอีกนิดเดียวก็ถึง วัดบางน้ำผึ้งนอก จุดมุ่งหมายของเราแล้ว มาปิดท้ายทริปแบบสวยๆ ด้วยการไหว้พระในอุโบสถที่เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ไหว้พระสังกัจจายน์ ทำบุญตามศรัทธา นั่งพักเหนื่อยชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาและชมวิวกรุงเทพฯ ทางฝั่งบางนา ชมวิถีชีวิตของผู้คนข้ามฝั่งไปมาระหว่างกรุงเทพฯ และสมุทรปราการด้วยเรือข้ามฟากขนาดใหญ่จากวัดบางนานอกที่สามารถนำรถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานขึ้นเรือมาได้พร้อมกันหลายสิบคัน ปั่นย้อนกลับมาที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอีกครั้งก็เป็นอันจบเส้นทางปั่นจักรยานที่บางกะเจ้า แต่ก็เป็นเพียงเส้นทางส่วนหนึ่งเท่านั้น เรายังสามารถปั่นไปชมสิ่งที่น่าสนใจในกระเพาะหมูได้อีกหลายเส้นทาง หากมีโอกาสคราวหน้าคงได้กลับมาปั่นให้ทั่วกันอีกครั้ง |
| ท่าเรือที่วัดบางน้ำผึ้งนอก ข้ามไปยังฝั่งบางนา | | | * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * การเดินทางไปยังคุ้งบางกะเจ้าหากขับรถมาจากถนนพระราม 3 ให้มุ่งหน้ามาทางสะพานภูมิพล 1 และภูมิพล 2 เมื่อขึ้นสะพานแล้วให้ขับตามป้าย สุขสวัสดิ์ เพื่อมายัง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนนครเขื่อนขันธ์ ตามด้วยถนนเพชรหึงษ์ วิ่งตามถนนมาเรื่อยๆ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งจะอยู่ในซอยเพชรหึงษ์ 26 หากมาทางเรือ สามารถนั่งเรือข้ามฟากพร้อมจักรยานมาจากฝั่งกรุงเทพฯ บริเวณท่าเรือวัดคลองเตยนอก ข้ามมายังท่าบางกะเจ้า (ท่ากำนันขาว) หรือข้ามมาจากวัดบางนานอก มายังวัดบางน้ำผึ้งนอกได้ |
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * |